คลัสเตอร์เรือนจำยังพุ่ง คุกนนท์-ธนบุรีป่วยอื้อ แคมป์คนงานหลักสี่วุ่น ติดเชื้อเพิ่มกว่า1พันราย

รองอธิบดีกรมคุกแถลง พบนักโทษติดเชื้อรายใหม่ 1,408 ราย เผย เรือนจำนนท์-เรือนจำพิเศษธนบุรี-ทัณฑสถานหญิงกลางน่าห่วง ตัวเลขผู้ต้องขังป่วยยังสูงโควิดคร่าวันเดียวตายพุ่ง 35 ราย ทำสถิติใหม่ เผยมีเด็กวัย 2 เดือนที่ติดเชื้อจากครอบครัวด้วย ขณะที่ยอดป่วยยังเกิน 2 พันคน คลัสเตอร์แคมป์คนงานย่านหลักสี่ลามหนักติดเชื้อเพิ่มอีก 1,107 จากที่ตรวจ 1.6 พันคน

ไทยเสียชีวิตเพิ่มวันเดียว35ราย

วันที่ 18 พ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ทั่วโลกติดเชื้อ 164.2 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.35 แสนราย เสียชีวิตสะสม 3.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 1.07 หมื่นราย สำหรับสิงคโปร์พบคลัสเตอร์สายพันธุ์อินเดียในสนามบิน ติดเชื้อมากกว่า 50 คน และร.พ.อีก 44 คน ต้องล็อกดาวน์ตั้งแต่ 16 พ.ค. ถึง 13 มิ.ย. จากเดิมจะมีทราเวล บับเบิลกับฮ่องกง ก็ต้องเลื่อนออกไป และมีการติดเชื้อในเรือนจำ นักโทษ 5 พันคนต้องตรวจเชื้อ ส่วนไต้หวันมีรายงานเคสเพิ่มขึ้น 206 ราย มีการล็อกดาวน์บางส่วน ส่วนไทยติดเชื้อรายใหม่ 2,473 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในร.พ. 1,423 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 347 ราย มาจากเรือนจำและที่ ต้องขัง 680 ราย และเดินทางจากต่างประเทศ 23 ราย รักษาหายเพิ่ม 2,718 ราย เยอะกว่าที่ป่วย เสียชีวิตเพิ่ม 35 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 113,555 ราย เสียชีวิตสะสม 649 ราย ส่วนระลอกใหม่ เม.ย. เป็นต้นมา ติดเชื้อสะสม 84,692 ราย หายป่วยแล้ว 42,492 ราย เสียชีวิตสะสม 555 ราย ยังรักษาอยู่ 42,988 ราย อยู่ใน ร.พ. 21,199 ราย และ ร.พ.สนาม 21,789 ราย อาการหนัก 1,150 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 384 ราย ฉีดวัคซีนแล้ว 2,340,995 โดส เป็นเข็มแรก 1,521,034 ราย และเข็มสอง 819,961 ราย ผู้เสียชีวิต 35 ราย อยู่กทม. 16 ราย เชียงราย สงขลา สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย อุบลราชธานี สระแก้ว ศรีสะเกษ ระยอง ชลบุรี ปทุมธานี ชัยภูมิ ลพบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ชุมพร สระบุรี และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย อายุเฉลี่ย 68 ปี เป็นชาย 17 ราย หญิง 18 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ติดเชื้อจากคนในครอบครัว ส่วนวันนอนในร.พ. ตั้งแต่ทราบผลถึงเสียชีวิตนานสุด 38 วัน

ห่วงสายพันธุ์อินเดียมาทางเรือ

สำหรับคนเดินทางมาจากต่างประเทศ 23 ราย ได้แก่ อินเดีย 13 ราย เป็นคนไทย 12 ราย อีกรายมาทางเรือ เป็นวิศวกรโปแลนด์เข้ามากับเรือที่รับงานแท่นขุดเจาะพื้นที่อ่าวไทย มีอาการป่วย จึงนำเข้ารักษาใน ร.พ.เอกชน จ.สงขลา ก็ซีลทั้งหมด ทุกช่องทางที่มาจากทางอินเดียที่เราเกรงเรื่องสายพันธุ์ ที่ประชุมมีการพูดคุยและให้ความสำคัญ มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย มาเลเซีย 4 ราย คนไทยเดินทางมาถูกต้อง และกัมพูชา 5 ราย มี 2 รายเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ โดยรอบ 24 ชั่วโมงมีผู้ลักลอบเข้ามาส่วนใหญ่มาจากพม่า กัมพูชา และลาว จำนวน 107 ราย “มีการตั้งคำถามว่าเป็นความย่อหย่อนของฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ เน้นย้ำว่ามาตรการของผู้ดูแลทางขอบชายแดน ทั้งการลาดตระเวน การใช้โดรนยังตรึงกัน แต่คนลักลอบน่าตำหนิ เราบอกทุกวันว่าถ้าเข้ามาเราต้อนรับกลับประเทศ อย่ามาวิธีทางธรรมชาติ กำลังฝ่ายทหารและมั่นคงต้องทำหน้าที่หนัก การตรวจเจอก็ต้องกล่าวชม เหมือนคนติดเชื้อเราไปค้นเชิงรุกแล้วเจอ ขอประชาชนเข้าใจว่าไปจับได้เป็นความสามารถฝ่ายมั่นคงที่ทำงานเต็มที่ ต้องขอกำลังใจที่ทำงานด้านนี้ ส่วนคนที่พยายามลักลอบเข้ามา มีความเสี่ยงอย่างยิ่งนำเชื้อเข้ามา ขอว่าอย่าทำ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว สำหรับจังหวัดที่ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย 1. กทม. 873 ราย สะสม 28,658 ราย 2.นนทบุรี 155 ราย สะสม 4,757 ราย 3.สมุทรปราการ 121 ราย สะสม 4,329 ราย 4.ปทุมธานี 117 ราย สะสม 2,467 ราย 5.สมุทรสาคร 63 ราย สะสม 1,930 ราย 6. เพชรบุรี 43 ราย สะสม 645 ราย 7.ชลบุรี 33 ราย สะสม 3,768 ราย 8. นครศรีธรรมราช 30 ราย สะสม 757 ราย 9.สงขลา 29 ราย สะสม 1,041 ราย และ 10.พระนครศรีอยุธยา 28 ราย สะสม 936 ราย

พบการติดเชื้อจากตลาดต่างๆ

“ตอนนี้การติดเชื้อในนนทบุรีอยู่ที่ตลาดต่างๆ เช่น เทศบาลนนทบุรี ศรีเมืองนนท์ สี่มุมเมือง, สมุทรปราการ เป็นชุมชนเคหะบางเสาธง โรงงาน, ปทุมธานีอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง, สมุทรสาครเป็นโรงงาน บริษัท และเพชรบุรี เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ หากมีรายละเอียดเพิ่มจะรายงานต่อไป แต่มีประเด็นเรื่องสังสรรค์ เล่นสนุ้กเกอร์ คลับทั้งหลาย และติดกันมาในกลุ่มก้อนนี้ มีรายงานกันอยู่ หากมีความคืบหน้าจะมารายงาน ใครสังสรรค์ด้วยวิธีการใกล้ชิดกัน สนุ้กเกอร์เล่นในแอร์ เพดานเตี้ยๆ อาจทำให้ติดได้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ผู้ป่วยใหม่ต่อผู้ที่หายกลับบ้าน มีความสำคัญ เพราะดูเรื่องเตียงรักษาได้ อย่างแนวโน้ม กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ พบว่าป่วยมากกว่าหาย โดยนนทบุรี วันที่ 1-7 พ.ค. ป่วยใหม่ 1,488 ราย หาย 451 ราย ป่วยใหม่มากกว่าหายคิดเป็น 3 เท่า ช่วง 8-14 พ.ค. ป่วยใหม่ก็สูงกว่าหาย 3 เท่า กทม. ช่วงวันที่ 1-7 พ.ค. ป่วยใหม่กับหายพอๆ กัน คือป่วย 4,912 ราย หาย 4,755 ราย แต่วันที่ 8-14 พ.ค. ป่วยใหม่ 6,644 ราย หาย 5,322 ราย ป่วยเยอะกว่าหาย ส่วน 71 จังหวัด ช่วงวันที่ 8-14 พ.ค. ป่วยใหม่ ประมาณ 4,200 กว่าราย หาย 4,600 กว่าราย หายเยอะกว่าป่วย การใช้เตียงยังเยอะใน กทม.

คลัสเตอร์ตลาดยิ่งเจริญ25ราย

สำหรับ 23 จังหวัดสีขาวหรือไม่มีผู้ติดเชื้อ ได้แก่ ขอนแก่น อุบลราชธานี พิษณุโลก ลำพูน ลำปาง อ่างทอง นครพนม เพชรบูรณ์ ตราด น่าน กาฬสินธุ์ ชุมพร พะเยา เลย แพร่ อุตรดิตถ์ ชัยนาท หนองคาย พังงา อำนาจเจริญ หนองบัว ลำภู บึงกาฬ และสตูล ขอบคุณประชาชน 23 จังหวัดที่ช่วยกันกับจังหวัดทำงานเข้มแข็ง นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่าสำหรับ กทม.มี ทั้งสิ้น 873 ราย แนวทแยงขึ้นอยู่ สะสม 28,658 คน ค้นหาเชิงรุกในชุมชนเข้มข้น อัตราการติดเชื้อสุ่มตรวจ 6.98% หากสุ่มถูกก็เจอเยอะ กลุ่มที่เจอเยอะตอนนี้คือแคมป์ก่อสร้างหลักสี่ คลองถมเซ็นเตอร์ ตลาดห้วยขวาง ยังพุ่งขึ้น ส่วนแฟลตดินแดง ตลาดพลอยบางรักเริ่มนิ่งคงที่ ทั้งนี้ แคมป์หลักสี่เมื่อวานติดเชื้อ 885 ราย วันนี้ตรวจ 1,667 คน พบติดเชื้อ 1,107 คน คิดเป็น 66.41% ขอให้กำลังใจทีมงานที่ลงไปอย่างเต็มที่ เอกชนที่ทำแล็บก็ส่งอย่างรวดเร็ว สัมผัสเสี่ยงสูง 586 คนที่ต้องติดตาม สำหรับการติดเชื้อในกทม.ยังอยู่ใน 19 เขต 29 คลัสเตอร์ แต่พบคลัสเตอร์ใหม่คือ เขตบางเขน ตลาดยิ่งเจริญ พบ 3 ราย สะสม 25 ราย แนวทางต้องไปตรวจอีก 2-3 พันคน

สลด-เด็กวัย2เดือนเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ศบค.รายงาน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 35 ราย พบใน กทม. 16 ราย เชียงใหม่ สงขลา สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ส่วนอุบลราชธานี สระแก้ว ศรีสะเกษ ระยอง ชลบุรี ปทุมธานี ชัยภูมิ ลพบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ชุมพร สระบุรี สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 18 ราย อายุต่ำสุด 2 เดือนและมากที่สุด 93 ปี ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเสียชีวิตของผู้ป่วย โควิด-19 เป็นเด็กวัย 2 เดือนรวมอยู่ด้วย ว่า ข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่ตนทราบ เป็นผู้ป่วยเด็กติดเชื้อมาจากคนในครอบครัว โดยผู้ป่วย มีภาวะโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด เมื่อเป็นโควิด ก็ทำให้ภาวะของโรครุนแรงมากขึ้น

โควิดคร่าชีวิตอัยการรายที่ 2

นายสุรศักดิ์ บุญเพิ่ม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองยะลา รักษาการในตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัว ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัว ได้มีบันทึกข้อความส่วนราชการสำนักอำนวยการสำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัว แจ้งการถึงแก่อนิจกรรมว่าด้วยนายสุขใจ วงษ์อาทิตย์ อัยการอาวุโสสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 สำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัวได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคปอดอักเสบติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 พ.ค. เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด จึงให้งดขั้นตอนพิธีกรรมทางศาสนา เจ้าภาพจึงได้ดำเนินการฌาปนกิจที่วัดสุทธิสะอาด แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวากรุงเทพฯ ในวันดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสุขใจเป็นอัยการที่เสียชีวิตจากโควิดเป็นรายที่ 2

พ่นเรือนจำ – จนท.ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเรือนจำกลางจ.นครราชสีมา เพื่อควบคุมโควิดหลังเรือนจำหลายแห่งทั่วประเทศเป็นแหล่งระบาดหนัก พร้อมกับตรวจคัดกรองผู้ต้องขังในเรือนจำอย่างเข้มข้น เมื่อวันที่ 18 พ.ค.

สั่งตรวจเชื้อเชิงรุก 8 เรือนจำ

วันเดียวกัน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในเรือนจำว่า ตอนนี้สั่งการให้ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกใน 8 เรือนจำ และสั่งให้ตรวจอีกครั้งตามรอบการ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงต้อง เร่งการสว็อบให้ครบ 100% เรือนจำและทัณฑสถาน ทั้งนี้หากเรือนจำไหนตรวจพบ ผู้ติดเชื้อ ให้เร่งคัดแยกผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มสีเขียว สีเหลือง และสีแดง ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ต้องเร่งคัดกรองให้เร็ว เอกซเรย์ให้เร็ว และคัดแยกให้เร็ว เพื่อการรักษาที่รวดเร็ว จะเป็นประโยชน์ในการรักษา ลดการแพร่เชื้อและป้องกันการเสียชีวิตได้ ดังนั้น อาจจะมีจำนวนผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่อง จากช่วยแรงอาจจะตรวจไม่พบเชื้อ สำหรับ เจ้าหน้าที่เรือนจำจะต้องตรวจหาเชื้อทุก 7 วัน นายอายุตม์กล่าวอีกว่า ผู้ต้องขังที่พบเชื้อกว่า 10,000 รายนั้น ส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มผู้ต้องขังสีเขียว ไม่มีอาการ แต่พบเชื้อ ซึ่งได้แยกออกจากผู้ต้องขังที่ไม่พบเชื้อทั้งหมดแล้ว ส่วนการจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ กรมราชทัณฑ์เตรียมจัดซื้อยา 150,000 เม็ด จากองค์การเภสัชกรรม โดยจะใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท เพื่อนำมารักษาผู้ต้องขังในกลุ่มสีเขียวตามจำนวนทางการแพทย์ ระหว่างนี้ให้แต่เรือนจำต้มน้ำขิง จัดหาฟ้าทะลายโจร เพื่อใช้รักษาควบคุมกัน ส่วนของผู้ต้องขังในกลุ่มสีแดง ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสนามของพล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.ร.พ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งอยู่ใกล้กับเรือนจำ

ติดเชื้อเรือนจำยังพุ่ง-อึ้งคุกนนท์

ด้านนายสิทธิ สุทธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูลวันที่ 18 พ.ค. เวลา 12.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อยู่ระหว่างการรักษา 11,670 ราย จากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ 13 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ 1,408 ราย ดังนี้ เรือนจำกลางเชียงใหม่ ติดเชื้อใหม่ 50 อยู่ระหว่างรักษาตัว 3,608 เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร ติดเชื้อใหม่ 0 อยู่ระหว่างรักษาตัว 1,851 ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อใหม่ 245 อยู่ระหว่างรักษาตัว 1,428 เรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อใหม่ 159 อยู่ระหว่างรักษาตัว 1,175 เรือนจำพิเศษธนบุรี ติดเชื้อใหม่ 277 อยู่ระหว่างรักษาตัว 2,807 เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อใหม่ 7 อยู่ระหว่างรักษาตัว 56 ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อใหม่ 0 อยู่ระหว่างรักษาตัว 12 เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ติดเชื้อใหม่ 342 อยู่ระหว่างรักษาตัว 400 เรือนจำพิเศษมีนบุรี ติดเชื้อใหม่ 0 อยู่ระหว่างรักษาตัว 2 เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ติดเชื้อใหม่ 0 อยู่ระหว่างรักษาตัว 1 เรือนจำอำเภอแม่สอด ติดเชื้อใหม่ 0 อยู่ระหว่างรักษาตัว 1 เรือนจำกลางสมุทรปราการ ติดเชื้อใหม่ 0 อยู่ระหว่างรักษาตัว 1 เรือนจำกลางบางขวาง ติดเชื้อใหม่ 328 อยู่ระหว่างรักษาตัว 328 นายสิทธิกล่าวอีกว่า ส่วนเจ้าหน้าที่มีผู้ติดเชื้ออยู่ระหว่างการรักษา 35 ราย ทั้งนี้ เรือนจำและทัณฑสถานใด ที่มีการแพร่ระบาดของโรค กรมราชทัณฑ์สั่งการให้ดำเนินการสว็อบผู้ต้องขังทั้งเรือนจำ และทัณฑสถานให้ครบ 100% รวมทั้งเอกซเรย์ปอดผู้ติดเชื้อจนครบทุกราย เพื่อแยกกลุ่มตามลักษณะอาการ และเร่งการรักษาอย่างทันท่วงที

ช่วยเรือนจำ – นางกรณิศ กุหลาบวรรณ ผู้บริหารร้านอาหารเบียร์หิมะ มอบถังออกซิเจน พร้อมอุปกรณ์ 2 ชุด หน้ากากอนามัย 54,000 ชิ้น และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 200 ขวด ให้กรมราชทัณฑ์ และร.พ.ราชทัณฑ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังจากโควิด โดยมีนายศิรสิทธิ์ แดงสด รองผอ.ทัณฑสถาน ร.พ.กรมราชทัณฑ์ รับมอบ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.

นายกฯ สั่งดูแลผู้ติดเชื้อในคุก

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมครม. ซึ่งแถลงโดยอ่านตามสคริปต์ที่เตรียมมาว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์โควิดในกรุงเทพฯและปริมณฑล ยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว แม้ว่าจะสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อในบางพื้นที่ แต่ก็ยังมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นมาอีก ทำให้ต้องเรียกประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเป็นการด่วนในช่วงเช้า ซึ่งผลของการประชุมสรุปได้ว่า จะเร่งแก้ไขปัญหาการติดเชื้อในเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศ โดยจะดำเนินการตรวจเชิงรุกให้ได้มากและเร็วที่สุด และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ เพื่อคัดแยกผู้ป่วยออกมารักษา หากมีผู้มีอาการรุนแรง ก็จะนำออกมาเข้ารักษาในโรงพยาบาลเฉพาะทางตามระบบต่อไป ซึ่งเรือนจำแต่ละแห่งเป็นระบบปิด จึงมีโอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อสู่ชุมชนได้น้อยมาก และได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยดูแลเข้มงวดในเรื่องนี้ ในช่วงที่มีการระบาด โดยจะไม่ให้มีการเข้าเยี่ยมจากภายนอก จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น นายกฯ กล่าวว่า พื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล จะยังเดินหน้าต่อไปในแนวทางที่เราทำสำเร็จมาแล้ว คือการระดมตรวจเชิงรุก คัดแยกผู้ป่วย ส่งตัวรักษา และระดมฉีดวัคซีนในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งต้องควบคู่ไปกับการบังคับใช้มาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด คือการ ใส่แมสก์ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน การเว้นระยะห่าง และการตรวจวัดอุณหภูมิในทุกสถานที่ ซึ่งการระบาดในขณะนี้ เกิดขึ้นจากพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันอย่างแออัด ตนจึงสั่งการให้ ศบค. เร่งออกตรวจพื้นที่ที่มีโอกาสเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นแคมป์คนงานก่อสร้าง โรงงาน และสถานที่อื่นๆ ในกรุงเทพฯ ทั้งหมด นายกฯ กล่าวว่ามีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดวันต่อวัน และถึงแม้ว่าสถานการณ์ในขณะนี้ยังคงทรงตัว แต่สิ่งที่เราต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนก็คือ เรามีจำนวนผู้ป่วยที่หายป่วยในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก จนถึงวันนี้มีเกือบ 7 หมื่นคนแล้ว เฉพาะระลอกนี้มีมากกว่า 4 หมื่นคนหรือประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถของบุคลาการทางการแพทย์ที่คัดแยกตามอาการและรักษาอย่างดี และการเตรียมความพร้อม ด้านอุปกรณ์และเตียงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อใหม่แค่9

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า วันเดียวกันนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 9 ราย นับรวมเป็นยอดสะสมทั้งสิ้น 4,020 ราย ของการระบาดระลอกใหม่ ขณะนี้รักษาหายออกจากโรงพยา บาลแล้ว 3,565 ราย และมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 439 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก (สีแดง) 8 ราย, อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 27 ราย, อาการปานกลาง (สีเหลือง) 70 ราย และอาการน้อย (สีเขียว) 334 ราย ขณะเดียวกันวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสมยังคงที่ 16 ราย สำหรับรายละเอียดผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่นั้น ประกอบด้วย โรงพยาบาลสนาม 287 ราย, โรงพยาบาลรัฐ 112 ราย และโรงพยาบาลเอกชน 40 ราย ขณะที่การลงทะเบียนเตรียมฉีดวัคซีน โควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ข้อมูล วันที่ 18 พ.ค. มีผู้ลงทะเบียนแล้วจำนวน 99,374 ราย แบ่งเป็นการจองผ่านแอพพลิเคชั่น “หมอพร้อม” 63,885 ราย และ อสม. หรือเจ้าหน้าที่ดำเนินการจองให้ จำนวน 35,489 ราย โดยวันที่ 18-19 พ.ค. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ตั้งจุดรับลงทะเบียนเฉพาะกิจบริการประชาชนในตัวเมืองเชียงใหม่ สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ที่ห้าง บิ๊กซี สาขาแม่เหียะ, ห้างแม็คโคร สาขาเชียงใหม่ และห้างเทสโก้โลตัส สาขาคำเที่ยง ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น.

ยายวัย87ปีชนะโควิดหายป่วย

กรณี 2 คุณยาย วัย 87 ปี เเละ 88 ปี ชาว ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ติดเชื้อมาจากลูกสาวที่เดินทางกลับมาเยี่ยมแม่ในช่วงปลายเดือนเม.ย.นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณยายวัย 87 ปี หายจากอาการป่วยติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ทีมแพทย์พยาบาลได้ให้การดูแลอย่างดี จนรักษาหาย สุขภาพแข็งแรง สามารถกลับบ้านได้แล้ว ท่ามกลางความดีใจของบรรดาญาติๆ และเพื่อนบ้าน ตลอดจนผู้นำชุมชน อสม. และภาคส่วนต่างๆ ที่เอาใจช่วย ทั้งนี้ หลังจากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว ตามหลักการคุณยายยังต้องกักตัวสังเกตอาการอีกสักระยะเพื่อความปลอดภัย และยังต้องเคร่งครัดกับแนวทางปฏิบัติ อย่างเช่น ห้ามออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด อยู่ห่างจากคนอื่นๆ ในบ้าน 1-2 เมตร แยกห้องนอน หมอน ผ้าห่ม งดทานอาหารร่วมกันในครอบครัว พยายามแยกการใช้ห้องน้ำร่วมกับคนอื่นๆ แต่หากเป็นห้องน้ำรวมให้ทำความสะอาดหลังใช้ทันที และขอให้สังเกตอาการตัวเองว่ามีอาการไข้ หายใจหอบเหนื่อยหรือไม่ หากมีอาการให้รีบกลับไปพบแพทย์

ระยองเปิดเกาะเสม็ดแล้ว

วันเดียวกัน นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง เปิดเผยสถานการณ์ประจำวันว่าวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 10 คน รวมยอด ผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ทั้งหมด 831 คน เสียชีวิตรวม 7 ราย กักตัวกลุ่มเสี่ยง 1,592 คน จากการตรวจเชิงรุกไปแล้วทั้งหมด 31,739 คน ขณะที่ศูนย์โควิด-19 จ.ระยองประกาศ เปิดเกาะเสม็ด ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้า ท่องเที่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. เป็นต้นไป หลังจากได้ตรวจเชิงรุกและตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดแล้ว ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก ด้านนางสริญทิพญ ทิพยมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด กล่าวว่า สำหรับการเปิดเกาะเสม็ดขอให้นักท่องเที่ยวมั่นใจในความปลอดภัย พร้อมทั้งมีมาตรการรองรับในด้านความปลอดภัย ตามมาตรการของสาธารณสุขกำหนด มีการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการทั้งหมด ให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวจะได้ปลอดภัยจากโควิด-19

ผวจ.สงขลาโต้โฆษกศบค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ จากหลายโรงพยาบาลในจังหวัดสงขลา นำทีมโดย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ยังคงระดมเข้าตรวจคัดกรองเชิงรุก ในกลุ่มพนักงานโรงงานแปรรูปอาหารทะเลของบริษัทสยามอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในต.นาทับอย่าง ต่อเนื่อง เป็นวันที่ 2 ในจำนวนพนักงาน 1,500 คน หลังจากโรงงานแห่งนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวน 65 คนในรอบ 10 วัน และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาได้มีมติให้ปิดโรงงานแห่งนี้ชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ได้มีการตรวจคัดกรองไปแล้ว เกือบ 700 คน ในจำนวนนี้พบมีผู้ที่ต้องรอผลการตรวจเชื้อซ้ำ จำนวน 5 คน นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่า ในวันนี้พบผู้ป่วยจำนวน 30 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดในประเทศ 29 คน และติดเชื้อจากคนในครอบครัว ติดเชื้อจากต่างประเทศ 1 คน โดยจังหวัดสงขลามีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 1.053 คน ผู้เสียชีวิตสะสม 5 ราย นายจารุวัฒน์ยังเปิดเเผยว่าด่านตรวจคัดกรองโรค ท่าเรือน้ำลึกสงขลา ได้ตรวจคัดกรองเชื้อโควิดลูกเรือ สัญชาตินอร์เวย์ทั้ง 29 คน เมื่อวันที่ 11 พ.ค.และพบว่ามีลูกเรือ 6 คนติดเชื้อโควิด ชาวโปแลนด์ 2 คน ชาวยูเครน 2 คน ชาวอินเดีย 1 คน และชาวรัสเซีย 1 คน ผวจ.สงขลา เปิดเผยว่าได้สั่งการให้เจ้าท่าภูมิภาคสงขลากำชับให้เรือลอยลำกลางทะเลใกล้กับเกาะหนู และเปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม โดยมีแพทย์ได้ตรวจรักษาออนไลน์ทุกวัน ไม่มีการเคลื่อนย้ายลูกเรือที่ติดเชื้อทั้ง 6 รายขึ้นมารักษาบนฝั่ง ตามที่โฆษก ศบค.แถลง ขอให้ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล และขณะนี้ได้รับแจ้งจากแพทย์ที่ตรวจรักษา พบลูกเรือติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 ราย

กทม.ระวังสูงสุด15คลัสเตอร์

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. โพสต์เฟซบุ๊กผ่านเพจผู้ว่าฯอัศวิน ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในระลอกนี้ ที่ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในแต่ละวัน มีการระบาดในวงกว้างเกิดคลัสเตอร์หลายแห่ง ส่วนใหญ่มีการติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสกันในที่พัก ที่ทำงาน ซึ่งทำกิจกรรมร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทำให้มีการแพร่เชื้อสู่ชุมชน ตลาด และสถานที่ทำงาน จนทำให้เกิดกลุ่มก้อน ผู้ติดเชื้อหลายแห่งกระจายใน 19 เขต พบมากในพื้นที่กรุงเทพใต้และกรุงเทพกลาง ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เพราะหากตรวจพบ ผู้ติดเชื้อเพิ่มในพื้นที่ได้เร็ว ก็มีโอกาสควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็วมากขึ้นด้วย จากการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกและจากระบบเฝ้าระวัง ที่พบผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ใน 19 เขต มีทั้งจุดเฝ้าระวังสูงสุด จุดเฝ้าระวัง และจุดที่มีแนวโน้มควบคุมการระบาดได้ และจุดที่พบใหม่ ดังนี้ กลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด 15 คลัสเตอร์ ในพื้นที่เขตดินแดง ราชเทวี บางกะปิ ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองเตย หลักสี่ พระนคร ประเวศ บางรัก สาทร กลุ่มเฝ้าระวัง 3 คลัสเตอร์ ในพื้นที่เขตวัฒนา สวนหลวง และจตุจักร และกลุ่มที่มีแนวโน้มควบคุมการระบาดได้ 8 คลัสเตอร์ ในพื้นที่เขตทวีวัฒนา ปทุมวัน สาทร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ จตุจักร ลาดพร้าว และสวนหลวง

แคมป์คนงานก่อสร้างเพิ่มสูง

พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า ส่วนกลุ่มที่พบใหม่ 2 คลัสเตอร์ ในตลาดพื้นที่บางกอกน้อย และชุมชนในเขตห้วยขวาง โดยคลัสเตอร์ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นต่อวันของผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1.แคมป์ก่อสร้าง เขตหลักสี่ 2.แฟลตดินแดง เขตดินแดง 3.ตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง 4.คลองถมเซ็นเตอร์และวงเวียน 22 ก.ค. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และ 5.แคมป์คนงาน เขตวัฒนา ทั้งนี้กทม. ได้เร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ระบาด และสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อคัดแยกผู้ป่วยออกจากกลุ่มเสี่ยง และนำผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการรักษาพยาบาลเร็วที่สุด และเร่งฉีดวัคซีนในชุมชนและสถานที่ต่างๆ ที่มีผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด และจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้มากขึ้นและเร็วที่สุดเมื่อได้รับจัดสรรมา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือทุกๆ คน ช่วยกันดูแลป้องกันตนเอง เพื่อให้คนที่ใกล้ชิด คนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และคนอื่นๆ ปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด-19

นายกเล็กบางเสาธงติดเชื้อโควิด

จากแหล่งข่าวได้แจ้งข้อมูลว่า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางเสาธง นายอำนาจ แซ่ลี้ ติดเชื้อโควิด 19 ขณะนี้เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในย่านอำเภอบางพลี โดยเทศบาลได้ประกาศปิดสำนักงานเทศบาลตำบลบางเสาธงเพื่อฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะเปิดทำการใน วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2564 พร้อมฝากถึงผู้สื่อข่าวที่มีโอกาสเข้าทำข่าวและใกล้ชิดตัวนายก ในระยะที่ผ่านมา ให้สังเกตอาการและเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วย ขณะที่เทศบาลตำบลบางเสาธงได้ออกหนังสือประกาศ ปิดทำการสำนักงานเทศบาลตำบลบางเสาธง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตราย มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบุคลากรของเทศบาลบางเสาธงติดเชื้อโรคโควิด-19 จึงทำให้บุคลากรหลายรายเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เพื่อเพิ่มมาตรการในการป้องกันและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้มาติดต่อราชการ เทศบาลตำบลบางเสาธง จึงขอปิดทำการสำนักงานเทศบาลตำบลบางเสาธง เพื่อพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 18-21 พ.ค.

อยุธยาป่วยเพิ่มอีก 11 ราย

วันเดียวกัน นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 11 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 654 ราย รักษาตัวตามโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และฮอสพิเทลหรือศูนย์พักฟื้นผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 294 ราย รักษาตัวหายแล้ว 296 ราย โ นพ.พีระกล่าวต่อว่าผู้ป่วยทั้ง 11 ราย จากการการสอบสวนโรค พบว่าเป็นการสัมผัสรับเชื้อมาจากเพื่อนร่วมงานที่โรรงาน และที่บริษัท มาติดเชื้อคนในครอบครัว มีเด็ก อายุ 7 ขวบ และ 11 ขวบ โดยยังมีการพบผู้ป่วยบางรายมีการทำกิจกรรมและเดินทางไปหลายพื้นที่ จึงไม่ทราบว่ามีการติดเชื้อมาจากการทำกิจกรรมหรือการเดินทางไปในพื้นที่ใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน