ผ่านงบ3.1ล้านล.
อุทธรณ์ยืนโทษ
จำคุก2ปีเทพไท

‘บิ๊กตู่’ งดตอบการเมือง โดยเฉพาะเสียงวิจารณ์เรื่องจริยธรรมของ ‘ธรรมนัส’ ชี้เป็นช่วงเวลาแก้โควิด ไม่ใช่เวลาทำการเมืองสั่งทุกกระทรวงมอนิเตอร์เฟกนิวส์ เจอให้รีบตอบโต้ ย้ำกลางครม. ห้ามหาเสียง ถ้าดีประชาชนเลือกเอง ครม.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.งบฯปี 65 วงเงิน 3.1 ล้านล้าน ‘ชวน’ นัดวิป 4 ฝ่าย ถกวาระพิจารณา รับเปิดสภาสมัยสามัญ ฝ่ายค้านจ่อเสนอญัตติแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งแบบรายมาตราและทั้งฉบับ จี้รัฐบาลโยกงบฯเรือดำน้ำ ไปซื้อวัคซีนโควิด ได้ประโยชน์กว่า ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก ‘เทพไท’ 2 ปี คดีทุจริต เลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีฯ ให้ประกันตัวระหว่างรอชั้นฎีกา

ตู่ไม่ตอบปมอุ้มธรรมนัส

เวลา 12.00 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมครม. ซึ่งใช้เวลาประชุมเพียง 3 ชั่วโมง นายกฯยังสงวนท่าทีและระมัดระวังในการแถลงข่าวและชี้แจง ยังอ่านตามสคริปต์ที่เตรียมมา มีการเพิ่มเติมข้อความบ้างเป็นบางส่วน โดยไม่ตอบประเด็นข้อซักถามจากสื่อมวลชนเรื่องการเมือง โดยเฉพาะคำถามเรื่องจริยธรรมทางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ นิ่งเฉย จะเป็นภาพลบของรัฐบาล

ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนท่าทีของนายกฯ มีมา 2 สัปดาห์แล้ว สาเหตุเพราะเกรงว่าหากตอบคำถามสดของสื่อมวลชนแล้วจะหลุดคำพูดออกมากลายเป็นเป้าถูกโจมตีได้ อีกทั้งต้องการเน้นและชี้แจงเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 เท่านั้น โดยมอบหมายประเด็นคำถามต่างๆ ที่สื่อมวลชนสอบถามให้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบแทน

ไม่ใช่เวลาขัดแย้ง-ทำการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวช่วงท้ายของการแถลงเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด ว่า ทั้งหมดคือการทำงานอย่างเต็มที่ของตนและผู้เกี่ยวข้องทุกคน ที่ทำงานอย่างต่อเนื่องทุกวันไม่เว้นแม้แต่วันหยุด ในการวางแผนและช่วยเหลือประชาชนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์แพร่ระบาด บรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจปากท้อง ในการเตรียมพร้อมฟื้นฟูอนาคตประเทศและตอบรับโอกาสที่จะมาถึง ซึ่งตนให้ความสำคัญกับเรื่องการท่องเที่ยวด้วย การนำคนเข้า-ออกประเทศ เราคิดไว้แต่ต้องดูหลักการสำคัญของประชาคมโลกด้วย

ขณะนี้คนไทยทั้งประเทศและทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์ เผชิญหน้ากับศัตรูตัวร้ายที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนที่ชื่อโควิด-19 และทางเดียวที่จะเอาชนะศัตรูตัวนี้ได้ คือการร่วมแรงร่วมใจร่วมมือกัน แก้ปัญหา ไม่ใช่การขัดแย้งหรือแตกแยกกัน อนาคตของประเทศไทยต่อจากนี้จะขับเคลื่อนไปได้อย่างมั่นคงเพียงใดขึ้นอยู่กับเราทุกคนต้องรวมใจให้เป็นหนึ่งเดียว ก้าวเดินไปพร้อมกัน วันนี้ไม่ใช่เวลาทำการเมืองทั้งสิ้น เป็นเวลาที่ทำให้บ้านเมืองให้ประเทศชาติของทุกคนและประชาชนที่รัก ที่เลือกพวกท่านเข้ามาทำงาน ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในเวลานี้ ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนด้วย ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา อะไรที่ยังมีปัญหาขัดข้อง ไม่เข้าใจ ขอให้สอบถามเข้ามายินดีให้หน่วยงานตอบ

ครม.อนุมัติพรบ.งบ 65

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.ว่า ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เพื่อนำเสนอสภา ผู้แทนราษฎรต่อไป ซึ่งคาดจะพิจารณาวาระที่ 1 ระหว่าง 31 พ.ค.-2 มิ.ย.นี้ โดยกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่าย 3,100,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2564 จำนวน 185,962.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.66 เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณมีงบฯรายจ่ายเพียงพอในการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ รวมทั้งรองรับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยมีประมาณการรายได้สุทธิ 2,400,000 ล้านบาท กำหนดวงเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 700,000 ล้านบาท ซึ่งการขาดดุลยังอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด

แจงงบลงทุนน้อยกว่าเงินขาดดุล

กรณีงบฯลงทุนมีน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลที่กําหนดไว้ สํานักงบประมาณเสนอ มาตรการต่อครม.ให้ความเห็นชอบแล้ว เมื่อ 16 มี.ค. โดยการเพิ่มแหล่งเงินลงทุนของประเทศในช่องทางอื่น นอกเหนือจากงบฯรายจ่าย ได้แก่ 1.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) 2.การลงทุนของหน่วยงานในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (THAILAND FUTURE FUND) และ 3.การใช้เงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 22 แห่งพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ 2548 ซึ่งสํานักงบฯได้จัดทําคําชี้แจง เหตุผลความจําเป็น และจะได้จัดทําคําแถลงต่อรัฐสภาต่อไป

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบฯ 2565 ครอบคลุม 6 ยุทธศาสตร์สำคัญ 1.ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 2.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 6.ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ รวมทั้งรายการค่าดำเนินการภาครัฐและงบประมาณสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นายกฯสั่งตอบโต้เฟกนิวส์

รายงานข่าวจากทำเนียบแจ้งว่า ครม.มีการหารือเรื่องสัดส่วน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และเห็นชอบการตั้ง กมธ. ดังกล่าวโดยมี 64 คน เท่ากับปี 2563 พร้อมกำหนดสัดส่วนกมธ. ประกอบด้วย ครม.เสนอชื่อ 16 คน พรรคการเมือง 48 คน แยกเป็น พลังประชารัฐ 12, ภูมิใจไทย 6, ประชาธิปัตย์ 5, ชาติไทยพัฒนา 1, รวมพลังประชาชาติไทย 1, พลังท้องถิ่นไท 1, เศรษฐกิจใหม่ 1, เพื่อไทย 13, ก้าวไกล 5, เสรีรวมไทย 1, ประชาชาติ 1, เพื่อชาติ 1 โดย กมธ.สัดส่วน ครม.เสนอ ให้ประกอบด้วย ข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำ 4 คน ได้แก่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายกฤษฎา จีนะ วิจารณะ ปลัดฯ คลัง นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผอ.สำนักงบประมาณ ส่วนอีก 12 คน ให้ ครม.พิจารณารายชื่อตามความเหมาะสม

กำชับรมต.ห้ามหาเสียง

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ขอความร่วมมือเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณว่าอะไรที่มีปัญหาให้ลดลงบ้าง ให้ทุกพรรคช่วยกัน ฝากรัฐมนตรีที่มีประสบการณ์ในสภาให้ช่วยกัน พร้อมกำชับว่าระหว่างพิจารณาอย่าด่ากันไปกันมา รัฐบาลไม่ต้องด่าใคร แต่ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ โดยนายกฯ ต้องเดินทางไปร่วมประชุมสภาแน่นอน

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์สั่งการให้ระวังเรื่องข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์ ที่จะสร้างความแตกแยกร้าวฉานให้ประชาชน โดยให้แต่ละกระทรวงคอยสอดส่องดูแล หากพบมีข่าวปลอมเกี่ยวกับหน่วยงานให้รีบชี้แจงตอบโต้

และก่อนปิดประชุม ได้กล่าวว่า ช่วงนี้ห้ามหาเสียง ไม่ต้องหวังผลทางการเมือง ถ้าเราดีประชาชนจะเลือกเราเอง

ชวนนัดวิป 4 ฝ่าย-ถกเปิดสภา

นายวิรัช รัตนเศรษฐ กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาลเผยว่า วันที่ 14 พ.ค. เวลา 10.30 น. นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้นัดประชุมวิป 4 ฝ่ายทั้งวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน ส.ว. และครม. จะหารือถึงการบรรจุระเบียบวาระในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญวันที่ 22 พ.ค. โดยมีร่างกฎหมายสำคัญหลายฉบับรอเข้าพิจารณา อาทิ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2565 ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย และร่าง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด

ตนจะเสนอที่ประชุม 4 ฝ่ายถึงแนวทางการบรรจุสำคัญ โดยเฉพาะวาระที่คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณายาว 3 วันให้เกิดความต่อเนื่อง เช่น อาจเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณให้บรรจุเข้าที่ประชุม 9-11 มิ.ย. และจะหารือถึงมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อลดความแออัดการเข้าร่วมประชุมคณะต่างๆ ควรจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม

นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนฯ กล่าวว่า การประชุมสภายังไม่มีการบรรจุวาระ เพราะกำหนดเปิดประชุม 22 พ.ค. กำหนดการตามตารางปกติ ส.ส.จะประชุมวันพุธ-พฤหัสบดี แต่วันพุธที่ 26 พ.ค. เป็นวันหยุดราชการ คาดว่าจะประชุมวันที่ 27 พ.ค. เป็นวันแรกของการประชุมในสมัยนี้ โดยมีระเบียบวาระที่จะพิจารณา เช่น เรื่อง พ.ร.ก. 2 ฉบับ ต่อจากนั้นคงมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ โดยคาดว่า พ.ร.ก.จะใช้เวลา 1 วัน หากไม่เพียงพอก็ขยายไปวันศุกร์ ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณคงเป็นสัปดาห์ถัดไป เบื้องต้นอาจเป็นวันที่ 31 พ.ค. วันที่ 1-2 มิ.ย.

ฝ่ายค้านจ่อเสนอร่างแก้รธน.

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า หลังเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ พท.พร้อมเดินหน้าเสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งแบบรายมาตราและแก้ทั้งฉบับ ฝ่ายค้านยืนยันจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญผ่านการเลือกตั้งส.ส.ร. การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้การแก้ปัญหาประเทศเดินหน้า เห็นได้จากการแก้ปัญหาโควิดของรัฐบาล ไม่ตอบสนองความต้องการประชาชนเพราะติดกับดักรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันให้อำนาจข้าราชการประจำมากกว่าอำนาจของรัฐบาล การแก้ปัญหาให้ประชาชนจึงติดขัดไปหมด

ส่วน ส.ว.หลายคนอยู่ในอำนาจมานานกว่า 20 ปี ควรพอได้แล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้พรรคฝ่ายค้านไม่ได้จะลดอำนาจของส.ว. เพียงแต่ไม่ให้มีส่วนร่วมสรรหานายกฯ ขณะที่ ส.ว.ยังอยู่ครบวาระ 5 ปีตามเดิม

จี้โยกงบเรือดำน้ำซื้อวัคซีน

นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พท. กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 เป็นวิกฤตที่หนักมาก เป็นผลจากการบริหารจัดการล้มเหลว พล.อ.ประยุทธ์ ที่มองในมุมของการเมือง เรื่องผลประโยชน์ส่วนตนเป็นสำคัญ แต่งตั้งคนที่ไม่มีความรู้ ความสามารถด้านสาธารณสุข มานั่งบริหารกระทรวงที่มีแต่บุคลากรทางการแพทย์ ตอกย้ำความไม่เข้าใจ และไม่ใช่นักบริหารมืออาชีพของพล.อ. ประยุทธ์ อยากให้ดูวิธีแก้ปัญหาของจีน ทั้งที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดวันนี้หลายพื้นที่ในจีนประชาชนไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยแล้ว เพราะชาวจีนได้รับการฉีดวัคซีนของซิโนฟาร์มจากรัฐบาล ส่งผลให้ยับยั้งการสูญเสียได้

ผิดกับไทยที่ผู้นำประเทศยังไร้ปัญญาแก้ปัญหา น่าประหลาดใจทำไมรัฐบาลไม่นำวัคซีนที่ดีที่สุดมาฉีดให้ประชาชน พล.อ. ประยุทธ์ควรปรับวิธีใช้งบฯ แปลงงบ 2,100 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายค่าประกอบเรือดำน้ำงวดที่ 2 ให้กับกองทัพ ไปจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มจากจีนแทนจะได้ประโยชน์มากกว่า ความมั่นคงทางการทหาร กับความมั่นคงทางสาธารณสุข พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน”

‘วิชา’แย้งคำตัดสินคดีธรรมนัส

นายวิชา มหาคุณ อดีตป.ป.ช. โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร.อ.ธรรมนัส ไม่ต้องพ้นจากรัฐมนตรี กรณีต้องคำพิพากษา จำคุกคดียาเสพติดที่ออสเตรเลีย ว่า เกิดข้อถกเถียงทางวิชาการว่าแนวคำวินิจฉัยดังกล่าวถูกต้องตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญปี 2560 หรือไม่ หากศึกษารายละเอียดในคำปรารภรัฐธรรมนูญปี 2560 ข้อความตอนหนึ่งว่า “เพื่อมิให้ผู้บริหารที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลเข้ามามีอำนาจปกครองบ้านเมือง หรือใช้อำนาจตามอำเภอใจ”

เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญจึงแน่ชัดว่า ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบและขจัดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีปัญหาด้านคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลมิให้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง อันเป็นปัญหาร้ายแรงที่สุดในการปกครองบ้านเมือง ปัญหาด้านจริยธรรมของผู้บริหารที่ขาดความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชนแต่ไม่ยอมออกจากตำแหน่ง โดยอ้างประชาชนเป็นผู้เลือกให้ทำหน้าที่ ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธา ล้มเหลวการบริหาร

จริยธรรมต่างจากสากล

การตีความโดยเคร่งครัดตามลายลักษณ์อักษรของศาลรัฐธรรมนูญจึงกระทบต่อภารกิจอันสำคัญยิ่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องเป็น ผู้คุ้มครองป้องกันและรักษาไว้ซึ่งเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ตามหลักรัฐธรรมนูญนิยม และก่อให้เกิดผลในทางที่ไม่น่าจะเป็น หรือผลประหลาด หรือผลอันไม่คาดคิด คดีนี้ย่อมสร้างความประหลาดใจแก่รัฐต่างประเทศว่าบุคคลซึ่งกระทำผิดและถูกตัดสินโดยศาลต่างประเทศ ย่อมเดินทางกลับมาเป็นผู้ปกครองประเทศ หรือบริหารราชการแผ่นดินไทยได้ทั้งสิ้น ก่อให้เกิดมาตรฐานจริยธรรมที่แตกต่างกับสากลอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะที่ 11 และคณะที่ 13 เคยประชุมร่วมกันและมีความเห็นตามบันทึกกฤษฎีกาที่ 127/2563 ว่ากรณีที่ใช้ผลของคำพิพากษาของศาลต่างประเทศมารับฟังเป็นพยานหลักฐานในฐานะข้อเท็จจริง มิใช่มาบังคับโทษในประเทศไทย ย่อมเป็นสิ่งที่กระทำได้

พบอัยการ – นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เข้าพบพนักงานอัยการ คดีม.116 กรณีโพสต์เชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมปี 2563 โดยอัยการนัดฟังคำสั่ง 13 ก.ค.

‘ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ’พบอัยการ

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พญาไท นัด นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ผู้ต้องหาความผิดร่วมกันยุงยงปลุกปั่น ตาม ม.116 กรณีทั้งสามโพสต์เฟซบุ๊กปราศรัยกับนักศึกษา เชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุม

นายปิยบุตรกล่าวว่า พวกตนมาตามที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องจากกรณีปลายต.ค. 2563 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ ให้ทนายแจ้งความมาร้องทุกข์ และพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง พวกตนไม่เข้าข่ายผิดตาม ม.116 ในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาอ้างพฤติการณ์แต่ละคน เช่น นายธนาธรนำเรื่องที่เคยมีเคยอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองไทยในสภา อภิปรายงบประมาณต่างๆ รวมถึงงบที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน และเป็นผู้มีส่วนก่อตั้งวารสารฟ้าเดียวกันแล้วไปปรากฏตัวในที่ชุมนุม ส่วนตนเป็นการนำบทความหรือเนื้อหาสมัยเป็นอาจารย์ และเรื่องที่เคยเขียนลงในหนังสือฉบับหนึ่งมาชี้นำว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ส่วนกรณีน.ส.พรรณิการ์ มีเพียงการไลฟ์สดเฟซบุ๊กในการชุมนุมดังกล่าว

นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่าเนื่องจากพนักงานสอบสวนเพิ่งนำสำนวนคำร้องส่งมาให้พิจารณาวันนี้ พนักงานอัยการจึงยังไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริง ประกอบกับสถานการณ์โควิด จึงเห็นควรนัดฟังคำสั่งคดีนี้อีกครั้งวันที่ 13 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก‘เทพไท’2ปี

วันที่ 11 พ.ค. ศาลอุทธรณ์ภาค 8 อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น ระหว่าง นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช โจทก์ นายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช จำเลยที่ 1 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ จำเลยที่ 2 จำเลย กรณีทุจริตการเลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราชฯ โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ต่อมาอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยออกนอกราชอาณาจักร

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวศาลจังหวัดนครศรีฯ พิพากษาให้จำคุก นายมาโนช และนายเทพไท 3 ปี ตัดสิทธิการเลือกตั้ง 10 ปี โดยลดโทษจำคุกเหลือ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญสั่งตัดสิทธิ์ทางการเมืองนายเทพไท 10 ปี จนต้องพ้นจากส.ส.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน