เลือดคั่งสมอง-อยู่ไอซียู
พ่อแม่ร้อง‘ปวีณา’ช่วย

พ่อแม่ชาวกรุงเก่าแทบขาดใจ ลูกชายวัย 1 ขวบ 6 เดือนถูกทำร้ายโคม่าอยู่ห้องไอซียู เลือดคั่งในสมอง เส้นเลือดคอขาด ร้องมูลนิธิปวีณาฯช่วย เพิ่งจ้างพี่เลี้ยง 3 วัน จากเพจ เดือนละ 6 พัน ขอนำลูกไปทดลองเลี้ยงก่อนตั้งแต่ 23 ม.ค. ผ่านไปวันเดียวลูกสภาพฟกช้ำดำเขียว พี่เลี้ยงสาวอ้างล้มในห้องน้ำ ขณะร้องเรียน หมอร.พ.อยุธยาโทร.บอกอาการของลูกให้ทำใจ ด้าน‘ปวีณา’ ประสานผกก.สภ.อุทัย ตามตัวผัวเมียรับเลี้ยงเด็กมาสอบ ฝ่ายชายรับสารภาพ อ้างเด็กงอแงจึงทุ่มลงพื้น ตำรวจแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกาย

 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ม.ค. ที่สำนักงานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี คลองเจ็ด ถนนรังสิตนครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายโจ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี และน.ส.โอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี สองสามีภรรยา ชาวจ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 1 ขวบ 6 เดือน ลูกชายนอนอาการโคม่าอยู่ในห้องไอซียู ร.พ.พระนครศรีอยุธยา สงสัยว่าอาจถูกพี่เลี้ยงเด็กทำร้าย

นายโจและน.ส.โอเล่าว่า ทั้งสองทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม มีลูกคนเดียวคือ เด็กชายเอ ซึ่งยายเป็นคนเลี้ยงดูให้ แต่เนื่องจากยายอายุมากแล้ว จึงตัดสินใจหาพี่เลี้ยง โดยนายโจได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กหาคนรับจ้างเลี้ยงลูกชายลงในกลุ่มเพจคนจ.อยุธยา ต่อมาวันที่ 19 และ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา มีคนติดต่อมาและแนะนำให้เบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อกับ น.ส.แอน ซึ่งรับจ้างเลี้ยงเด็กอยู่ใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ติดต่อสอบถามและนัดเจอกันที่บ้านน.ส.แอน ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ซึ่งน.ส.แอนได้เลี้ยงเด็กอยู่แล้ว 1 คน อายุไล่ๆ กับลูกชาย และสถานที่บ้านก็เป็นสัดส่วนดี จึงตกลงที่จะจ้างน.ส.แอน ให้เลี้ยงดูกินนอนอยู่ด้วย เดือนละ 6,000 บาท แต่ให้ตนนำลูกชายไปทดลองอยู่ดูก่อน เช้าวันที่ 23 ม.ค. จึงนำลูกชายไปให้น.ส.แอนเลี้ยง และหลังเลิกงานตนได้แวะเข้าไปหาลูกก่อนกลับบ้าน ซึ่งก็ยังปกติดี

ต่อมาวันที่ 24 ม.ค. หลังเลิกงานเวลา 19.00 น. ตนได้เข้าไปหาลูกชายอีกเช่นเดิม แต่คราวนี้ น.ส.แอน บอกว่าลูกตนลื่นล้มในห้องน้ำ แต่ไม่ได้เป็นอะไร ซึ่งเห็นว่าลูกชายนอนหลับอยู่ จึงไม่ได้เข้าไปกวน กระทั่งเช้าวันที่ 25 ม.ค. เวลา 08.50 น. น.ส.แอนได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายมีอาการชักเกร็ง ได้นำส่งมาที่ร.พ.อุทัย ตนจึงรีบเดินทางไป และพบกับน.ส.แอน ได้ถามว่าวันที่ตนนำลูกมาส่งหน้าลูกชายมีรอยเขียวช้ำหรือไม่ เมื่อเห็นภาพใบหน้าลูกชาย ตนเข่าแทบทรุด ใบหน้าฟกช้ำมาก และร่างกายไม่ตอบสนอง

ต่อมา ทางร.พ.อุทัย ได้นำตัวส่งไปยัง ร.พ.พระนครศรีอยุธยา แพทย์ระบุว่า ลูกชายมีอาการ มีเลือดคั่งในสมอง มีเลือดออกในช่องท้อง และเส้นเลือดคอขาด รักษาอยู่ในห้อง ไอซียู อาการโคม่ามาก แพทย์ได้เรียกพ่อแม่คุยให้ทำใจ แต่คนเลี้ยงยังยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายลูกชาย ส่วนตนก็ไม่เชื่อว่าลูกจะลื่นล้มในห้องน้ำ จึงตัดสินใจเข้าร้องมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะร้องเรียนกับนางปวีณาอยู่ ทางแพทย์ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า พยายามยื้อชีวิตน้องเออย่างสุดความสามารถ แต่น้องความดันต่ำ หัวใจเต้นช้าลง แพทย์บอกขอให้พ่อแม่ทำใจ เพราะลูกชายอาการหนักมาก นางปวีณาได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ก่อนให้สองสามีภรรยารีบเดินทางไปดูอาการลูกทันที และมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีให้ความเป็นธรรมต่อไป

จากนั้นนางปวีณาได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ชนันท์ เปรมปลื้มจิต ผกก.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบว่า ได้นำตัวคนเลี้ยงและสามีมาสอบสวนแล้ว โดยสามีคนเลี้ยงรับสารภาพว่า ได้จับ ด.ช.เอทุ่มลงกับพื้นเมื่อวันที่ 24 ม.ค. อ้างว่าเด็กงอแง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกาย และหากเด็กเสียชีวิตก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน