ลุยเข้าดับเพลิง-ค้นหาผู้รอดชีวิต
จู่ๆพังครืนทั้งหลัง-บาดเจ็บอีกอื้อ
จนท.ระดมเคลียร์ข้ามวันข้ามคืน
ผู้ว่าฯกทม.สั่งเร่งสอบหาสาเหตุ

สยองกรุงคร่า 5 ศพ เผยเหตุไฟไหม้อาคารหรู ย่านศาลาธรรมสพน์ จนท.ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือ ระหว่างค้นหาผู้รอดชีวิต เกิดเหตุอาคารพังครืน ทับร่างกู้ภัย 4 นาย บาดเจ็บอีกอื้อ เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซาก ด้านคนในบ้านระบุคาดต้นเพลิงเกิดจากปั๊มลมห้องรปภ.เก่า ก่อนลุกลามไปทั้งบ้าน กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้าง มีการต่อเติมผิดแบบหรือไม่ หากพบมีความผิดเตรียมดำเนินคดีรูด

ไหม้ถล่ม – เหตุเพลิงไหม้อาคารบ้านพัก 3 ชั้น ในหมู่บ้าน กฤษดานคร 31 เขตทวีวัฒนา กทม. ขณะเจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิง ตัวบ้านพังถล่มครืนลงมาทับอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยเสียชีวิต 4 ศพ และคนในบ้านอีก 1 ศพ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 3 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรม สพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพ มหานคร และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน ลักษณะเป็นอาคารสูง 3 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด เปิดเป็นบริษัท ชื่อบริษัท โลกโสภา จำกัด พบแสงเพลิงกำลังโหมลุกไหม้จากชั้นล่างลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั้งอาคาร เจ้าหน้าที่ระดมสายยางฉีดน้ำ โดยพบยังมีผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอีก 8 ราย ทางเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิง จึงเข้าไปช่วยเหลือ ท่ามกลางควันไฟที่ยังพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา จนสามารถช่วยเหลือไว้ได้ 7 ราย ส่วนอีก 1 รายเสียชีวิต ติดค้างอยู่ในห้องน้ำ กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เพลิงเริ่มสงบลง

ทั้งนี้ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังระดมหัวฉีด ฉีดน้ำอยู่นั้น เกิดเสียงปูนดังลั่นตลอดเวลา ก่อนที่อาคารทั้งหลังได้ทรุดตัวลงมาทันที เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังปฏิบัติหน้าที่ต่างพากันวิ่งหนีตายออกมา แต่ก็มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและยังติดอยู่ภายใน

ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เข้ามาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเผยว่า ต้องใช้ความระมัดระวังในการช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้เครื่องมือหนักเข้าพื้นที่เพื่อเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตและคนที่ติดอยู่ข้างในได้ เกรงว่าโครงสร้างส่วนที่เหลือจะเสียหายและถล่มทับลงมาอีก จึงใช้เครื่องมือขุดเจาะบริเวณด้านข้างแทน

ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 100 คน ระดมช่วยเหลือผู้ติดค้างอยู่ภายในซึ่งคาดว่ายังมีชีวิตอยู่ ด้วยการใช้เครื่องสแกนหาสัญญาณชีพ 3 ครั้ง และใช้วิทยุสื่อสารกับผู้ที่ยังติดอยู่ภายในซากอาคาร พบว่ามีผู้เคาะตอบ และกดวิทยุสื่อสารตอบกลับมา








Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ดับเพลิง ได้ยินเสียงปูนดังลั่นตลอดเวลา จนกระทั่งนายสุทัศน์ หรือโอ เปลี่ยนกลัด เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย รหัสธน 27-32 พบผู้หมดสติอยู่ในห้องน้ำชั้นล่างด้านในสุด คือนายเกียรติ แพนเตอร์สัน อายุ 35 ปี จึงพยายามช่วยเหลือ แต่อาคารทั้งหลังทรุดตัวถล่มลงมากองกับพื้น เจ้าหน้าที่ต่างพากันวิ่งหนีตาย

ตรวจสอบเบื้องต้นยังพบอาสาสมัครเสียชีวิตติดคาซากตึกอีก 3 ราย ทราบชื่อ นายสมัชชา นิลธร อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย รหัสธน 27-30 นายอรรถพล ท่ามทอง รหัสธน 37-85 เสียชีวิตคู่กันอยู่บริเวณด้านข้างของตัวบ้าน ต่อมานายธนภพ ประไพ รหัสเหนือ 33-00 อพปร.เทศบาลนนทบุรี ก็ถูกปูนทับเสียชีวิตอยู่กลางบ้าน เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตัดถ่างนำศพออกมาด้วยความทุลักทุเล ส่วนศพของนายสมัชชา และนายอรรถพลยังติดอยู่ในซาก

นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บอีกรายติดคาอยู่ใต้ซากตึก ทราบชื่อนายสุรศักดิ์ หรือ เค เปลี่ยนกลัด รหัสธน 26-35 ซึ่งเป็นน้องชายของนายสุทัศน์ ขาหักสองข้าง มีแผลตาม ลำตัว เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตัดถ่าง และใช้เครื่องช่วยหายใจ นำร่างออกมาด้วยความยากลำบาก นำตัวส่งร.พ.วิชัยเวช หนองแขม ซึ่งขณะกำลังช่วยเหลืออยู่นั้น เปลวไฟก็ยังปะทุและลุกลามเข้ามาอีก เจ้าหน้าที่ต้องคอยฉีดน้ำเลี้ยงไว้ ไม่ให้ลุกลามมาถึงคนเจ็บ แต่ฉีดน้ำไว้เพื่อเลี้ยงไฟเท่านั้น หากฉีดให้ดับทันทีอาจทำให้ปูนทรุดตัวทับคนที่ติดอยู่ด้านใน

นายพลกฤษณ์ เหลือพิสุทธิกุล อายุ 46 ปี พนักงานบริษัทที่เกิดเหตุ กล่าวว่า บริษัทนี้เป็นของนายอดิสรณ์ โสภา ซึ่งเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ระบาด และกลับประเทศไทยไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุมีคนพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 8 คน ชั้น 2 จำนวน 4 คน ชั้น 3 จำนวน 4 คน ช่วงเวลาประมาณ 05.30 น. ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงชะโงกดูหน้าบ้าน พบเปลวไฟลุกไหม้ในป้อมยามหน้าบ้านที่ติดกับตัวบ้าน ซึ่งในป้อมยามมีปลั๊กที่เสียบปั๊มลมเพียงอย่างเดียว ไม่มียามคอยเฝ้า เพลิงลุกลามเข้าตัวบ้านอย่างรวดเร็ว พวกตนพยายามวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาได้ 7 คน ส่วนนายเกียรติเลขาฯ ของนายอดิสรณ์หนีเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง ทำให้หนีออกมาไม่ได้

นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผอ.เขตทวีวัฒนา เปิดเผยว่า เร่งตรวจสอบเรื่องการขอใบอนุญาตและการออกเลขที่บ้าน แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัด ทราบเพียงว่าออกเลขที่บ้านประมาณ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบริษัทเกี่ยวกับสระว่ายน้ำหรือชุดว่ายน้ำ ขณะนี้ทราบตัวเจ้าของบ้านแล้ว แต่เจ้าของบ้านไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้และยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยเป็นที่พักอาศัยของลูกจ้าง ส่วนข้อมูลเรื่องการต่อเติมบ้านหรือการทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อาจเกิดจากหลายสาเหตุต้องรอการตรวจพิสูจน์หลักฐานก่อน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการกู้ภัยและช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด รวมทั้ง สุนัขเค-9 ดมกลิ่นเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตด้วย

สำหรับผู้เสียชีวิต ล่าสุดพบว่ามี 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายสมัชชา นิลธร (รหัสธน 27-30) 2.นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด (ธน 27-32) 3.นายอรรถพล ท่ามทอง (ธน 27-85) 4.นายธนภพ ประไพ (เหนือ 33-120) และผู้อยู่อาศัย 1 ราย ได้แก่ 5.นายเกียรติ แพนเตอร์สัน

เมื่อเวลา 18.30 น. นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการค้นหาและกู้ภัยเหตุอาคารถล่มในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ว่า ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง USAR Team และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอาคารอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 5 ราย (ผู้พักอาศัยในบ้าน 1 ราย และจนท.อาสาสมัคร 4 ราย) สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้ว 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 4 รายยังติดอยู่ใต้ซากอาคาร ผู้บาดเจ็บ 6 รายนำส่งร.พ.แล้ว โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ทีมค้นหาได้กระจายกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากอาคาร และรายงานไม่พบผู้รอดชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้นำเครื่องมืออุปกรณ์เข้าตรวจหาสัญญาณชีพเพื่อยืนยันอีกครั้ง ก่อนจะนำเครื่องจักรกลหนักเข้าปฏิบัติการเปิดทางเพื่อกู้ร่างผู้เสียชีวิตต่อไป ซึ่งเป็นไปตามระบบมาตรฐานสากลของคณะที่ปรึกษาด้านการค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง ทั้งนี้ แม้ปฏิบัติการเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากจุดเกิดเหตุยังมีกลุ่มควันและความร้อนสะสมทำให้อุณหภูมิสูง ประกอบกับบางจุดมีโครงสร้างไม่มั่นคงและเสี่ยงต่อการพังถล่มซ้ำ แต่เจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติการกู้ภัยอย่างเต็มกำลังด้วยความระมัดระวัง และคำนึงถึงความปลอดภัย เป็นหลัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน