แคมป์คนงานหลักสี่ ‘หมอธี’เตือน-เชื้อลงลึก ตรวจทางจมูกก็ไม่เจอ พัทยาโวยได้วัคซีนน้อย ขยาย‘ฉุกเฉิน’ยาว31กค.

แตกตื่นแคมป์คนงานหลักสี่ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย ตรวจพบแล้ว 36 ราย สธ.เร่งสอบสวนหาต้นตอ ถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อ ระบุเบื้องต้นวัคซีนแอสตร้าฯ – ซิโนแวคมีประสิทธิภาพคุมได้ แต่ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม ที่ปากน้ำวันเดียวติดเชื้อ 457 ราย พบคลัสเตอร์โรงงานอาหารทะเลมากสุด 369 ราย ศบค.เผยติดเชื้อรายวันอีก 3,481 ราย มีนักโทษในคุก 842 ราย ตายเพิ่ม 32 ราย พร้อมขยาย‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ 2 เดือนรวด จนถึงสิ้นก.ค. โคราชวุ่น ‘ผกก.ปักธงชัย’ ติดโควิดทั้งที่เพิ่งฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็ม 2 ได้ไม่กี่วัน ดีเดย์ฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 7 มิ.ย. ไทยสั่งซื้อวัคซีนเพิ่ม 37 ล้านโดส มีจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และไฟเซอร์ด้วย

ศบค.ขยาย‘ฉุกเฉิน’2 เดือนรวด

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกฯ และรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 7/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่มีข้อสรุปให้ขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 12 โดยเห็นชอบให้ขยายตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.- 31 ก.ค.2564 โดยเหตุผลเพื่อการควบคุมโรคระบาด โควิด-19 เป็นหลัก

ให้ใส่หน้ากากช่วงประชุมสภา

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า การขออนุมัติให้มีมาตรการด้านสาธารณสุขในการจัดการประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 พ.ศ.2564 จะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค. โดยทางกรุงเทพฯ นำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม และได้รับความเห็นชอบในมาตรการป้องกันโรคในการจัดประชุมรัฐสภาตามที่เสนอ ที่สำคัญคือให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าตลอดการประชุม ยกเว้นกรณีที่ผู้ควบคุมการประชุมจะผ่อนผันให้ไม่ใช้ในขณะที่มีการอภิปรายเป็นการชั่วคราวในบางคราวได้ แต่ถึงอย่างไรขอให้ใช้ตลอดเวลา อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือการจัดวัคซีนให้กับผู้ที่ทำงานอยู่ในรัฐสภา โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีน 2,000 โดสเพื่อให้มีการฉีดในช่วงก่อนที่จะมีการประชุมหรือระหว่างเริ่มเปิดประชุม โดยเริ่มฉีดในวันที่ 21-25 พ.ค. 2564

คุมเข้ม 4 จว.สีแดง

“ศบค.รับทราบตามที่ศปก.ศบค.อนุมัติเรื่องการเลื่อนการเปิดเทอมออกไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร เสนอเป็นกรณีไปในบางพื้นที่ แล้วจัดให้มีการเรียนการสอนผ่านสื่อออนไลน์ ส่วนมติศบค.วันเดียวกันนี้ ให้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ยังคงไม่อนุญาตให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไซต์ ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด ให้ใช้อาคารได้ แต่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และให้จัดการเรียนการสอนผ่านสื่อออนไลน์ ออนไซต์ได้ ทั้งนี้ให้ทางโรงเรียนประเมินความพร้อม ส่วนพื้นที่ควบคุม 56 จังหวัดให้จัดการเรียนการสอนได้ ให้มีการรวมกลุ่มคนแต่จะต้องมีการกำหนดมาตรการ หรือจัดให้มีการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ก็ได้” ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการนำเสนอการวางแผนมาตรการแนวปฏิบัติของสถานศึกษาเพื่อดำเนินการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 14 มิ.ย. 2564 ย้ำให้สถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด ขณะเดียวกันโรงเรียนจะต้องประเมินความพร้อม ไทยสต็อปโควิด ที่เป็นแบบประเมินตนเองเพื่อให้โรงเรียนต่างๆ มั่นใจต่อผู้ปกครองและนักเรียนว่าจะดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลและส่วนภาพรวมได้และหลังจากประเมินแล้วขอให้ทางโรงเรียนขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเพื่อเปิดเรียนอย่างเต็มรูปแบบขึ้นมา ซึ่งนี่คือสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการขออนุมัติหลักการในการดำเนินการจากที่ประชุมศบค.








Advertisement

ติดเชื้อโควิดอีก 3,481

เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยติดเชื้อรายใหม่ 3,481 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในร.พ. 1,644 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 874 ราย มาจากเรือนจำและที่ต้องขัง 951 ราย และเดินทางจากต่างประเทศ 12 ราย รักษาหายเพิ่ม 2,868 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 123,066 ราย หายป่วยสะสม 79,504 ราย ส่วนระลอกใหม่ เม.ย.64 เป็นต้นมา ติดเชื้อสะสม 94,203 ราย หายป่วยแล้ว 52,078 ราย เสียชีวิตสะสม 641 ราย ยังรักษาอยู่ 42,827 ราย อยู่ในร.พ. 17,892 ราย น้อยกว่าร.พ.สนามซึ่งมี 24,935 ราย อาการหนัก 1,248 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 408 ราย ฉีดวัคซีนแล้ว 2,648,256 โดส เข็มแรก 1,726,431 ราย และเข็มสอง 921,825 ราย

ตายอีก 32-มีหญิงท้องด้วย

มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 32 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 15 ราย อยู่ใน กทม. 15 ราย นนทบุรี 6 ราย สมุทรสาคร 2 ราย นครปฐม พัทลุง สุรินทร์ นครราชสีมา ยะลา สมุทรปราการ ร้อยเอ็ด พังงา นครศรีธรรมราช จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว สาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่ติดจากคนในครอบครัว อย่างไรก็ตาม จำนวนนี้เป็นหญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ 1 ราย ผู้เสียชีวิตอายุน้อยสุดคือ 21 ปี ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 735 ราย ทั้งนี้ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 21 พ.ค. ได้แก่ กทม. 1,036 ราย สมุทรปราการ 457 ราย นนทบุรี 163 ราย ปทุมธานี 162 ราย ชลบุรี 127 ราย เพชรบุรี 77 ราย ระนอง 54 ราย ตาก 45 ราย สมุทรสาคร 40 ราย สงขลา 36 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 165,842,599 ราย เสียชีวิตสะสม 3,444,656 ราย

คลัสเตอร์ – เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค เคลื่อนย้ายแรงงานติดเชื้อโควิด จำนวน 279 คน ออกจากแคมป์ก่อสร้างอิตาเลียนไทย ย่านหลักสี่ กทม. ส่งรักษาตัว ล่าสุดตรวจคนงานทั้งแคมป์พบติดเชื้อ ถึง 1,107 คน เมื่อวันที่ 21 พ.ค.

แคมป์หลักสี่ 15 คนติดพันธุ์อินเดีย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุมรายงานสถานการณ์การระบาดใน กทม. ระหว่างวันที่ 22 เม.ย.-20 พ.ค.ว่า การระบาดมีทั้งหมด 35 คลัสเตอร์ กระจายตัวอยู่ใน 23 เขตและที่ระบาดหนักอยู่ใจกลาง กทม. ได้แก่ คลองเตย ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก ป้อมปราบศัตรูพ่าย หลักสี่ ดินแดง และนายกฯ ได้รับทราบว่ามีการตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่แคมป์คนงานก่อสร้างหลักสี่ โดยมี 15 รายที่ตรวจพบว่าเป็นการติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย ขณะนี้ โรงพยาบาลดูแลอย่างดี มีการส่งทีมสอบสวนโรคเข้าไปดูแลและควบคุมป้องกันการติดเชื้อ หลังมีหลายประเทศพบสายพันธุ์อินเดียระบาด ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังกำชับให้กระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และมอบหมายให้ศูนย์บูรณาการแก้ไขโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข และคณะที่ปรึกษาด้านสาธารณ สุข ให้ร่วมมือทำงานกับทุกภาคส่วน โดยมีจุดมุ่งเน้นดังต่อไปนี้ คือ เน้นตรวจสอบสภาวะอนามัยในแคมป์คนงานที่ยังไม่มีการติดเชื้อ จัดระเบียบตลาดนัด ร้านค้า ชุมชน ดูแลสุขภาวะอนามัยในร้านอาหาร ผู้ขับรถขนส่งอาหาร จัดระเบียบการเดินทางขนส่งสาธารณะทุกประเภท และเน้นย้ำมาตรการเวิร์ก ฟรอม โฮมของทุกหน่วยงานว่ามีปฏิบัติกันอย่างจริงจังหรือไม่ “สายพันธุ์อินเดียทำให้เกิดการแพร่ระบาดจำนวนมาก ตอนนี้มีรายงานในหลายประเทศ ของเราก็เริ่มมีเข้ามา ในการเจาะลงข้อมูล รายละเอียด ปลัดสธ. อธิบดีกรมควบคุมโรคจะให้ข้อมูลเชิงลึกต่อไป แต่นายกฯ รับทราบแล้ว และให้สธ.ทำหน้าที่อย่างเต็มที่” นพ.ทวีศิลป์กล่าว นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สถานการณ์กทม.มีความเฉพาะและซับซ้อน จึงให้ศูนย์แก้ไขสถานการณ์โควิดในกทม.และปริมณฑล คณะที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข ร่วมกันทำงานทุกภาคส่วนทั้งกทม. กรมควบคุมโรคให้มีจุดเน้น คือ 1.มีการตรวจสภาวะสุขภาวะอนามัยของค่ายที่พักคนงานที่ยังไม่มีการติดเชื้อ ควบคุมไม่ให้มีการข้ามเขตระหว่างค่ายพักคนงาน 2.จัดระเบียบตลาดนัดร้านค้าในชุมชน 3.ดูแลเรื่องสุขอนามัยผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงพนักงานส่งอาหารตามบ้าน 4.จัดระเบียบการเดินทางของระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท และ 5.เน้นการทำงานที่บ้าน ต้องกำกับว่าทำอย่างจริงจังหรือไม่ “เรื่องของมาตรการบทเรียนประเทศจีนที่ประสบความสำเร็จการจัดการที่อู่ฮั่น มี 4 ยุทธศาสตร์แบ่งตามสภาพความเสี่ยงและปัญหา คือ 1.ยังไม่มีการระบาด ป้องกันอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่ 2.พื้นที่ที่เริ่มมีผู้ป่วย ใช้มาตรการค้นหาควบคุมการระบาดในพื้นที่ป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อต่อ 3.พื้นที่ระบาดเป็นกลุ่ม ควบคุมแพร่โรคให้มากที่สุด ป้องกันแพร่ไปที่อื่น ให้การรักษาอย่างดีที่สุด และ 4.มีการระบาดอย่างมาก ดูแลผู้ป่วยเป็นหลัก ควบคุมการแพร่เชื้อ ควบคุมให้อยู่ที่บ้านเป็นหลัก ไทยเราก็ใช้ในหลายประเด็นก็ขอให้ช่วยกันบูรณาการการทำงาน เปิดโอกาสภาคเอกชนมาร่วมบริหารจัดการอย่างดีที่สุด” นพ.ทวีศิลป์กล่าวและว่า นายกฯ ห่วงจำนวน ผู้เสียชีวิตรายวัน แม้แต่รายเดียวก็เป็นความสูญเสียไม่อยากให้เกิดขึ้น ขอให้ฝ่ายการแพทย์ กทม. กรมการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ต่างๆ และ ร.พ.เอกชน ร่วมกันวางยุทธศาสตร์การดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างดีที่สุด

ดีเดย์ฉีดวัคซีน-วาระชาติ 7 มิ.ย.

โฆษกศบค. กล่าวต่อว่า แผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 ที่เสนอโดยปลัดสธ.นั้น นายกฯ ระบุว่าแผนสำคัญที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ จะเริ่มต้นฉีดคือวันที่ 7 มิ.ย. มี 3 ช่องทางกระจายวัคซีนคือ 1.ผ่านระบบหมอพร้อม ผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มเสี่ยง ส่วนต่ำกว่า 60 ปีเริ่มเปิด 31 พ.ค. เป็นช่องทางเดิม 2.ผ่านจุดบริการคือออนไซต์ เพิ่มจากระบบหมอพร้อม คล้ายกับการจองร้านอาหาร ถ้าจองได้ ไปก็มีที่นั่ง แต่ถ้าไม่ ก็ต้องไปยืนหน้าร้านและรอบัตรคิว ถ้ามีโต๊ะก็ได้เข้าไป ถ้ามีเพียงพอจะฉีดวันนั้นเลย ถ้าไม่มีก็วางคิวให้วันถัดไป และ 3.การกระจายให้กลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้ไปแล้วจะให้จนครบ กลุ่มเสี่ยงต่างๆ จำเป็นสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจการดำเนินชีวิตประชาชน เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ หากมีสมาคมกลุ่มบุคคลใดที่จำเป็นเร่งด่วน สามารถยื่นให้สธ.พิจารณาจัดสรรวัคซีนและจัดเตรียมสถานที่ฉีดต่อไป จะเป็น 3 ช่องทางหลักและเป็นช่องทางกระจายวัคซีน นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า นายกฯ ยังทราบถึงระยะในการฉีดวัคซีน คือระยะที่ 1 ถึงวันที่ 6 มิ.ย. มีการทดสอบระบบการลงทะเบียน การทยอยเปิดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ สธ.กำหนดตามโควตาวัคซีนที่แต่ละหน่วยงานองค์กรได้รับ ระยะที่ 2 วันที่ 7 มิ.ย.เริ่มทำเต็มที่ มีวัคซีนเข้ามาในไทยจำนวนมากขึ้น เริ่มการฉีดวัคซีนทั้งระบบเป็นวาระแห่งชาติ ได้แก่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เจ้าหน้าที่ด่านหน้า สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โรคประจำตัวเรื้อรัง ตัวแทนนักกีฬา นักเรียน นักศึกษาที่ไปต่างประเทศ วัยทำงานผู้มีสิทธิประกันสังคม และประชาชนทั่วไป โดยไม่มีทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งหมดจะได้รับแน่นอน แต่ขึ้นกับระบบเข้าไปจองและฉีด ไม่ต้องการให้แออัดพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง

สธ.ยันแคมป์หลักสี่ป่วยพันธุ์อินเดีย

ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงรายละเอียดการพบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย 15 ราย ในแคมป์คนงานย่านหลักสี่ กรุงเทพฯ ว่า การระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทีมสอบสวนโรค กรมควบคุมโรค สุ่มตรวจหาเชื้อและถอดรหัสสายพันธุ์ไวรัสเป็นระยะๆ เมื่อถอดรหัสของกลุ่มผู้ติดเชื้อจากแคมป์คนงานดังกล่าว ที่มีการติดเชื้อหลายร้อยราย พบว่าการตรวจหาเชื้อในวันเดียวกัน แต่มี 15 รายที่พบว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย ซึ่งอยู่ในระยะที่สามารถแพร่โรคได้ นพ.โสภณกล่าวต่อว่า ผู้ติดเชื้อกลุ่มดังกล่าวเข้ารักษาตัวอยู่ในห้องแยกความดันลบในโรงพยาบาล เพื่อแยกโซนกับผู้ป่วยรายอื่นที่มีการป่วยในระยะเวลาใกล้กัน และสายพันธุ์อินเดียที่ตรวจพบในขณะนี้ มีความสามารถในการแพร่เชื้อได้เร็วเหมือนกับสายพันธุ์อังกฤษ แต่ยังไม่มีผลกับยารักษา และวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ยังสามารถใช้ได้ปกติ

สธ.เร่งสอบต้นตอสายพันธุ์อินเดีย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวกรณีแคมป์คนงานอิตาเลียนไทย เขตหลักสี่ พบติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 15 ราย ว่า เชื้อโควิดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่อู่ฮั่นกลายเป็นหลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่ให้ความสนใจ คือกลายพันธุ์แล้วแพร่ระบาดง่ายขึ้น โรครุนแรงมากขึ้น เสียชีวิตมากขึ้น และทำให้วัคซีนไม่มีประสิทธิภาพหรือป้องกันโรคไม่ดี โดยสายพันธุ์ที่ทั่วโลกจับตามอง คือสายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์อินเดีย สายพันธุ์บราซิล และสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ส่วนที่มีการพูดถึงสายพันธุ์สิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ปฏิเสธไปแล้ว “ทั้ง 4 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์อังกฤษ อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ เป็นสายพันธุ์ที่สธ.และห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยต่างๆ ถอดรหัสพันธุกรรม และรวบรวมข้อมูลโดยใช้หลักการทางระบาดวิทยาในการอ้างอิง ซึ่งสายพันธุ์ที่ระบาดในไทย ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อังกฤษที่ระบาดรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์จีและสายพันธุ์ดั้งเดิมเล็กน้อย” นพ.โอภาสกล่าว นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนสายพันธุ์อินเดียขณะนี้ระบาดมากในอินเดีย และในหลายประเทศ คืออังกฤษ มาเลเซีย กรณีระบาดที่สนามบินชางงีในสิงคโปร์ เบื้องต้นบอกว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย ส่วนพม่าและกัมพูชาการตรวจสายพันธุ์ยังมีข้อมูลค่อนข้างจำกัด แต่เชื่อว่ามีสายพันธุ์อินเดีย ดังนั้น ประเทศไทยก็มีโอกาสที่จะมีสายพันธุ์อินเดียหลุดรอดเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย ซึ่งจะมีการจับตาอย่างใกล้ชิด “จากการทำงานร่วมกันระหว่าง สธ. และมหาวิทยาลัยต่างๆ พบการแพร่ระบาดโควิดที่แคมป์คนงานหลักสี่ และนำตัวอย่างทั้งหมด 61 ตัวอย่างตรวจหาสายพันธุ์ พบว่า ตรงกับสายพันธุ์อินเดีย 15 ตัวอย่าง หรือ 15 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน อายุเฉลี่ย 46 ปี ยังไม่ยืนยันว่าเป็นคนไทยหรือต่างชาติ แต่ทั้ง 15 รายส่วนใหญ่อาการน้อยรักษาอยู่ในร.พ. เป็นคนงานในแคมป์ก่อสร้าง 12 คน ส่วนอีก 3 คน เป็นผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านกับคนในแคมป์ จึงต้องเร่งรัดสอบสวนควบคุมโรค ทั้งหมดไม่ได้เป็นแรงงานผิดกฎหมาย อยู่ในประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมโดยการตรวจรหัสพันธุกรรมของผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้านี้ด้วย”

ชี‘้แอสตร้า-ซิโนแวค’เอาอยู่

“ตอนนี้ที่มีข้อมูลสายพันธุ์อินเดียมากสุด คือประเทศอังกฤษ โดยหน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษพบว่าสายพันธุ์อินเดียมีการแพร่กระจายโรคไม่แตกต่างจากสายพันธุ์อังกฤษ ความรุนแรงของโรคก็ไม่มีข้อบ่งชี้ว่ารุนแรงกว่าสายพันธุ์อังกฤษ ส่วนการไม่ตอบสนองวัคซีนหรือดื้อต่อวัคซีน พบว่าสายพันธุ์อินเดียไม่ดื้อต่อวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งอังกฤษมีการฉีดวัคซีนอย่างมากก็ควบคุมการแพร่ระบาดที่มีทั้งสายพันธุ์อังกฤษและอินเดียได้ ส่วนการรักษายังใช้แนวทางเดียวกับสายพันธุ์อังกฤษ คือใช้เวลารักษา 14 วัน ให้ยาฟาวิพิราเวียร์เร็วขึ้นในกลุ่มที่มีความเสี่ยงอาการรุนแรง” นพ.โอภาสกล่าว เมื่อถามว่ามีการสอบสวนโรคหรือไม่ว่าเชื้อสายพันธุ์อินเดียมีต้นตอมาจากไหน นพ.โอภาสกล่าวว่า เชื้อหลุดรอดมาจากทางไหนต้องอาศัยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวของเชื้อไวรัสที่พบในประเทศไทยและนำไปเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ เพื่อดูต้นทาง เหมือนกรณีสายพันธุ์อังกฤษที่ตรวจพบมาจากกัมพูชา รวมถึงต้องใช้หลักการระบาดวิทยาในการสอบสวนร่วมด้วย ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ต้องรอดูข้อมูลทั้งสองส่วนประกอบกัน นอกจากนี้ จะมีการตรวจรหัสพันธุกรรมของเชื้อบริเวณตามชายแดนต่างๆ ทั่วประเทศด้วยหากมีความคืบหน้าจะรายงานเป็นระยะ เมื่อถามถึงวัคซีนซิโนแวคจะยังมีประสิทธิ ภาพต่อเชื้อสายพันธุ์อินเดียหรือไม่ นพ. โอภาสกล่าวว่า วัคซีนซิโนแวคเบื้องต้นยังมีประสิทธิ ภาพ แต่ขอไปดูข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามกลุ่มแคมป์ก่อสร้าง โรงงาน จะมีการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด ซึ่งมีแผนปูพรมฉีดวัคซีน 5 ล้านโดส ภายใน 2 เดือนของ กทม.

แคมป์คนงานติดพันธุ์อินเดีย 36

ด้านนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 กรมวิทย์ตรวจรหัสพันธุกรรมจากตัวอย่างที่ส่งมาจากแคมป์คนงานก่อสร้างและบริเวณใกล้เคียง จำนวน 80 ตัวอย่าง พบว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617.2) จำนวน 36 ราย เป็นคนไทย 21 ราย คนพม่า 10 ราย และกัมพูชา 5 ราย ที่เหลือเป็นสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) ส่วนตัวอย่างจากการค้นหาเชิงรุกพื้นที่อื่นในกทม.อีก 2 แห่ง พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษทั้งหมด ขณะนี้ในประเทศไทยเชื้อที่พบจะเป็นสายพันธุ์อังกฤษ 87% เพิ่งตรวจพบสายพันธุ์อินเดีย และจะขยายการนำตัวอย่างจากคลัสเตอร์อื่นๆ มาตรวจรหัสพันธุกรรม เพื่อดูการกระจายตัวต่อไป “จากข้อมูลของสาธารณสุขอังกฤษ พบว่าสายพันธุ์อินเดียมีการแพร่กระจายได้ค่อนข้างรวดเร็ว คล้ายกับสายพันธุ์อังกฤษ แต่ยังไม่พบหลักฐานที่มีผลต่อความรุนแรง หรืออัตราการเสียชีวิต และยังตอบสนองต่อวัคซีนได้อยู่ จึงไม่ควรวิตกกังวลมากเกินไป” นพ.ศุภกิจกล่าวและว่า กรมวิทย์และเครือข่ายห้องปฏิบัติการที่ตรวจรหัสพันธุกรรมได้ จะร่วมมือกันเฝ้าระวังสายพันธุ์ที่น่ากังวล คือ สายพันธุ์อังกฤษ อินเดีย แอฟริกาใต้ และบราซิล

เร่งส่ง 279 คนงานติดเชื้อส่งร.พ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. นายไพฑูรย์ งามมุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานเขตหลักสี่ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขลงพื้นที่แคมป์พักคนงาน ภายหลังศบค.แถลงพบคนงานแคมป์หลักสี่ 15 ราย ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย B1.617.2 พร้อมเร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ยังตกค้างอีกกว่า 279 คนออกจากแคมป์

แคมป์คนงานหลักสี่ติดแล้ว1,107

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครรับทราบสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง เขตหลักสี่ ซึ่ง กทม.เข้าดำเนินการสว็อบครบทั้งหมดแล้ว จำนวน 1,667 คน ผลพบผู้ติดเชื้อ 1,107 คน คิดเป็นร้อยละ 66.41 ที่ประชุมเห็นชอบให้สำนักการแพทย์ดำเนินการมาตรการที่กำหนดคือการควบคุมพื้นที่ในลักษณะเดียวกับคอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายของแรงงาน รวมทั้งมีการดูแลสุขอนามัยของผู้ที่อยู่ในแคมป์ มีการส่งมอบอาหารปรุงสุกและอาหารแห้ง และการจัดให้มีทีมแพทย์ดูแลรักษาเบื้องต้นแก่ ผู้ติดเชื้ออยู่ภายใน แต่หากมีผู้มีอาการป่วยจะนำส่งโรงพยาบาลต่อไป นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางการดูแลแคมป์คนงานก่อสร้าง แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ แคมป์คนงานก่อสร้างที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับสถานที่ก่อสร้าง หากพบผู้ติดเชื้อให้ดำเนินการควบคุมพื้นที่เช่นเดียวกับแคมป์คนงานเขตหลักสี่ โดยผู้ที่อยู่ภายในยังสามารถทำงานได้ตามปกติ และส่วนแคมป์คนงานก่อสร้างที่ไม่ได้อยู่พื้นที่เดียวกับสถานที่ก่อสร้างให้กักตัวผู้ที่ติดเชื้อในพื้นที่แคมป์ซึ่งเจ้าของต้องจัดให้เหมาะสม ภายใต้การดูแลของสำนักงานเขตและสำนักอนามัย และผู้ที่ไม่ติดเชื้อที่ต้องเดินทางไปทำงานจะต้องแจ้งเส้นทางการเดินทางต่อเขตต้นทางและปลายทาง โดยจะต้องไม่จอดหรือหยุดพักระหว่างทาง และปฏิบัติตามมาตรการอื่นๆ ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ตลาดบางกะปิ โดยมีการแพร่กระจายของโรคในตลาด 5 แห่งได้แก่ ตลาดสดลาดพร้าว ซ.123 ตลาดสดลาดพร้าว 123 ตลาดสดบางกะปิ ตลาดคุณอาภาภรณ์ และตลาดบางกะปิ ขณะนี้มีคำสั่งปิดตลาดทั้ง 5 แห่ง จนถึงวันที่ 22 พ.ค. เพื่อให้การดำเนินการควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ขยายเวลาปิดตลาดออกไปอีก 14 วัน เพื่อให้สำนักอนามัยและเขตพื้นที่เข้าไปให้คำแนะนำและตรวจสอบให้เจ้าของตลาดปรับปรุงลักษณะทางกายภาพของตลาดให้ถูกต้อง ขณะนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อในตลาดพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม ที่ประชุมจึงเห็นชอบแนวทางการปิดตลาด 14 วัน หากพบว่ามีผู้ติดเชื้อร้อยละ 5 ของจำนวนแผงค้าและลูกจ้างที่อยู่ในตลาดทั้งหมด หรือมีผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยให้เจ้าของตลาดทำความสะอาดพร้อมปรับปรุงกายภาพของตลาดให้มีมาตรฐานตามที่กำหนด

เปิดแผนวัคซีน 36 ล้านโดส

รายงานแจ้งว่า ในการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่ประชุมเห็นชอบแผนการจัดสรรวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า 36 ล้านโดส เข็มที่ 1 เดือนมิ.ย.ถึงเดือนก.ย.2564 และเข็มที่ 2 เดือนต.ค.-ธ.ค. เพื่อให้คนไทย และคนต่างชาติ 50 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ร้อยละ 70 ในเดือนก.ย. ด้วยความสมัครใจ และผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อม จะได้รับประกันการจัดสรรวัคซีน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว ตามแผนเปิดประเทศที่กำหนด โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีน 8 กลุ่ม คือ 1.บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน 2.เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 3.บุคคลที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว 4.ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 5.ประชาชนที่มีความเสี่ยงสัมผัสโรค เช่น ครู พนักงานขับรถสาธารณะ ชาวไทยที่ไปศึกษาและทำงานต่างประเทศ 6.คณะทูตานุทูต และครอบครัว รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ 7.ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และ 8.ชาวต่างชาติ และแรงงานต่างด้าว

สั่งซื้อวัคซีนเพิ่ม 37 ล้านโดส

สำหรับแผนการส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เริ่มในเดือนมิ.ย. 6.3 ล้านโดส ก.ค.-พ.ย. เดือนละ 10 ล้านโดส และเดือนธ.ค. 5 ล้านโดส และอยู่ระหว่างกำลังจัดหาเพิ่มประมาณ 37 ล้านโดส จากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ซิโนแวค 7 ล้านโดส โดยขึ้นอยู่กับความสามารถในการผลิตและส่งมอบวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิต สำหรับแผนการกระจายวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนเข็มแรกในเดือน มิ.ย.ถึงก.ย. จะถูกกระจายไปยังพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดก่อน รวม 4 จังหวัด ประกอบด้วยกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ขณะที่จังหวัดที่มีแผนเปิดการท่องเที่ยวได้แก่ ภูเก็ต จะได้รับการกระจายวัคซีนภายในเดือนมิ.ย.เช่นกัน ส่วนจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านและมีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาดก็จะได้รับภายในเดือนก.ค. รวม 17 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย สงขลา สระแก้ว ตาก มุกดาหาร นราธิวาส ระนอง หนองคาย เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และสมุทรสาคร จากนั้นก็จะจัดลำดับไปอีก 56 จังหวัดที่เหลือของประเทศไทยเพื่อกระจายวัคซีนอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ที่ประชุม เห็นชอบช่องทางการลงทะเบียนและเข้ารับวัคซีน 3 ช่องทางคือ 1.จองผ่านหมอพร้อม 2.นัดหมายผ่านสถานพยาบาลหรืออสม. หรือผ่านองค์กรหรือช่องทางอื่นที่กรุงเทพมหานครจัดเพิ่มเติม และ 3.ลงทะเบียน ณ จุดบริการ ออนไซต์ พร้อมมอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดการประชา สัมพันธ์เรื่องช่องทางการรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และการให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายจำเพาะให้ทราบโดยทั่ว

‘บิ๊กปั๊ด’ฉีดวัคซีนเข็ม 2

เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร. ปฏิบัติราชการ บช.น. เดินทางไปยังสโมสรตำรวจ เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลที่การฉีดวัคซีน และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้พล.ต.อ.สุวัฒน์ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 เพื่อป้องกันโรคโควิด 19 และป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคดังกล่าว

นักโทษติดโควิดเพิ่ม 842 ราย

วันเดียวกัน ที่กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี นายอายุตม์ สินธพพันธ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ 842 ราย รักษาหาย 319 ราย รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,049 ราย และพบการติดเชื้อรายใหม่ในทัณฑสถานหญิงธนบุรี ทำให้มีเรือนจำและทัณฑสถาน ทั่วประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ 12 แห่ง ดังนี้ 1.เรือนจำกลางเชียงใหม่ ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย รักษาหายเพิ่ม 8 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3,588 ราย 2.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย รักษาหายเพิ่ม 299 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,560 ราย 3.ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,393 ราย 4.เรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อรายใหม่ 475 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,125 ราย 5.เรือนจำพิเศษธนบุรี อยู่ระหว่างการรักษา 2,830 ราย 6.เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย รักษาหายเพิ่ม 11 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 91 ราย 7.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อรายใหม่ 380 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 101 ราย 8.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 18 ราย รักษาหายเพิ่ม 1 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 383 ราย 9. เรือนจำกลางบางขวาง ติดเชื้อรายใหม่ 210 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 915 ราย 10.เรือนจำพิเศษมีนบุรี อยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย 11.เรือนจำกลางสมุทรปราการ อยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย 12.ทัณฑสถานหญิงธนบุรี ติดเชื้อรายใหม่ 59 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 59 ราย รวมมีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 842 ราย รักษาหายเพิ่ม 319 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 14,049 ราย นายอายุตม์กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน มีการตรวจเชื้อในผู้ต้องขังแล้ว 36,627 ราย ตรวจครบ 100% จำนวน 8 แห่ง คือ1.เรือนจำกลางเชียงใหม่ 2.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 3.ทัณฑ สถาน หญิงกลาง 4.เรือนจำกลางคลองเปรม 5.เรือนจำพิเศษธนบุรี 6.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 7.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และ 8.ทัณฑสถานหญิงธนบุรี โดยยังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจหาเชื้อให้ครบ 100% ในเรือนจำกลุ่มเสี่ยงเพิ่ม รวมถึงการสว็อบหาเชื้อซ้ำทุกๆ 7 วันในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อ จนกว่าสถานการณ์จะปกติ

‘อนุทิน’ยันวัคซีนป้องกันได้

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแคมป์คนงานก่อสร้างอิตาเลียนไทย เขตหลักสี่ ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียว่า ตนเพิ่งได้รับรายงาน แต่ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียด ทั้งนี้จะหารือร่วมกับอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ และผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา เรื่องนี้ต้องแจ้งยังบริษัทให้ดูแลคนงานมากกว่านี้ ซึ่งที่ประชุมศบค.วันนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกจังหวัดกวดขันแคมป์คนงานให้มาก บริษัทที่ว่าจ้างคนงานต้องมีมาตรการที่เข้มข้น ทั้งนี้เมื่อติดเชื้อในคนงาน สิ่งสำคัญคือแยกคนติดเชื้อออก ตรวจค้นหาเชื้อให้ชัวร์ หากเจอติดเชื้อต้องแยกออก ส่วนการก่อสร้างจะดำเนินการต่อหรือไม่อยู่ที่บริษัท หากไม่อยากให้งานชะงักก็ไปหาคนงานใหม่ แต่ที่แน่ๆ คือต้องซีลแคมป์ ทำบับเบิล แอนด์ ซีล “ส่วนวัคซีนที่ได้นำมาฉีดในประเทศไทยทั้งแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวคนั้น จากการสอบถามทีมแพทย์ยังให้ความมั่นใจว่าวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยทั้ง 2 ชนิดยังป้องกันอาการหนักและป้องกันการเสียชีวิตได้ เมื่อติดโควิดสายพันธุ์ต่างๆ อย่างไรก็ตามต้องให้ทีมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ชี้แจงอีกครั้ง เรายังต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้น ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย” เมื่อถามถึงกรณีมีดราม่าดาราฉีดวัคซีน นายอนุทินกล่าวว่า ในจุดบริการของสธ.ไม่มีแน่นอน เพราะเราใช้วิธีการนัดผ่านหมอพร้อม หรือโทร.เข้ามาผ่านสายด่วนหมอพร้อม และร.พ.ต่างๆ ส่วนกรณีดาราไปฉีดแล้วเชิญชวนคนไปฉีดนั้นก็เหมาะสม สมควรทำ ตนไม่ได้ไปไล่ถามว่ามาฉีดได้อย่างไร จริงๆ เราต้องการให้คนมาฉีดวัคซีนทั่วประเทศอยู่แล้ว

‘หมอธี’เตือนเชื้ออินเดียลงถึงปอด

ด้านศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เตือนคนไทยระวังไวรัสร้ายโควิดว่า “ตั้งแต่กลางปีนี้ ถ้ามีสายพันธุ์อินเดียและแพร่คนไทยสู่คนไทย ต้องระวัง การตรวจจับอาจไม่แม่นยำเพราะ 1.เชื้อชอบลงลึกในปอด แยงจมูกไม่เจอ 2.กระบวนการตรวจพีซีอาร์ อาจจับได้ไม่หมด เพราะรหัสพันธุกรรมเพี้ยนดังนั้น ถ้าแพร่ไป อาจมีปัญหากับวัคซีน ขณะนี้ทั้งหมด การคัดกรองที่เร็วที่สุด คือการตรวจเลือด ว่าติดเชื้อหรือไม่ เช่นตรวจด้วยอีไลซ่า ร.พ. มากมายมีและทำง่ายกว่าการแยงจมูกพีซีอาร์ ถ้าตรวจเลือดเป็นบวกโดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แยกตัวทันทีจากคนอื่นและกักตัว 14 วัน ทั้งนี้โดยที่จะแยงจมูกต่อหรือไม่ก็ตามแต่ นั่นคือคัดกรองเร็วที่สุดแล้วแยกตัวเร็วที่สุด”

จองผ่านหมอพร้อมเริ่มฉีด 1 ส.ค.

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมชี้แจงการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิดสำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไปว่า การจัดสรรวัคซีนโควิดเป็นไปตามหลักทางการแพทย์ ที่ผ่านมาจัดสรรไปในพื้นที่ระบาด พื้นที่เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และกลุ่มอาชีพเสี่ยง คือบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ยืนยันว่าเอาหลักการแพทย์นำการเมือง จากนั้นเปิดให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ซึ่งเสี่ยงติดเชื้อมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูง ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่าน “หมอพร้อม” รองรับวัคซีนช่วง มิ.ย.-ก.ค. 16 ล้านโดส ขณะนี้ยังมีวัคซีนเหลืออยู่ ขอให้เร่งจองฉีดถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ จะได้รับการฉีดวัคซีนภายใน ก.ค. นายสาธิตกล่าวว่า สำหรับประชาชนทั่วไปในต่างจังหวัดจะเปิดลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด 19 ผ่านหมอพร้อม ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.เป็นต้นไป จะได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีและกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังที่มาลงทะเบียนภายหลัง คือมิ.ย.จะต้องไปเข้าลำดับ โดยจะได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่ส.ค.เป็นต้นไปด้วยเช่นกัน ขณะที่พื้นที่กทม.จะจัดการลงทะเบียนกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ด้วยตัวเอง โดย สธ.จะจัดส่งวัคซีนให้ตามจำนวนที่ร้องขอเข้ามา “ระบบหมอพร้อมมีคลาวด์วางไว้ 3 จุด สามารถรองรับคนเข้ามาได้ 2 หมื่นคนต่อวินาที จึงไม่หน่วง” นายสาธิตกล่าว

ชลบุรีโวยได้วัคซีนน้อย

นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบข่าวว่าทางจ.ชลบุรีได้รับการจัดสรรโควิดในเดือนมิ.ย. 54,000 โดสเท่านั้น ทั้งที่ชลบุรีเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับคนทั้งประเทศ มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก เป็นแหล่งท่องเที่ยว และยังมีท่าเรือที่รองรับการขนถ่ายสินค้าอีกด้วย ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญ โดยมีประชากรที่ถูกต้องตามทะเบียนราษฎร์ และประชากรแฝง รวมแล้วกว่า 3 ล้านคน แต่หากได้รับวัคซีนเพียง 54,000 โดส จะเกิดผลกระทบอย่างหนัก ทั้งความมั่นใจของนักลงทุน นักท่องเที่ยว รวมทั้งประชาชนภายในจ.ชลบุรีอีกด้วย นายสรวุฒิกล่าวต่อว่า ชลบุรีมีศักยภาพฉีดวัคซีนได้วันละ 2.2-2.5 หมื่นโดส และบุคลากรทางการแพทย์ก็มีความพร้อม แต่การแพร่ระบาดในพื้นที่ชลบุรียังมีความรุนแรงเข้าขั้นวิกฤต ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 127 ราย ยอดผู้ติดเชื้อรวม 4,001 ราย จึงต้องแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน นักท่องเที่ยวคือคนชลบุรีจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน ถึงจะแก้ไขปัญหาได้ “ต้องยอมรับว่าชลบุรีเป็นแหล่งสร้างรายได้ หากมีการติดโควิดและยอดผู้ติดเชื้อไม่มีทีท่าว่าจะลดลง จะเกิดผลกระทบกับประเทศอย่างมาก ไม่สามารถคำนวณความเสียหายได้ อยากให้ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีนให้ความสำคัญกับจ.ชลบุรีบ้าง อย่าเล่นพรรคเล่นพวก เพราะการที่จัดสรรวัคซีนมาให้ 54,000 โดส ถือว่าไม่ยุติธรรมกับคนทั้งประเทศ และถือว่าเป็นความเสี่ยงของประเทศไทยที่จะฟื้นฟูทางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย” รองเลขาฯพปชร.กล่าว

ปราจีนปิดศูนย์ผู้สูงวัยเสี่ยงโควิด

นายวรพันธ์ สวัณณุสส์ ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี มีคำสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า ด้วยได้รับรายงานจาก อ.ศรีมโหสถ ว่า พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในศูนย์สงเคราะห์ผู้สูงอายุคามิลเลียน โซเชี่ยล เซ็นเตอร์ ปราจีนบุรี หมู่ที่ 2 ต.โคกบีบ อ.ศรีมโหสถ 13 ราย จากการประเมินสถานการณ์ของทีมงานสาธารณสุขมีแนวโน้มจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว พักอาศัยรวมกันและมีการทำกิจกรรมร่วมกัน จึงมีคำสั่งดังนี้ 1.ปิดศูนย์สงเคราะห์ผู้สูงอายุคามิลเลียน โซเชี่ยล เซ็นเตอร์ ปราจีนบุรี เป็นการชั่วคราว ห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออกจากศูนย์สงเคราะห์ผู้สูงอายุฯ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ด้านนายสุทธิพงษ์ อาจกมล ผอ.โรงพยาบาลศรีมโหสถ ประกาศโรงพยาบาลศรีมโหสถ เรื่องตรวจพบผู้ป่วยที่นอนพักในโรงพยาบาลติดเชื้อโควิดระบุว่า ด้วยปรากฏว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2564 ตรวจพบผู้ป่วยที่นอนพักในของโรงพยาบาลติดเชื้อโควิด-19 ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีความจำเป็นต้องกักตัว 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-27 พ.ค. 2564 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โรงพยาบาลศรีมโหสถขอลดการให้บริการผู้ป่วยทั่วไปหรือตรวจสุขภาพขอใบรับรองแพทย์ ยกเว้นรายที่จำเป็นเร่งด่วนฉุกเฉิน

ปากน้ำติดเชื้อวันเดียวพุ่ง 457

วันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุข จ.สมุทรปราการ รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 457 ราย อยู่ในพื้นที่ 427 ราย ใน อ.เมือง 357 ราย อ.บางพลี 15 ราย อ.พระประแดง 40 ราย อ.พระสมุทรเจดีย์ 3 ราย อ.บางบ่อ 3 ราย อ.บางเสาธง 9 ราย และรับมารักษาต่อใน จ.สมุทรปราการ 30 ราย นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย 72 ปี อยู่ใน ต.บางกอบัว อ.พระประแดง ประวัติเสี่ยง เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน โรคประจำตัว ไตเรื้อรัง

คลัสเตอร์รง.อาหารป่วย369

ด้านนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ กล่าวว่า คลัสเตอร์ใหม่จังหวัดสมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อโควิดในโรงงานอาหารทะเลบรรจุกระป๋องแห่งหนึ่ง ในเขต อ.เมือง จากพนักงานทั้งหมด 1,240 ราย พบผู้ติดเชื้อ 369 ราย เป็นชาย 140 ราย เป็นหญิง 229 ราย ขณะที่สาธารณสุขตำบลท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นำเจ้าหน้าที่กว่า 30 คน ลงพื้นที่ตรวจโรงงานผลิตอาหารทะเลกระป๋อง ในพื้นที่ ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง ซึ่ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นแรงงานกัมพูชาและพม่า และแรงงานไทย จึงคัดกรองเชิงรุก บริเวณพรสวรรค์คอนโด ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมเข้าพ่นยาฆ่าเชื้อ หลังมีแรงงานต่างด้าวซึ่งเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์โรงงานอาหารกระป๋องพักที่คอนโดฯดังกล่าว

นนท์ป่วยเพิ่มอีก 85

ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.นนทบุรี รายงานว่า พบผู้ป่วยโควิด 85 ราย สาเหตุติดเชื้อส่วนใหญ่ภายในสถานที่ทำงาน ครอบครัวและตลาดสด ในจำนวนนี้มาจากแคมป์ก่อสร้างบริษัทก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ 5 ราย

‘ผกก.ปักธงชัย’ติดโควิด

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 21 ราย พบใน อ.เมือง 9 ราย อ.ด่านขุนทด 4 ราย อ.แก้งสนามนาง 4 ราย อ.ปักธงชัย 1 ราย อ.พิมาย 1 ราย อ.ขามทะเลสอ 1 ราย และ อ.ประทาย 1 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 865 ราย รักษาหาย 636 ราย ยังรักษา 221 ราย เสียชีวิต 8 ราย และยังพบการแพร่ระบาดจากคลัสเตอร์โรงงานกุนเชียงขยายออกไปเป็นวงที่ 3 วงที่ 4 เช่นที่ อ.ขามทะเลสอ และจากการเดินทางมาจากพื้นที่เข้มงวดสูงสุด ที่ อ.แก้งสนามนาง 4 ราย นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็น ผกก.สภ.ปักธงชัยติดเชื้อโควิด-19 ด้วย จากการปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้สถานีตำรวจทุกแห่งเพิ่มมาตรการมากขึ้นสำหรับเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานและประชาชนที่เดินทางมาติดต่อราชการได้ขอพระราชทานรถชีวนิรภัยมาตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่ จ.นครราช สีมา ทั้งประชาชน รวมทั้งผู้ต้องขังในเรือนจำ ซึ่งวันที่ 24 พ.ค.นี้ รถชีวนิรภัยพระราชทานจะมาถึง จ.นครราชสีมา

เผยเพิ่งฉีดวัคซีนเข็ม 2

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและทีมแพทย์ โรงพยาบาลปักธงชัย จ.นครราชสีมา เร่งตรวจ คัดกรองหาโควิด-19 จากตำรวจ สภ.ปักธงชัย 140 นาย พร้อมผู้ใกล้ชิด พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนใกล้เคียงโรงพักกว่า 200 คน หลังพบว่า พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย ติดโควิด-19 หลังเมื่อวันที่ 20 พ.ค. เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคแจ้งว่า พ.ต.อ.ชนัตถ์เป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด ทำให้ พ.ต.อ.ชนัตถ์ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล และผลตรวจยืนยันติดเชื้อ ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนโรคว่าติดเชื้อมาจากที่ใด เบื้องต้นทราบว่า พ.ต.อ.ชนัตถ์เพิ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 ไปเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา

คิววุ่น – ประชาชนจำนวนมากต่อคิวฉีดวัคซีนโควิดตั้งแต่เช้ามืด แต่จู่ๆ ถูกสั่งให้จัดคิวใหม่จนเกิดความวุ่นวาย สร้างความไม่พอใจให้แก่คนที่รอคิว เป็นเวลานาน ที่อาคารกรีฑาในร่ม เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 พ.ค.

เข็มที่ 2 – พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เข้ารับวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด ซิโนแวค เข็มที่ 2 พร้อมกับตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแพทย์-พยาบาลและตำรวจที่เข้าฉีดวัคซีน ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีฯ กทม. เมื่อวันที่ 21 พ.ค.

จองวัคซีน – พระภิกษุสงฆ์และสามเณรในพื้นที่อ.เมือง จ.นราธิวาส รวม 13 วัด จำนวน 64 รูป ลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่วัดประชาภิรมย์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 21 พ.ค.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน