ใกล้กับบ้าน‘เสก โลโซ’
อพยพวุ่น-ถูกตัดไฟฟ้า

ไหม้ระทึกโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก-โฟมกลางกรุง หน้าหมู่บ้านนักร้องดัง เสก โลโซ วอดนาน 4 ชั่วโมง 2 โกดังถล่ม จนท.ระดมกำลังรถดับเพลิงกว่า 30 คัน เบื้องต้นคาดความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต เจ้าหน้าที่เตรียมเข้าตรวจสอบหาสาเหตุ สอบพยานระบุ ขณะที่ส่วนออฟฟิศกำลังทำงาน โกดังฝ่ายผลิตก็เกิดไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เสียหายรวม 8 โกดัง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 พ.ค. ร.ต.อ. สุรกิจ สุดตานา รอง สว. (สอบสวน) สน. สายไหม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริษัท เอมสเทรด จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 17/7 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 39 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู ก่อนประสานรถน้ำจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานครกว่า 30 คัน

วอด30ล. – จนท.ระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังไหม้โกดังผลิตเม็ดพลาสติก และโฟม ของบริษัท เอมสเทรด ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เพลิงเผานาน 4 ชั่วโมง วอดทั้ง 8 โกดัง แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นเสียหาย 30 ล้าน เมื่อ 16 พ.ค.

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก และโฟม โดยแบ่งเป็นโกดังขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น รวม 4 โกดัง มีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ พบแสงเพลิงกำลังพวยพุ่งโหมกระหน่ำภายในโกดังจนเป็นเหตุให้มีกลุ่มควันพวยพุ่งจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดกั้นให้อยู่ในวงจำกัดเนื่องจากบริเวณพื้นที่โดยรอบอยู่ติดกับหมู่บ้านที่พักอาศัยของประชาชน และหมู่บ้านชื่อดัง

ทั้งนี้มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นระยะ ขณะเกิดเหตุมีพนักงานบางส่วนอยู่ในโรงงานดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้หมด เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับอาการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุในเวลาประมาณ 15.00 น. มีพนักงานบางส่วนปฏิบัติหน้าที่กันตามปกติซึ่งอยู่ในโซนออฟฟิศ จู่ๆ พบแสงเพลิงกำลังพวยพุ่งที่บริเวณชั้นที่ 1 ของโกดังผลิตม้วนโฟมที่อยู่ด้านข้างออฟฟิศซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีพนักงานปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเป็นวันหยุด อีกทั้งถือเป็นใจกลางของโกดังทั้งหมดก่อนลุกลามยังโกดังข้างเคียงถึง 3 โกดังอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการฉีดน้ำสกัดกั้นโดยใช้เวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง ยังไม่สามารถควบคุมแสงเพลิงเอาไว้ได้เนื่องจากโรงงานดังกล่าวเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เบื้องต้นไม่มีใครบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

ต่อมาเวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ทั้งหมด ภายหลังจากร่วมปฏิบัติหน้าที่กันอย่างยากลำบากโดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง พบว่า 2 โกดังถล่มลงมา

ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนเชิญตัวพนักงานของโรงงานดังกล่าวที่ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อสรุปในสำนวนคดี

นอกจากนี้ทางโรงงานจุดเกิดเหตุปิดประตูทางเข้า-ออก โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยังภายในสถานที่โดยเด็ด ขาด เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะประสาน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานรุดเข้าตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกพนักงานคนไทยประมาณ 20 คนที่มาทำงานในวันหยุดมาสอบปากคำเบื้องต้นให้การตรงกันหมดว่า ยังไม่พบเหตุพิรุธ

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวนสน.สายไหม เชิญตัวเจ้าของโรงงานมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า กิจการในเครือทั้งหมดมี 4 โรงงาน ซึ่งโรงงานที่เกิดเหตุเป็นโรงงานสำหรับผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์พิเศษ จำพวกลามิเนต,โฟม และแผ่นรองพื้น มีทั้งสิ้น 8 โกดัง แบ่งจำแนกเป็นโกดังผลิต,โกดังเก็บสินค้า เป็นต้น

โดยจุดต้นเพลิงมาจากบริเวณชั้นที่ 1 ห้องผลิตลามิเนต ซึ่งเป็นโกดังที่ตั้งอยู่ด้านใน โดยขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด ก่อนไฟจะลุกลามไปยังห้องข้างเคียงจนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้โครงสร้างจุดต้นเพลิงพังถล่มลงมา และไฟไหม้ขยายเป็นวงกว้างจนทำให้เสียหายทั้งหมดรวม 8 โกดัง เบื้องต้นประเมินค่าความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน เพจเสกโลโซ ของนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย นักร้องดัง โพสต์เหตุการณ์ดังกล่าว ว่า “เกิดเหตุไฟไหม้หน้าหมู่บ้านเศรษฐสิริ ตรงข้ามสำนักงานเขตสายไหม ที่เราอยู่ รบกวนอย่าเอารถเข้าออกหมู่บ้านขวางทางเจ้าหน้าที่ อันตรายมากไฟอาจลุกลามเข้าหมู่บ้าน ตอนนี้เลย” ขณะที่คอมเมนต์ต่างเป็นห่วงหมู่บ้านของนักร้องดัง และชาวบ้านว่าจะได้รับผลกระทบ

หลังจากไฟสงบ เสก โลโซระบุต้องอพยพออกจากหมู่บ้านดังกล่าวเพราะถูกงดจ่ายไฟฟ้า 2 วัน ลูกบ้านทยอยออกจากหมู่บ้านแล้วแต่ลำบากมากต้องออกทางร.ร.ไทยรัฐวิทยา ถนนเล็กและขรุขระ ตอนนี้รถติดมาก ครอบครัวเรากำลังจะต้องย้ายออกเช่นกันเพราะงดจ่ายไฟ 2 วัน แต่ตอนนี้เอารถออกไม่ได้ เพราะกำลังหาทางเปิดประตูรั้วรีโมต เรียกแท็กซี่ไม่ได้ เขาห้ามรถเข้า-ออก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน