‘บังฟิต’ หาช่องมอบตัว ตร.เชื่อยังหลบในกระบี่ หลังสืบทราบ 2 พี่น้องที่ยังหลบหนี พยายามหาคนกลางประสานตำรวจอยู่ ส่วนน้องชายที่เข้ามอบตัวแล้วตำรวจนำฝากขัง โดนนายสุวิทย์แจงด้วย ไม่ได้ถูกซ้อมบังคับสารภาพ แต่ที่พูดไปเพราะเครียด ด้านตร.ไม่หนักใจ มั่นใจหลักฐานเพียบ

จากคดีการเสียชีวิตของนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่ง ที่ถูกยิงเสียชีวิตแล้วนำศพและรถเก๋งไปฝังดินภายในสวนยางพารา ในพื้นที่ ม.1 บ้านหนองแบก ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับนายนายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร อายุ 32 ปี พร้อมนายสุรชัย หรือบังกิบหลี เริงสมุทร อายุ 38 ปี พี่ชาย และนายสุวิทย์ เริงสมุทร อายุ 26 ปี น้องชาย ที่ร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งต่อมานายสุวิทย์ทนแรงกดดันไม่ไหวตัดสินใจเข้ามอบตัวในวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาพร้อมให้การรับสารถูกบังฟิตชวนไปช่วยงานแต่ไม่รู้ว่างานอะไร จนมาทราบภายหลังแต่ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าปฏิเสธภาพตามข่าว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 พ.ค. พ.ต.อ. ตานิตย์ รามดิษฐ์ รองผบก.ภ.จว.กระบี่ พร้อมพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายสุวิทย์ไปขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ฝากขัง โดยได้ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งศาลก็ ได้อนุญาตฝากขัง โดยไม่ให้ประกันตัวแต่อย่างใด

ฝากขัง – พนักงานสอบสวนสภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ ควบคุมตัวนายสุวิทย์ เริงสมุทร ผู้ต้องหาคดีฆ่าฝังดิน ไปขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ฝากขังผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งศาลอนุญาตฝากขัง และไม่ให้ประกันตัวตามที่พนักงานสอบสวนร้องค้าน เมื่อวันที่ 17 พ.ค.

ทั้งนี้ ระหว่างนำตัวนายสุวิทย์ ออกจากห้องขังที่สภ.อ่าวนาง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่บอกถูกทำร้ายร่างกายเพื่อให้รับสารภาพว่า ความจริงแล้วไม่ได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด แต่ด้วยความกดดัน ความเครียด ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร เลยพูดคำนั้นออกมา ต้องขอโทษด้วย ส่วนกรณีข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น ไม่ขอเปิดเผย ตนได้ให้ข้อมูล กับพนักงานสอบสวนไปแล้ว

พ.ต.อ.ตานิตย์กล่าวว่า ในการสอบปากคำนายสุวิทย์เมื่อวานนี้ มีทนายความและภรรยาร่วมรับฟังด้วยนั้น ส่วนที่บอกถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายหรือบอกไม่ได้ถูกทำร้าย อาจจะเกิดจากความเครียดสับสน เพราะถูกกดดัน แต่ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ เมื่อคืนที่ผ่านมาได้นำตัวนายสุวิทย์ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลว่ามีร่องรอยถูกทำร้ายหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย ซึ่งนายสุวิทย์ก็ได้ขอโทษสังคม และจนท.ตำรวจไปแล้ว ทางตำรวจก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ส่วนกรณีที่จะขอหมายจับผู้ต้องอีก 1 นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างรวบพยานหลักฐาน และต้องทำอย่างรัดกุม

พ.ต.อ.ตานิตย์กล่าวต่อว่า ขณะที่ทางพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง รวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุกว่า 100 ชิ้นส่งไปพิสูจน์หลักฐาน ที่กองตำรวจพิสูจน์หลักฐานภาค 8 จ.สุราษฎร์ธานี และส่งดีเอ็นเอทั้งหมดไปยังศูนย์กลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.กระบี่ ยังได้เก็บตัวอย่างของดินที่ติดที่ล้อรถกระบะอีซูซุตอนครึ่ง สีขาว ทะเบียน บพ 8680 กระบี่ ของนายสุริยา และรถกระบะฟอร์ด สีส้ม สี่ประตู ทะเบียน กจ 9885 กระบี่ ของนายสุรชัยและรถเก๋งโตโยต้าโคโรลาสีขาว ทะเบียน กน 6552 กระบี่ ของนายสุชาติ ผู้เสียหาย ว่าตรงกันหรือไม่

รอง ผบก.จ.กระบี่ กล่าวว่า ไม่หนักใจ ในคดีนี้ เพราะเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไว้จำนวนมาก รวมถึงการตรวจหาดีเอ็นเอในหลักฐานบางอย่าง ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มอีกหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ อยู่ที่พยานหลักฐานว่าจะไปเกี่ยวเนื่องกับใคร ก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการ








Advertisement

พ.ต.อ.ตานิตย์กล่าวด้วยว่า สำหรับติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 2 ราย คือนายสุริยา หรือบังฟิต และนายสุรชัย หรือ กิบหลี ชุดสืบสวนยังเร่งติดตามเบาะแสของทั้ง 2 พี่น้อง โดยมีรายงานว่า ทั้ง 2 คน พยายามติดต่อผ่านบุคคลสำคัญในพื้นที่ ต.หนองทะเล ให้เป็นคนกลางประสานกับตำรวจ เพื่อจะขอเข้ามอบตัวอยู่เช่นกัน ทำให้ชุดสืบสวนมั่นใจว่าทั้ง 2 พี่น้อง น่าจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.กระบี่ นอกจากนี้ชุดคลี่คลายคดี เตรียมรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อมาประมวลเหตุทั้งหมดอย่างละเอียด โดยเฉพาะกรณีการขุดหลุมฝังรถของนาย สุชาติ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า อาจจะมีรถแบ๊กโฮอีกคันที่มาทำหน้าที่ฝังกลบ ซึ่งต้องติดตามหาตัวมาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน