เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (พีเอ็ม 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน 28 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 24 จุด และอื่นๆ อีก 4 จุด อำเภอที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ เชียงดาว และพร้าว อำเภอละ 8 จุด ฝุ่นควันและคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง ตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบตลอดทั้งวันติดต่อกันมานานกว่าสัปดาห์ และมีค่ามลพิษอากาศสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากประเทศจีน

นายปิยะพงษ์ ประพันธ์วัฒนะ ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์สาเหตุการเกิดฝุ่นสะสมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิชาการระบุว่า เกิดจากหมอกควันข้ามแดนพื้นที่ร้อยละ 50 และเกิดจากพื้นที่เชียงใหม่อีกร้อยละ 50 ประกอบกับมีสภาพอากาศปิด ฝุ่นไม่สามารถระบายอากาศออกไปได้ ส่วนมาตรการและแนวทางแก้ไข โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดส่งเฮลิคอปเตอร์ช่วยดับไฟป่า ส่วนท้องถิ่นร่วมฉีดพ่นละอองน้ำ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ งดการเผาทุกชนิด

นอกจากนี้ในพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ และ อ.เมือง จ.พะเยา พื้นที่ จ.ลำปาง มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พบเห็นหมอกควันที่ปกคลุมอย่างหนาแน่นไปทั่วพื้นที่ และมีไฟป่าเกิดขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ บก.ภ.จว.ลำปาง รายงานผลการจับกุมดำเนินคดีผู้ลักลอบเผาป่าในช่วงวันที่ 1-12 มี.ค. ได้รับแจ้งเหตุ 28 ครั้ง จับกุม 16 ครั้ง ผู้ต้องหา 15 ราย อยู่ในระหว่างดำเนินคดี 1 ราย ผลการจับกุมรถยนต์ควันดำ เรียกตรวจ 84 คัน พบค่าควันดำเกินมาตรฐาน 13 คัน

ด้านนายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เผยว่า จากสถานการณ์ไฟป่าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ทำให้ค่าฝุ่นตั้งแต่วันที่ 8-13 มี.ค. มีค่ามากกว่า 200 มคก./ลบ.ม. อยู่ในระดับอันตรายสูงสุด จึงจำเป็นต้องประกาศขยายเวลาบังคับใช้มาตรการควบคุมระดับสูงสุด โดยการห้ามเผาเด็ดขาดทุกกรณี ตั้งแต่วันที่ 14-20 มี.ค. ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด

ไฟป่า – จนท.เร่งดับไฟป่าที่ลุกลามไหม้นับร้อยจุดในหลายอำเภอ จ.แม่ฮ่องสอน ล่าสุดนายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ประกาศขยายเวลาห้ามจุดไฟในพื้นที่โล่งแจ้งออกไปอีก เมื่อวันที่ 14 มี.ค.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน