ครูใหญ่แจ้งจับมั่ง
โพธิรักษ์เลียนพระ

ให้กำลังใจราษมัม-แม่ๆ ของแกนนำราษฎรที่ถูกคุมขัง ‘เต้น-ณัฐวุฒิ’ แต่งเพลงสดุดีลุกขึ้นมาดิ้นรนสุดกำลังช่วยลูก ทั้งที่ไม่มีใครเคยเป็นนักเคลื่อนไหวใดๆ มาก่อน แนะผู้มีอำนาจไขกุญแจเปิดกรงขังคืนอิสรภาพให้ ชี้ไม่ใช่การแก้ปัญหา และไม่มีทางที่จะจบลงด้วยกรงขัง ด้านเพนกวินเขียนจดหมายถึงน้องสาวย้ำความตั้งใจการต่อสู้ ‘ครูใหญ่’ ย้อนตำรวจ ขึ้นโรงพักแจ้งจับมั่งสมณะโพธิรักษ์-นักบวชสันติอโศกแต่งกายเลียนสงฆ์

ส่งฟ้องวีโว่ – อัยการนำกลุ่มวีโว่ 45 คน ส่งฟ้องศาลอาญา คดีชุมนุมอั้งยี่ซ่องโจร ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งศาลพิจารณาแล้วรับไว้เป็นคดี กำหนดนัดวันสอบคำให้การจำเลย และอนุญาตให้ประกันตัวต่อสู้คดี เมื่อวันที่ 22 เม.ย.

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง โพสต์เฟซบุ๊กถึงเพนกวิน-นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และรุ้ง-น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โดยระบุว่าไม่เคยเจอรุ้งหรือน้องๆ คนอื่นที่ประกาศอดอาหาร นอกจากเพนกวิน แต่เมื่อพวกเขาออกมาต่อสู้และเลือกแนวทางซึ่งมีผลโดยตรงต่อสภาพร่างกายเช่นนี้ ความห่วงใยจึงมีต่อทุกคน

ยิ่งเห็นภาพการต่อสู้ของแม่กลุ่มหนึ่งดิ้นรนสุดกำลังช่วยลูก ทั้งที่ไม่มีใครเคยเป็นนักเคลื่อนไหวใดๆ มาก่อน ยิ่งสะทกสะท้อนใจ แม่ เป็นทุกอย่างได้เพื่อลูก และถ้าแม่จะต้องเป็น นักสู้ นี่คือคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังอย่างยิ่งต่อความ อยุติธรรมทั้งปวง ถึงวันนี้ผู้มีอำนาจพอจะเปิดใจไขกุญแจห้องขังเอาพวกเขาออกมาได้หรือยัง ต้องขังอีกเท่าไหร่ ใช้เวลาอีกนานแค่ไหน เพื่อทำในสิ่งที่ท่านก็รู้ว่าไม่ใช่การแก้ปัญหา และไม่มีทางที่สถานการณ์นี้จะจบลงด้วยกรงขัง

เราให้พวกเขาเติบโตมาใน 15 ปีที่ประเทศมีการยึดอำนาจ 2 ครั้ง ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ใช้กำลังปราบปรามประชาชนจนมีคนตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ แล้วคดีไม่ถึงศาล มีรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับที่ร่างเพื่อสนองประโยชน์ทางการเมืองของผู้มีอำนาจ ผ่านการประชามติที่มีกฎอัยการศึก มีมาตรา 44 จับกุมและลิดรอนเสรีภาพประชาชน มีความยุติธรรมที่ถูกเรียกว่า 2 มาตรฐาน

มีรัฐบาลที่ไร้ความสามารถในการแก้ปัญหา แต่อยากอยู่ยาวโดยใช้ ส.ว. 250 คนเป็นนั่งร้าน มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่กำหนดให้ทุกรัฐบาลต้องทำตามถ้าไม่ทำผิดกฎหมาย

ภายใต้สิ่งที่พูดมาทั้งหมด หากคนหนุ่มสาววันนี้เพิกเฉย ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ท่านมองเห็นอนาคตของประเทศนี้เป็นอย่างไร

ในบ้านที่พ่อแม่ทะเลาะกันจนไม่มีใครฟังใคร ถ้าลูกอยากให้ทุกคนหันมาคิดถึงอนาคตพวกเขาบ้าง สิ่งหนึ่งที่เขาจะทำคือตะโกนขึ้นสุดเสียง แล้วเราก็จับลูกของเราไปขัง?

ฝากความห่วงใยถึงเพนกวินผ่านแม่ของเขา ขอให้ทบทวนเรื่องอดอาหาร เมื่อเขายืนยันแนวทางเดิมก็เคารพการตัดสินใจ สิ่งที่ทำได้คือเรียกร้องอิสรภาพให้พวกเขา ช่องทางมีอยู่แต่เมตตาต้องมาก่อน ลูกอดตายเพราะไม่มีกิน คือความเจ็บปวดเกินประมาณ แต่ลูกยอมอดตายเพราะไม่มีอนาคต จะเจ็บปวดยิ่งกว่าหลายเท่า และคนรุ่นเราต้องรับผิดชอบ จึงเขียนเพลง ลูกแม่ ส่งกำลังใจให้แม่ที่กำลังสู้เพื่อลูกทุกคน ขอให้อ้อมกอดแม่สัมผัสไออุ่นของลูกในเร็ววัน

สำหรับเพลงใช้ชื่อว่า ลูกแม่ โดยมีเนื้อดังนี้ ในที่คุมขังแห่งนั้น มีลูกสาวลูกชายของแม่อยู่ โอ้เด็กเอ๋ยจงรับรู้ แม่ยังเคียงข้างเสมอ มือนี้เคยเกาะมือน้อย กลับต้องคอยเกาะลูกกรงมองเธอ หยาดน้ำในตาหลั่งลงล้นเอ่อ ยามสวดมนต์ให้ลูกปลอดภัย เมื่อยังเล็กเด็กน้อยหกล้ม ยังอุ่นใจเมื่อเห็นลุกไปต่อ แต่วันนี้ใช่ว่าใจแม่สู้ไม่พอ แค่อยากขอให้ฝันร้ายพ้นผ่าน อยากให้มีสายลมแห่งความเมตตา พัดลูกออกมาจากกรงขัง ให้เมฆร้ายเคียดแค้นชิงชัง พลันสลายไปจากฟากฟ้า เหล่านกน้อยเริงร่อนโบยบิน สร้างรังตามใจปรารถนา ไม่เรียกร้องอะไรมากมายไปกว่า อย่าหยุดเวลา อย่าคร่าวิญญาณเสรีอีกเลย

นอกจากนี้ เฟซบุ๊กเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ยังโพสต์ จดหมายจากเพนกวิน ความว่า

ถึง ถึงพ้อยน้องรัก

พี่เขียนจดหมายนี้มาเพราะไม่รู้ว่าอีกเมื่อใดจะได้คุยกันต่อหน้าหรือจะมีโอกาสนั้นมาถึงหรือไม่ พี่ชายเพียงต้องการบอกว่าพี่รักน้องมากรักจนไม่อาจที่จะปล่อยให้น้องจะใช้ชีวิตในประเทศที่ไม่มีอนาคตแบบนี้ได้ พี่ยินดีที่แลกทุกอย่าง เพื่อให้ประเทศที่น้องสาวจะใช้ชีวิตต่อไปในอนาคตนั้นมีอนาคต คิดว่าคง ไม่ต้องขยายความอะไรมาก คงเข้าใจดีอยู่แล้ว

คิดถึงมากๆ ในขณะที่พี่ไม่อยู่ก็ดูแลตัวเองดีๆ ตั้งใจเรียนและดูแลป๊ากับมี้ด้วยและที่สำคัญเมื่อพี่ไม่อยู่ ขอให้บอกต่อกับทุกคนว่าพี่ชายที่เติบโตมาด้วยกันนั้นเชื่อในอะไร และได้ทำอะไรรวมถึงยอมเสียอะไรยอมแลกอะไรเพื่อสิ่งนั้นบ้าง หวังว่าเรื่องราวที่น้องสาวจะเล่าจะสร้างคนที่มีความเชื่อและลุกขึ้นมาทำเพื่อความเชื่อได้เหมือนที่พี่ชายได้เป็นมา

ด้วยรักจากพี่ชายคนเดียวของเอ็ง

เมื่อเวลา 14.40 น. ที่หน้ารัฐสภา มวลชนหมู่บ้านทะลุฟ้า นัดหมายทำกิจกรรม “คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย” ยืน หยุด ขัง 112 นาที โดยชาว “หมู่บ้านทะลุฟ้า” โดยมีนักกิจกรรมกว่า 10 คน แต่งตัวคล้ายนักโทษยืนเป็นแถวเว้นระยะห่าง 2 เมตร แต่ละคนสวมหน้ากากอนามัย โดยมีโซ่ตรวนล่ามไว้ที่ขา เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์การถูกจองจำ บางรายสวมหมวกกันร้อน พร้อมห้อยป้ายข้อความ อาทิ ปล่อยเพื่อนเรา, ยกเลิก 112, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และประยุทธ์ออกไป

กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า ระบุว่า ยืน 112 นาที ณ รัฐสภา การยืนเป็นการต่อสู้ในรูปแบบหนึ่งของสันติวิธี ปราศจากอาวุธ อาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ทหารนำมาใช้นั้นมีไว้เพื่อยึดอำนาจจากประชาชนเพียงเท่านั้น วันนี้เรามายืนหน้ารัฐสภาก็เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัว ให้เพื่อนของเรา และสะท้อนว่ารัฐสภาที่ใหญ่โตนี้สร้างมาจากภาษีของประชาชน แต่มิได้ทำงานรับใช้ประชาชน แต่รับใช้โจรที่ปล้นอำนาจจากประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนสวมถอดรองเท้าแตะ เพื่อกันความร้อน บางรายมีสีหน้าทรมานจากสภาพอากาศ ขณะที่ทีมงานชาวหมู่บ้านทะลุฟ้า ได้นำสเปรย์น้ำ มาพ่นใบหน้า และร่างกาย เพื่อคลายความร้อน โดยจะยืนจนครบเวลา 112 นาที ท่ามกลาง เจ้าหน้าที่รัฐสภาไปจนถึงตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ยืนเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งโต๊ะจำหน่าย “เสื้อหมู่บ้านทะลุฟ้า” เพื่อระดมทุนทำกิจกรรม ทีมงานหมู่บ้านทะลุฟ้า เปิดเผยด้วยว่า เร็วๆ นี้ อาจจะมีการชุมนุมปักหลัก ส่วนเวลา 17.30 น. วันนี้ จะไปร่วมสมทบ ยืน หยุด ขัง ที่หน้าศาลฎีกา กับ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สน.พหลโยธิน นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ กลุ่มขอนแก่นพอกันที ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีสมณะโพธิรักษ์ เป็นนักบวช ผู้ก่อตั้งและผู้นำทางจิตวิญญาณของสำนัก สันติอโศก ข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์

นายอรรถพลกล่าวว่าตนแจ้งความเอาผิดสมณะโพธิรักษ์ หรือนายรักษ์ รักพงษ์ และนักบวชกลุ่มสันติอโศก ข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ เช่นเดียวกับที่หลวงพ่อดาวดิน ปฐวัตโต หรือ สมณะดาวดิน ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ โดยยืนยันว่า ตน ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นพระสงฆ์ของคณะสันติอโศก รวมถึงไม่ขัดธรรมวินัย หรือเพราะทัศนคติทางการเมืองที่ไม่ตรงกันกับคณะ ดังกล่าว แต่ตนพูดถึงอำนาจรัฐกับศาสนาเท่านั้น และเพื่อเป็นการแสดงออกว่าประเทศนี้ต้องใช้กฎหมายเหมือนกันในทุกกรณี ฉะนั้นหมาย ความว่า กลุ่มสันติอโศกไม่ได้เป็นภิกษุตามกฎหมายไทยเท่านั้น

ส่วนกรณีการจับกุมหลวงพ่อดาวดินอีกครั้งนั้น พ.ต.ท.ศักดิพัฒน์ เหรียญทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน กล่าวว่า วานนี้ตำรวจได้จับกุมหลวงพ่อดาวดินข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์นำส่งศาลแขวงพระนคร เหนือแล้วปล่อยตัวออกมา แต่เจ้าตัวกลับมาทำผิดซ้ำ วันนี้ตำรวจจึงคุมตัวมาดำเนินคดีอีกครั้ง โดยจะนำตัวส่งศาลแขวงพระนครเหนืออีกครั้ง

จับรอบสอง – สน.พหลโยธิน จับกุมเป็นครั้งที่สอง ดำเนินคดีสมณะดาวดิน ข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ขณะนั่งอดอาหารที่หน้าศาลอาญา ขณะที่นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ (ภาพเล็ก) ก็แจ้งเอาผิดสมณะโพธิรักษ์ สันติอโศก เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน