300ตร.แปดริ้ว
แห่ตรวจหาเชื้อ
รองอสส.มีโควิด
7พนง.แบงก์ดัง
ต้องเข้ารักษาตัว
นนท์เจออีก48

โควิดลามหนัก ผับดังชลบุรีติดเชื้ออีก 97 ยอดพุ่ง 125 คน ส่วนที่นนทบุรีเจอเพิ่ม 48 ราย ทั่วประเทศวันเดียวป่วยพุ่ง 985 ยอดระลอก 3 เกือบ 5 พันคนแล้ว จากผับบาร์ 454 ราย เชียงใหม่ยังวิกฤต พบติดเชื้อวันเดียว 269 คน เร่งสร้างร.พ.สนาม ตร.แปดริ้ว 300 นายกลุ่มเสี่ยงแห่ตรวจหาเชื้อ หลังสวป.โรงพักเมืองติดโควิด ด้านรองอัยการสูงสุดติดเชื้อ หลังไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนร่วมรุ่นวปอ. ผลตรวจเชื้อ‘ผบ.ทร.’ไม่พบเชื้อ สั่งกักตัว 30 ทหารเรือกลุ่มเสี่ยง มหาดไทยสั่ง 41 จว.คนนอกเข้ามาต้องกักตัว กองทัพระดมตั้งโรงพยาบาลสนาม สธ.เตือนคนติดเชื้อต้องเข้ารักษาในร.พ. ไม่ควรพักรักษาในบ้านหรือคอนโดฯ

ร.พ.สนาม – กรุงเทพฯเตรียมร.พ. สนาม ที่ศูนย์กีฬาเฉลิม พระเกียรติ 84 พรรษา เขตบางบอน เป็นอีกจุดไว้รองรับผู้ติดเชื้อโควิด เพื่อสังเกตอาการ และดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้น โดยจัดรูปแบบผู้ป่วยในเป็นกลุ่มเฝ้าระวัง เมื่อวันที่ 12 เม.ย.

ติดโควิดอีก985-รอบใหม่พุ่ง4.7พัน

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 985 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 980 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 33,610 ราย หายป่วยแล้ว 28,248 ราย ยังรักษาอยู่ 5,265 ราย เสียชีวิตสะสม 97 ราย

สำหรับระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. พบผู้ติดเชื้อสะสม 4,747 ราย และเสียชีวิตสะสม 3 ราย

ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่มาจากระบบเฝ้าระวัง 634 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 346 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย ข้อมูลผู้ติดเชื้อตามปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ 1.สถานบันเทิง 454 ราย ได้แก่ กทม. 97 ราย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. รวม 802 ราย ปริมณฑล 41 ราย สะสม 264 ราย จังหวัดอื่นๆ 316 ราย สะสม 1,190 ราย

2.ตลาด ชุมชน และขนส่ง 31 ราย ได้แก่ กทม. 4 ราย สะสม 79 ราย ปริมณฑล 6 ราย สะสม 33 ราย จังหวัดอื่นๆ 21 ราย สะสม 104 ราย

3.ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ 324 ราย ได้แก่ กทม. 36 ราย สะสม 456 ราย ปริมณฑล 91 ราย สะสม 390 ราย จังหวัดอื่นๆ 197 ราย สะสม 906 ราย

และ 4.อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 176 ราย ได้แก่ กทม. 5 ราย สะสม 155 ราย ปริมณฑล 25 ราย สะสม 51 ราย และจังหวัดอื่นๆ 146 ราย สะสม 317 ราย

สถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อสะสม 136.6 ล้านราย เพิ่มขึ้น 631,408 ราย เสียชีวิต 2.94 ล้านราย เพิ่มขึ้น 7,991 ราย ประเทศที่ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับ 1.สหรัฐอเมริกา 31,918,591 ราย 2.อินเดีย 13,525,379 ราย 3.บราซิล 13,482,543 ราย 4.ฝรั่งเศส 5,058,680 ราย และ 5.รัสเซีย 4,641,390 ราย

คลัสเตอร์ผับติดเชื้อพุ่ง 2.2 พัน

ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลกอินเดียยังน่าเป็นห่วงมาก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 169,914 ราย สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 4.7 หมื่นราย บราซิล 3.7 หมื่นราย และยังระบาดในหลายประเทศยุโรป ส่วนเพื่อนบ้านอาเซียน กัมพูชารายงานใหม่ 157 ราย มาเลเซียติดอีก 1.7 พันคน สำหรับประเทศไทยติดเชื้อใหม่ 985 ราย ระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ติดเชื้อสะสม 4,747 ราย ยังรักษาอยู่ 5,265 ราย เสียชีวิตสะสม 3 ราย

การระบาดแบ่งเป็น 3 พื้นที่ คือ 1.กทม.ติดเชื้อวันนี้ 142 ราย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. รวม 1,492 ราย 2.ปริมณฑล ติดเชื้อวันนี้ 163 ราย สะสม 738 ราย และ 3.จังหวัดอื่นๆ ติดเชื้อวันนี้ 680 ราย สะสม 2,517 ราย ส่วนคลัสเตอร์สถานบันเทิงติดเชื้อสะสม 2,256 ราย ตลาดชุมชนและขนส่ง สะสม 216 ราย ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ 2,275 ราย

“กทม.มีผู้ติดลดลง แต่ที่พบการติดเชื้อมาก คือเชียงใหม่ ชลบุรี และสมุทรปราการ การติดเชื้อตอนนี้มีเกือบทุกจังหวัดแต่ส่วนใหญ่ไม่มาก 1-2 ราย และไม่เกิน 5-10 ราย แนวโน้มการติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้น ต้องต้องจับตา 1-2 สัปดาห์นี้ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ แต่เหมือนแนวโน้มเริ่มชะลอตัวบ้างเล็กน้อย”

แบ่งระบาดระลอกใหม่ 5 สี

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า การระบาดระลอกใหม่รูปแบบการระบาดจะแตกต่างจากที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ เนื่องจากพบในคนหนุ่มสาว วัยทำงาน นักศึกษาที่ช่วงนี้ปิดเทอม ซึ่งนักศึกษามีกิจกรรมมาก ไปเที่ยวสถานบันเทิง ช่วงสงกรานต์กลับบ้านกันมาก ทำให้การระบาดค่อนข้างเยอะ หากแบ่งสถานการณ์การระบาดแบ่งออกเป็น 5 สี 5 ระดับ คือ 1.สีขาว ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ มี 5 จังหวัด เช่น ปัตตานี พังงา กระบี่ ระนอง เป็นต้น 2.สีเขียว ติดเชื้อจากกทม.และปริมณฑล และเดินทางกลับบ้านเกิด ไปถึงระบบตรวจจับได้โดยเร็ว ยังไม่มีการกระจายในจังหวัดตัวเอง เรียกว่าเป็นการนำเข้าจากจังหวัดอื่น ซึ่งสถานการณ์นี้พบมากที่สุด

3.สีเหลือง มีผู้ป่วยติดเชื้อจังหวัดอื่นเดินทางมา แต่ติดเชื้อเฉพาะในครอบครัว พ่อแม่ สามีภรรยา 4.สีส้ม มีการระบาดในจังหวัดตัวเอง กลุ่มก้อนการระบาดไม่มาก ต่ำกว่า 50 คน ได้แก่ ภูเก็ต ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สระบุรี และระยอง และ 5.สีแดง มีการระบาดในจังหวัดตัวเอง และมีกลุ่มก้อนมากกว่า 50-100 คนขึ้นไป คือกทม. 1,350 ราย เชียงใหม่ 383 ราย ชลบุรี 405 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 141 ราย และสระแก้ว 76 ราย

ระดับสีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับระดับสีมาตรการ ทั้งนี้แม้จะเป็นจังหวัดสีแดง แต่ไม่ใช่ว่าจะแย่ไปทั้งหมด อย่างประจวบ คีรีขันธ์ พบติดเชื้อใหม่ 52 ราย สะสม 193 ราย กระจายเกือบทุกอำเภอ จุดเริ่มต้นมาจากผู้ที่มาจากสถานบันเทิงคริสตัล ทองหล่อ นำเชื้อมาติดในคอนเสิร์ตผับแห่งหนึ่งหัวหิน และคนติดเชื้อจุดนี้ไปเที่ยวสถานบันเทิงหลายแห่ง จึงติดจำนวนมากและคนในครอบครัว กิจกรรมคือสอบสวนโรค ควบคุมคนสัมผัส ผู้ป่วยไป ร.พ. สัมผัสเสี่ยงสูงกักตัว ตรวจแล็บ จุดต่างๆ ที่ผู้ติดเชื้อไปมีการทำความสะอาด ทำลายเชื้อทุกจุด สถานการณ์ถือว่าควบคุมได้ดี ดังนั้น แม้เป็นสีแดง แต่ถ้าร่วมมืองดกิจกรรม ปิดสถานที่เสี่ยง ลดพฤติกรรมเสี่ยง จะทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้รวดเร็ว” นพ.โอภาสกล่าว

เตือนน.ศ.งดเที่ยวผับบาร์

นพ.โอภาสกล่าวว่า ช่วงนี้คนไปสถานบันเทิง ซึ่งคนหนึ่งไปหลายที่ เบื้องต้นบอกข้อมูลไม่ค่อยครบถ้วน ต้องซักและสอบหลายวัน ทำให้การสอบสวนล่าช้าและลำบาก ถ้าร่วมมือร่วมใจ ข้อมูลที่บอกก็เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและครอบครัว อย่าปกปิดเด็ดขาด หากปกปิดมีความผิดแน่นอน นอกจากนี้ ขอความร่วมมือใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่าง

“สรุปสถานการณ์ขณะนี้แม้พบติดเชื้อรวดเร็ว กระจายทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าเชื้อ ถ้าจังหวัดนั้นๆ ควบคุมตรวจจับได้เร็ว อย่างมากจะเป็นสีเหลือง จังหวัดที่มีกิจกรรมรวมตัวหมู่มาก ขอให้งดเว้น ยกเลิก ศบค.สั่งปิดสถานบันเทิง 41 จังหวัดก็ต้องเข้มงวด ช่วงปิดเทอมมีกิจกรรมหลายอย่างที่เสี่ยง เช่นออกค่ายทำกิจกรรม เพราะอยู่ร่วมกันใกล้ชิดเป็นเวลานาน ขอให้ระวัง นักศึกษาท่านใดช่วงนี้ไปผับบาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง ให้เฝ้าระวังตนเอง เลี่ยงพบปะคนหมู่มาก จะช่วยควบคุมโรคได้รวดเร็ว สงกรานต์หลายจังหวัดกักตัวผู้มาจากจังหวัดเสี่ยง ขอให้ความร่วมมือและตรวจสอบกับจังหวัด เน้นย้ำมาตรการป้องกันส่วนบุคคล อย่าไปจุดเสี่ยงที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี อย่าไปมีพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ใส่หน้ากาก ไม่เว้นระยะห่าง หรือดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ขาดสติติดเชื้อง่ายขึ้น

สำหรับวัคซีนโควิด-19 กระจายแล้ว 77 จังหวัดกว่า 1 ล้านโดส ฉีดสะสม 570,052 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 498,791 ราย ครบ 2 เข็ม 71,261 ราย โดยฉีดบุคลากรการแพทย์ สาธารณสุข และ อสม. 200,525 ราย ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 201,319 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆ 48,765 ราย ผู้มีโรคประจำตัว 22,243 ราย และผู้สูงอายุ 25,939 ราย ศักยภาพการฉีดจากจำนวนวัคซีนที่มีถือว่าฉีดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนซิโนแวค 1 ล้านโดส อยู่ในการตรวจสอบคุณภาพห้องปฏิบัติคาดว่าจะเสร็จใน 1-2 วันนี้ จะเร่งกระจายฉีดต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามแผน และแผนสำคัญคือการมีวัคซีน 6-10 ล้านโดสต่อเดือนช่วง มิ.ย.จะฉีดครอบคลุมกว้างขวางต่อไป

ผลตรวจ‘ผบ.ทร.’ไม่ติดโควิด

วันเดียวกัน พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ตรวจโควิด-19 แบบสว็อบแล้ว ผลออกมาเป็นลบ ไม่ติดเชื้อโควิด-19 เพราะไม่ได้ ใกล้ชิดกับร.ท.หญิง ที่อยู่ในวงที่สาม และนั่งชมการฝึกในพื้นที่เปิดโล่ง และทิ้งระยะห่างๆ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น รวมถึงไม่ได้อยู่รับประทานอาหารกับกลุ่มนายทหารจากกองทัพไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง แต่ผบ.ทร.ก็จะกักตัว 14 วัน และเวิร์ก ฟรอม โฮม เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย โดยจะตรวจโควิด-19 ซ้ำอีกครั้งในวันที่ 15 เม.ย.นี้

กักตัว 30 ทหารเรือ

“อย่างไรก็ตาม ได้กักตัวนายทหารเรือ 30 นายที่เข้าร่วมฝึกของกองทัพเรือประจำปี 2564 เข้ากักตัวใน SQ แล้ว เพราะเป็นกลุ่มที่ไปรับประทานข้าวเที่ยงต่อ บริเวณพื้นที่ฝึก ซึ่งถือเป็นวงที่ 2 ที่ใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง” พล.ร.อ.เชษฐากล่าว

พล.ร.อ.เชษฐากล่าวต่อว่า กองทัพเรือจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของกองทัพเรือใน 3 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้รวม 726 เตียง 1.โรงพยาบาลสนาม ศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (เกล็ดแก้ว) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จำนวน 320 เตียง 2.โรงพยาบาลสนาม ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ 174 เตียง และ 3.โรงพยาบาลสนาม สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม จ.จันทบุรี จำนวน 232 เตียง โดยโรงพยาบาลสนามศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและฝั่ง(สอ.รฝ.)ได้รับผู้ป่วยจาก ร.พ.ชลบุรีแล้ว แบ่งเป็นผู้ป่วยชาย 24 ราย และผู้ป่วยหญิง 22 ราย

‘รองอัยการสูงสุด’ก็ป่วยโควิด

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีนายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ รองอัยการสูงสุด ติดเชื้อโควิด ว่า เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนเสนอไป เท่าที่ทราบปกตินายประสิทธิ์ ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกือบสองเดือนที่ผ่านมาได้ระมัดระวังตัวขั้นสูงสุด ทุกวันหลังเลิกงานจากที่ทำงานที่ศูนย์ราชการ อาคารเอ จะไปออกกำลังกายที่สโมสรราชพฤกษ์เเล้วเดินทางกลับบ้าน เเต่วันดังกล่าวเป็นวันเกิดเพื่อนสนิทที่เรียนวปอ.51 รุ่นเดียวกัน ในงานเลี้ยงมีเพื่อนที่ติดเชื้อมาร่วมงานด้วย เรียกว่าครั้งเดียวแจ๊กพอตเลย

นายประยุทธกล่าวต่อว่า ปกติสำนักงานอัยการสูงสุดมีมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด อยู่แล้ว เช่น จัดสถานที่สำหรับประชาชน และสถานที่สำนวนนอกอาคาร โดยจัดให้ เจ้าหน้าที่มาให้บริการ หรือแต่ละอาคารมีทางเข้าออกอาคารแต่ละอาคารเพียงทางเดียว นอกจากนี้ในการเฝ้าระวังสำหรับผู้ที่เสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อให้ตรวจคัดกรอง เเละกักตัว รวมทั้งจะออกมาตรการเกี่ยวกับการทำงานออกมา เช่น การทำงานเหลื่อมเวลา และการทำงานที่บ้าน เป็นต้น เพื่อป้องกันยับยั้งการติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้ทางอัยการไม่ได้นิ่งดูดาย มีการใช้มาตรการป้องกันอย่างข้มข้นมาตลอด จะเห็นได้ว่ากรณีรองอัยการสูงสุดติดเชื้อครั้งนี้เพราะไปงานเพื่อนสนิทครั้งเดียวจริงๆ ซึ่งจากยอดบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดรวมกว่าหมื่นคน สัดส่วนพนักงานอัยการ 4-5 พันคน ตอนนี้ตรวจพบเชื้อเพียง 4 คน ก็จะเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายประสิทธิ์ไปรับประทานอาหารกับเพื่อนที่เรียนวปอ.รุ่น51 ด้วยกัน เนื่องจากเป็นวันเกิดเพื่อนที่ร้านอาหารเเห่งหนึ่ง ย่านซอยสวนพลู สาทร 1 เป็นห้องวีไอพี มีเฉพาะกลุ่มเพื่อนสนิท หลังกลับจากงานเลี้ยงทราบข่าวว่าคนในงานติดเชื้อ 1 ราย จึงไปตรวจโควิดที่ร.พ.ตำรวจ เมื่อผลออกทางโรงพยาบาลจึงส่งรถมารับไปรักษา

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อจากงานดังกล่าวทราบภายหลังมี 5 ราย รวมนายประสิทธิ์ที่ตรวจพบเชื้อในวันนี้ด้วย

เตียงรับโควิดยังว่างอีก 3 พัน

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการบริหารจัดการเตียงว่า นโยบายการดูแลผู้ติดเชื้อ โควิด-19 คือ ผู้ติดเชื้อทุกคนจะต้องเข้ารับการรักษาในร.พ. โดยร.พ.ที่ตรวจโควิด หากพบผลบวกต้องประสานหาที่รักษาให้ผู้ป่วย ซึ่งย้ำว่าการเข้ารักษาในร.พ.เอกชนก็ไม่ต้องเสียค่ารักษา

นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับเตียงรักษาผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศมีเกือบ 2.3 หมื่นเตียง เฉพาะกทม.มีเตียงทั้งหมด 4,454 เตียงจากทุกเครือข่ายร.พ. ใช้เตียงแล้ว 2,398 เตียง ว่าง 2,056 เตียง โดยเฉพาะร.พ.เอกชนยังมีเตียงว่าง 1,132 เตียง ตอนนี้มีร.พ.สนามและ Hospitel โดยเอาผู้ป่วยที่มีอาการน้อยเข้าไปอยู่เพิ่มอีก 1,261 เตียง ใช้แล้ว 317 เตียง ว่างอีก 944 เตียง รวมแล้วยังมีเตียงว่างอีก 3 พันเตียง และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ยืนยันว่าสามารถหา Hospitel ในส่วนของเอกชนเพิ่มเติมเป็น 3,900 เตียง ตอนนี้กำลังพัฒนาระบบไอทีที่ให้ผู้ที่ไปตรวจแล้วพบติดเชื้อสามารถรายงานเข้ามาได้โดยไม่ต้องรอโทร.เข้ามา

วอนคนติดเชื้อมารักษาที่ร.พ.

นพ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า อนาคตถ้ามีผู้ติดเชื้อมากกว่านี้จำนวนมาก อาจกักตัวที่บ้าน แต่ตอนนี้ยังยืนยันว่าให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ร.พ.ทุกราย ดังนั้นขณะนี้ที่พบผู้ป่วยบางรายที่ร.พ.หาเตียงให้แล้ว แต่ไม่ยอมมานอน บอกว่าไม่มีอาการอะไร ขออยู่ที่บ้านได้หรือไม่ ขอความกรุณาให้มานอนรักษาที่ร.พ. เพราะเราไม่มั่นใจว่าการอยู่บ้านจะกักตัวเองแยกจากทุกคนได้ 14 วัน เราเป็นห่วงผู้สูงอายุที่อยู่ที่บ้าน ถ้าพ่อแม่ปู่ย่าตายายติดเชื้อจะป่วยหนักถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากนี้ ได้รับรายงานจากแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยว่า แม้รอบนี้จะเป็นผู้ติดเชื้อที่อายุไม่มาก แต่พบว่ามีผู้ปอดอักเสบมากพอสมควร แต่อาการไม่แย่ลงจนถึงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ส่วนหนึ่งเพราะเราให้ยาเร็วขึ้น

“วันแรกๆ ท่านอาจป่วยไม่มาก แต่ 4-5 วันถัดไปอาจมีอาการปอดอักเสบโดยไม่รู้ตัว หมอเรียกว่าเป็น Happy Pneumonia เหมือนกับอาการไม่มาก แต่เอกซเรย์มีปอดอักเสบ ต้องให้ยา ขอให้มานอนร.พ.” นพ.สมศักดิ์กล่าว

เมื่อถามถึงการปฏิบัติตัวระหว่างอยู่ที่บ้านหรือคอนโดฯ เพื่อรอรถมารับหรือรอเตียง นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า สามารถประสาน 1669 จัดรถพยาบาลมารับได้ แต่อาจไม่เร็วนัก เพราะต้องประสานภาคีเครือข่ายร.พ.จัดหารถพยาบาลวนมารับ ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ที่ห่วงคือการไปตรวจหาเชื้อกับแล็บภายนอกที่ไม่ผูกโยงกับร.พ. และอาจไม่อยู่ในการรับรองมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อาจได้ผลที่ไม่ถูกต้อง จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบแล็บที่จะไปตรวจด้วย นอกจากนี้ กำลังประสานนำแล็บที่ได้มาตรฐานมาผูกโยงกับร.พ. หากพบผู้ติดเชื้อให้ประสานส่งร.พ.ที่ผูกโยงไว้ เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยตรวจแล็บภายนอกแล้วไม่รู้ไปร.พ.ไหน

เมื่อถามถึงกรณีผู้ติดเชื้อไม่ต้องการไปอยู่ร.พ.สนาม โดยไปรวมกลุ่มอยู่บ้านหลังเดียวกัน 2-3 คน นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า เราไม่นำผู้ป่วยเพิ่งรายงานติดเชื้อเข้าร.พ.สนาม หรือ Hospitel ทันที ต้องเข้าร.พ.หลักก่อนแล้ว โดยอยู่ประมาณ 3-5 วัน หากร.พ.หลักตรวจคัดกรองแล้วพบว่าติดเชื้อ ไม่มีอาการเลย อาการน้อย ไม่มีโรคร่วม ผลเอกซเรย์ปกติก็ค่อยส่งเข้าร.พ.สนามหรือ Hospitel แต่บางร.พ.ที่เตียงไม่พอจริงๆ ก็อาจส่งเข้าเลย แต่ต้องคัดกรองเรื่องดังกล่าวก่อนเช่นกัน ส่วนการอยู่ร.พ.สนามจะตรวจ 3 อย่าง คือ ความดัน วัดไข้ และออกซิเจนในเลือดทุกวัน เมื่อไรผลแย่ลงหรือมีอาการมากขึ้น จะส่งกลับร.พ.หลักทันที

โคราชป่วยโควิดอีก 47

ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า วันนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 47 ราย รวมผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 114 รายแล้ว โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 47 ราย กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนโรคเพื่อหาไทม์ไลน์

โดยป่วยระลอกใหม่ 114 คนแยกเป็นอ.ด่านขุนทด 4 ราย อ.โนนไทย 1 ราย อ.โนนสูง 1 ราย อ.พิมาย 3 ราย อ.ชุมพวง 6 ราย อ.ห้วยแถลง 1 ราย อ.เมือง 60 ราย อ.สูงเนิน 6 ราย อ.ปักธงชัย 1 ราย อ.ปากช่อง 29 ราย อ.สีคิ้ว 2 ราย ส่วนใหญ่เชื่อมโยงสถานบันเทิงและเป็นบุคคลในครอบครัว

จากยอดผู้ติดเชื้อระลอกใหม่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯนครราชสีมาประสานงานกับผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 3 นครราชสีมา ขอใช้พื้นที่ชาติชายฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ในการรักษา ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นการเร่งด่วนภายในสัปดาห์นี้

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บริเวณหน้าอาคาร ผู้ป่วยนอก สถานที่ตั้งคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มีประชาชนหลายร้อยคนที่มีความวิตกกังวลกรณีมีไทม์ไลน์เชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อแห่มาขอตรวจเชื้อ โดยมีนพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการภารกิจด้านอำนวยการ พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ตรวจคัดกรองค้นหาเชิงรุก

ประจวบฯติดเชื้ออีก 52

เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงานสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 1-12 เม.ย. เป็นการระบาดจากการร่วมดื่มกินและชมคอนเสิร์ตโจอี้บอย ที่มายาผับ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2564 มีผู้ป่วยรายใหม่ 52 ราย รวมยอดสะสม 193 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการรุนแรง เข้ารับการรักษาที่ร.พ.หัวหิน 142 ราย ร.พ.ปราณบุรี 17 ราย ร.พ.สามร้อยยอด 5 ราย ร.พ.กุยบุรี 5 ราย ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ 16 ราย ร.พ.ทับสะแก 2 ราย ร.พ.บางสะพาน 6 ราย

ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อเพิ่มมีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงแห่งอื่นในพื้นที่อ.หัวหิน 20 ราย ที่กทม.และต่างจังหวัด 5 ราย ร้านมายด์ แองเจิ้ล, 33 สเตชั่น, ไพรเวท พื้นที่ อ.เมือง 5 ราย

2 พนง.บินไทยติดเชื้อ

รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ขณะนี้ตรวจพบพนักงานของบริษัท 2 รายที่ทำงานประจำสำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต ติดเชื้อวิด-19 เป็นพนักงานชาย 1 คน และพนักงานหญิง 1 คน

สำหรับพนักงานชายทำงานอยู่ที่สำนักงาน EV อาคาร 1 ชั้น 16 สำหรับไทม์ไลน์คร่าวๆ ของพนักงานคนดังกล่าว ปรากฏดังนี้ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ช่วงพักกลางวัน เดินทางไปทานอาหารที่ตลาดลุงเพิ่ม จากนั้นทำงานในสำนักงาน และเวลาประมาณ 19.00 น. เดินทางไปทานอาหารกับเพื่อนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบริเวณทองหล่อ ซึ่งทราบภายหลังว่ามี ผู้ที่มาทานอาหารร้านดังกล่าวติดเชื้อโควิด จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 6 เม.ย. จากนั้นลาพักร้อนกักตัวอยู่บ้าน และทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 8 เม.ย.ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ส่วนพนักงานหญิง ทำงานที่อาคาร 3 ชั้น 8 ระหว่างวันที่ 5, 7, 8 เม.ย. เดินทางเข้ามาทำงานที่สำนักงาน โดยวันที่ 8 เม.ย.เดินทางไปติดต่อธุระที่สหกรณ์ การบินไทย ไปซื้อของบริเวณใต้อาคารสโมสร ไปซื้ออาหารที่ร้านขายขนมจีนในตลาดลุงเพิ่ม และซื้อของใน 7-11 หลังบริษัท วันที่ 9 เม.ย.เดินทางเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 เม.ย.

กลุ่มเสี่ยง 30 คนตรวจหาเชื้อ

ด้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย กล่าวถึงกรณีพนักงานการบินไทย 2 คน ติดเชื้อโควิดว่า หลังจากบริษัททราบข่าวว่าพนักงานติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ตนสั่งให้พนักงานที่ทำงานและสัมผัสใกล้ชิดกับพนักงานทั้ง 2 คน รวม 20-30 คนไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 และสั่งให้ทำงานที่บ้านเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ล่าสุดผลการตรวจของผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 20-30 คน ปรากฏว่ามีผลเป็นลบทั้งหมด ไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้บริษัทประสานให้กระทรวงสาธารณสุขเข้ามาฉีดยาพ่นเชื้อโควิด-19 บริเวณพื้นที่เสี่ยงภายในสำนักงานใหญ่ ถนนนวิภาวดีเรียบร้อยแล้ว

นายชาญศิลป์กล่าวต่อว่า ตนก็เข้ารับการตรวจเชื้อโรคโควิด-19 เช่นกัน เนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เม.ย. พบปะหารือกับนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าฯการรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งติดเชื้อโควิด ผลตรวจออกมาเป็นลบ ไม่มีการติดเชื้อแต่อย่างใด

“เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค บริษัทจัดตั้ง “ศูนย์ TG ร่วมใจ ป้องกันภัยโควิด” เพื่อเฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้น และประสานกับคณะกรรมการ AOC ผ่านไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวค ให้แก่พนักงานภายใต้สังกัดฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น ฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น ฝ่ายครัวการบิน ฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ และฝ่ายช่าง ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดรวม 4,500 คน ซึ่งต้องฉีด 2 ครั้ง โดยจะเริ่มทยอยฉีดเข็มแรกระหว่างวันที่ 19-25 เม.ย. และจะนัดฉีดเข็มที่ 2 หลังจากฉีดเข็มแรกเรียบร้อยแล้ว”

คัดกรอง – จนท. สาธารณสุขอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ปฏิบัติการตรวจคัดกรองเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกลุ่มเสี่ยงในระลอกใหม่ จำนวน 300 นาย ประกอบด้วยตำรวจสังกัด สภ.เมืองฉะเชิง เทรา และบก.ภ.ฉะเชิง เทรา เมื่อวันที่ 12 เม.ย.

300 ตร.แปดริ้วแห่ตรวจโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากคณะแพทย์ ร.พ.พุทธโสธรตรวจร่างกาย สวป.สภ.เมืองฉะเชิงเทราแล้วพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดพ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.ฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เข้าตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกลุ่มเสี่ยงในระลอกใหม่ 300 คน ประกอบด้วยตำรวจสังกัด สภ.เมืองฉะเชิงเทรา 120 คน และตำรวจที่เข้าร่วมฝึกอบรม ตามโครงการฝึกอบรมพัฒนาประสิทธิภาพ ผู้ปฏิบัติงานสายป้องกันปราบปราม ของภ.จว.ฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 7-9 เม.ย. 130 คน โดยเก็บตัวอย่างด้วยวิธีการตรวจค้นหาเชื้อทางโพรงจมูก

สุพรรณฯป่วยเพิ่ม 11-ยอดพุ่ง70

ศูนย์ปฏิบัติการโควิด 19 จ.สุพรรณบุรี รายงานว่า วันที่ 12 เม.ย. มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 11 ราย รวมผู้ติดเชื้อยืนยัน 70 ราย ขณะนี้ ทีมสอบสวนโรคเร่งจัดทำไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อ โดยการติดเชื้อครั้งนี้เป็นการระบาดแบบกลุ่มก้อน

ด้านนายวัฒนา ยั่งยืน ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมคณะกรรมการโรคติดต่อจ.สุพรรณบุรี และคปสอ.เดิมบาง นางบวช ลงพื้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ศูนย์การศึกษาอำเภอเดิมบางนางบวช เพื่อเตรียม ความพร้อมจัดทำโรงพยาบาลสนามจังหวัดสุพรรณบุรี รองรับผู้ป่วยโควิด-19

อุดรธานีติดเชื้ออีก 19

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯอุดรธานี แถลงว่า จ.อุดรธานีมีผู้ป่วยเพิ่มอีก 20 ราย รวม 52 ราย และอยู่ระหว่างตรวจสอบไทม์ไลน์ 16 ราย กระจายรักษาตัวอยู่ตามอำเภอต่างๆ ประกอบด้วย ร.พ.อุดรธานี 36 ราย ร.พ.เพ็ญ 5 ราย ร.พ.ศรีธาตุ 1 ราย ร.พ.วังสามหมอ 2 ราย ร.พ.หนองแสง 4 ราย ร.พ.บ้านผือ 1 ราย ร.พ.กุมภวาปี 1 ราย และร.พ.สร้างคอม 2 ราย

รปภ.เอ็มอาร์ทีติดโควิด

บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT แจ้งว่า ได้รับรายงานยืนยันว่ามีพนักงานรักษาความปลอดภัย สถานีกระทรวงสาธารณสุข โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ตรวจพบเชื้อโควิด 1 ราย พนักงานไม่มีอาการใดๆ

ทั้งนี้บริษัทติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ ดังกล่าว และปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค อย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิดไปตรวจหาเชื้อทันที และกักตัวเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด 14 วัน สับเปลี่ยนพนักงานชุดใหม่มาปฏิบัติงานแทน พร้อมทั้งเช็ดพื้นผิวสัมผัสต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณสถานีเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ตั้งแต่คืนวันที่ 9 เม.ย.

เชียงใหม่ป่วยอีก269-ยอดเกือบพัน

ที่โรงพยาบาลสนาม จ.เชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ พร้อมด้วยนพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

นายเจริญฤทธิ์กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้ออีก 269 ราย ทั้งหมดที่ตรวจเจอจะนำมามายังโรงพยาบาลสนามเพื่อจำแนก หากอาการไม่ปรากฏ ร่างกายแข็งแรง จะให้เข้ากักตัวที่โรงพยาบาลเพื่อรักษา หากมีอาการมากกว่านั้นจะส่งไปยังโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อเช่นกัน ขณะนี้ทาง SCG บริจาคเตียงให้กับโรงพยาบาลสนาม 500 เตียง

ด้านนพ.จตุชัยกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยโควิด-19 ในเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นวันละ 200 กว่าคน ถือว่ายังทรงๆ ขณะนี้เป็นการรับผู้ป่วยเข้ามารักษาที่ 10 วัน และอาจเพิ่มเป็น 14 วันได้ และหากตัวเลขยังอยู่ระดับนี้ก็อาจจะเกินกำลังที่โรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามจะรับได้ ขณะนี้ผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในระบบ 600 กว่าราย และอยู่ระหว่างการจะเข้าสู่ระบบการรักษาอีกราว 200 ราย เท่ากับว่าเชียงใหม่มีตัวเลขผู้ป่วยอยู่ราว 900 กว่าราย

“ขณะที่เชียงใหม่มีเตียงสนามอยู่ 1,000 เตียง มีเตียงสนามของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งรับผู้ป่วยไว้ 100 ราย ซึ่งสามารถเพิ่มเป็น 300 เตียง รวมแล้วเชียงใหม่จะมีเตียงสนาม 1,300 เตียง ประเมินว่า ไม่พอ จึงจะขยายโรงพยาบาลสนามในเฟส 3 โดยจะเพิ่มจำนวนเตียงขึ้นอีก 1,000 เตียง ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการแล้ว นั่นหมายความว่า เชียงใหม่จะมีเตียงสนาม 2,000 เตียง รวมกับของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีก 300 เตียง และจะได้จากที่ศูนย์ฝึกรด.อีก 120 เตียง ซึ่งเป็นการวางแผนล่วงหน้าในการจะรองรับผู้ป่วยของเชียงใหม่” นพ.สสจ.เชียงใหม่ กล่าว

ส่วนโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษานั้น อยู่ระหว่างการเร่งขยายเพิ่มให้ได้ถึง 1,000 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกหลังพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่อย่างต่อเนื่อง

7 พนง.แบงก์กรุงเทพติดโควิด

วันเดียวกัน รายงานข่าวจากธนาคารกรุงเทพแจ้งว่า พนักงานของธนาคาร 7 รายติดโรคโควิด-19 มีรายละเอียดดังนี้ พนักงานสังกัดพาณิชย์บริการ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 4 ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานที่ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป คาดติดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อน ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดโควิด-19 โดย เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดและมีไข้สูง

พนักงานสังกัดกลุ่มงาน นิวโปรเจ็กต์ สายเทคโนโลยี ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารพระราม 3 ชั้น 9 ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานที่ให้บริการแก่ลูกค้า ทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อวันที่ 10 เม.ย. คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยรับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ขณะนี้พนักงานอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด มีอาการไอมีเสมหะเล็กน้อย แต่ไม่มีไข้

พนักงานสังกัดฝ่ายธุรกิจโทรคมนาคม สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 11 ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ให้บริการลูกค้า ทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เม.ย. คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยรับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อช่วงเย็นหลังเลิกงาน วันที่ 2 เม.ย. ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ พนักงานไม่ได้ออกไปพบปะและให้บริการลูกค้าภายนอกธนาคารตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.64 เป็นต้นมา

พนักงานสังกัดหน่วยงานธุรกิจลูกค้าญี่ปุ่น สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 10 ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ให้บริการลูกค้า ทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เม.ย. คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลซึ่งทราบภายหลังว่าติดเชื้อ ในกิจกรรมสังสรรค์ที่ได้ไปร่วม ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ พนักงานไม่ได้ออกไปพบปะและให้บริการลูกค้าภายนอกธนาคารตามมาตรการปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของหน่วยงานธนาคาร ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.64 เป็นต้นมา

พนักงานสังกัดสำนักธุรกิจถนนพระราม 2 ก.ม.7 ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคาร สาขาถนนพระราม 2 ก.ม.7 ชั้น 2 ซึ่งไม่ใช่บริเวณพื้นที่สาขาที่ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป ทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เม.ย.คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารย่านเกษตรนวมินทร์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.

พนักงานสังกัดสายลูกค้าบุคคลที่ได้รับมอบหมายลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ณ พื้นที่สาขาถนนสี่พระยา ทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เม.ย. คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อ โดยได้รับประทานอาหารร่วมกันในช่วงลาพักผ่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 5-9 เม.ย.

ทั้งนี้ แจ้งให้ลูกค้า 1 รายที่รับการบริการโดยตรงจากพนักงานผู้ติดเชื้อ รวมถึงลูกค้าที่รับการบริการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ณ พื้นที่สาขาถนนสี่พระยา ในวันที่ 9 เม.ย. ทราบ เพื่อกักตัว

พนักงานสังกัดศูนย์ธนาคารทางโทรศัพท์ ปฏิบัติงานอยู่ที่ห้องตรีบุษยา 3 อาคารพระราม 3 ชั้น 3 ทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 12 เม.ย. คาดสาเหตุจากการไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารย่านบางจาก เมื่อช่วงเวลาเย็นหลังเลิกงาน วันที่ 5 เม.ย. ทราบภายหลังว่าที่ร้านอาหารดังกล่าวมีเจ้าของร้านและลูกค้าติดเชื้อโรคโควิด-19 ขณะนี้พนักงานทั้ง 7 รายอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ชลบุรีป่วยเพิ่ม 97-เคสผับพุ่ง125

สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีรายงานว่า จากการตรวจเชิงรุกขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 97 ราย ประกอบด้วยพื้นที่อ.เมืองชลบุรี 30 ราย โดยเฉพาะผับฟลินต์สโตน ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นอีก 16 ราย รวมผู้ติดเชื้อจากผับแห่งนี้ 125 ราย อ.ศรีราชา 10 ราย อ.บางละมุง 32 ราย อ.พนัสนิคม 2 ราย อ.สัตหีบ 4 ราย อ.บ้านบึง 2 ราย อ.พานทอง 15 ราย และเข้ามารับการรักษาในพื้นที่ จ.ชลบุรี 2 ราย รอสอบสวนโรค 46 ราย

นอกจากนี้ยังค้นหาผู้สัมผัสเชื้อทั้งหมด 451 ราย และค้นหาเชิงรุกอีก 1,360 ราย ที่ไปสัมผัสกับผู้ติดเชื้ออีกด้วย

นนทบุรีติดโควิดอีก 48

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 นนทบุรี รายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่ม 48 ราย แบ่งเป็นหญิง 28 ราย และชาย 20 ราย ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง โดยแยกเป็นพื้นที่ดังนี้ อ.ปากเกร็ด 18 ราย อ.เมือง 16 ราย อ.บางบัวทอง 7 ราย อ.บางกรวย 4 ราย อ.บางใหญ่ 3 ราย มีอาการ 35 ราย และไม่มีอาการ 13 ราย แยกเป็นสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันซึ่งเป็นผู้ป่วยก่อนหน้า 35 ราย เกือบทุกรายเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง มาจากสถานบันเทิง กทม. โดยตรง 9 ราย, The Moon Bar นนทบุรี 2 ราย, Nop Bar เมืองทอง 1 ราย และไม่ทราบชัดเจน 1 ราย

ร.พ.สนามกรุงเปิดรับวันนี้

นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจโรงพยาบาลสนามกรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เขตบางบอน ว่า กรุงเทพมหานครดำเนินการเตรียมความพร้อมในภาพรวมของโรงพยาบาลสนามอยู่ 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.ขยายศักยภาพ โรงพยาบาลใน กทม. ให้เป็นลักษณะกึ่ง โรงพยาบาลสนาม เช่นโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน สามารถขยายศักยภาพให้รองรับผู้ป่วยได้ 500 เตียง 2.เตรียมโรงแรมไว้รองรับให้ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงแรมที่เราจัดหาไว้ให้ หรือเรียกว่า Hospitel ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการติดต่อกับโรงแรมที่จะเข้ามาเป็นเครือข่ายกับโรงพยาบาลของกทม. และ 3.จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เช่น โรงพยาบาลสนามศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เขตบางบอนนี้ โดยใช้ชื่อว่าโรงพยาบาลเอราวัณ 1 สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 200 เตียง พร้อมเปิดรับผู้ป่วยในกรุงเทพฯ 13 เม.ย.นี้

นางศิลปสวยกล่าวว่า ภาพรวมของการจัดเตรียมโรงพยาบาลทั้ง 3 ส่วน ขณะนี้กทม.สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1,250 เตียง ขณะเดียวกันยังมีโรงพยาบาลเครือข่ายโรงพยาบาลอื่นๆ ในกทม.ที่เชื่อมโยงกันส่งต่อผู้ป่วยให้กันและกัน การบริหารเตียงและการส่งต่อก็ดำเนินการร่วมกัน โดยมีการบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมอบหมายให้ศูนย์เอราวัณ กทม.เป็นผู้บริหารเตียงในการจัดส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลต่างๆ โดยหากรวมจำนวนเตียงของ กทม.แล้วสามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 5,000 เตียง

กองทัพระดมตั้งร.พ.สนาม

ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น จึงจำเป็นต้องจัดหาพื้นที่ปลอดภัยเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรักษาและควบคุมผู้ติดเชื้อไม่ให้กระจายเป็นวงกว้างจนยากจะควบคุมได้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่ารังเกียจเดียดฉันท์ เพราะว่าเรื่องนี้เราจำเป็นจะต้องร่วมมือกัน และยืนยันว่ามีระบบควบคุมโรค ปลอดภัยไม่ให้กระทบกับประชาชน สำหรับ ร.พ.สนามในส่วนที่กลาโหมรับผิดชอบภาพรวม ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 3,195 เตียง ในต่างจังหวัดอีกกว่า 2,000 เตียง รวมแล้วขณะนี้สามารถรองรับได้กว่า 5,000 เตียง แบ่งเป็น กองทัพบก 12 แห่งทั่วประเทศ รวมกว่า 2,220 เตียง กองทัพเรือ 3 แห่ง 726 เตียง คือ 1.โรงพยาบาลสนาม ศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (เกล็ดแก้ว) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 320 เตียง 2.โรงพยาบาลสนาม ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ 174 เตียง

และ 3.โรงพยาบาลสนาม สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข 16 บ้านจันทเขลม จ.จันทบุรี 232 เตียง โดยโรงพยาบาลสนามศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและฝั่ง(สอ.รฝ.) ได้รับผู้ป่วยจากร.พ.ชลบุรีแล้ว แบ่งเป็นผู้ป่วยชาย 24 ราย และผู้ป่วยหญิง 22 ราย กองทัพอากาศจัดเตรียมไว้ที่ร.ร.การบิน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม. ซึ่งจะสามารถรองรับได้ 100 เตียง

รพ.สนามทัพเรือรับคนไข้ 147

น.อ.ณัฐพงศ์ ปานโสภณ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กองทัพเรือ เปิดเผยว่า ร.พ.สนามกองทัพเรือ ศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ศฝ.สอ.รฝ.) รับผู้ป่วยเพื่อเฝ้าดูอาการเพิ่มขึ้นทุกวัน ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย.รับผู้ป่วย 148 ราย แต่ขอออกไปใช้สิทธิ์ประกันสังคมที่โรงพยาบาลอื่น 1 ราย เมื่อเวลา 21.00 น. คงเหลือ 147 ราย เป็นชาย 77 คนและหญิง 70 คน ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 320 เตียง จะมีการทยอยเข้าเมื่อครบกำหนดเฝ้าดูอาการ 10 วัน หากไม่พบอาการก็จะทยอยออก เพื่อรับผู้ที่มีอาการป่วยในพื้นที่จ.ชลบุรี

อว.เปิดร.พ.สนาม 7 พันเตียง

ศ.(พิเศษ)ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสนามที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เปิดใช้งานแล้ว 470 เตียง เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 11 เม.ย. โดยเริ่มเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อที่ผ่าน การสังเกตอาการและคัดกรองแล้วจาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ โรงพยาบาลต่างๆ เข้ามา ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ สามารถจะรับผู้ติดเชื้อได้ รวมทั้งโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่อ.บางพลี จ.สมุทร ปราการ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เตรียมไว้ดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ก็กำลังขยายที่จะรับการส่งต่อสำหรับผู้ป่วยหนักที่ต้องการดูแลอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ตนยังสั่งการให้ทุกมหา วิทยาลัยเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมขึ้นอีกทุกแห่ง ทุกจังหวัด และให้ประสานงานโดยทันทีกับทางจังหวัด สาธารณสุขในพื้นที่ และดำเนินการร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงได้ ที่สำคัญให้อธิการบดีทุกมหาวิทยาลัยรายงานสถานการณ์ในพื้นที่มายังศูนย์ปฏิบัติการและบริหารการระบาดของโควิด-19ของกระทรวงอว. (ศปก.อว.) เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สำหรับโรงพยาบาลสนามในเครือข่าย ของอว. ที่พร้อมดำเนินการมี 23 แห่ง จำนวน 7,530 เตียง ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1.มหาวิทยาลัยมหิดล 470 เตียง 2.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 470 เตียง 3.มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันนทา ที่ศูนย์สมุทรสงคราม 50 เตียง 4.มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 360 เตียง

ภาคกลาง 5.มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ที่ศูนย์การศึกษา อ.เดิมบางนางบวช 100 เตียง 9.มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ที่หอพักนักศึกษา 50 เตียง 7.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สุวรรณภูมิ ที่หอประชุมใหญ่ 350 เตียง

ภาคเหนือ 8.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่หอพักหญิง 5 จำนวน 100 เตียง 9.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์แม่ฟ้าหลวง 200 เตียง 10.มหาวิทยาลัยพะเยา ที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพะเยา 80 เตียง 11.มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่โรงพยาบาลพระพุทธชินราช 40 เตียง 12.มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 420 เตียง 13.มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ที่หอประชุม 800 เตียง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14.มหาวิทยาลัยขอนแก่น 240 เตียง 15.มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 72 เตียง 16.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่อาคาร 80 พรรษา 200 เตียง 17.มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่ศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย 1,030 เตียง 18.มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่อาคารพนมพิมานและหอพักนักศึกษา 320 เตียง 19.มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ที่หอประชุมใหญ่ อาคารอเนกประสงค์ และหอพักนักศึกษา 638 เตียง

ภาคใต้ 20.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต 750 เตียง 21.มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ที่อาคารโกเมน 110 เตียง 22.มหาวิทยาลัยทักษิณ ที่สำนักส่งเสริมบริการวิชาการและภูมิปัญญาพนางตุง 500 เตียง 23.จ.สุราษฎร์ธานี ที่โรงพยาบาลท่าโนงข้าง อ.พุนพิน โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ อ.พุนพิน และโรงพยาบาล สต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย รวม 180 เตียง

โรงแรมแห่ร่วมโฮสปิเทล

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงแรมที่กักตัว Alternative State Quarantine(ASQ) ร่วมสมัครเป็น Hospitel เพื่อเพิ่มเตียงไว้รองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ แล้วกว่า 2,000 เตียง จำนวน 20 กว่าโรงแรม เพื่อเก็บเตียง และเครื่องมือทางการแพทย์ไว้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการหลัก ไม่ให้เกิดปัญหาเตียงไม่พอ อย่างที่ประชาชนกังวลว่า เมืองไทยจะเหมือนต่างประเทศ

ทั้งนี้ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาตัวหรือกักตัวใน Hospitel จะต้องถูกกักตัวไปจนหายเลย โดยไม่ต้องย้ายไปยังโรงพยาบาลหลัก การทำ Hospitel เป็นการจับคู่ระหว่างโรงพยาบาล และโรงแรม ASQ แต่ในโรงแรม ASQ ต้องมีแพทย์ พยาบาล อยู่ประจำ 24 ชั่วโมง แต่ Hospitel จะค่อยๆ เปิดเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่อาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นจนต้องเตรียมโรงพยาบาลหลักที่มีเครื่องมือพร้อมไว้รักษาคนป่วยที่อาการแย่ ที่ผ่านมากลุ่มที่ติดเชื้อไม่มีอาการ มี 70-80% กลุ่มนี้อาจไม่มีอาการจนหายดีเลยก็ได้ หากมีการรักษาและดูแลที่ถูกวิธี ดังนั้นกลุ่มที่มีอาการจึงมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ดี พร้อมหมอและพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญ

สธ.ยัน‘ซิโนแวค’มีประสิทธิภาพ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงประเทศจีนออกมายอมรับว่าวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคต่ำกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด 50% นั้นว่า การใช้วัคซีนมีวัตถุประสงค์ คือ 1.ป้องกันการติดเชื้อ 2.หากติดเชื้อแล้วลดโอกาสป่วยรุนแรงป้องกันได้หรือไม่ และ 3.ป้องกันการเสียชีวิต โดยวัคซีนซิโนแวคที่ประเทศไทยนำมาฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนกลุ่มเสี่ยง แม้วัคซีนจะไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ โควิด 100% แต่ประสิทธิภาพยอมรับได้เกิน 50% และประสิทธิภาพการลดป่วยอาการรุนแรง ไม่เข้าร.พ. และลดการเสียชีวิต ประสิทธิภาพเกือบ 100%

“วัคซีนซิโนแวคได้มาตรฐาน ทั้งในเชิงประสิทธิภาพ คุณภาพ จึงขอความมั่นใจกับประชาชนว่าสามารถฉีดได้ แต่ฉีดแล้วยังต้องร่วมกับมาตรการป้องกันโรคอื่นๆ”

41 จว.ต้องกักตัวคนเข้า

เมื่อเวลา 20.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) รายงานจังหวัดที่มีคำสั่ง/ประกาศให้มีการกักกันตัวผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ รวม 41 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา เพชรบูรณ์ แพร่ ลำพูน อุทัยธานี นครสวรรค์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครพนม บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี นครราชสีมา ขอนแก่น และอุบลราชธานี

ภาคกลาง/ภาคตะวันออก/ภาคตะวันตก 5 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สระบุรี สิงห์บุรี สระแก้ว และลพบุรี ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พังงา สงขลา สตูล และระนอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน