ฝ่ายค้าน-ปชป.
ลุยปิดสวิตช์สว.

ซูเปอร์โพลมาเองชู ‘บิ๊กตู่’ ผู้นำยอดนิยม ยกให้แซงหน้า ‘หญิงหน่อย-เสี่ยหนู-พิธา’ ปชป.ลั่นพร้อมเลือกตั้งแล้ว เคาะตัวผู้สมัคร 6 จังหวัดฝั่งอันดามัน ‘อู๊ดด้า’ มั่นใจชนะยกทีม ประณามคนทำเอกสารปลอมฝากเด็กเข้าเรียน จี้ตำรวจเร่งตามตัวมาลงโทษ นัดถก ‘ภท.-ชทพ.’ 16 มิ.ย.นี้เคาะยื่นร่างแก้ไขรธน. ย้ำจุดยืนใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ-ปิดสวิตช์ส.ว.เลือกนายกฯ ‘นิกร’ หนุนบัตรใบเดียว ชี้พรรคเล็กได้ประโยชน์มากกว่า พรรคฝ่ายค้านจ่อสรุปความเห็นต่างปมแก้รธน.สัปดาห์หน้า

ลัมปี สกิน – นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ ต.กุดสิมคุ้มเก่า อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กำกับดูแลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน พร้อมมอบสารกำจัดแมลงและเวชภัณฑ์สัตว์แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ ที่ได้รับผลกระทบ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.

โพลชี้คนต้องการผู้นำที่เด็ดขาด

วันที่ 12 มิ.ย. นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ความนิยม ผู้นำรัฐบาล กับ ประชาธิปไตย กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,400 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-12 มิ.ย. พบว่า ร้อยละ 55.4 มีระดับความวางใจในระบอบประชาธิปไตยว่า ช่วยลดความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 28.4 วางใจปานกลางและร้อยละ 16.2 วางใจค่อนข้างน้อยถึงไม่วางใจเลย

ร้อยละ 93.4 ระบุผู้นำที่เด็ดขาด สั่งการและควบคุมแก้ปัญหาชาติและประชาชนมีประโยชน์ ช่วยได้ ร้อยละ 6.6 ระบุไม่มีประโยชน์ ช่วยไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 98.5 ระบุสิ่งที่เห็นและเป็นไปในประชาธิปไตยบ้านเราคือ ในการแก้ปัญหาวิกฤตชาติ มีคนมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ คอยแต่ตำหนิคนทำงาน ร้อยละ 95.9 ระบุประชาชนผู้มีรายได้น้อยยังมีสิทธิเข้าถึงความจำเป็นพื้นฐาน เช่น สวัสดิการแห่งรัฐ และร้อยละ 95.8 ระบุรัฐบาล ถูกวิจารณ์ได้จากสื่อมวลชน นักการเมืองและประชาชนทั่วไป

บิ๊กตู่ขึ้นแชมป์แซง‘หน่อย-หนู’

ทั้งนี้ ร้อยละ 88.4 ระบุประเทศไทยวันนี้มีความเป็นประชาธิปไตย ขณะที่ร้อยละ 10.6 ระบุไม่มี เมื่อถามถึงอีก 20 ปีข้างหน้า ร้อยละ 96.0 ระบุประเทศไทยจะยังคงมีความเป็นประชาธิปไตยอยู่ ร้อยละ 4.0 มองว่าจะไม่มี

ส่วนความนิยมต่อนักการเมืองบุคคลสำคัญต่างๆ ถ้าวันนี้เลือกได้จะเลือกใครเป็นนายกฯ ร้อยละ 30.8 ระบุเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 14.9 ระบุคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 5.3 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 4.8 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 3.1 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 2.1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขณะที่ร้อยละ 13.4 ระบุคนอื่นๆ และร้อยละ 25.6 ระบุไม่ทราบ ไม่มี

พท.ซัดพปชร.หวังผลการเมือง

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่จ.ขอนแก่น วันที่ 18 มิ.ย.ว่า การที่พปชร.จัดประชุมใหญ่ที่จ.ขอนแก่น ต้องระลึกว่า กทม.เป็นพื้นที่สีแดง แม้ ส.ส.จะฉีดวัคซีนแล้ว แต่การนำคนจากพื้นที่สีแดงไปพื้นที่ที่มีการระบาดน้อย จะเพิ่มอัตราความเสี่ยงการแพร่ระบาดไปยังประชาชนในพื้นที่ขอนแก่นหรือไม่ ถ้ามีการระบาดคลัสเตอร์ใหม่ พปชร.จะรับผิดชอบให้ประชาชนได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการระบาดในคลัสเตอร์ใหม่ เช่น ที่ทองหล่อที่เกิดจากผู้ใหญ่ในบ้านเมือง รัฐบาลไม่เคยมีความรับผิดชอบ มีเพียงคำขอโทษ แต่ประชาชนต้องรับผลกระทบ และการแก้ปัญหาจัดสรรวัคซีนก็ล่าช้า ไม่ทั่วถึง ไม่เพียงพอ

น.ส.อรุณีกล่าวว่า การที่พปชร.จะย้ายไปประชุมเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ขอให้พึงระวังในระดับขั้นที่สูงสุด ไม่ใช่มุ่งหวังแต่ผลทางการเมือง เพราะในสถานการณ์วิกฤตโรคระบาด การจำกัดพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ และพปชร. ในฐานะแกนนำรัฐบาล ไม่ควรเป็นต้นตอของการระบาด อย่างกรณีของพท. ได้หารือเรื่องการประชุมใหญ่เช่นกัน แต่เราคำนึงถึงเรื่องสถานที่และการป้องกันการระบาด คำนึงถึงการใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่ และมองว่าการประชุมสรุปงบดุลยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้น ทุกพรรคต้องดำเนินการ แต่เขาคิดถึงประชาชนก่อน แต่พปชร. มุ่งหวังผลทางการเมืองเพื่อเตรียมเลือกตั้ง โดยละเลยความปลอดภัยของประชาชนหรือไม่

จี้ผู้ว่าฯขอนแก่นคุมโควิดให้ดี

น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส. ขอนแก่น พท. กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิดในพื้นที่ขอนแก่นยังมีการติดเชื้ออยู่ประปราย แม้ไม่ใช่พื้นที่สีแดง แต่เราต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ การจัดกิจกรรม ยังต้องขออนุญาตกันทุกครั้ง จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้ว่าฯ จึงอนุญาตให้มีการประชุมรวมตัวกันของ ส.ส.ที่มาจาก ทั่วประเทศในพื้นที่ของตัวเองเช่นนี้ เข้าใจว่าการประชุมพรรคเป็นเรื่องภายในของเขาและ ส.ส.ก็ฉีดวัคซีนกันแล้ว ไม่อยากนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง

“แต่อยากเรียกร้องไปยังผู้ว่าฯ ให้เข้มข้นมาตรการป้องกันโควิดเป็นพิเศษ ไม่อยากให้การประชุมของพรรคการเมืองกระทบกับประชาชนจากโรคระบาดที่หนักอยู่แล้ว ให้มีการระบาดเพิ่มขึ้นในพื้นที่เข้าไปอีก อยากให้นึกถึงประชาชนคนขอนแก่นเป็นหลักในการตัดสินใจอนุญาตทำกิจกรรมใดๆ ในพื้นที่” น.ส.สรัสนันท์กล่าว

อู๊ดด้าลั่นปชป.พร้อมเลือกตั้ง

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่จ.กระบี่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเลือกตั้งใหญ่ว่า จะมาถึงเมื่อไหร่ก็ตาม วันนี้เรามีความพร้อมโดยเฉพาะการเตรียมผู้สมัครในกรุงเทพฯ เกือบจะครบทุกเขตแล้วได้ ส่วนภาคใต้ก็เช่นกันโดยเฉพาะจังหวัดอันดามัน 6 จังหวัด ประกอบด้วย ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล มีที่นั่งทั้งหมด ถ้าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน 11 ที่นั่ง ปชป.เคาะผู้สมัครครบแล้วทั้ง 11 เขต ยกเว้นถ้ามีการแก้รัฐธรรมนูญไปเป็นบัตรสองใบและปรับจาก 350 เขต เป็น ส.ส.เขต 400 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ตามร่างแก้รัฐธรรมนูญที่เตรียมเสนอ หากสำเร็จ จะมีการขยายเขตเลือกตั้งเพิ่มเติม เช่น กระบี่อาจมี ส.ส.เพิ่มเป็น 3 คน พังงา ส.ส.อาจเพิ่มเป็น 3 คน ตรังอาจเพิ่มเป็น 4 คน เป็นต้น ซึ่งได้เตรียมการไว้ในใจแล้วเช่นกัน

“วันนี้ผู้สมัครส.ส.เขตอันดามันของปชป.ครบแล้ว รายชื่อผู้สมัครมีทั้งส.ส.ปัจจุบันและคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรค เมื่อเปิดชื่อแล้ว ผมคิดว่าจะเป็นที่ยอมรับของประชาชน และในจังหวัดแถบอันดามัน เชื่อว่าเราจะได้ส.ส.มากกว่าเดิม หลายจังหวัดมี โอกาสได้ส.ส.ยกทีม” หัวหน้าปชป.กล่าว

จ่อยื่น 6 ร่างแก้รธน.-ปิดสวิตช์ส.ว.

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป. แถลงว่า ปชป.จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด 6 ร่าง เพราะต้องการให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยร่างแรก เป็นเรื่องสิทธิของประชาชน เช่น สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภคเรื่องที่ดิน ทำกิน สิทธิในกระบวนการยุติธรรม ร่างที่ 2 เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง เสนอให้มีส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนการคำนวณสัดส่วนคะแนนจะกำหนดไว้ในกฎหมายลูก พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.

ร่างที่ 3 เกี่ยวกับอำนาจส.ว. เชื่อมโยงกับการเลือกนายกฯ โดยบุคคลที่จะเสนอตัวเป็นนายกฯ ในสภา จะต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อ นายกฯ ที่ถือว่าผ่านการตรวจสอบและเลือกมาแล้วส่วนหนึ่งจากประชาชนและพรรค หรือนายกฯต้องมาจากส.ส. หากนอกเหนือจากนี้ไม่ควรกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และแก้ไขมาตรา 272 ไม่ให้อำนาจส.ว.เลือก นายกฯ ร่างที่ 4 แก้ไขมาตรา 256 ตัดอำนาจของส.ว.ออกไปในวาระ 1 และวาระ 3 จำนวน 1 ใน 3 ออกไป โดยใช้จำนวนสมาชิก 3 ใน 5 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นัดถก‘ภท.-ชทพ.’เคาะร่างที่ 7

ร่างที่ 5 เรื่องการตรวจสอบทุจริต ให้เกิดความเข้มข้นเรื่องการดำเนินคดีกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แก้ไขโดยไม่ควรให้ส.ส.ยื่นเรื่องให้แค่ประธานรัฐสภา เพื่อให้ดำเนินคดีต่อป.ป.ช.ชั้นเดียว เนื่องจากประธานรัฐสภามาจากพรรคการเมือง อาจมีการเจรจาต่อรองระหว่างพรรคกับประธานรัฐสภา เพื่อไม่ให้ยื่นเรื่องตรวจสอบไปยังศาลฎีกาได้ จึงต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระขึ้นมา เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากหลายฝ่าย ก่อนส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา

ร่างที่ 6 แก้ไขระบบการเลือกตั้งองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

นายราเมศกล่าวอีกว่า มีแนวโน้มจะมีร่างที่ 7 ที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยร่วม กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ซึ่งพรรคมอบให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ไปหารือพบว่ามีความเห็นพ้องกันหลายส่วน ทั้งนี้ ทั้ง 3 พรรคจะหารือให้เกิดข้อสรุปในวันที่ 16 มิ.ย.นี้

จี้ตร.เร่งคดีปลอมจ.ม.ฝากเด็ก

นายราเมศกล่าวกรณีมีการเผยแพร่เอกสารฝากนักเรียนไปยังโรงเรียนดังต่างๆ จากที่ปรึกษารัฐมนตรีของปชป. พร้อมอ้างกำลังได้รับการพิจารณาเข้ารับตำแหน่งรมช.ศึกษา ธิการ หากมีอะไรให้ช่วยเหลือสามารถแจ้งมาได้เลยว่า ยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารจริง ปลอมทั้งฉบับ ทั้งลายเซ็น ตราสัญลักษณ์พรรค ถ้าดูตามข้อเท็จจริง ไม่มีทางเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ เพราะปชป.มีนโยบายดูแลเด็กนักเรียน ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันทั่วประเทศ ไม่มีนักเรียนคนไหนได้สิทธิพิเศษมากกว่าใคร สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนใส่ร้ายกัน เบื้องต้นนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว ส่วนของปชป.ที่มีความเสียหาย จากที่มีการแอบอ้างตราพรรคไม่ถูกต้อง ตนได้เสนอฝ่ายกฎหมาย ให้แจ้งความต่อผู้ทำเอกสารดังกล่าวด้วย

ด้านนายสุทธิกล่าวว่า ยืนยันว่าเอกสารนี้เป็นเอกสารปลอมแปลงทั้งฉบับ มีการแอบอ้างโลโก้พรรค รูปถ่าย ลายเซ็นและเนื้อหาทำให้เสียหาย ตนได้ไปขอหนังสือดังกล่าวจากทางโรงเรียน นำไปใช้ประกอบการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว พร้อมขอให้ตำรวจเร่งติดตามผู้กระทำความผิดโดยเร็ว หากได้รับเอกสารเพิ่มเติมอีก จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขอเตือนผู้ที่ลงข้อมูลอันเป็นเท็จนี้ในสื่อออนไลน์ต่างๆ ว่าเป็นข้อมูลที่ผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ตนจะดำเนินคดีทุกราย เพราะได้รับความเสียหาย ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับใคร เรื่องนี้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ทั้งลายนิ้วมือต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารด้วย

ยันคุณหญิงกัลยาผลงานอื้อ

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกปชป. และโฆษกประจำตัวคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขอประณามคนทำเอกสารเท็จฝาก เด็กนักเรียน และยังพาดพิงถึงคุณหญิงกัลยาว่าไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งไม่เป็นความจริง ตลอดเวลาที่รับตำแหน่ง คุณหญิงกัลยาตั้งใจขับเคลื่อนนโยบายอย่างต่อเนื่อง จนมีผลงานปรากฏเด่นชัดเป็นรูปธรรม ผลักดันให้ Coding เป็นวาระแห่งชาติจนประสบความสำเร็จ และยังพลิกโฉมอาชีวะเกษตร

“ขอประณามผู้ที่มีเจตนาไม่หวังดี ให้ร้าย บิดเบือน สร้างข่าวเท็จ คนกลุ่มนี้เปรียบเสมือนมะเร็งร้ายบ่อนทำลายสังคม ทำให้ผู้ที่ตั้งใจทำงาน ต้องเสียกำลังใจและได้รับความเสียหาย คนเหล่านี้มีเจตนาให้ร้ายทำลายพรรค และสร้างความเสียหายให้กับผู้ที่ถูกกล่าวอ้าง ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย” นางดรุณวรรณ กล่าว

ภท.จ่อคุยปชป.-ชทพ.สัปดาห์หน้า

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้รัฐธรรมนูญของ 3 พรรคร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้ปชป.ได้ส่งร่างมาให้ภท.แล้ว โดยพรรคจพิจารณาในการประชุมพรรคในวันที่ 15 มิ.ย. และต้องรับฟังความเห็นของส.ส.ในแต่ละร่างที่ปชป.ส่งมาทั้ง 6 ร่าง หากส.ส.พรรคมีความเห็นอย่างไรก็จะไปเสนอกับอีก 2 พรรค ส่วนร่างของภท. 1 ร่างนั้น ได้ส่งให้ปชปงและชทพ.ดูแล้วเช่นกัน ส่วนจะมีข้อสรุปวันไหนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน คาดว่าจะไปพูดคุยกันในสัปดาห์หน้า เนื่องจากแต่ละฝ่ายต่างก็ดูกำลังร่างของตนเองอยู่

นิกรหนุนบัตรเลือกตั้งใบเดียว

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของชทพ.ว่า ชทพ.จะไม่มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตัวเอง เพราะมีส.ส.เพียง 12 คน จึงจะใช้วิธีไปลงชื่อกับร่างแก้ไขของพรรคร่วมรัฐบาล ที่เสนอขึ้นมา 7 ร่าง ไม่นับรวมของพปชร. ที่เสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยชทพ.จะประชุมกันในวันที่ 16 มิ.ย. ที่รัฐสภา เพื่อแจ้งรายละเอียดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ ให้ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะลงชื่อในร่างใดบ้าง โดยจะไม่มีมติรวมของพรรค ส.ส.จะลงชื่อทุกร่าง หรือร่างเดียวก็ได้

เมื่อถามถึงประเด็นการแก้ไขจะใช้ระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียวหรือสองใบ นายนิกรกล่าวว่า สถานะของชทพ.ปัจจุบันเป็นพรรคเล็ก ใช้ระบบบัตรใบเดียวจะดีกว่า หากเป็นบัตรสองใบจะมีปัญหา และแนวโน้มคะแนนจะไปลงที่พรรคใหญ่หมด เราเป็นพรรคเล็กก็กังวลเรื่องนี้เหมือนกัน

ก้าวไกลยันไม่ได้ขัดแย้งเพื่อไทย

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีความชัดเจนหลังประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันที่ 15 มิ.ย. ส่วนจุดยืนการจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกลนั้นคือ จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งในทางปฏิบัติที่ต้องทำคือ การทำประชามติ ถามประชาชนว่าเห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ยังค้างการพิจารณาในรัฐสภาอยู่ ประเด็นสำคัญที่รองลงมาคือ การยกเลิกอำนาจส.ว. โหวตเลือกนายกฯ ตามมาตรา 272

เมื่อถามถึงพท.ระบุยังมีความเห็นบางประเด็นที่ไม่ตรงกับพรรคก้าวไกล จะต้องเสนอร่างแยกต่างหากหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ประเด็นของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือมาตรา 272 ที่เคยเสนอตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่จนมาถึงพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เห็นด้วย ส่วนประเด็นอื่นๆ แต่ละพรรคอยู่ระหว่างการพิจารณา คงจะมีข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน