สภาลุยถก14ฉบับรวด
แม้วเย้ย‘ตู่’เพิ่มโรงตึ๊ง
รับผิดตั้ง‘ป้อม’ผบ.ทบ.

‘ทักษิณ’ แขวะ ‘บิ๊กตู่’ วิธีแก้หนี้ อึ้งสั่งเพิ่มโรงรับจำนำ เปิดช่องให้คนจนหมดตัว ยอมรับพลาดตั้ง ‘บิ๊กป้อม’ ผบ.ทบ. ชี้ถ้า ยังมี 250 ส.ว.จะได้ 3 ป.เป็นนายกฯ ไปจนตาย ส.ว.ประกาศคว่ำร่างแก้รธน.ของฝ่ายค้าน ให้ผ่านแค่ฉบับ พปชร. 3 พรรคร่วมรัฐบาลยื่นแล้ว 8 ร่าง ฝ่ายค้านอีก 5 ร่าง จ่อเข้าที่ประชุมรัฐสภา 23 มิ.ย. พร้อมร่างพปชร. เพื่อไทยการันตีแก้ม.256 ตั้งส.ส.ร. ไม่ขัดคำวินิจฉัยศาล ‘พิธา’ สยบข่าว ขัดแย้ง ยันก้าวไกล-พท.ยังเหนียวแน่น เด็กปชป.ชงปรับครม. สลับเก้าอี้รมช.สธ.กับรมช.เกษตรฯ ของภูมิใจไทย อ้าง ‘สาธิต’ ไม่มีอำนาจแก้วัคซีนขาดแคลน ป.ป.ช.แจงรอฮ่องกง ให้ข้อมูลเส้นทางการเงินคดีเหมืองทองอัครา

ทักษิณแขวะ‘บิ๊กตู่’หมดตังค์ก็กู้

วันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมพูดคุยในหัวข้อ “โทนี่ขอถามจริงๆ เมื่อไรจะหายวุ่น ทำไมทำเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องยาก” ผ่านคลับเฮาส์และเฟซบุ๊ก แฟนเพจ แคร์ คิด เคลื่อนไทย เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นายทักษิณกล่าวถึงการแก้ปัญหาของหนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ โดยเห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ถูกเพียงครึ่งเดียว ยังไม่ครบวงจร ทุกอย่างต้องสะท้อนความจริง ตอนนี้ หากเสียดอกเบี้ย 1 หรือครึ่งเปอร์เซ็นต์ ก็เป็นภาระ ดูแค่โครงการคนละครึ่ง ให้สิทธิ์ไป 31 ล้านคน ปรากฏว่าคนลงทะเบียนเหลือเยอะ อาจเพราะคนเข้าไม่ถึงระบบ หรือคนไม่มีเงินไปใช้ ถึงแม้ออกให้ครึ่งก็ไม่มีใครอยากใช้ เพราะหุงข้าวกินที่บ้าน เงินก็ไม่ถึง คนไทยไม่มีเงินกินมาก ต้องแก้ไขเศรษฐกิจโดยด่วน จะมาใจเย็นเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่ได้

นายทักษิณกล่าวด้วยว่า ส่วนโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไม่รู้จับทรายใส่กล่องหรือเปล่า มันไหลออกจาก 7 วัน มาเป็น 14 วันแล้ว ต้องไปตรวจและรายงานตัวอีก นักท่องเที่ยวเขาก็ไม่ไปแล้ว ตอนนี้ยุโรปเริ่มเปิดแล้ว เพราะทนไม่ไหว ประชาชนทนไม่ไหว รัฐบาลก็ทนไม่ไหวเพราะเก็บภาษีไม่ได้ เกาหลีใต้ตอนนี้กำลังจะเปิด ใครฉีด 2 เข็มแล้วไม่ต้องกักตัว เขาเริ่มเปิดเพราะเขาทนไม่ไหว “ของเราที่ทนไหว เพราะหมดตังค์ก็กู้ เพราะกูไม่ได้ใช้”

สะอื้นเลยปมสั่งเพิ่มโรงรับจำนำ

นายทักษิณกล่าวถึงแนวคิดขยายโรงรับจำนำของพล.อ.ประยุทธ์ว่า “ผมสะอื้นเลย ที่อื่นเขาลดโรงรับจำนำจนจะไม่เหลือแล้ว ดอกเบี้ยก็แพง เป็นที่จำนำของคนจน วันนี้ต้องหาทางให้คนจนมีรายได้ เรื่องการจ้างงาน ช่องทางทำมาหากิน ต้องรีบทำก่อน ไม่ใช่ขยายโรงรับจำนำ ขยายช่องทางทำมาหากินดีกว่าช่องทางหมดตัว การเอาตังไปแจก เอาไปปิดแผลเก่า ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะมันไม่มีโอกาสไปลงทุนอะไรเลย ภาวะของเศรษฐกิจในประเทศไม่เอื้ออำนวย ท่องเที่ยวไม่มา ปิดหมด มีตังเท่าไรก็คือเจ๊ง วันนี้คนอยู่ได้คือสายป่านยาว หรือ ธุรกิจตรงกับที่อยู่ได้ช่วงโควิด ค้าออนไลน์ไรแบบนี้อยู่ได้ คนอยู่บ้านซื้อ คนมีกำลังซื้อ มีเงินออม ยังซื้อได้อยู่”

เผยสหรัฐกังวลปชต.ไทยถดถอย

นายทักษิณตอบคำถามที่หลายคนเปรียบเทียบไทยกับแอฟริกาว่า ทีมงานของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐโทร.มาถามตนเรื่องการเมืองทางเอเชีย ตนก็ให้ความเห็นไป และสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือ แอฟริกากับไทยคล้ายกัน เมียนมาก็เลียนแบบไทย จะทำให้ประชาธิปไตยถดถอย ซึ่งประเทศเผด็จการไม่มีใครร่ำรวย เราเลียนแบบแอฟริกา แต่แอฟริกา เดี๋ยวนี้น่ากลัว เขาสนใจการศึกษามาก เรียนรู้เทคโนโลยีมาก ตนตกใจว่าเด็กรุ่นใหม่มาแรง ตนห่วงบ้านเราจริงๆ

ดูโหงวเฮ้งไม่เป็น-ตั้ง‘ป้อม’ผบ.

นายทักษิณตอบคำถามถึงเหตุผลตั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผบ.ทบ. ทำไมถึงไม่แต่งตั้ง พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ว่า เข้าใจว่า ตอนนั้น พล.อ.พรชัย ยังไม่มาเป็น ผู้ช่วยผบ. มาตอนพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นผบ.ทบ. ที่ตนตั้งพล.อ.ประวิตร ขึ้น ตอนนั้นเขาเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.สส. ไม่อยากครหานานว่าเอาญาติขึ้น เขาจบ จปร. ผ่านการรบ ก็ให้เป็น ผบ.สส. พล.อ.ประวิตร ก็มาทำเนียบรัฐบาลบ่อย

เมื่อถามว่าคิดหรือไม่ว่าพล.อ.ประวิตรจะวางอนาคตไว้เช่นนี้ โทนี่กล่าวว่า “ผมดูโหงวเฮ้ง ไม่เป็น หากฝึกดูโหงวเฮ้ง วันนั้นก็คงไม่ตั้ง ดูท่าทางเรียบร้อยดี โดนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สั่งประจำ เหตุการณ์นัดแล้วไม่มาตามนัด ตอนนั้นเป็นผู้การกรม ที่จ.ปราจีนบุรี คนอื่นเขาไม่ออกสักคน แกนำมาคนเดียว เลยถูกจับได้ว่านำมา ก็ถูกพล.อ.เปรม ให้เขามาเป็นแม่ทัพภาค 1 ซึ่งเขากองเชียร์เยอะมาก มีนายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.ปราจีนบุรีขณะนั้น ก็มาเชียร์ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ก็มาเชียร์ ผมไม่ค่อยรู้จักเขา รู้ว่า เป็นพี่ชายของรุ่นพี่ผม คือพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รู้จักกันดีก็เลยตั้ง”

ชี้มี 250 ส.ว.จะได้ 3ป.เป็นนายกฯ

ส่วนการเลือกตั้งในอนาคตนั้น นายทักษิณมองว่า อยู่ที่ประชาชน ครั้งหน้าซื้อเสียงอย่างหนัก ช่วงนี้รายได้ดี ตอนนี้ คิดจะซื้อส.ส.ฝ่ายค้าน มาอยู่ไกลแต่ได้ข่าว การเมืองมันกลับมาเน่าเหมือนเดิม เหมือน 5-6 เสียง ขู่นายกฯ ได้ ตอนปี 44 ขู่ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญปี 40 ให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ตอนนี้เบี้ยหัวแตกเต็มไปหมด การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหัวใจสำคัญ ส.ว.250 เลือกนายกฯ ก็จะได้ 3 ป. ป.หนึ่งไป ป.หนึ่งก็มา จนตายกันไปข้าง

เมื่อถามว่าได้ส่งคนของตัวเองไปอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้างหรือไม่ และถูกฝั่งตรงข้ามส่งมาอยู่ด้วยบ้างหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “ผมเป็นคนง่าย เพราะไม่คิดว่าจะเป็นนักการเมืองแบบช่ำชอง แค่อยากแก้ปัญหาให้ประเทศ การจะส่งคนไปคงไม่มี แต่ฝั่งผมที่ออกไปบ้าง เป็นนิสัยของแต่ละคน บางทีก็ไม่รู้ เราดูคนไม่ออก ผมไปซื้อจระเข้มา เลี้ยงไปกลายเป็นวรนุช”

3พรรคร่วมยื่นแก้รธน.8 ร่าง

เมื่อเวลา 16.20 น. ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช และประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นาย ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เป็นตัวแทน 3 พรรคร่วมรัฐบาล ยื่น 8 ร่างแก้ไขรัรฐธรรมนูญ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา

โดยนายชินวรณ์กล่าวว่า ทั้ง 3 พรรคเห็นพ้องต้องกันจะเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญใน 8 ร่าง ประกอบด้วย ร่างของปชป. 6 ร่าง ได้แก่ 1.แก้ไขมาตราว่าด้วยสิทธิของประชาชน 4 มาตรา 2.ระบบเลือกตั้ง ให้มีส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน เลือกตั้งโดยบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ 3.เรื่องที่มาของนายกฯ ยกเลิกอำนาจส.ว.ในการเลือกนายกฯ 4.การแก้ไขมาตรา 256 หลักเกณฑ์การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 5.การตรวจสอบการกระทำที่ผิดจริยธรรมของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ 6.การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น

ภท.ยันเห็นด้วยปิดสวิตช์ส.ว.

นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า การประชุมรัฐสภาวันที่ 23-24 มิ.ย. จะเริ่มด้วยการเสนอร่างทั้งของพรรคฝ่ายค้าน และพรรคฝ่ายรัฐบาล ให้ที่ประชุมอภิปรายรวมกัน และวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันลงมติจะแยกลงมติแต่ละฉบับโดยใช้วิธีขานชื่อ และในวาระที่ 2 คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 45 วัน และนำสู่การพิจารณาในวาระที่ 3 ได้ คาดว่าจะพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเสร็จได้ทันและนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ในสมัยประชุมนี้

ด้านนายศุภชัยกล่าวว่า ภท.เสนอ 2 ประเด็น คือ 1.ให้รัฐดูแลหลักประกันรายได้ถ้วนหน้าให้กับประชาชน 2.แก้ไขมาตรา 65 ยุทธศาสตร์ชาติจะต้องมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ประเทศ ส่วนการแก้ไขมาตรา 272 เรื่องอำนาจของส.ว.ลงมติเลือกนายกฯนั้น ภท.มีหลักการเดียวกับ ปชป. เลยตัดสินใจนำไปร่วมเป็นร่างเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน

ชทพ.กั๊กแก้ ม.272-หวั่นไม่ผ่าน

ขณะที่นายนิกรกล่าวว่า ส.ส. 12 คนของชทพ. ได้ร่วมลงชื่อกับทุกร่าง ยกเว้นการแก้ไขมาตรา 272 เพราะมองว่าถ้าส.ว.ไม่ลงชื่อสนับสนุนด้วยก็ไม่ผ่าน อีกทั้งประเด็นการตัดอำนาจส.ว. อาจต้องไปทำประชามติก่อน เพราะเกี่ยวข้องกับการไปเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่

ด้านนายชวนกล่าวว่า จากนี้จะส่งร่างทั้งหมด ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่ามีผู้ลงชื่อตามรัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่ และรายชื่อตรงหรือไม่ เพื่อจะบรรจุในวาระ 23 มิ.ย.นี้

ส.ว.ประกาศคว่ำร่างฝ่ายค้าน

ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวถึงพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ยื่นแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ แต่ต้องมีเนื้อหาเหมาะสม ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ถ้าเป็นเช่นนี้ ส.ว.ไม่ร่วมมือด้วยแน่นอน โดยเฉพาะการตัดอำนาจส.ว.โหวตนายกฯ เป็นการลุแก่อำนาจ ไม่เห็นด้วย การโหวตเลือกนายกฯของส.ว. เป็นอำนาจตามบทเฉพาะกาล 5 ปี เพื่อแก้วิกฤตประเทศ เสียงส.ว.ไม่มีผลอะไรเลย ถ้ามีเสียงสนับสนุนจากส.ส.ไม่ถึงครึ่งในการโหวตนายกฯ การแก้มาตรา 272 ทุกฝ่ายต้องเห็นพ้องกันจึงจะสำเร็จ ถ้าส.ว.ไม่ร่วมมือด้วย ก็ไม่มีทางสำเร็จ

“ขอเตือนสติให้รับรู้ว่า ใครที่ทำเก่ง ทำกล้า เสนอแก้รัฐธรรมนูญที่ลุแก่อำนาจ เน้นแต่หาเสียง สนุกปากเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าพรรคใดเสนอมา จะไม่ผ่านแม้แต่ร่างเดียว ส.ว.จะไม่รับร่าง เพราะไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา เป็นแค่การหาเสียง มุ่งแสดงอำนาจบาตรใหญ่” นายเสรีกล่าว

เล็งโหวตผ่านเฉพาะฉบับพปชร.

ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะเสนอแก้ทั้งการให้ตั้งส.ส.ร. และการตัดอำนาจส.ว.นั้น โม้ได้ แต่จะทำได้หรือไม่ เพราะต้องอาศัยเสียงส.ว. 1ใน 3 หรือ 84 เสียงขึ้นไปสนับสนุน ดูแล้วร่างของฝ่ายค้านโอกาสผ่านยาก ซึ่งขณะนี้เสียงส.ว.ตกผลึก เบื้องต้นจะให้ผ่านเฉพาะร่างแก้รัฐธรรมนูญของ พปชร. ที่เสนอโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนร่างของฝ่ายค้านคงไม่ผ่าน ขณะที่ร่างของ 3 พรรคร่วมรัฐบาล ถ้าเสนออยู่ในหลักการที่เป็นไปได้ ไม่สุดโต่ง หรือทำเพื่อหาเสียงให้ตัวเอง ส.ว.ยินดีสนับสนุน แต่ถ้าสุดโต่งเกินไป ก็คงไม่ผ่าน ต้องไปหาเสียงสนับสนุนเอาเอง ยืนยันว่าส.ว.ไม่ใช่อุปสรรคในการแก้รัฐธรรมนูญ และเป็นที่พึ่งฝากความหวังได้ เห็นแก่บ้านเมืองมากกว่านักการเมืองด้วยซ้ำ

แก้รธน. – นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน นำตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.

ฝ่ายค้านยื่นแล้ว-5ร่างแก้รธน.

ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพท. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นาย วิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา

นายประเสริฐกล่าวว่า ร่างแก้ไขรายมาตราที่ยื่นครั้งนี้มี 5 ร่าง 1.การแก้ไขมาตรา 256 ให้มีส.ส.ร.ไปยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยกเว้นหมวด 1 และ 2 โดยมีสมาชิกพรรคฝ่ายค้านเข้าชื่อบางส่วน 2.แก้ไขมาตรา 272 เป็นร่างที่มีส.ส.ฝ่ายค้านลงชื่อกันอย่างพร้อมเพรียง 3.แก้ไขเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนในด้านต่างๆ อาทิ แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 3 มาตรา 29 การเพิ่มสิทธิในกระบวนการยุติธรรม มาตรา 45 และ 47 เรื่องสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ

4.การแก้ไขมาตรา 83 ให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบ 2 ใบ ให้มีส.ส.แบ่งเขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน แทนระบบจัดสรรปันส่วนผสม 5.ให้ยกเลิกมาตรา 270 มาตรา 271 มาตรา 275 และ 279 เรื่องการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และการยกเลิกอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ยันพท.-ก้าวไกลยังเหนียวแน่น

นายประเสริฐกล่าวว่า ยืนยันว่าการขอแก้ไขมาตรา 256 ให้ตั้งส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้น ดำเนินการได้ ไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติผ่านความเห็นชอบจากสภาโดยสมบูรณ์ จะสอดคล้องกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านเสนอไป ส่วนเรื่องระบบเลือกตั้งนั้น พท.เคยเสนอมานานแล้ว ยึดแนวทางเก่าที่พท.เคยทำมา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 40 เราอาจคิดไม่ตรงกันบางประเด็น แต่เมื่อเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) จะเกิดการถกเถียงจนมีทางเลือกดีที่สุดแก่ประชาชน

ด้านนายพิธากล่าวว่า ยืนยันว่าพรรค ก้าวไกลจะร่วมกับพท. เสนอแก้ไขมาตรา 272 เพราะเป็นต้นตอความบิดเบี้ยว ทั้งนี้ เวลาสื่อสารไม่อยากให้สับสน เพราะการเสนอแก้ไขรอบนี้ เเต่ละพรรคมีหลายประเด็น สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือการเอา 250 ส.ว. ออกจากระบบการเมืองไทย ส่วนเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบนั้นมีหลายรูปแบบ คงต้องหารือกันให้ตกผลึกว่าแบบใดเหมาะสมกับการเมืองไทยมากที่สุด ยืนยันทั้งพท.และ ก้าวไกลมีเอกภาพ ซึ่งในความเห็นต่างยังพูดคุยกันได้ ส่วนที่มีส.ส.ก้าวไกลโพสต์โจมตี พท. เรื่องบัตรเลือกตั้งนั้น ไม่ใช่การโจมตี เราพูดกันตรงไปตรงมาในฐานะเพื่อนผู้ร่วมประชาธิปไตย ประเด็นสำคัญตอนนี้คือส.ว. ไม่ใช่ระบบเลือกตั้ง และไม่ว่าจะระบบเลือกตั้งจะเป็นแบบไหน เเต่ถ้าส.ว.ยังอยู่ ผลลัพธ์ก็ ไม่ต่างกัน

‘ชวน’เร่งดันเข้าวาระ 23 มิ.ย.

ขณะที่นายชวนกล่าวว่า ได้กำหนดวาระประชุมรัฐสภา วันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ โดยวันที่ 22 มิ.ย. ประชุมร่างกฎหมายที่ค้างอยู่ ส่วน วันที่ 23 มิ.ย.จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำให้เสร็จในวันเดียว หากไม่เสร็จจะต่อในวันที่ 24 มิ.ย. ทั้งนี้ จะดูว่าแต่ละพรรคเสนอร่างแก้ไขมาเท่าใด เพื่อนำไปพิจารณาพร้อมกับฉบับของนายไพบูลย์ ที่ยื่นมารอไว้แล้ว โดยการประชุมรัฐสภายังคงเคร่งครัดเรื่องมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้สวมหน้ากากอนามัย 100% ส่วนการเว้นระยะที่นั่งคงทำได้ไม่เต็มที่ เพราะจำนวนสมาชิกค่อนข้างมาก สิ่งที่ดีที่สุดคือ การสวมหน้ากาก

พท.ไล่ส.ว.ลาออกไปสังกัดพรรค

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษก พท. กล่าวกรณีส.ว.ประกาศจะไม่ให้ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอตัดอำนาจ ส.ว.โหวต นายกฯว่า ชัดเจนว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้มาจากประชาชน กินเงินเดือนจากภาษี ไม่สนใจฟังเสียงประชาชน ยังคงภักดีในบุญคุณคนที่ แต่งตั้งเข้ามา ทั้งที่ส.ว.คือสารตั้งต้นที่ทำให้โครงสร้างการเมืองบิดเบี้ยว นำประเทศไปสู่จุดตกต่ำสุด ผ่านมากว่า 2 ปีแต่ ส.ว.ไม่ได้ทำคุณประโยชน์ใดให้กับประเทศ ยังคงแสดงตัวลุแก่อำนาจ แทรกแซงกระบวนการนิติบัญญัติ เป็นนั่งร้านให้รัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ

น.ส.อรุณีกล่าวว่า นอกจากนั้นยังมี ส.ว.บางคน ออกตัวชัดเจนว่าจะขอรับร่างของพปชร.เท่านั้น ยิ่งตอกย้ำว่า ส.ว.และพปชร.จับมือกันเพื่อเป็นหลักค้ำยันให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจต่อ ซ้ำบางคนยังแสดงออกอย่าง ภาคภูมิ ทำหน้าที่เหมือนส.ส.ฝ่ายรัฐบาล แต่บทบาทตรวจสอบถ่วงดุลแทบเป็นศูนย์ จึงเสนอให้ ส.ว.เหล่านั้นลาออกแล้วรอเว้นวรรค เพื่อไปสมัครสมาชิกพรรคดีกว่า จะได้ทำตามเจตนารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในเนื้อในตนได้มากกว่านี้

ปลุกฝ่ายค้านทันเกมพปชร.

ที่พรรคเพื่อไทย มีการเสวนา “แก้รัฐธรรมนูญ แก้วิกฤตประเทศ” โดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวตอนหนึ่งว่า การแก้รัฐธรรมนูญขณะนี้ ถือเป็นเกมที่ต้องชิงไหวชิงพริบ สับขาหลอกกันตลอด คนแก้ไม่ว่าจะในสภาหรือประชาชนนอกสภา ต้องศึกษาเกมนี้ดี ใครไม่ทันจะเสียเปรียบ วันนี้พท.จะยื่นร่างแก้ไข มีเกมที่เต็มไปด้วยการสับขาหลอก จึงขอเรียกร้องพรรคร่วมฝ่ายค้านต้องทันเกม เรามีบทเรียนว่า พปชร. ชิงยื่นแก้ไขร่างเองก่อนเลย ทั้งที่เราอยากแก้มากกว่าด้วยซ้ำ ใครที่กล่าวหาว่าพท.แก้ระบบเลือกตั้งเหมือน พปชร.นั้น ขอขีดเส้นใต้สามเส้นเลยว่าเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบนั้น เราตกผลึกมานานแล้ว ไม่ได้เปลี่ยนแปลง พปชร.ต่างหากที่ทำเหมือนเรา ส่วนที่มีร่างตรงกับพปชร.บางส่วน เช่น สิทธิเสรีภาพประชาชน เราเห็นว่าประชาชนถูกคุกคาม ต้องเร่งแก้

“ขอย้ำว่า พท.ไม่ได้แก้ระบบเลือกตั้ง เหมือนพปชร. และพล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายกฯต่อหรือไม่ ขึ้นกับมาตรา 272 เท่านั้น ยืนยันเราจะผลักดันกฎหมายประชามติให้ผ่านโดยเร็ว ถ้าสภารับหลักการ ครม.ก็ขัดขวาง ไม่ได้” นายสุทินกล่าว

เด็กปชป.ชงสลับ‘รมช.สธ.-เกษตร’

ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ปชป. แถลงว่า ตนจะเสนอที่ประชุมพรรคใสัปดาห์หน้า ขอให้สลับตำแหน่ง รมช.สาธารณสุขกับรมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นสัดส่วนของภท. เหมือนกรณีรมช.พาณิชย์ กับรมช.คมนาคม เนื่องจากนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ไม่มีอำนาจแก้ปัญหากรณีวัคซีนป้องกันโควิดขาดแคลน ทั้งที่ปชป.ได้โควตามาบริหารกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภท. แต่รัฐมนตรีของปชป.ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงอยากให้สลับกระทรวงกัน เพราะนายสาธิต มีความรู้ ความสามารถ ถ้าไปอยู่กระทรวงเกษตรฯ ทำงานกับรมว.เกษตรฯ ที่อยู่พรรคเดียวกัน น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า

เมื่อถามว่าการเสนอเช่นนี้จะเกิดความ ขัดแย้งหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า ต้องแก้ปัญหาประชาชนให้ได้ ถ้าแก้ไม่ได้แล้วประชาชนไม่พอใจ จะเป็นปัญหาสำคัญมากกว่าพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันเอง ซึ่งเรื่องนี้ตนได้คุยกับนายสาธิตแล้ว จึงออกมาแถลงว่านายสาธิต ไม่มีอำนาจบริหารจัดการ ก็ควรไปอยู่ในจุดที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แต่ตนไม่ได้คุยเรื่องสลับกระทรวง โดยคุยถึงเรื่องปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้น

ปปช.รอข้อมูล-คดีเหมืองอัครา

วันที่ 16 มิ.ย. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ส่งข้อมูลและหลักฐานที่ได้รับจาก Australian Securities and Investment Commission (ASIC) หรือ ก.ล.ต.ออสเตรเลีย มายังป.ป.ช. กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรมว.อุตสาหกรรม และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย ผู้ถูกกล่าวหา เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อให้กลุ่มบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด ได้ประโยชน์ในการสำรวจและทำเหมืองแร่ในพื้นที่จ.สระบุรี เพชรบูรณ์ พิจิตร และพิษณุโลก โดยมิชอบหรือคดีสินบนเหมืองแร่ทองคำว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนยังดำเนินการไม่เสร็จ อยู่ระหว่างการไต่สวน และตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ด้านนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาคดีสินบนข้ามชาติ เพื่อตรวจสอบข้อมูลความเชื่อมโยง การถ่ายเทเงินหรือการยักย้ายทรัพย์สิน คดีนี้พบว่ามีเส้นทางการเงินค้างอยู่ที่ฮ่องกง โดยสำนักการต่างประเทศของป.ป.ช. มีการประสานสำนักงานปราบปรามการทุจริตฮ่องกง (ICC) เพื่อขอความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งรายละเอียดข้อมูลมาเลย ถ้าเรายังไม่ได้รับข้อมูลจาก ICC ข้อมูลที่มีอยู่ในประเทศเราจะไม่รู้เลยว่ากระแสเงินไหลเข้ามาในไทยอย่างไร เรายังพยายามอยู่ มีการเดินทางไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องที่ต่างประเทศ และมีอีกหลายที่ ก็พยายามตรวจสอบ เช่น การก่อสร้างมีการรุกที่ดิน ส.ป.ก.หรือไม่อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายสมเกียรติ ภู่ธงชัยฤทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ กับพวก รวมถึงบริษัท อัครา ไมนิ่ง จำกัด และกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท กรณีอนุญาตให้บริษัท อัคราฯ เปลี่ยนแปลงผังโครงการเหมืองแร่ทองคำชาตรีเหนือโดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน