ฝ่ายค้านลุยตรวจสอบ
ก้าวไกลแฉงบกองทัพ
ซุกจัดซื้ออาวุธ2หมื่นล.
ป้อมโต้แม้วไม่ใช่รบ.7ปี

‘ขุนคลัง’ ชิ่งสื่อ ไม่ตอบปมรัฐบาลออกพ.ร.ก. กู้เงินเพิ่ม 7 แสนล้านแก้โควิด-ฟื้นเศรษฐกิจ สะพัดเหตุเงินกู้เดิม 1 ล้านล้าน เหลือแค่1.6 หมื่นล้าน แต่โควิดยังยืดเยื้อ กระทบจัดเก็บรายได้ ‘บิ๊กป้อม’ ยันใช้งบช่วยคนเดือดร้อน ทุกอย่างโปร่งใส ฝ่ายค้านฮึ่มตรวจสอบ ซัด ‘บิ๊กตู่’ ใช้งบฟุ่มเฟือย ก้าวไกลแฉอีกร่างพ.ร.บ.งบปี 65 กองทัพสร้างงบผูกพันจัดซื้ออาวุธ 2 หมื่นล้าน โฆษกรัฐบาลแจงวุ่น ยันงบกลาโหมไม่มากกว่าสาธารณสุข ‘ประวิตร’ โต้ ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ อ้างรัฐบาลเพิ่งอยู่ได้ 2 ปี อย่านับรวมยุค คสช. กลุ่มนกหวีดบี้ซ้ำนายกฯ ต้องลาออก เปิดทางตั้งรัฐบาลสร้างชาติ

‘บิ๊กป้อม’โยนคลังแจงกู้ 7 แสนล.

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีรายงานข่าวที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาวาระลับเรื่องที่กระทรวงการคลังเสนอขออนุมัติ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา วงเงิน 700,000 ล้านบาทว่า ตนยังไม่รู้ในรายละเอียด ให้รัฐบาลและกระทรวงการคลังเป็นผู้ชี้แจง รายละเอียด ตนจะไปเกี่ยวข้องอะไร

ต่อข้อถามว่าก่อนหน้านี้นายกฯ ยืนยันรัฐบาลมีเงินเพียงพอแก้ไขปัญหาโควิด-19 แต่ทำไมยังกู้เพิ่ม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้กระทรวงการคลังชี้แจง ยืนยันทุกอย่างรัฐบาลทำด้วยความโปร่งใส ช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก ให้ทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ได้รับการช่วยเหลือ รวมถึงการ เตรียมการเรื่องวัคซีน เตรียมไว้แล้ว 150 ล้านโดส เพื่อให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนทุกคน ไม่ต้องห่วง ขออย่าห่วงเรื่องการฉีดวัคซีน

‘อู๊ดด้า’เผยใช้ฟื้นฟูศก.-เยียวยา

ที่ศูนย์ลานกีฬาชุมชนห้วยขวาง นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกระแสข่าวครม.พิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาทว่า วงเงินดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 30,000 ล้านบาทแรก จะใช้แก้ปัญหาโควิด-19 ทั้งการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม การจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ และ 400,000 ล้านบาทเพื่อเตรียมชดเชยเยียวยา เพิ่มเติม ส่วนอีก 270,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่าที่ประชุมครม.อนุมัติร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวแล้วใช่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หรือนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ เป็นผู้ชี้แจง

นายจุรินทร์กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วาระแรก ในวันที่ 31 พ.ค.ถึง 2 มิ.ย.ว่า มั่นใจว่า ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ แม้ฝ่ายค้านจะเตรียมการอภิปรายอย่างเข้มข้น เพราะฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว และเมื่อพิจารณางบ ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบ ติดตาม เป็นเรื่องปกติ ซึ่งรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมีหน้าที่ชี้แจงโดยนายกฯ กำชับแล้วและจะเป็นผู้ชี้แจงในภาพรวม

บิ๊กคลังรูดซิปปากเข็นกม.กู้เงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บริหารกระทรวงการคลังต่างปฏิเสธที่จะชี้แจงกรณีครม. เห็นชอบพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 7 แสนล้านบาท โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เลี่ยงตอบคำถาม กล่าวเพียงว่า คิดถึงผู้สื่อข่าว ก่อนรีบเดินเข้าลิฟต์ที่สำนักปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อขึ้นไปห้องทำงาน

ส่วนนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผอ. สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ว่า มีประชุม

เผย 1 ล้านล.เหลือแค่ 1.6 หมื่นล.

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความจำเป็นที่ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.ก.ดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เนื่องจากพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่กำหนดให้มีการกู้เงินเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. 2564 เหลือวงเงินเพียง 1.65 หมื่นล้านบาท ขณะที่โควิดยังยืดเยื้อ และการระบาดยังส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บ รายได้รัฐบาลปี 2563 ต่ำกว่าประมาณการ 3.43 แสนล้านบาท โดยปี 2564 การจัดเก็บรายได้ยังคงได้รับผลกระทบ กระทรวงการคลังจึงเห็นควรกำหนดกรอบวงเงินเพื่อรองรับสถานการณ์ไว้ไม่เกิน 7 แสนล้านบาท เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปี 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประมาณการไว้อีก 1.5 เปอร์เซ็นต์ โดยมีกรอบการใช้จ่ายคือ 1.จัดหาวัคซีน 3 หมื่นล้านบาท 2.เยียวยาผลกระทบ 4 แสนล้าน และ 3.ฟื้นฟูเศรษฐกิจอีก 2.7 แสนล้านบาท

ชี้หนี้สาธารณะยังไม่เกินเพดาน

การดำเนินการกู้เงินของรัฐบาลภายใต้ร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้ เมื่อรวมกับประมาณการการกู้เงินอื่น ตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะแล้ว จะส่งผลให้สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ช่วงสิ้นเดือน ก.ย.2564 จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 9,381,428 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 58.56 เปอร์เซ็นต์ ของจีดีพี ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี

ทั้งนี้ หลังจาก ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.ก. ดังกล่าวแล้ว จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างกฎหมายเร่งด่วนต่อไป และมอบให้สำนักงบประมาณตั้งงบประมาณปี 2565 เพื่อชำระดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายกู้เงิน การออก และการจัดการตราสารหนี้ภายใต้พ.ร.ก.ดังกล่าว

กมธ.แนะปรับกลไกบริหารเงิน

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้จากพ.ร.ก.จำนวน 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขและฟื้นฟูปัญหาโควิด-19 กล่าวถึงรัฐบาลเตรียมออก พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท เพื่อนำมาแก้โควิด-19 ว่า หากรัฐบาลจำเป็นต้องกู้ ตนก็เห็นด้วยเพราะการระบาดของโควิดรอบที่ 3 มีผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วย ที่ผ่านมารัฐบาลกู้รอบแรกมาแล้ว 1 ล้านล้านบาทเพื่อใช้เยียวยา ฟื้นฟู และด้านสาธารณสุข มีการเบิกจ่ายเกือบเต็มวงเงินกู้แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าการใช้เงินยังล่าช้า เบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ที่สำคัญการใช้จ่ายงบเงินกู้ไม่เกิดประสิทธิภาพ ดังนั้น หากจะกู้มาอีก 7 แสนล้านบาท รัฐบาลจะต้องปรับเปลี่ยนกลไกการใช้เงิน ทั้งหน่วยงานควบคุมเงินกู้ การตรวจสอบ การเบิกจ่าย จะต้องทำให้การใช้เงินเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ถึงมือประชาชน และสามารถฟื้นฟู เยียวยาได้อย่างแท้จริง

ฝ่ายค้านจ่อสอบเงินกู้ 7 แสนล้าน

ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงครม.เห็นชอบพ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาทว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงว่า กู้เงินไปแล้วเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง เอาไปใช้แก้ไขโควิด-19 หรือจะใช้เพื่อรัฐบาลเอง หากไม่ชอบมาพากลก็พร้อมตรวจสอบทันที

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวถึงการจัดสรรงบของกองทัพว่า เป็นไปได้อย่างไรที่งบของ กองทัพจะมากกว่ากระทรวงสาธารณสุข จะไปรบกับใคร ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบฟุ่มเฟือย ใช้ตามใจตัวเอง และนำไปบำเรอความสุขให้ทหาร เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ประชาชนเดือดร้อนไปหมด ส่วนงบจัดซื้อยุทโธปกรณ์ที่ยังคงมีอยู่นั้น เชื่อว่าฝ่ายค้าน ทุกพรรคไม่ยอมในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ซึ่งการบริหารประเทศต้องใช้งบไปที่คนเป็นหลัก ไม่ใช่อาวุธยุทโธปกรณ์ แบบนี้บ้านเมืองจะเจริญได้อย่างไร ตอนนี้คงแก้อะไรไม่ได้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เป็นรมว.กลาโหม จึงต้องเอาทหารไว้ก่อน ซึ่งงบต่างๆ มักลงไปที่ทหารทั้งที่ไม่จำเป็น ตนจะตรวจสอบการจัดทำงบของกองทัพเพื่อให้เข้ารูปเข้ารอย ถ้าอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงให้เอาตนไปเป็นรมว.กลาโหม แล้วจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่ใช่ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์

เมื่อถามถึงการตรวจสอบบ้านพักพล.อ.ประยุทธ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า จะเข้าไปตรวจสอบแน่นอนเพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งต้องลงไปดูที่เกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ทำหนังสือ

ชัชชาติอึ้งโครงการไม่เกี่ยวโควิด

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ โพสต์ เฟซบุ๊กในประเด็นเงินกู้ว่า เช้านี้เห็นข่าว ครม.ประชุมลับเตรียมออก พ.ร.ก.กู้เงินสู้โควิดอีก 7 แสนล้านบาท เนื่องจากพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทเดิม มีการใช้เกือบเต็มวงเงินแล้ว การกู้เงินมาใช้ช่วยเหลือประชาชนในวิกฤตโควิด เป็นเรื่องจำเป็นที่หลายประเทศทั่วโลกก็ทำกัน แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นการใช้เงินอย่างคุ้มค่าเพราะหน้าตักเราจะหมดแล้ว

นายชัชชาติระบุด้วยว่า ลองไปดูว่ารัฐใช้เงินกู้ก้อนแรก 1 ล้านล้านบาท ดูโครงการที่ครม.อนุมัติแล้วได้ในเว็บไซต์ สภาพัฒน์ ข้อมูลในนี้มี 257 โครงการ วงเงิน 797,667 ล้านบาท มีหลายโครงการไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับโควิดอย่างไร เช่น โครงการเฝ้าระวังสร้างแนวกันไฟสร้างรายได้ชุมชน 246 ล้านบาท โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) 10,629 ล้านบาท โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด 13,904 ล้านบาท ถ้าเป็นโครงการปกติที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนสำหรับแก้วิกฤตโควิดจริงๆ ก็ควรใช้งบปกติ เพื่อให้มีการตรวจสอบได้บ้าง เงินกู้เหล่านี้สุดท้ายประชาชนต้องเป็นคนจ่ายคืนทุกบาท หวังว่าจะใช้กันอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์กับประชาชนจริงๆ

โฆษกแจงงบกห.ไม่มากกว่าสธ.

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงถึงเสียงวิจารณ์ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 65 ที่กระทรวงกลาโหม (กห.) ได้มากกว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) 5 หมื่นล้านบาทว่า คงไม่สามารถดูเฉพาะงบที่ กห.ได้อย่างเดียว ตัวเลขงบที่กห.ได้ปี 65 ระบุตัวเลขไว้ 2 แสนล้านบาท ขณะที่ สธ.ได้ 1.53 แสนล้านบาท ซึ่งตัวเลขที่ต่างกันนี้ อาจทำให้ฝ่ายค้านเข้าใจผิด เพราะ สธ.ตั้งงบภายในกระทรวงเอง มีหน่วยงานอื่นภายใต้กระทรวงแต่ไม่ได้ขอรับงบผ่านกระทรวง แต่เป็นการของบโดยตรง ยกตัวอย่าง การตั้งงบของ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มีตัวเลขงบทั้งสิ้นอีก 1.4 แสนล้านบาท

ดังนั้น ค่ารักษาพยาบาลและการบริการทางการแพทย์จะรวมมากกว่า 3 แสนล้านบาท ทำให้งบดูแลเรื่องสุขภาพประชาชนมีมากกว่า กห. อีกเกือบ 1 แสนล้านบาท นอกจากนี้งบ กห. ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับบุคลากรและอัตรากำลังพลต่างๆ ทั่วประเทศ ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เช่น บริเวณชายแดน จึงอยากเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรต่างๆ ที่ทำหน้าที่กันอย่างเข้มแข็งในปัจจุบันด้วย

ก้าวไกลอัดกลาโหมพรางงบ

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 ว่า งบประมาณลดลงเหลือ 3.1 ล้านล้านบาท หรือลดลง 5.7 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2564 ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการนายกฯ (PMOC) เผยแพร่ภาพเปรียบเทียบถึงงบด้านสาธารณสุขว่า เพิ่มขึ้นและมากกว่ากลาโหม ทั้งยังอธิบายอีกว่ากลาโหมลดงบลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีงบ 2563-2565 ซึ่งเป็นการโฆษณาชวนเชื่ออย่างน่าละอาย เป็นการลวงว่าลด แต่ไม่ได้ลด

นายพิจารณ์กล่าวว่า ในร่าง พ.ร.บ.งบปี 2565 แม้งบกลาโหมจะลดลง 5.24 เปอร์เซ็นต์ แต่งบบุคลากรของกลาโหมกลับเพิ่มขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ตามเอกสารงบเล่มขาวคาดแดงของกลาโหม ด้วยข้ออ้างด้านความมั่นคง จึงไม่สามารถเห็นรายการอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จัดซื้อได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบยอดงบประมาณในโครงการผูกพันข้ามปีของเอกสารงบปี 2563 2564 และ 2565 ทำให้เชื่อได้ว่ากองทัพเรือยังคงเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำต่อไป แม้ประเทศจะอยู่ในวิกฤตงบประมาณ

แฉผูกพันซื้ออาวุธ 2 หมื่นล้าน

เมื่อส่องดูงบซื้ออาวุธแบบปีเดียว กองทัพบกตั้งงบเพิ่มขึ้น 9.23 เปอร์เซ็นต์ และกองทัพเรือเพิ่มขึ้นถึง 2.6 เท่า จากปี 2564 ในส่วนของงบซื้อยุทโธปกรณ์ที่ผูกพันข้ามปี ทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ ยังมีโครงการใหม่ที่ผูกพันงบตั้งแต่ปี 2565-2567 รวมมูลค่าโครงการตลอด 3 ปี อีก 9,073 ล้านบาท โดยเป็นปีงบ 2565 จำนวน 882 ล้าน และ 933 ล้าน นอกจากนั้นทั้ง 3 เหล่าทัพ บวกกับกองบัญชาการกองทัพไทย ยังมีงบซื้อยุทโธปกรณ์ที่ผูกพันข้ามปี ค้างตั้งแต่ปี 2560-2569 อีก 70 โครงการ และเป็นงบที่ต้องจ่ายในปีงบ 2565 กว่า 24,218 ล้านบาท

“จะดีกว่าไหม ถ้าเราไม่ซื้อเรือดำน้ำ แต่นำงบไปเพิ่มให้กับงบบัตรทองที่ถูกตัดไป 1,800 ล้านบาท จะดีกว่าไหมถ้าเราจะยอมทนใช้อาวุธเก่าไปอีกสักปี เพื่อนำงบไปช่วยนักเรียนผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ซึ่งถูกตัดงบไป 432 ล้านบาท จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะไม่ซื้ออาวุธใหม่ที่กระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศผู้ผลิตอาวุธ แต่นำเงินไปลงทุนอบรมทักษะใหม่ๆ ให้คนที่ตกงาน ให้พวกเขาหางานใหม่ได้ง่ายขึ้น จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะมีรัฐบาลใหม่ ที่จัดงบแบบเห็นหัวประชาชนมากกว่านี้” นายพิจารณ์กล่าว

จี้เปลี่ยนตัวนายกฯ มาบริหารงบ

นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาทว่า จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท รัฐบาลอนุมัติเกือบเต็มวงเงิน แต่ข้อสังเกตคือเงินก้อนนี้มีการเบิกจ่ายล่าช้ามาก การตั้งโครงการก็อิงการเมือง ไม่มีวิสัยทัศน์ มีความเสี่ยงที่โครงการจะไม่บรรลุเป้าหมาย ไม่คุ้มค่ากับงบ ขณะที่ พ.ร.ก.กู้เงินฉบับใหม่ยังคงถูกวางกรอบไว้เหมือนเดิม คือด้านสาธารณสุข 30,000 ล้านบาท เยียวยา 400,000 ล้านบาท และฟื้นฟู 270,000 ล้านบาท ถ้ารัฐบาลทำเหมือนเดิม คือการทำโครงการเบี้ยหัวแตกและรวมศูนย์อำนาจในการอนุมัติ ผลลัพธ์ย่อมไม่ต่างไปจากปีที่แล้ว

“หวังว่ารัฐบาลจะยอมรับและเรียนรู้ความผิดพลาดที่ผ่านมา การกู้เงิน 7 แสนล้านบาท ต้องไม่ทำแบบที่ผ่านมา อยากให้ประชาชนจับตาดูว่ารัฐบาลจะยอมรับและเปลี่ยนแนวทางบริหารภาษีของเราหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ เราควรเปลี่ยนตัวนายกฯ เสียแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ผู้ที่มีวิสัยทัศน์และมีศักยภาพมากกว่านี้มาเป็นผู้บริหารงบ” นายวรภพกล่าว

เพื่อไทยซัดรัฐบาลเล่นขายของ

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศยกเลิกการเปิดจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบวอล์กอินว่า ตอกย้ำความล้มเหลว การทำงานที่ไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาลในสถานการณ์วิกฤตโรคระบาด ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข เพิ่งประกาศว่าเตรียมเปิดจุดฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินในเดือนมิ.ย.นี้ รัฐบาลเป็นต้นเหตุสร้างความสับสน ให้ข่าวสารขัดแย้งกันเองหลายครั้ง โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ทั้งที่ควรให้ข้อมูลตรงไปตรงมาและรอบด้าน

“โควิด-19 เกิดขึ้นในไทยมาแล้ว 1 ปี ส่วน พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศมา 7 ปี แต่การบริหารจัดการยังกลับไปกลับมา เหมือนเด็กเล่นขายของ ไม่แปลกใจหากสิ่งที่เกิดขึ้นจะลดทอนความศรัทธาที่ประชาชนเคยมีต่อรัฐบาลหมดสิ้นไม่เหลือแล้ว” น.ส.อรุณีกล่าว

ทักษิณถาม‘บิ๊กตู่’เบื่อหรือยัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 18 พ.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ร่วมเสวนาใน CARE Clubhouse x CARE Talk #เป็นไงวัยรุ่น:ปลดล็อกยูนีคสกิล สู่ยุคใหม่ของวัยเยาวรุ่น กับ โทนี่ วู้ดซัม โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งนี้ ประชาชนได้สอบถามนายทักษิณ เรื่องการทำรัฐประหารว่าจะมีปัจจัยอะไรที่สนับสนุนให้เขาอยู่ หรือไม่อยู่ได้ นายทักษิณตอบว่า ต้องไปถาม อดีตผบ.ทบ.ว่า ตอนที่ตัดสินใจทำรัฐประหาร 7 ปีที่แล้ว สถานการณ์ตอนทำรัฐประหาร กับตอนนี้ สถานการณ์ไหนน่าทำรัฐประหารมากกว่ากัน ซึ่งต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลัก ตอนนี้คนเดือดร้อนมาก ไม่ใช่เอาเงินไปแจกแล้วหายเดือดร้อน รัฐบาลต้องรีบแก้ ถ้าแก้ไม่เป็นก็ให้คนอื่นทำ เขาขอสัญญาว่าจะอยู่ไม่นาน ต้องเอาเพลงมาเปิดให้เขาฟังบ่อยๆ เพราะเขาชอบฟังเพลง

“ปัญหาคือ ถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตย ศรัทธาประชาชนไม่มีแล้ว ต้องให้ประชาชนตัดสินใจ ท่านไม่ได้มาด้วยวิถีประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญแบบนี้ สร้างความแข็งแกร่งให้เก้าอี้นายกฯ แต่สร้างความอ่อนแอให้ประเทศ ต้องถามว่า ตู่เบื่อยัง ถ้าไม่เบื่อเขาก็อยู่ได้” นายทักษิณกล่าว

ปูชี้รัฐประหาร 7 ปี-ปท.ไม่ดีขึ้น

นายดวงฤทธิ์ บุนนาค ผู้ดำเนินการเสวนา ถามว่า คือศรัทธาไม่มี ก็ต้องยุบสภา ให้ประชาชนตัดสินใช่หรือไม่ โทนี่กล่าวว่า ตามหลักก็เช่นนั้น ต้องให้ประชาชนตัดสิน

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวเสริมว่า 7 ปีแล้ว ทุกครั้งที่มีรัฐประหาร ตั้งแต่ครั้งแรก จนครั้งนี้ ก็ไม่มีอะไรที่ดีให้ประเทศ เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ประเทศสูญเสียไปเยอะ เศรษฐกิจแก้ไม่ได้ อนาคตก็วางไม่ได้ เพราะขาดความต่อเนื่อง ยิ่งเจอปัญหาซ้ำเติมเรื่องโควิด เราจะอยู่ได้อย่างไร เหตุผลที่จะปฏิวัติที่จะคืนความสุขให้ประชาชน ตอนนี้ความสุขของประชาชนอยู่ที่ไหน

“เราเศร้า สำหรับประเทศ เรา 2 คน อดทนได้”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว โดยนายทักษิณ กล่าวแทรกว่า สบาย

‘บิ๊กป้อม’โต้-ยันรัฐบาลเพิ่งอยู่ 2 ปี

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ ให้ลาออกจากตำแหน่งและเสนอให้นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นนายกฯแทนว่า ทำได้หรือไม่ เป็นเรื่องของสภา ก็ไปทำ ทำได้หรือไม่ ก็แล้วแต่

เมื่อถามถึงนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งคำถามว่ารัฐบาลอยู่มา 7 ปี เบื่อแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวเสียงดังว่า รัฐบาลอยู่มา 2 ปีเท่านั้น 7 ปีที่ไหน เมื่อถามว่านายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ นับรวมช่วงคสช.ด้วย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “คสช.ก็คสช. นี่รัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญจะไปนับรวมได้อย่างไร”

นกหวีดจี้ตั้งรบ.สร้างชาติแก้โกง

ที่อาคารพญาไทพลาซ่า กลุ่มประชาชน คนไทย (ปท.) นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ออกแถลงการณ์เรื่อง วาระประชาชน :หยุด 3 ป. โมเดลแก้ทุจริต แห่งชาติว่า ผ่านมา 7 ปี ภาพลักษณ์ด้านทุจริตของไทยภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ตกต่ำลงอย่างหนัก ตอกย้ำความล้มเหลว ขอย้ำว่าวาระแห่งชาติที่สำคัญสุดเวลานี้คือ พล.อ. ประยุทธ์ ต้องเสียสละลาออก เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลสร้างชาติเข้ามาแก้ทุจริตโดยเร็วที่สุด จัดการกับนักการเมืองที่พัวพันการทุจริตให้ออกจากตำแหน่งทันที ต้องชำระสะสางให้เสร็จภายใน 1 เดือน

นายนิติธรกล่าวว่า การที่นายกฯระบุให้การแก้ทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ เป็นเพียงมายาภาพทางการเมือง เพื่อสร้างภาพให้ดูดี ถ้าเอาบุคคลที่มีข้อสงสัยเรื่องมาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองหรือประพฤติมิชอบ วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.ประวิตร น่าจะพ้นจากตำแหน่ง แต่พล.อ.ประยุทธ์ทำไม่ได้ นี่คือหนึ่งเหตุผลที่ตนอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก เพราะไม่มีความสามารถและบารมีเพียงพอ หากจะต่ออำนาจทางการเมืองกันก็เอา พล.อ.ประวิตร หรือ ร.อ.ธรรมนัส มาเป็นนายกฯ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน