ตร.ชี้เหตุเก๋งชน
คนขับประมาท

นางงามโพสต์อาลัย ‘น้องน้ำมนต์’ สิ้นใจ จากเหตุ เก๋งชนต้นไม้ครอบครัวนำมงกุฎและสายสะพาย รองนางสาวไทย 62 เข้ารับศพ นำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่อุบลราชธานีบ้านเกิด ด้านตร.สรุปหลังตรวจที่เกิดเหตุ ขับเร็วหักซ้ายหลบรถชะลอเลี้ยวขวา ไปชนฟุตปาธพลิกคว่ำหลังคาฟาดต้นไม้ ทำคนนั่งเสียชีวิต 3 ราย หนุ่มโชเฟอร์เจอข้อหาขับรถโดยประมาท

จากกรณี ‘น้องน้ำมนต์’ น.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญ อายุ 22 ปี รองนางสาวไทยปี 2562 อดีตนางนพมาศ ดาวคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมเพื่อนรวม 4 คน ประสบอุบัติเหตุรถเก๋งชนต้นไม้ หน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เสียชีวิต 2 คน ส่วนคนขับและน้องน้ำมนต์อาการสาหัส เมื่อวันที่ 15 ก.พ.

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Noi Phannipha แม่ของน้องน้ำมนต์ เผยข่าวร้ายน.ส.มนชนิตว์ โดยระบุว่า 15 ก.พ. 64 เวลา 06.14 น. พอรู้ก็เร่งเดินทางทันที เราอยู่กับหนูตลอด ภาวนา อธิษฐาน บนบาน ทำทุกอย่างที่ใครๆ แนะนำ 16 ก.พ. 64 เวลา 02.53 น. หนูก็จากพวกเราไป ไม่เจ็บไม่ปวด ไม่ทรมานแล้วนะลูก หนูอดทนมากพอแล้ว กลับบ้านเรากันนะลูก

“แม่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมารับลูกแม่กลับบ้านด้วยกันแบบนี้ น้ำมนต์คนเก่งของแม่ น้ำมนต์บอกเรียนจบ จะกลับมาอยู่กับแม่นานๆ ค่อยทำงานจะเก็บเงินมาซ่อมบ้านให้แม่ นางฟ้าของแม่ นางฟ้าของพวกเรา ขอให้หนูหลับให้สบายนะลูก พวกเราทุกคนรักหนูมาก ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ บุญกุศลหนุนส่งให้หนูอยู่ในที่ดีๆ รักลูกสุดหัวใจ ‘น้ำมนต์’ มนชนิตว์ ช่วยบุญ”

ขณะที่เพื่อนๆ ตลอดจนแฟนเพจนางงามทราบข่าวการสูญเสีย น้องน้ำมนต์ ต่างเข้ามาแสดงความเสียใจจำนวนมาก

เวลา 10.30 น. ที่ศาลาพิธีกรรม ภายในบริเวณห้องเก็บศพ คณะนิติเวช ร.พ. ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผกก.สภ.น้ำเที่ยง จ.ศรีสะเกษ บิดาของน้องน้ำมนต์ พร้อมคนในครอบครัว และเพื่อนนักศึกษา มข. นำมงกุฎและสายสะพายตำแหน่งรองนางสาวไทยปี 2562 ร่วมรับศพน้องน้ำมนต์ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.อุบลราชธานี

พ.ต.อ.นพดลกล่าวว่า การเกิดอุบัติเหตุของรถยนต์คันที่ลูกสาวนั่งมาด้วยในครั้งนี้ ครอบครัวไม่มีใครทราบว่าลูกสาวและเพื่อนๆ เดินทางไปที่ใด โดยตนเองและคุณแม่ของน้องทราบเรื่องจากการแจ้งของเจ้าหน้าที่ร.พ. ศรีนครินทร์ว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุ บาดเจ็บสาหัส หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางมาดูอาการลูกสาว ซึ่งพบว่าลูกสาวอาการสาหัส อยู่ในการดูแลของแพทย์ที่ไอซียู จากนั้นในช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 16 ก.พ.ลูกสาวได้เสียชีวิต

“เมื่อขั้นตอนการชันสูตรพลิกศพที่นิติเวช ร.พ.ศรีนครินทร์เรียบร้อย พ่อ แม่และญาติพี่น้องก็จะรับศพน้องน้ำมนต์กลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดผาสุการาม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และฌาปนกิจน้องในวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. ส่วนคดีรวมถึงสาเหตุการเกิดเหตุต่างๆ ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ย่อยมข. ในการสืบสวนสอบสวน เพราะครอบครัวไม่มีใครรู้รายละเอียด” พ.ต.อ.นพดลกล่าว

ด้าน ‘บุ๋ม’ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นางสาวไทยประจำปี พ.ศ.2543 เผยความรู้สึกถึงการจากไปของนางงามรุ่นน้องว่า ส่วนตัวรู้จักกับน้ำมนต์ เพราะเป็นคนสัมภาษณ์เขาเองตอนประกวด น้องเขาเป็นคนน่ารักสดใส ยิ้มหวาน มีพลังบวกในตัวเองเยอะมาก ยังถามน้องเลยว่า น้องหน้าหวานขนาดนี้ทำไมไม่ได้เป็นนางเอกละคร รู้ข่าวก็ตกใจก็ส่งกำลังใจกันในกลุ่มนางสาวไทย แต่เมื่อปฏิหาริย์ไม่มีจริงก็ต้องเสียใจกันเป็นธรรมดา คิดว่า ‘บิ๊นท์’ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ คงเสียใจมาก เพราะว่าน้องเขาประกวดปีเดียวกันและก็สนิทกันด้วย และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องน้ำมนต์ด้วย”

‘บิ๊นท์’ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ นางสาวไทยปี 2562 โพสต์ข้อความไว้อาลัยถึงน้องน้ำมนต์ ผ่านทางไอจี ว่า น้ำมนต์ เด็กน้อยของพี่ ความทรงจำที่มีต่อน้ำมนต์คือ ความสดใส เวลาที่เครียด ถ้าหันไปถามน้ำมนต์ น้ำมนต์จะบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอกนะ พี่บิ๊นท์” พร้อมยิ้มที่บอกว่าชิลชิล มันจะผ่านไปได้ น้ำมนต์เป็นน้องเล็กที่พี่ๆ ทุกคนรัก ทีมงานรัก ต่อจากนี้ขอให้น้ำมนต์มีความสุขในที่ที่น้ำมนต์ชอบและไม่ต้องกังวลอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอุบัติเหตุ ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ประกอบด้วย นายเกริกฤทธิ์ สุกงพงษ์พันธ์คำ อายุ 22 ปี, น.ส.กรชฎา เสียงใส อายุ 22 ปี และน้องน้ำมนต์ โดยวันนี้ญาติผู้เสียชีวิตต่างมาประกอบพิธีเรียกดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้าน ตามความเชื่อที่บริเวณหน้าคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดยมีพระสงฆ์ พร้อมพราหมณ์นำประกอบพิธี ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติที่มาร่วมพิธี

ขณะเดียวกันทีมสืบสวนสอบสวนอุบัติเหตุจังหวัดขอนแก่น ซึ่งประกอบด้วยทีมสหวิชาชีพจากหน่วยงานต่างๆ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุและวิเคราะห์ปัญหา ก่อนจะนำข้อมูลไปประชุมและหาข้อสรุป ก่อนจะส่งข้อมูลให้ ม.ขอนแก่น เพื่อนำไปแก้ไขและออกมาตรการควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุภายในมหาวิทยาลัยต่อไป

เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า สาเหตุมาจากขณะที่รถยนต์ผู้เสียชีวิตขับมาตามถนน มาถึงด้านหน้าคณะนิติศาสตร์ มีรถยนต์วิ่งอยู่ด้านหน้า 1 คัน และรถยนต์ ผู้เสียชีวิตพยายามที่จะแซงขวา แต่รถยนต์คันข้างหน้าให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวากะทันหัน ทำให้รถยนต์ผู้เสียชีวิตหักหลบออกทางด้านซ้าย ประกอบกับที่ขับมาด้วยความเร็ว ทำให้รถยนต์เสียหลักชนฟุตปาธข้างทาง ทำให้รถยนต์ลอยกระเด็น หลังคาและฝั่งซ้ายรถยนต์กระแทกกับต้นไม้ ก่อนที่จะลื่นไถลไปไกลกว่า 10 เมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี รองผบก.ภ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและประชุมร่วมพนักงานสอบสวน เหตุการณ์รถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิ สวิฟต์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กย 4074 กรุงเทพฯ เสียหลักชนต้นไม้ใกล้สี่แยกคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดยนายถิรเดช กุลเขมรังษี อายุ 23 ปี คนขับรถได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.อ.ธนาวัชรกล่าวว่า พนักงานสอบสวนสภ.ย่อย มข. ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด 2 จุดคือ บริเวณทางเข้า มข.และบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ พบว่ารถคันเกิดเหตุขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงสี่แยกคณะนิติศาสตร์ มีรถยนต์กระบะจอดชะลอความเร็ว เพื่อเลี้ยวขวา รถเก๋งจึงหักหลบเข้าซ้ายแล้วรถก็เสียหลักชนกับฟุตปาธข้างทาง และชนต้นประดู่ข้างถนน รถคว่ำหลังคารถฟาดกับต้นไม้ และไถลลงข้างทางจนมีคนตายคาที่ 2 ราย และเสียชีวิตที่ ร.พ. 1 ราย คนขับบาดเจ็บสาหัส ส่วนรถคันเกิดเหตุนั้นเป็นรถที่มีชื่อของบิดาคนขับรถเป็นเจ้าของ โดยไม่ได้ต่อพ.ร.บ. ทั้งนี้น้องน้ำมนต์และเพื่อนกำลังกลับจากบ้านเพื่อนในเขตตัวเมืองขอนแก่น เพื่อเข้าที่พัก และรถก็ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้พอจะสรุปได้ว่า เกิดจากการขับรถที่ประมาทและใช้ความเร็ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหากับคนขับรถในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหากผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดออกมาว่ามีแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน