ไฟเซอร์-จอห์นสันต่อคิว
ตั้งเป้ามิ.ย.-10ล้านเข็ม
กทม.จับตาห้างดังเสี่ยง
ชลบุรีพบเคสรง.น้ำแข็ง
ป่วยรายวัน2,631ดับ31

สธ.ยันพร้อมฉีด 7 มิ.ย.ทั่วประเทศ ไม่เลื่อนแน่ เผยมีวัคซีนแล้ว 3.54 ล้านโดส แอสตร้าฯ 2.04 ล้าน ซิโนแวคอีก 1.5 ล้าน เตรียมจุดฉีด 993 แห่งทั่วประเทศไว้รองรับ เผยปีหน้าจัดหาอีก 50 ล้านโดส จองแล้ว‘ไฟเซอร์-จอห์นสัน’รวม 25 ล้านโดส ‘อนุทิน’ โวมีม้า 7 ตัว ไม่ใช่ม้าตัวเดียว ด้านแอสตร้าฯที่ผลิตในไทยส่งมอบให้สธ.ล็อตแรก 1.8 ล้านโดส ประเดิมฉีดทันที ปักเข็มให้ตัวแทนอนามัยโลก ศบค.เผยไทยติดเชื้ออีก 2,631 ราย ตายเพิ่ม 31 ราย กทม.พบแล้ว 57 คลัสเตอร์ จับตาห้างดังย่านราชประสงค์ ประตูน้ำ คลัสเตอร์คุกติดเชื้อ 189 ราย ตายอีก 1 ชลบุรีเจอคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานน้ำแข็ง งานสังสรรค์วันเกิดคนจีน ยอดติดเชื้อพุ่ง 101 ดับอีก 1 ราย ศบศ.ไฟเขียว‘ภูเก็ตแซนด์ บ็อกซ์’ให้ภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 1 ก.ค.ตามแผน

ติดโควิดเพิ่ม 2,631-ตายอีก 31

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,631 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,391 ราย เรือนจำ 189 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 51 ราย รักษาหาย 2,493 ราย เสียชีวิต 31 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 171,979 ราย หายสะสม 120,697 ราย เสียชีวิตสะสม 1,177 ราย ส่วนระลอกเม.ย. 64 เป็นต้นมา ติดเชื้อสะสม 143,116 ราย หายสะสม 93,271 ราย เสียชีวิตสะสม 1,083 ราย ยังรักษาอยู่ 50,105 ราย อยู่ใน ร.พ. 21,469 ราย ร.พ.สนาม 28,636 ราย อาการหนัก 1,182 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 376 ราย

สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อ 172.8 ล้านราย เสียชีวิตสะสม 3.7 ล้านราย เพื่อนบ้านเรามาเลเซียติดเชื้อใหม่ยังสูง 8 พันกว่าราย

ผู้เสียชีวิต 31 ราย มาจาก กทม. 20 ราย สมุทรปราการ 4 ราย เชียงใหม่ 2 ราย กำแพงเพชร จันทบุรี นครปฐม ร้อยเอ็ด และอุทัยธานี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 15 ราย อายุเฉลี่ย 68 ปี อายุต่ำสุด 17 ปี สูงสุด 97 ปี ระยะเวลานอนรักษาสูงสุด 45 วัน ปัจจัยเสี่ยงผู้ป่วยติดเตียงและโรคปอดยังรายงานสม่ำเสมอ กรมควบคุมโรคฝากว่าผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง อยู่ร่วมคนหลายวัยในบ้าน ญาติอาจไม่ได้สังเกตว่าท่านอาการแย่ลง ขอให้สังเกตว่ามีอาการซึมลง รับประทานอาหารน้อยลง หรือเหนื่อย หายใจลำบากขึ้น ร่วมประวัติมีลูกหลานเข้าออกบ้าน ไปพื้นที่เสี่ยง ทำอาชีพเสี่ยง ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ กทม.มีรายงานส่งผู้ป่วยเข้าสู่การรักษาในอาการสีแดงหรือรุนแรง ทำให้เข้ารักษาตอนอาการรุนแรงแล้วและเป็นปัจจัยทำให้เสียชีวิตได้

ศบค.สั่งคุมเข้มลอบเข้าปท.

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 51 ราย มาจากไอวอรีโคสต์ อิเควทอเรียลกินี ซูดาน ประเทศละ 1 ราย อียิปต์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศละ 2 ราย มาเลเซีย 6 ราย เข้ามาถูกต้อง พม่า 1 รายข้ามแดนผิดกฎหมายทางแม่สอด เป็นหญิงไทยอายุ 29 ปี มาทางเรือจับกุมได้ และกัมพูชา 37 ราย โดยเข้ามาผิดกฎหมาย 11 ราย พบว่าส่วนใหญ่เป็นนักพนัน แอดมินออนไลน์ ที่ประชุมขอเน้นย้ำพื้นที่และกระทรวงแรงงานให้มีการสอบสวนกลุ่มคนเหล่านี้เข้ากัมพูชาผิดกฎหมายหรือไม่ จำนวนเท่าไร มีนายจ้างดูแลเข้าไปทำงานในกาสิโนใดๆ หรือไม่ ต้องค้นหาข้อมูล เพราะมีรายงานตัวเลขมากขึ้น เพื่อให้พื้นที่ทำแผนรองรับอย่างเหมาะสม หากเข้ามาผิดกฎหมายและมีเชื้อกลายพันธุ์ทำให้พวกเราไม่มีความปลอดภัย ส่วนผู้ลักลอบที่จับได้รอบ 24 ชั่วโมง พบ 217 ราย มาทุกทิศทาง คือ พม่า กัมพูชา และลาว

จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด 10 จังหวัดแรก ได้แก่ 1.กทม. 824 ราย สะสม 44,936 ราย 2.ปทุมธานี 460 ราย สะสม 4,242 ราย 3.สมุทรปราการ 202 รายสะสม 8,172 ราย 4.เพชรบุรี 198 ราย สะสม 6,939 ราย 5.นนทบุรี 153 ราย สะสม 7,468 ราย 6.ชลบุรี 101 ราย สะสม 4,890 ราย 7.สมุทรสาคร 73 ราย สะสม 2,866 ราย 9.นครปฐม 36 ราย สะสม 1,448 ราย และ 10.ตรัง 34 ราย สะสม 967 ราย

ห่วงคลัสเตอร์ปากน้ำ-ปทุมฯ

“การติดเชื้อปทุมธานียังอยู่ที่โรงงานชำแหละไก่ จากการตรวจเชิงรุกตัวเลขวันที่ 31 พ.ค. คือ 1,126 คน พบ 729 รายผลบวก ทำให้เฉพาะบริษัทชำแหละไก่ของลำลูกกา ตรวจสะสม 2,073 ราย พบผลบวก 854 ราย ปทุมธานียังมีคลัสเตอร์ตลาดสี่มุมเมือง มีทั้งชาวพม่า กัมพูชา และลาว ตั้งแต่ 7 พ.ค.-2 มิ.ย. ลงตรวจ 22,412 ราย พบบวก 1,569 ราย คิดเป็น 7% วันที่ 2 มิ.ย.วันเดียว ตรวจเพิ่ม 346 ราย ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง และวันนี้ปทุมธานียังคงลงตรวจชุมชน แคมป์คนงาน ตลาด เคหะ และบางกระดี” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า ส่วนสมุทรปราการติดเชื้อ 196 ราย เป็นผู้เดินทางจากนอกพื้นที่ 6 ราย รวมเป็น 202 ราย ยังเฝ้าระวังโรงงาน อุตสหากรรมฟอกหนัง ตรวจเชิงรุก 415 ราย พบบวก 27 ราย เป็นพนักงานที่ทำงานในโรงงาน มีรายงานเพิ่มเติมจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ส่งออกมีการตรวจเชิงรุก 186 ราย พบผลบวก 5 ราย เป็นคนงานที่พักอาศัยในโรงงาน และมีการคัดกรองเชิงรุกคอนโดฯที่จะตรวจให้ครบสัปดาห์นี้ ด้านเพชรบุรีเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กระจายไป 11 จังหวัด และยังมีโรงงานเฟอร์นิเจอร์ส่งออก มีการเกี่ยวกันกับโรงงานปลากระป๋องที่บางปูด้วย จะเห็นลักษณะการเชื่อมโยงโรงงาน สถานประกอบการ ที่ศบค.เน้นย้ำมาต่อเนื่องหลายวัน ไม่ว่าจะเป็นหลากหลายพื้นที่เชื่อมต่อไปยังหลายจังหวัด โรงงานที่หลากหลาย แปรรูปอาหาร โรงน้ำแข็ง โรงงานถุงมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น

“กรมควบคุมโรคเป็นห่วงโรงงาน จากการสอบสวนโรคสภาพแวดล้อมอยู่ค่อนข้างแออัด คนงานสถานประกอบการยังใช้ชีวิตแบบรวมกลุ่ม จัดพื้นที่รับประทานอาหารร่วมกัน ใช้แก้วน้ำเดียวกันแบบแคมป์คนงาน พบเชื้อที่ตู้กดน้ำรวม สถานบริการผับบาร์ปิดไปแล้ว แต่สังสรรค์กันเองในโรงงานหลังเลิกงาน มีประวัติการสุบบุหรี่มวนเดียวกัน ใช้ห้องน้ำร่วมกัน ห้องเปลี่ยนชุดที่คับแคบเป็นปัจจัยการแพร่ระบาดติดเชื้อในโรงงาน” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ศบค.ชุดเล็กย้ำเตือนมาตรการจะมีหนังสือไปยังผู้ว่าฯทุกจังหวัด ขอให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในโรงงาน สถานประกอบการ และตั้งคณะอนุกรรมการที่บูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงแรงงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มหาดไทย สาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อลงสุ่มตรวจ หากพบเชื้อต้องดูแลแยกกักให้เหมาะสม เน้นย้ำโรงงานนั้นๆ ยังประกอบกิจการได้ อาจปิดทำความสะอาด 1-3 วัน ทบทวนมาตรการการจัดการให้ดูแลเฝ้าระวังการแพร่ระบาดระหว่างบุคคล ไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปยังชุมชน

จับตาห้างย่านราชประสงค์

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า กทม.รายงานติดเชื้อโควิดคลัสเตอร์ใหม่ 2 คลัสเตอร์ คือแคมป์ คนงานเขตจตุจักร และชุมชนเขตสวนหลวง รวมแล้วคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวังทั้งหมดคือ 57 คลัสเตอร์ใน 32 เขต โดย 5 คลัสเตอร์ไม่พบผู้ติดเชื้อใน 28 วันที่ผ่านมา ได้แก่ป้อมปราบศัตรูพ่าย ประเวศ ปทุมวัน วัฒนา และบางพลัด วันนี้กทม.รายงานเน้นย้ำเป็นชุมชนสะพานหัวช้าง (ซอยเพชรบุรี 18) ซึ่งกองควบคุมโรคติดต่อฯ รายงานผลการตรวจเมื่อวันที่ 29 พ.ค. โดยจุดตรวจที่สยามสแควร์ ตรวจเชิงรุก 734 ตัวอย่าง จำนวนนี้มีชาว ต่างชาติ เพราะชุมชนเล็กๆ มีหลากหลายเชื้อชาติ พบติดเชื้อยืนยัน 54 ราย คิดเป็น 7.35% ถือว่าค่อนข้างสูง กทม.จึงเฝ้าระวังห้างสรรพสินค้าในย่านราชประสงค์ ประตูน้ำ และชุมชนตรงนั้นลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ ห้องเช่า หอพัก ที่ค่อนข้างอยู่อย่างหนาแน่น ฝากประชาชนติดตามรายงานความคืบหน้า กทม.ด้วย

ส่วนอีกชุมชนคือบางกะปิ มีการกระจุกตัวของห้างสรรพสินค้า ทั้งเดอะมอลล์ แม็คโคร ตลาดนครไท ตลาดบางกะปิ มีการเคหะคลองจั่นซึ่งประชาชนอยู่อย่างหนาแน่นแออัดพอสมควร และมีแคมป์ก่อสร้าง กรมควบคุมโรคเน้นย้ำว่าเราต้องรณรงค์เรื่องมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ทั้งเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ไม่อยู่ในสถานที่แออัดคับแคบ กทม.ประกาศตั้งแต่ต้น มิ.ย.การรวมกลุ่มไม่ควรเกิน 20 คน ทุกที่ขอให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังทั้งหมด

“หากเราจำเป็นต้องไปตลาด สถานที่ชุมชน ถ้าระมัดระวังมาตรการส่วนบุคคลได้ดี โอกาสการติดเชื้อจะน้อยลงมาก แม้บางครั้งเราได้ยินประกาศว่ามีการติดเชื้อในส่วนของโฮมโปรลาดพร้าว แต่จริงๆ เป็นสาขาเอกมัย รามอินทรา แต่ตั้งในเขตลาดพร้าวเป็นต้น การตรวจคัดกรองในเขตลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ขอให้คนที่ยังไม่ทราบผลตรวจและรอผลตรวจอยู่ หากยังไม่ได้รับการยืนยันว่าไม่ติดเชื้อ ขอให้ลดการเดินทาง ไม่ไปสัมผัสผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่อยู่ในครอบครัว พยายามแยกกัก กักกันตนเองระหว่างรอผลตรวจด้วย ระหว่างรอผลยังมีความเสี่ยงอยู่ กทม.ยังเน้นการเฝ้าระวังในตลาด ชุมชนและแคมป์คนงาน”

ยัน 7 มิ.ย.พร้อมฉีดวัคซีน

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมพูดถึงข้อร้องเรียนของประชาชนสอบถามเรื่องของการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 เพราะที่มีการประกาศวาระแห่งชาติ คนที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม ในกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี และ 7 โรคเรื้อรังที่ได้รับนัดหมายฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 7 มิ.ย.นี้

‘บิ๊กตู่’ถกเปิดภูเก็ตรับต่างชาติกค.นี้

เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลซึ่งช้ากว่าปกติ โดยเวลา 13.30 น. นายกฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 2/2564 หรือ ศบศ. มีวาระที่น่าสนใจคือการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุดและความคืบหน้ามาตรการด้านเศรษฐกิจที่ดำเนินการไปแล้ว ทั้งโครงการเราชนะ ม33 เรารักกัน รวมถึงมาตรการสนับสนุนให้สินเชื่อผู้ประกอบธุรกิจ

ไฟเขียวภูเก็ตรับฝรั่ง 1 ก.ค.

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประะทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ที่ประชุมศบศ.มีมติเห็นชอบเห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและปานกลางของจังหวัดภูเก็ต (ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์) ตามข้อเสนอของททท.ที่กำหนดดำเนินการในวันที่ 1 ก.ค. 2564 โดยมีกำหนดแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่ต้องกักตัว

ดังนี้ 1.เปิดรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามเกณฑ์ของวัคซีนแต่ละชนิด มีระยะเวลาการฉีดมากกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี และเป็นผู้เดินทางจากกลุ่มประเทศต้นทางที่มีความเสี่ยงต่ำ – ปานกลาง ตามหลักเกณฑ์ของสธ. 2.กำหนดให้เด็ก อายุต่ำกว่า 6 ขวบ ที่เดินทางมาพร้อมกับ ผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้าได้ ขณะที่เด็กอายุระหว่าง 6 – 18 ปี จะต้องได้รับการตรวจเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต 3.มีเอกสารรับรองการฉีดจากประเทศต้นทาง โดยวัคซีนจะต้องขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของประเทศไทย หรือได้รับการรับรอง โดย WHO

4.มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นแจ้งเตือน 5. พำนักในโรงแรมที่พักที่ผ่านมาตรฐาน SHA+ ในเวลา 14 คืน และภายหลังการพำนักตามระยะเวลาที่กำหนดสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นในประเทศไทยได้ และ 6.รายงานตัวและรับการตรวจเชื้อโควิด-19 ตามรับการตรวจเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข และสามารถทำกิจกรรมท่องเที่ยวได้ภายใต้มาตรการป้องกันตามมาตรฐาน DMHTTA

“ในที่ประชุม นายกฯอยากให้เริ่มที่จ.ภูเก็ต เพราะเป็นเกาะ หากเกิดสถานการณ์ระบาด อีกครั้ง สามารถปิดเกาะได้เลย และศบศ.ยืนยันเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 1 ก.ค.แน่นอน ต้องอยู่ครบ 14 วันถึงออกนอกภูเก็ตได้ ส่วนจังหวัดอื่นที่ขอเปิดรับนักท่องเที่ยวเร็วขึ้นกว่า 1 ก.ค.อาทิ พังงา กระบี่ เกาะสมุยยังไม่อนุมัติให้รอประเมินภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก่อน 1-2 เดือนค่อยมาว่ากัน”

รับวัคซีน – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข รับมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ล็อตแรก 1.8 ล้านโดส จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) เตรียมกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อฉีดตามแผนวัคซีนแห่งชาติ ในวันที่ 7 มิ.ย.นี้

สธ.รับมอบแอสตร้าฯ1.8ล้านโดส

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกฯ และรมว.สาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. รับมอบวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าล็อตแรกจำนวน 1.8 ล้านโดสที่ผลิตที่สยามไบโอไซเอนซ์ ในประเทศไทย จากนายเจมส์ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด

นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้สธ.รับมอบวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในประเทศไทยจากแอสตร้าเซนเนก้า ตามแผนการส่งมอบและการเก็บรักษาที่มีการตกลงกันไว้ เพื่อให้รัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ทั้งนี้แอสตร้าฯ มีเครือข่ายการผลิตวัคซีนโควิดทั่วโลก แต่งตั้งบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นศูนย์การผลิตวัคซีนโควิด-19 แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศ ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการของแอสตร้าเซนเนก้าในต่างประเทศ เป็นการยืนยันคุณภาพของวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยว่ามีมาตรฐานในระดับสากล

‘อนุทิน’ฟุ้งจะมีม้าตัวที่6-7ตามมา

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงและสัญญาว่า จะส่งมอบวัคซีนที่ผลิตในประเทศภายใน มิ.ย. ซึ่งจริงๆ ส่งมาตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. และจะทยอยส่งมอบอีกหลายๆ ล็อตที่ผลิตจากโรงงานในไทย ทั้งนี้ วัคซีนถูกกระจายส่งไปยังทุกจังหวัดเพื่อฉีดในวงกว้าง และยังมีวัคซีนอีกหนึ่งยี่ห้อร่วมไปด้วย เพราะเราไม่ได้ขี่ม้าตัวเดียวในเรื่องวัคซีน โดยม้าคือวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ม้าตัวแรกแอสตร้าฯ ตัวที่สองซิโนแวค ตัวที่สามจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ตัวที่สี่ โมเดอร์นา ตัวที่ห้า ซิโนฟาร์ม และจะมีม้าตัวที่หกและเจ็ดต่อไป

“ถ้าใครพูดว่ารัฐบาลไทยเลือกม้าตัวเดียวมาฉีดประชาชน ขอให้เปลี่ยนความคิดใหม่ เราไม่เคยเลือกม้าตัวเดียว รัฐบาลไทยมีความพร้อมจะรองรับกับสถานการณ์ให้ดีที่สุดที่ทำได้ วันนี้เป็นบทพิสูจน์ เรื่องการเลื่อนฉีดวัคซีนตามที่ต่างๆ ก็ไม่เป็นความจริงนายกฯ ให้นโยบายชัดเจนกับ สธ.ว่า เราต้องมีวัคซีนแจกจ่ายให้กับคนไทยและผู้อาศัยในประเทศไทยทุกคนโดยเป็นภาระของรัฐบาล” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวด้วยว่า สำหรับวัคซีน แอสตร้าฯ 2.4 แสนโดสที่กระจายไปก่อนหน้านี้ เป็นวัคซีนของแอสตร้าฯ ที่นำมาจากต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าหากมีการสลับวันหรืออาจมีการล่าช้าด้วยเหตุผลที่เกินการควบคุม เรายังมีวัคซีนที่จะกระจายเข้าไป เพื่อให้มีเวลาแก้ไขสถานการณ์ เป็นการป้องกัน ลดความเสี่ยง เพราะเราต้องการเมกชัวร์ว่าการฉีดวัคซีนของไทยจะดำเนินไปได้ ซึ่งล็อตนี้อยู่ในส่วนที่ประเทศไทยจัดซื้อจากแอสตร้าฯ 61 ล้านโดส ส่วนกรณีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นั้นศบค.จัดให้อยู่ในกลุ่มโควตาของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ก็ต้องไปถามอว.ว่าจะบริหารจัดการจัดสรรอย่างไร เพราะทั้งมหาวิทยาลัยและคณะแพทยศาสตร์ อยู่ในส่วนของอว.ทั้งหมด

ทยอยส่งวัคซีนพร้อมฉีด 7 มิ.ย.

นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า บริษัทจะทยอยส่งวัคซีนเป็นงวดๆ จากนั้นกรมควบคุมโรคทยอยจัดส่งวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีวัคซีนทั้งแอสตร้าฯ และซิโนแวคส่งถึง ร.พ.หรือสถานที่ฉีด หลายจังหวัดได้รับวัคซีนแล้ว ยืนยันว่าทุกจังหวัดมีวัคซีนโควิด-19 ฉีดให้กับประชาชนในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันคิกออฟการฉีดวัคซีน โควิด-19 จำนวนมากพร้อมกันทุกพื้นที่ตามนโยบายนายกฯ แน่นอน โดยจังหวัดที่อยู่ไกลอาจใช้เวลาในการขนส่งบ้าง แต่จะได้รับวัคซีนไปเตรียมการฉีดล่วงหน้าทุกจังหวัด โดยรวมแล้ว มิ.ย.มีประมาณ 6 ล้านโดสขึ้นไป สำหรับการจัดสรรวัคซีนขึ้นกับจำนวนวัคซีนที่เข้ามาแต่ละงวดแต่ละเดือน จัดสรรบนหลักการทั่วถึงและเป็นธรรม คือ จัดสรรให้ทุกจังหวัดและปรับเกลี่ยโดยพิจารณาทั้งอัตราส่วนวัคซีนต่อประชากร ซึ่งรวมประชากรแฝง แล้วหาร 4 เดือนซึ่งเป็นระยะเวลาที่เราจะฉีดเข็มที่ 1 ให้ครอบคลุมทุกคน คูณด้วยแฟกเตอร์คือความรุนแรงของสถานการณ์ระบาด พื้นที่จำเพาะตามนโยบายรัฐ เช่น พื้นที่การท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้มีการกระจายวัคซีนไปตามแผนที่ ศบค.กำหนด

“สธ.จะต้องส่งวัคซีนเพื่อให้เป็นไปตามแผน โดยเรารับวัคซีนมาจากแอสตร้าฯ และซิโนแวค ปัจจุบันวางแผนจัดส่งไปแล้ว ไม่มีที่ไหนต้องเลื่อนการฉีด เพียงแต่ข่าวอาจออกมาเร็ว เนื่องจากเรารีบส่งวัคซีนล็อตแรก 2.4 แสนโดส ทำให้ได้จังหวัดละ 3.6 พันกว่าโดส แต่เมื่อได้อีก 1.8 ล้านโดสก็จะส่งตามไป เราวางแผนเป็นรายสัปดาห์เพื่อสนับสนุนวัคซีนอย่างพอเพียง และติดตามผลการฉีดด้วย ซึ่งอาจฉีดได้มากหรือน้อยกว่าเป้าก็จะมีการปรับแผนการส่งวัคซีนให้จังหวัดต่อไป โดยยืนยันว่าไม่ต้องมีการเลื่อนฉีด” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

นพ.โอภาสกล่าวว่า ตั้งแต่ มี.ค.-พ.ค. เรามีวัคซีนซิโนแวคเป็นตัวหลัก 5 ล้านโดส และแอสตร้าฯ ประมาณ 1 แสนโดส กระจายไปที่จังหวัดตามสถานการณ์ ซึ่งขณะนั้นเน้นฉีดบุคลากรทางการแพทย์ ขณะนี้ฉีดจนครบแล้ว อาจเหลือตกหล่นเล็กน้อย หรือบางคนไม่ยอมฉีดจริงๆ โดยฉีดไปแล้วประมาณ 4 ล้านโดส จังหวัดที่ได้รับการฉีดมากที่สุดคือกทม. และจังหวัดที่ประชากรฉีดมากที่สุดคือภูเก็ต ฉีดไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วน มิ.ย. เป็นแผนหลักของเรา ซึ่งมีวัคซีนแอสตร้าฯ เป็นวัคซีนหลักและมีซิโนแวคมาเป็นวัคซีนเสริมเข้าไปให้มีการฉีดอย่างต่อเนื่อง สำหรับวัคซีนซิโนแวค 1.5 ล้านโดสจะเข้ามาทีเดียว แต่จะส่งตรวจสอบแต่ละรุ่นจะไม่พร้อมกัน และค่อยกระจายกันไป อย่าง 7.5 แสนโดสกระจายไปต้นสัปดาห์นี้แล้ว ส่วนหนึ่งถึงพื้นที่แล้ว และอีก 7.5 แสนโดสจะดูตามสถานการณ์การฉีดและปรับให้สอดคล้องกับความต้องการพื้นที่

นายเจมส์ ทีก กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการส่งมอบวัคซีนล็อตแรก 1.8 ล้านโดส จากนั้นจะมีการทยอยส่งมอบเรื่อยๆ ตามที่ได้สัญญาไว้กับรัฐบาล โดยจะมีการหารือร่วมกับกรมควบคุมโรคในการทยอยจัดส่งเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้จำนวนส่งมอบเป็นไปตามแผน ส่วนกรณีข่าวฟิลิปปินส์ระบุว่าแอสตร้าฯ แจ้งอาจส่งวัคซีนล่าช้านั้น เรื่องนี้ขอยืนยันว่าจะมีการส่งให้ทันแต่ละประเทศในภูมิภาคอาเซียนนี้ทันเดือนก.ค.

ประเดิมฉีดแอสตร้าผลิตในไทย

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน พร้อมด้วยนพ.เกียรติภูมิ และผู้บริหาร สธ.ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่บุคลากร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สธ. และประชา ชนบางส่วนที่ลงทะเบียนล่วงหน้าแบบ ออนไซต์ โดยนำวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าล็อตแรกที่ผลิตในประเทศไทยมาประเดิมการฉีดที่จุดนี้ด้วย โดสวัคซีน 1 ขวด สามารถฉีดได้ 12 โดส

ทั้งนี้ นพ.เกียรติภูมิได้ฉีดวัคซีนล็อตที่ผลิตในประเทศไทยเองให้แก่ประชาชนบางส่วนและนพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทยด้วย

นพ.แดเนียลกล่าวว่า รู้สึกประทับใจ และรู้สึกตื่นเต้นมากที่วันนี้ได้รับวัคซีนจากแอส ตร้าเซนเนก้า รุ่นที่มีการผลิตในประเทศไทย ตนมั่นใจว่าวัคซีนที่ผลิตมีประสิทธิภาพเหมือนกับรุ่นที่ผลิตในต่างประเทศสามารถป้องกันการเกิดอ++าการรุนแรง และลดอัตรการเสียชีวิตได้ จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยทุกคนมาฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันลดอัตราการติดเชื้ออัตราการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต

จอง‘ไฟเซอร์-จอห์นสัน’25ล้าน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 ว่า เป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิดของนายกฯ คือคนในแผ่นดินไทยทุกคน ทั้งคนไทยและต่างชาติที่สมัครใจรับการฉีดวัคซีนโดยไม่คิดมูลค่า โดยการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมต่อไปได้ ต้องฉีดอย่างน้อย 50 ล้านคน แผนหลักการฉีดวัคซีนคือมิ.ย.ซึ่งวันที่ 7 มิ.ย. เป็นหมุดหมายสำคัญในการฉีดวัคซีนพร้อมกันจำนวนมาก แต่เพื่อรองรับสถานการณ์ระบาดก่อนหน้านี้ มีการนำวัคซีนซิโนแวคมาฉีดตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ซึ่งจนถึงสิ้นพ.ค. ฉีดแล้ว 3,644,859 โดส แต่หากนับถึงปัจจุบันเชื่อว่าเกิน 4 ล้านโดสแล้ว ความต้องการการฉีดวัคซีนมีมาก โดยเฉพาะพื้นที่ระบาดมาก คือกทม. ฉีดแล้ว 1 ล้านโดส ทำให้ยับยั้งชะลอการระบาดได้ส่วนหนึ่ง

“ส่วนการจัดหาวัคซีนในปี 2564 เป้าหมายคือ 100 ล้านโดส และปี 2565 เพิ่มอีก 50 ล้านโดส รวม 150 ล้านโดส เพราะอาจต้องฉีดกระตุ้นอีกเข็มหนึ่ง รวมถึงถ้ามีเชื้อกลายพันธุ์ก็ต้องหาวัคซีนรุ่นถัดไป ดังนั้น ไม่ว่างบประมาณปี 2565 จะเป็นอย่างไร รัฐบาลมีแนวทางจัดหางบประมาณให้สธ.จัดหาแน่นอน ทั้งงบเงินกู้ หรืองบกลางต่างๆ” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาสกล่าวว่า การจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดสในปีนี้ มีการจัดหาของซิโนแวคแล้ว 6 ล้านโดส แอสตร้าฯ ลงในนามสัญญา 61 ล้านโดส เบื้องต้นส่งมา 2.04 ล้านโดส คือ ล็อตก่อนหน้า 2.4 แสนโดสกระจายไปแล้ว และวันนี้ 1.8 ล้านโดสซึ่งผลิตในไทยที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานสากล เพราะฉะนั้นตอนนี้เรามี 67 ล้านโดส ยังขาดอยู่ 33 ล้านโดส นายกฯ ให้นโยบายจัดหาเพิ่มเติม โดยอยู่ในขั้นตอนลงนามสัญญาคำสั่งจองวัคซีนกับบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งเป็นไปได้ด้วยดี สัปดาห์หน้าคงมีความก้าวหน้า น่าจะมีการลงนามในสัญญาจองวัคซีน และวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันอยู่ในขั้นตอนการ เตรียมทำสัญญาและร่างลงนามในการจองวัคซีน ทั้ง 2 วัคซีนคาดว่าจะได้รวม 25 ล้านโดส และจะมีแผนจัดหาซื้อซิโนแวคอีก 8 ล้านโดสเป็นอย่างน้อย ก็จะได้ครบ 100 ล้านโดส เชื่อว่าเดือนนี้น่าจะมีข่าวดีให้ทราบ

“อีกหนึ่งข่าวดี คือวัคซีนที่เราใช้ในประเทศไทย ทั้งซิโนแวคและแอสตร้าฯ ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และองค์การอนามัยโลก ว่าเป็นวัคซีนที่ใช้ได้ในภาวะฉุกเฉินเหมือนกันทั่วโลก รวมทั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการได้ทบทวนความรู้และระบุว่า วัคซีนทั้งสองชนิดนี้สามารถให้ได้ในคนอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดอายุแล้ว ไม่มีความ แตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้บริหารจัดการเรื่องวัคซีนได้ง่ายขึ้น ส่วนการฉีดวัคซีนชนิดไหนให้ขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ ซึ่งเป็นไปตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์” นพ.โอภาสกล่าว

มีวัคซีนในมือ 3.54 ล้านโดส

นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนการกระจายวัคซีน เมื่อผลิตจะมีการส่งมอบ รับ และกระจายทันที แผนจึงมีการเคลื่อนไปเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ ดังนั้นแผนใน มิ.ย.ที่วางไว้ นายอนุทินให้แนวไว้ว่าจะกระจายอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ โดย 2 สัปดาห์แรกของมิ.ย. เรามีวัคซีนแอสตร้าฯ 2.04 ล้านโดส วัคซีนซิโนแวค 1.5 ล้านโดส ถือว่าเรามีในมือที่จะฉีดวันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นไป 3.54 ล้านโดส จะกระจายไปจังหวัดต่างๆ และสัปดาห์ที่ 3 ของมิ.ย.จะมีอีก 8.4 แสนโดส และสัปดาห์ที่ 4 อีก 2.58 ล้านโดส เป็นตัวเลขจากการตกลงกับบริษัทไปเบื้องต้น อาจเพิ่มหรือลดแล้วแต่กำลังการผลิตตอนนั้นและการจัดหามาได้ ภาพรวมมิ.ย.จะมีวัคซีนมากกว่า 6 ล้านโดส เป็นไปตามแผนที่ศบค.และ สธ.วางไว้ จะเห็นว่ามีวัคซีน 6 ล้านโดสในมิ.ย. และที่ฉีดก่อนมิ.ย.ไป 4 ล้านโดส คาดว่าจะฉีดในปลายเดือนนี้ได้รวมเป็น 10 ล้านโดส ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีพอสมควรทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ระบาดขณะนี้ไม่มากก็น้อย

นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วน 6 ล้านโดสจะกระจายไปจังหวัดต่างๆ อย่างไร นายกฯ ศบค.และ สธ.ตกลงหลักการไว้ คือ 1.ทุกจังหวัดจะมีวัคซีนทั้งแอสตร้าฯ และซิโนแวคเพื่อบริการประชาชน เฉลี่ยเป็นพื้นฐานตามจำนวนประชากรในจังหวัดนั้นๆ รวมประชากรแฝงด้วย 2.จังหวัดที่มีการระบาดอย่างมากหรือรุนแรง เช่นกทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และเพชรบุรี จะมีการจัดวัคซีนเสริมเติมเข้าไป อย่างกทม.ฉีดแล้ว 1 ล้านโดส และมิ.ย.จะฉีดให้ได้ 2.5 ล้านโดส แต่สถานการณ์การระบาดของโรคค่อนข้างรวดเร็ว แผนที่วางไว้สัปดาห์นี้ พอสัปดาห์หน้าจังหวัดที่ระบาดเพิ่มเติมขึ้นไป ต้องจัดหาวัคซีนเพื่อไปควบคุมการระบาด รวมทั้งบางกลุ่มเป้าหมายที่มีการระบาด เช่น เรือนจำ ต้องหาไปเสริมเพื่อควบคุมโรค

ยัน 7 มิย.ฉีดแน่-ไม่มีเลื่อน

3.จังหวัดกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เช่น พื้นที่ท่องเที่ยว อย่าง จ.ภูเก็ต ก็ส่งไปฉีดเยอะ หากเทียบอัตราประชากร ภูเก็ตฉีดมากที่สุดในประเทศไทย ตอนนี้มากกว่า 50% เพื่อให้รองรับการเปิดจังหวัดรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ หรือกลุ่มแรงงานที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ หรือชายแดนเศรษฐกิจจะใส่วัคซีนเสริมเติมเข้าไป เช่นชลบุรี ระยอง ตาก เป็นต้น และเพื่อให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานผู้ประกันตนสามารถประกอบกิจกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มอบสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดสรรวัคซีนใน มิ.ย. 1 ล้านโดสไปฉีดผู้ประกันตน เป็นต้น รวมถึงคนที่จองฉีดผ่านหมอพร้อม โดยเฉพาะวันที่ 7-9 มิ.ย.ได้ฉีดแน่นอน ไม่มีการเลื่อน ให้ไปติดต่อร.พ.ใกล้บ้านที่จองไว้

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ส่วนกทม.มียอดจัดสรรวัคซีนประมาณ 1 ล้านโดส แต่มีการจัดสรรกลุ่มต่างๆ เพิ่มเติม เช่นประกันสังคมได้ 1 ล้านโดส ก็จะไปฉีดในกทม.ก่อนรวมเป็น 2 ล้านโดส และกลุ่มมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เป็นต้น รวม 11 มหาวิทยาลัย ก็จะจัดสรรไป 5 แสนโดส เพราะฉะนั้นเมื่อรวม 3 ยอดนี้ ก็จะรวมเป็น 2.5 ล้านโดส เพื่อให้แน่ใจว่า กทม.ที่มีการ ระบาดมากๆ จะได้รับการจัดสรรวัคซีนที่เพียงพอในการควบคุมการระบาด ซึ่งมีการ กระจายไปตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.

993 จุดทั่วปท.พร้อมฉีด

“จุดฉีดวัคซีนทั้งภายในและนอกร.พ. จะต้องอยู่ภายใต้การกำกับของแพทย์และสถานพยาบาล ภายใต้มาตรการที่กำหนด ทั้งการ คัดกรองประวัติ การลงนามยินยอม การฉีดวัคซีน การสังเกตอาการ 30 นาที และติดตามภายหลังฉีด 30 วัน ตามมาตรฐานที่กรมควบคุมโรคกำหนด ตอนนี้ต่างจังหวัดมี 993 จุดพร้อมให้บริการวันที่ 7 มิ.ย. ส่วน กทม.แจ้งจุดมาอย่างน้อย 25 จุด และสำนักงานประกันสังคมแจ้งอย่างน้อย 25 จุดเช่นกัน มหาวิทยาลัยต่างๆ 11 แห่ง อาจมีจุดฉีดมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังมีจุดฉีดกลาง 10 แห่ง เช่น สถานีกลางบางซื่อ สถาบันราชานุกูล ร.พ.ศรีธัญญา ศูนย์การแพทย์บางรัก เป็นต้น แต่ละจุดฉีดปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม บางจังหวัดฉีดได้มากอาจเพิ่มจุด หรือฉีดเพียงพอก็ลดจุดฉีดลง ขอให้ติดตามในจังหวัดนั้นๆ” นพ.โอภาสกล่าว

มะกันให้วัคซีนโคแวกซ์

เว็บไซต์ทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ออกเอกสารข้อเท็จจริง เรื่อง แผนกลยุทธ์การแบ่งปันวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาคมโลก 25 ล้านโดส โดยเป็น 25 ล้านโดสแรก จากแผนการจัดส่ง 80 ล้านโดสที่เคยได้ประกาศเป้าหมายไว้

เอกสารดังกล่าวเปิดเผยว่า สหรัฐจะแบ่งปันวัคซีนจำนวน 25 ล้านโดสแรกก่อน โดยในจำนวนนี้ 19 ล้านโดส จะถูกแบ่งปันผ่านกรอบความร่วมมือโคแวกซ์ โดย 7 ล้านโดสสำหรับภูมิภาคเอเชีย โดยมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย แม้ไทยจะไม่ได้เข้าร่วมโครงการ โคแวกซ์ก็ตาม โดยสหรัฐจะเป็นผู้จัดส่งให้กับประเทศต่างๆ โดยตรง

69 เครือข่ายแพทย์ไทยร้อง‘ชวน’

เมื่อเวลา 10.15 น.ที่รัฐสภา เครือข่ายแพทย์แผนไทย 69 แห่ง เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานประธานสภา ขอให้ประธานสภาส่งเรื่องไปยังรัฐบาลเปิดโอกาสให้แพทย์แผนไทยมีส่วนเข้ารักษาผู้ป่วย โควิด-19 ด้วยการคลายกฎระเบียบที่ห้ามใช้การแพทย์แผนไทยทำการรักษาและช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 จัดตั้งศูนย์กระจายยาสมุนไพรที่ใช้ในสถานการณ์แพร่ระบาดให้ทั่วถึงควบคู่กับการกระจายการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการดูแลสุขภาพ และเปิดโอกาสให้คลินิกการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศรักษาผู้ติดเชื้อที่ยังต้องรอการส่งตัวเข้าสู่โรงพยาบาลได้ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

เข้มแรงงาน – เจ้าหน้าที่ระดมตรวจค้นแคมป์คนงานในต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ป้องกันการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานต่างถิ่นเข้าพื้นที่ ตามมาตรการเข้มข้นรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด เมื่อ วันที่ 4 มิ.ย.

ชลบุรีผวา 2 คลัสเตอร์ใหม่

สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 101 ราย ยอดป่วยสะสม 4,892 ราย กำลังรักษาตัวอยู่อีก 974 ราย หายป่วย 3,889 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ยอดสะสมผู้เสียชีวิต 29 ราย ยังพบผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ 7 อำเภอ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อที่มากที่สุดที่อำเภอศรีราชา 60 ราย บางละมุง 11 ราย เมืองชลบุรี 12 ราย พนัสนิคม 2 ราย หนองใหญ่ 1 ราย พานทอง 2 ราย ด้วยกัน

จ.ชลบุรีพบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่ม 1 แห่ง เป็นโรงงานผลิตน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของ อ.ศรีราชา ตั้งอยู่หมู่ 10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จากเดิมพบพนักงานติดเชื้อโควิด เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอศรีราชาสุ่มตรวจเพิ่มเติม พบพนักงานติดเชื้อเพิ่มทั้งหมด 49 ราย จึงสั่งปิดชั่วคราวแล้ว พร้อมกักตัวพนักงานทันที และพบคลัสเตอร์ที่ 2 เป็นชาวจีนร่วมสังสรรค์วันเกิดในสถานที่แห่งหนึ่ง ผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อ 10 ราย และพบสัมผัสผู้ป่วยเชื่อมโยงจากจ.ระยอง 1 ราย จ.ฉะเชิงเทรา อีก 1 ราย สัมผัสผู้ป่วยในครอบครัว 8 ราย จากที่ทำงานอีก 12 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 20 ราย วันนี้ค้นหาผู้ป่วยสัมผัส 180 ราย ค้นหาเชิงรุกเบื้องต้น 840 ราย และอยู่ระหว่างรอผลสอบสวนโรค

ป่วยโควิดอีก 101

เพจสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 101 ราย ในพื้นที่จ.ชลบุรี ที่อ.เมืองชลบุรี 12 ราย อ.ศรีราชา 60 ราย อ.บางละมุง 11 ราย อ.พนัสนิคม 2 ราย อ.บ้านบึง 11 ราย อ.พานทอง 2 ราย อ.หนองใหญ่ 1 ราย

สำหรับในอ.ศรีราชา พบว่าจำนวน 60 ราย แยกออกมาเป็นชายไทย 14 ราย หญิงไทย 11 ราย ชายกัมพูชา 9 ราย หญิงกัมพูชา 6 ราย ชายพม่า 13 ราย และหญิงพม่า 7 ราย ส่วนใหญ่มาจากคลัสเตอร์โรงน้ำแข็งในต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา 49 ราย จะแจ้งให้ปิดดำเนินการชั่วคราว ตั้งแต่วันนี้ส่งผลให้ยอด ผู้ติดเชื้อในอ.ศรีราชา ติดอันดับ 1 ของจ.ชลบุรี

คุกป่วยเพิ่ม 189-ตายอีก 1

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถานว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 189 ราย รักษาหายเพิ่ม 7 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 14,523 ราย โดยมีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ไม่พบ การแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้น 124 แห่ง และพบการแพร่ระบาดของเชื้อในเรือนจำ/ทัณฑสถาน 14 แห่ง

“สำหรับผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 1 รายวันนี้ เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 66 ปี รักษาตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วยโรคประจำตัว เป็นโรคไตวายระยะสุดท้าย เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ตรวจพบเชื้อ โควิด-19 เมื่อวันที่ 15 พ.ค.64 แพทย์ให้ยาและรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากเป็นผู้ป่วยสูงอายุ และมีโรคประจำตัว อาการจึงทรุดลง กระทั่งในวันที่ 3 มิ.ย. 64 ผู้ป่วยคลำชีพจรไม่ได้ หมดสติ ได้ทำซีพีอาร์นวดหัวใจ และให้ยากระตุ้นหัวใจ แต่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา เสียชีวิตในเวลา ต่อมา”

งานศพบางปะหันติดเชื้อ 13

ร.ต.ต.หญิง สายสุนี ยมานันท์ นายอำเภอบางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่ อ.บางปะหัน วันที่ 25-30 พ.ค.2564 มีการจัดงานศพที่วัดตาลเอน อ.บางปะหัน มีผู้เดินทางจากกรุงเทพฯ มาร่วมในงานศพ 4 คน และวันที่ 30 พ.ค. มีผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพ ฯ 1 ใน 4 คนเป็นผู้ติดเชื้อโควิด และการตรวจหาเชื้อพบว่าทั้ง 4 คนที่เดินทางมาติดเชื้อด้วย สาธารณสุขอ.บางปะหันสอบสวนโรคอย่างละเอียด พบมีกลุ่มเสี่ยงสูง 26 ราย ตรวจหาเชื้อที่ร.พ.บางปะหัน พบติดเชื้อ 13 ราย เป็นคนในครอบครัวเดียวกันทั้งหมด ได้ประสานไปที่สาธารณสุขจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเชิงรุกประชาชนในต.ตาลเอน ต.บ้านขล้อ ต.บางเพลิง 700 คน หรือประชาชนที่ไปร่วมงานศพที่วัดตาลเอน ช่วงวันที่ 25-30 พ.ค.ให้มารับการตรวจเชิงรุก วันที่ 5 มิ.ย. เวลา 08.00 น. ที่บริเวณศาลาการเปรียญ วัดตาลเอน

‘เลย’ยกเลิกนัดฉีดทั้งจว.

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าฯเลย ออกคำสั่งประกาศจังหวัดเลย แจ้งยกเลิกใบนัดหมายการฉีดวัคซีนโควิด- 19 จ.เลย

โดยหนังสือประกาศ ระบุว่า ตามที่รัฐบาลแจ้งจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้กับจังหวัดต่างๆ ตามแผนที่วางไว้แล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยมีความรุนแรงในบางพื้นที่มากขึ้น รัฐบาลจึงต้องปรับแผนการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 โดยพิจารณาถึงความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก จังหวัดเลยซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่ำ จึงได้รับการจัดสรรวัคชีนโควิด-19 น้อยกว่าที่กำหนดในช่วงเวลานี้ ทำให้มีความจำเป็นในการบริหารจัดการวัคซีนใหม่ และต้องยกเลิกใบนัดหมายการฉีดวัคซีนที่ได้ออกให้กับประชาชน

จึงออกประกาศจังหวัดเลย เรื่องการแจ้งยกเลิกใบนัดหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 จังหวัดเลย เพื่อเป็นการป้องกันการสับสนของประชาชน

เข็มที่ 2 – คุณยายจำเริญ มณีโรจน์ อายุ 95 ปี รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ด้วยสีหน้าสดใส ไม่กลัวว่าจะเกิดผลข้างเคียง สร้างความมั่นใจแก่ผู้สูงอายุคนอื่นๆ ที่ร.พ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.

ปิดร.พ. – ร.พ.สิเกา จ.ตรัง ประกาศปิดให้บริการชั่วคราว โดยจะรับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่สุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด หลังมีแรงงานต่างด้าวเข้ารักษาตัวแล้วตรวจพบเชื้อ พร้อมอพยพผู้ป่วยกระจายไปรักษาร.พ.ใกล้เคียง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน