ตร.ฮึ่มฟันยันผิดกฎหมาย
โตโต้โดน112คุกอีกรอบ
‘รุ้ง’เริ่มอดข้าว-กินแต่น้ำ
ม็อบเผาพริกหน้าเรือนจำ

ส่ง ‘โตโต้’ เข้าคุก หลังศาลกาฬสินธุ์ไม่ให้ประกันคดี 112 เผยเป็นกรณีติดป้ายทวงถามวัคซีนโควิดตู่-จตุพร ลั่นม็อบวันนี้มืดฟ้ามัวดิน ร่วมไล่ประยุทธ์ ยันไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ขณะที่รุ้ง-ปนัสยา เริ่มอดอาหารทั้ง 3 มื้อเป็นวันแรก ระบุเชื่อว่ามนุษย์เป็นคนดี และคดีการเมือง จะได้รับความเป็นธรรม ส่วนเพนกวิน อ่อนเพลียเล็กน้อย กลุ่มราษฎรเอ้ย ชุมนุมหน้าเรือนจำกรุงเทพฯ เผาพริกเผาเกลือแช่ง จี้ปล่อยเพื่อนเรา

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ที่บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. แถลงถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม ว่า ขณะที่การชุมนุมของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ที่นัดหมายชุมนุมในวันที่ 4 เม.ย. เวลา 16.00 น. ที่สวนสันติพร นั้นก็ยังไม่ได้มีการแจ้งขอชุมนุมกับเขตพระนคร ตามประกาศของกรุงเทพมหานคร จึงขอแจ้งเตือนว่า การกระทำของ 2 กลุ่ม เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ส่วนด้านการจราจร ในช่วงเย็นวันนี้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ถนนงามวงศ์วาน ส่วนในวันที่ 4 เม.ย. แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า และใช้ถนนราชดำเนิน เป็นเส้นทางเลี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงจากพื้นที่ชุมนุมแทน

เข้าคุกต่อ – ตำรวจ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ คุมตัวนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ แกนนำกลุ่มวีโว่ ส่งฝากขังคดี ม.112 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่ให้ประกัน ส่งเข้าเรือนจำ หลังเพิ่งได้ประกันและออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อ 3 เม.ย.

สำหรับกรณีของนายปิยรัฐ จงเทพ แกนนำ กลุ่มวีโว่ ที่ศาลอาญาให้ประกันตัว ก่อนที่ตร.สน.ประชาชื่น มาอายัดตัวไว้ โดยพบว่ามีคดีมาตรา 112 และความผิดในพ.ร.บ.คอม พิวเตอร์ ในพื้นที่สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อคืนวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วส่งตัวไปดำเนินคดีที่สภ.ยางตลาด นั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. พนักงานสอบสวนสภ. ยางตลาด สอบปากคำนายปิยรัฐ หลังรับตัวจากตำรวจสน.ประชาชื่นมาเมื่อเวลา 06.00 น. โดยมี พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว. กาฬสินธ์ และพ.ต.อ.ศิลปชัย พงศ์วัชรจินดา ผกก.สภ.ยางตลาด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองดูแลความเรียบร้อย

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมามีมวลชนกลุ่มเพื่อนและกลุ่มการ์ดวีโว่จำนวนหนึ่งนำเครื่องเสียงและป้ายผ้าเขียนข้อความไปติดตั้งพร้อมปราศรัยให้กำลังใจโตโต้ ท่ามกลางการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองกว่า 100 นาย ซึ่งนำแผงเหล็กมากั้นรอบโรงพัก ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป โดยเหตุการณ์เป็นไปด้วยความปกติ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม และนำไปฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์ แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ป.อ. มาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร พ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 14(3)

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ควบคุมตัวนายปิยรัฐ ส่งเข้าไปที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนาแน่น และท่ามกลางทีมงานที่ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ทันทีที่ “โตโต้” เดินลงรถมาก็หันมาทักท้ายโบกมือกับทีมงานสามนิ้ว จากนั้นเดินก้มหน้าด้วยสีหน้า เรียบเฉยเข้าไปยังเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 ที่ผ่านมา นายปิยรัฐนำป้ายสติ๊กเกอร์มีข้อความวิพากษ์วิจารณ์การจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาล พร้อมกับมีการใส่ข้อความพาดพิงสถาบันลงในแผ่นป้ายดังกล่าวไปติดตามต้นไม้ เสาไฟ และซุ้มเฉลิมพระเกียรติกลางถนน ในพื้นที่อำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมมีการนำไปโพสต์ลงในโซเชี่ยลก่อนจะถูกออกหมายจับดังกล่าว








Advertisement

ด้านความเคลื่อนไหวของรุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำราษฎร น.ศ.ธรรมศาสตร์ ที่ประกาศอดข้าวนั้น เพจแนวร่วมธรรม ศาสตร์และการชุมนุม แจ้งว่าเส้นทางการต่อสู้ในกรงขังของรุ้ง-ปนัสยา อดอาหารประท้วงเป็นวันที่สี่ โดยทนายความเข้าเยี่ยมรุ้งเช่น ทุกวัน รุ้งยิ้มแย้มสดใสแม้วันนี้จะเป็นวันแรก ที่เธออดข้าว ดื่มเพียงนม น้ำ และน้ำหวาน รุ้งได้พูดคุยกับทนายหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องความห่วงใยจากทุกคนและชีวิตความเป็น อยู่ทั่วไป แต่รุ้งยังย้ำกับทนายว่าเธอเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีความดีในตัว ความชั่วมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เป็นแบบนั้น และยังเชื่อว่าคดีการเมืองจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม การเปลี่ยนมาถึงแล้ว คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ฝืนธรรมชาติ ก็จะค่อยๆ ล้มตายไป แต่พวกเธออายุยังน้อยจะยังมีชีวิตอีกนานและ “ประชาชนชนะเสมอ”

นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวการอดอาหารประท้วงของน.ส.ปนัสยา ว่า กรมราชทัณฑ์ ได้รับการแจ้งจากน.ส.ปนัสยาว่าต้องการอดอาหารทุกมื้อ ภายหลังจากที่ได้อดอาหารมื้อเย็นเป็นเวลา 3 วัน โดยของดอาหารประเภทข้าวและกับข้าวทุกชนิด ยกเว้น นมและเครื่องดื่มประเภทน้ำหวานต่างๆ และจะปฏิบัติต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. จนถึงวันที่ออกพบทนายความอีกครั้ง ในวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งเจ้าหน้า ที่พยาบาล ก็จะดูแลให้เกลือแร่อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ด้านการอดอาหารของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์หรือ เพนกวิน นายธวัชชัย เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 เม.ย. เวลา 09.30 น. ผอ.สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยแพทย์ห้วงเวลา และเจ้าหน้าที่พยาบาล เข้าตรวจเยี่ยมติดตามอาการของนายพริษฐ์ พบว่าผู้ป่วยรู้สึกตัวดี อ่อนเพลียเล็กน้อย โดยเจ้าตัวยังคงปฏิเสธการรับประทานอาหาร

จึงให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและดื่มเกลือแร่ทดแทน ส่วนผื่นคันบริเวณหน้าอกและผื่นที่หลังดีขึ้น และแพทย์สั่งเพิ่มการรักษาให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำเป็นชนิด 5%DNSS/21,000 ml. และ VitBco 1 amp IV 80 ml/hr และให้lorazepam 0.5 mg. รับประทานก่อนนอนหากนอนไม่หลับ ซึ่งในเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าตรวจเยี่ยมติดตามอาการ โดยดูแลเปลี่ยนบริเวณที่ให้สารน้ำตามแผนการรักษาตามที่แพทย์ห้วงเวลาแจ้ง และนายพริษฐ์ได้ยินยอมให้ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งพบปริมาณน้ำตาลในเลือด 88 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

สาปแช่ง – กลุ่มราษฎรเอ้ย และกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปราศรัยเรียกร้องสิทธิ์ประกันตัวผู้ต้องหาคดีทางการเมือง และทำพิธีเผารูปสาปแช่ง ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 เม.ย.

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน แขวง ลาดยาว เขตจตุจักร กทม. กลุ่มราษฎรเอ้ย และกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิป ไตย กว่า 100 ราย ร่วมจัดกิจกรรมปราศรัย “ปล่อยเพื่อนเรา” เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวตามหลักสากล รวมถึงเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองทั้งหมดได้รับการประตัวตามสิทธิ์พึงมี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.น.2 กระจายกำลังตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดเพื่อคอยอำนวยความสะดวกเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุอันตรายจากบุคคลผู้ไม่หวังดี

โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเขียนข้อความบนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดเพื่อส่งสารถึงนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวินแกนนำราษฎร ซึ่งระบุข้อความว่า เป็นจดหมายถึงเพนกวิน โดยมีใจความว่า วันนี้เพนกวินอดข้าวมาหลายวันแล้ว เพื่อจะให้คนเลวเหล่านั้นสำนึกและรู้สึกผิดชอบ สิ่งที่กวิ้นทำ มั่นใจได้เลยว่า คนต่ำตมเหล่านั้นจะไม่รู้สึกอะไรเลย ตรงกันข้าม อาจจะกำลังดีใจ สะใจ แต่กวิ้นลองหันมามองคนอีกกลุ่มที่รักและเคียงข้างกวิ้น ว่าในแต่ละวันมันเจ็บปวดและทุกข์ใจเพียงใด ทุกวันคอยกลัวว่าจะได้ยินข่าวร้าย การที่กวิ้นเสียอิสรภาพ นั้นคือการต่อสู้ที่เสียสละอย่างถึงที่สุดแล้ว มันมากเกิน จนป้าและมวลชนรู้สึกละอายต่อการเสียสละครั้งนี้

ถ้ากวิ้นบอกว่า เกิดมาเพื่อมวลชนนี่เป็นคงคำขอร้องจากป้าและมวลชนให้กวิ้นรีบกลับมาฟื้นฟูร่างกายโดยเร็ว ป้ายังหวังจะได้อยู่ ในแผ่นดินที่กวิ้นและเพื่อนพัฒนาและเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น

ปล.ช่วยส่งสารนี้ให้ถึงเพนกวินด้วยนะ ไม่ว่าอย่างไร เราจะสู้ไปด้วยกัน เพราะไม่มี กวิ้นก็ไม่มีกำลังใจ

รักและเคียงข้างกวิ้นเสมอ

ขณะที่ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นำลวดหนามหีบเพลงมาเป็นแนวกั้นรั้วบริเวณหน้าประตูทางเข้า-ออก เพื่อป้องกันกลุ่มบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรุกล้ำเข้าไปยังสถานที่ดังกล่าว สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้สืบเนื่องจากนายปิยรัฐ ถูกอายัดตัว อีกทั้งกลุ่มแกนนำต่างๆ ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ดังกล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 18.15 น. พ.ต.ท.สมใจ เมฆหมอก รอง ผกก.สส.สน.ประชาชื่น อ่านเอกสารให้กลุ่มมวลชนยุติการชุมนุมเนื่องจากฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์ควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จนเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจก่อนพากันตะโกนขับไล่ โดยไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงแม้แต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น. ตัวแทนกลุ่มราษฎรเอ้ย ได้จัดกิจกรรมพิธีเผาพริก เผาเกลือ โดยมีการนำแป้ง เกลือ และพริกมาโรยเป็นวงกลม จากนั้นได้จุดเทียนดำ 11 เล่มวางไว้ ก่อนเชิญชวนเพศหญิง 7 คน มาจับมือเป็นวงล้อมเดินทวนเข็มนาฬิกาโดยเชื่อว่าเพศหญิงเป็นเพศที่ถูกข่มเหงรังแกจากระบบศักดินา จากนั้นได้ทำพิธีสาปแช่งก่อนนำรูปพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเผาทิ้งใส่ลงในหม้อดินที่เตรียมมาประกอบพิธีกรรมอีกด้วย

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวผ่านเฟชบุ๊กไลฟ์ ถึงการชุมนุมของประชาชนในรหัส 4/4/4 วันที่ 4 เมษา เดือน 4 เวลา 4 โมงเย็น ว่า เชื่อประชาชน จะมาร่วมอย่างมืดฟ้ามัวดิน เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ และไม่ทนอยู่ภายใต้การปกครองของพล.อ. ประยุทธ์และพรรคพวกอีกต่อไป เป็นการชุมนุมสามัคคีประชาชน ไม่มีผลประโยชน์เบื้องหลัง ยึดมั่นแนวทางหรือรูปแบบพฤษภา 35 ที่ต่อสู้กับรัฐบาลตระบัดสัตย์ที่ใช้รัฐ ธรรมนูญเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจ ซึ่งตนจะไปร่วมงานตามคำชวนของนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ในนามปัจเจกไม่เกี่ยวกับองค์กรใด โดยการจัดงานได้ขออนุญาตถูกต้อง และไม่มีการเคลื่อนกำลังไปจุดใด ดังนั้นรัฐบาลควรอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย ร่วมกัน การระดมกำลังตำรวจทั่วประเทศมานั้นเป็นความขี้กลัวและวิตกจริตเกินเหตุ

นายจตุพรกล่าวว่า ตนต้องการสื่อสารเรื่องรัฐธรรมนูญ การทุจริต การสืบทอดอำนาจ ปัญหาสังคม การบริหารเศรษฐกิจที่เหลวแหลกภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยภาษาแบบวิญญูชนและใช้สันติวิธีในการชุมนุม และเพื่อบอกว่า

การใส่ร้ายทำลายตนด้วยการกล่าวหาว่าย้ายขั้ว สลับร่างไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ไปสังกัดฝ่ายเผด็จการ และรับงานมาทำลายคนเสื้อแดงและยังทำโพลให้บรรลุเป้าหมาย เป็นข้อกล่าวหาที่เจ็บปวดและทั้งหมดเป็นความเท็จ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนสบายใจว่าเราปฏิบัติตามกฎหมาย มีการตรวจโควิดทุก ขั้นตอน จึงขอให้ตำรวจมาร่วมตรวจอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายด้วย เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจต่อกันว่าเป็นการรวมตัวของประชาชนอย่างไม่มีเงื่อนไข

“ผมเชื่อว่า วันที่ 4/4/4 คนจะมาล้น ถ้าคนไม่เห็นชอบด้วย ผมและนายอดุลย์ ต้องพิจารณาตัวเอง แต่ถ้าประชาชนประกาศไม่ทน ให้ประเทศไทยถูกพล.อ.ประยุทธ์ ปกครองอีก 6 ปี ในวันพรุ่งนี้จะเกิดความสามัคคีกัน และคนที่ยืนอยู่แถวหน้าของแต่ละฝ่ายต้องทนแบกรับกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ต้องแลกกับการอยู่หรือไปของพล.อ.ประยุทธ์ และกำลังหารือว่าอาจจะชุมนุมต่อในวันที่ 7 และ 8 เม.ย.หรือวันต่อไปขึ้นอยู่กับการตัดสินใจกันของประชาชน ส่วนที่คิดว่าการทำลายล้าง หรือฆ่าตนแล้วสถานการณ์นี้จบนั้นคิดผิด หากอยากทำลายก็ทำลายไป แต่ยืนยันว่าจะขับไล่ จะต่อสู้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย” นาย จตุพรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน