จับแท็กซี่มือหนังสติ๊ก ไล่ยิงรถเมล์ยันจยย.

จับแล้วมือยิงหนังสติ๊กป่วนเมือง สารภาพเช่าแท็กซี่ขับ 3 คัน วนมาก่อเหตุในหลายพื้นที่ อ้างเหตุทำแก้เครียดพร้อมยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย เผยเคยเป็นโชเฟอร์รถปอ.มาก่อน เพิ่งออกมาขับแท็กซี่ได้ 1 เดือน สอบประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์มาเมื่อปี 57 นำตัวทำแผนพบใช้เข่าคุมพวงมาลัย ก่อนลดกระจกยิงหนังสติ๊กอย่างแม่นยำ

แท็กซี่หนังสติ๊ก – นายไพรวัลย์ แอ้ชัยภูมิ อายุ 48 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทำแผนฯใช้หนังสติ๊กยิงลูกหินใส่รถบนถนนทั่วกรุงเทพฯ หลังถูกตำรวจจับกุมคาห้องเช่า สารภาพก่อเหตุ 19 ครั้ง อ้างเพื่อระบายเครียด เมื่อวันที่ 29 เม.ย.

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 เม.ย. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.สุทธิสาร เรียกประชุมเเละตรวจสอบสำนวนคดีคนร้ายก่อเหตุใช้หนังสติ๊กยิงหินใส่รถประจำทาง ขสมก. สาย 137 และ 185 และรถยนต์ประชาชนอีกหลายคัน ย่านทางลอดอุโมงค์ข้ามแยกรัชดา-สุทธิสาร และร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านกาแฟ รวมทั้งหมด 19 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บเเละทรัพย์สินเสียหาย ใน 4 พื้นที่ สน.สุทธิสาร สน.ห้วยขวาง สน. พหลโยธิน และ สน.ดินแดง โดยตำรวจสืบสวนจับกุมนายไพรวัลย์ แอ้ชัยภูมิ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ย่านสุขสวัสดิ์ พร้อมของกลางเป็นหนังสติ๊ก และหินประดับสวนสีขาวที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเก็บมาจากปั๊มแก๊สแห่งหนึ่ง ย่านเพชรเกษม

พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายไพรวัลย์รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง ก่อนหน้านี้เคยขับรถประจำทางปรับอากาศ สาย 175 ก่อนจะลาออกเเละมาเช่าแท็กซี่ขับสลับกัน 3 คัน ประกอบด้วย คันสีส้ม ทะเบียน ทห 9902 กรุงเทพฯ, คันสีชมพู ทะเบียน ทห 4200 กรุงเทพฯ และ คันสีชมพู ทะเบียน ทห 187 กรุงเทพฯ โดยเช่าขับได้ประมาณ 1 เดือน และสลับกันนำออกมาก่อเหตุ ช่วงวันที่ 19 มี.ค.-27 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายไพรวัลย์ให้การว่า คิดวิธีเองทั้งหมด ช่วงแรกจะเลือกเหยื่อเฉพาะรถประจำทางเท่านั้น ต่อมาก็เป็นรถยนต์บุคคลทั่วไป รถจักรยานยนต์และรถที่ขับช้าๆ ส่วนสาเหตุที่ทำเพื่อระบายความเครียดส่วนตัว และความอัดอั้นภายในใจ ทันทีที่เห็นสื่อมวลชนเสนอข่าวและรู้ว่าตำรวจกำลังติดตามตัวก็กลัวถูกจับ จึงหยุดก่อเหตุทันที

พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวต่อว่า ระหว่างสอบสวนนายไพรวัลย์ยังให้การวกวนไปมา จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยต้องคดีลักทรัพย์ ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เเละพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2557 โดยเบื้องต้น เเจ้งข้อหาลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ เเละทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้บาดเจ็บ ส่วนเรื่องตรวจสอบสภาพจิตใจ ผู้ต้องหาว่ามีอาการทางจิตหรือไม่ จะส่งให้ทางกรมราชทัณฑ์เป็นผู้ตรวจสอบ เเละนำข้อมูลมาประกอบในสำนวนคดีต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายไพรวัลย์มาจำลองเหตุการณ์ขณะก่อเหตุยิงที่หน้าสน.สุทธิสาร โดยคนร้ายขึ้นไปที่นั่งคนขับ โดยให้เจ้าหน้าที่สายตรวจช่วยกันดันรถให้เคลื่อนที่โดยนำหนังสติ๊กวางไว้ที่หว่างขา แล้วใช้เข่าซ้ายคอยบังคับพวงมาลัยรถ แล้วลดกระจกลง จากนั้นจึงหยิบหนังสติ๊กมาใส่ดินน้ำมันยิงใส่รถที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้จำลองเหตุการณ์ ในขณะที่ก่อเหตุจะขับรถโดยใช้ความเร็วปกติ และสามารถยิงหนังสติ๊กใส่เป้าหมายอย่างแม่นยำ

ภายหลังจากจำลองสถานการณ์เสร็จสิ้น ตำรวจได้นำตัวคนร้ายกลับไปสอบปากคำทันที โดยระหว่างเดินนายไพรวัลย์ได้ยกมือไหว้และพูดขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป

ขณะเดียวกันผู้เสียหายได้เดินทางมาดูการแถลงข่าวพร้อมการจำลองเหตุการณ์ โดยได้นำดอกไม้และกระเช้ามามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกล่าวขอบคุณผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้กำกับทั้ง 4 สน. ที่สามารถติดตามจับตัวคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมยอมรับว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง เพราะไม่รู้ว่าจะถูกปาหินหรือยิงหินใส่เมื่อไหร่อีก กระทั่งถูกจับกุมไว้ได้