คืนนี้อังกฤษ-สกอตศึกศักดิ์ศรี
ไวกิ้งฉะสโลวัก-โครแอตฟัดเช็ก
อิตาลีลิ่วรอบ2-เวลส์เก็บ4แต้ม

ยูเครนหืดจับ ชนะน้องใหม่ 2-1 เก็บ 3 แต้มแรกสำเร็จ คืนนี้สวีเดนลุ้นเก็บแต้ม สำคัญจากสโลวะเกีย เช่นเดียวกับโครแอตที่ต้องการ 3 คะแนนแรกจะเจอกับเช็ก ส่วนคู่ดึกเป็นศึกศักดิ์ศรีระหว่างอังกฤษกับสกอตแลนด์ ส่วนผลแข่งที่เหลืออิตาลียุคใหม่ยังเจ๋งบุกขยี้สวิส 3 เม็ด เวลส์บดชนะทีมยังเติร์ก 2-0

ยูเครนฉะนอร์ทมาซิโดเนีย

วันที่ 17 มิ.ย. การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 คู่แรกวันนี้ เป็นเกมนัดที่สอง กลุ่มซี ยูเครน ซึ่งนัดแรกแพ้เนเธอร์แลนด์ มา 2-3 ลงสนามพบกับนอร์ทมาซิโดเนีย ที่นัดแรกแพ้ออสเตรีย มา 1-3 โดยทั้งสองต้องการ 3 แต้มเพื่อโอกาสลุ้นเข้ารอบสอง โดยลงแข่งกันที่เนชั่นแนล สเตเดียม กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย

ยูเครนภายใต้การนำของ อังเดร เชฟเชนโก ใส่ชื่อ จอร์จี บุชชาน, โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, ไมโกลา มัตเวียนโก, วิตาลี ไมโกเลนโก, ไมโกลา ชาปาเรนโก, ตาราส สเตปาเนนโก, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก, อังเดร ยาร์โมเลนโก, โรมัน ยาเรมชุก และ รุสลัน มาลินอฟสกี เป็น 11 ตัวจริง

ด้าน อิกอร์ อังเกลอฟสกี กุนซือนอร์ทมาซิโดเนีย ให้นักเตะอย่าง สโตเล ดิมิตริเยฟสกี, วิซาร์ มุสลิอู, ดาร์โก เวลคอฟสกี, สเตฟาน ริสตอฟสกี, เอซก์ยาน อลิออสกี, สเตฟาน สปิรอฟสกี, อาริยาน อาเดมี, โบบัน นิโคลอฟ, เอนิส บาร์ดี, เอลิฟ เอลมาส และ โกรัน ปานเดฟ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง

ลูกทีมเชฟเชนโกบุกนำ2ลูก

เริ่มเกมยูเครน ที่ภาษีดีกว่าเปิดหน้าบุกเข้าใส่ทันที นาทีที่ 8 รุสลัน มาลินอฟสกี ได้โอกาสยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตูนอร์ทมาซิโดเนียทิ้งตัวปัดทิ้งออกหลังได้ทัน นาที 16 เอลิฟ เอลมาส กองหน้านอร์ทมาซิโดเนียได้ยิงในกรอบเขตโทษบอลหลุดเสาแรกออกหลัง








Advertisement

เกมผ่าน 20 นาทีแรกยูเครนเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่าอย่างชัดเจน และได้ลุ้นจากการยิงในกรอบเขตโทษของอังเดร ยาร์โมเลนโก แต่บอลติดบล็อกกองหลังนอร์ทมาซิโดเนีย นาที 28 อังเดร ยาร์โมเลนโก ได้โอกาสหลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษอีกครั้งยังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตู กระทั่งนาที 29 จากลูกเตะมุม โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ แตะบอลจากเสาแรกบอลเลยมาเสาสองเข้าทาง ยาร์โมเลนโก เข้ายิงเผาขนตุงตาข่ายพายูเครน ขึ้นนำ 1-0

เข้าสู่นาที 34 เกมรุกยูเครนแผลงฤทธิ์อีกครั้ง อังเดร ยาร์โมเลนโก จ่ายบอลจังหวะเดียวให้โรมัน ยาเรมชุก หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเสียบเสาแรกตุงตาข่ายพายูเครนทิ้งห่างเป็น 2-0 แม้ว่านาที 39 โกรัน ปานเดฟ จะหลุดเข้าไปยิงตุงตาข่ายได้แล้ว แต่ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้วทำให้นอร์ทมาซิโดเนีย พลาดทำประตูตีไข่แตก จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มในครึ่งเวลาแรก

ยูเครนหืด – อังเดร ยาร์โมเลนโก กองหน้ายูเครน ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำนอร์ทมาซิโดเนีย จบเกมยูเครนชนะ 2-1 ยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบ ศึกฟุตบอลยูโร 2020 กลุ่มซี นัดสอง ที่สนามนาซิโอนาลา กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.

น้องใหม่ฮึดสู้แต่พ่าย2-1

ครึ่งหลังนาที 47 นอร์ทมาซิโดเนียหวิดได้ประตูตีเสมอ จากการตะลุยเข้าไปยิงของ อาริยาน อาเดมี แต่บอลยังติดเซฟผู้รักษาประตูยูเครน อย่างไรก็ดีนาที 55 นอร์ทมาซิโดเนียได้ลูกโทษที่จุดโทษจากการที่โกรัน ปานเดฟ โดนทำฟาวล์ โดย เอซก์ยาน อาลิออสกี ยิงจังหวะแรกติดเซฟผู้รักษาประตู แต่ยังตามซ้ำส่งบอลตุงตาข่ายให้นอร์ทมาซิโดเนีย ตีไข่แตกไล่มา 1-2 ในนาที 57

นาที 74 ยูเครนได้ลุ้นจากการที่ วิกตอร์ ซีกานคอฟ กองกลางตัวสำรองได้ยิงโล่งๆ ในกรอบเขตโทษบอลหลุดกรอบออกหลังไม่น่าเชื่อ นาที 83 เกมต้องหยุดเมื่อเทคโนโลยีช่วยผู้ตัดสิน (วีเออาร์) แจ้งว่ามีการแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษของนอร์ทมาซิโดเนีย ผู้ตัดสินให้จุดโทษกับยูเครน แต่ว่า รุสลัน มาลินอฟสกี ยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตูสกอร์ยังอยู่ที่ยูเครนนำ 2-1

จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบเกมยูเครนเฉือนชนะนอร์ทมาซิโดเนีย หวุดหวิด 2-1 เก็บ 3 คะแนนแรกในฟุตบอลยูโร 2020 ส่วนนอร์ทมาซิโดเนีย ยังไร้แต้ม โอกาสตกรอบมีสูง สำหรับเกมนัดสุดท้ายกลุ่มซี ยูเครน จะลงสนามพบออสเตรีย ขณะที่นอร์ทมาซิโดเนีย จะพบกับเนเธอร์แลนด์ วันที่ 21 มิ.ย. โดยทั้งสองคู่จะเตะเวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

‘สวีเดน-สโลวะเกีย’ 2 ทุ่มคืนนี้

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 หรือยูโร 2020 ประจำวันที่ 18 มิ.ย. เริ่มคู่แรกเวลา 20.00 น.ตามเวลาประเทศไทย เป็นการเตะในกลุ่มอี “ไวกิ้ง-สวีเดน” ปะทะ “สโลวะเกีย” ที่สนามเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย โดยคู่นี้เคยเจอกัน 5 ครั้ง สวีเดนไม่เคยแพ้ ชนะ 3 ครั้ง และเสมอ 2 ครั้ง ผลงานนัดแรกในยูโร สวีเดนเสมอสเปน 1-1 ส่วนสโลวะเกียชนะโปแลนด์ 2-1 เป็นที่หนึ่งของกลุ่มอี

สำหรับนัดนี้คาดสวีเดนจะเล่นในระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตู โรบิน โอลเซน, มิคาเอล ลุสติก, วิกตอร์ ลินเดเลิฟ, มาร์คุส ดาเนียลสัน, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน, วิกตอร์ คลาสสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คริสตอฟเฟอร์ โอลส์สัน, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, อเล็กซานเดอร์ อิซัก และมาร์คุส เบิร์ก

ส่วนสโลวะเกียคาดใช้ระบบการเล่น 4-1-4-1 ผู้รักษาประตู มาร์ติน ดูบราฟกา, ปีเตอร์ เปคาริก, ลูโบมีร์ ซัตกา, มิลาน สคริเนียร์, โตมัส ฮูโบชาน, ปาทริก ฮโรซอฟสกี, ลูคัส ฮาราสลิน, ยูไร คุชกา, มาเร็ก ฮัมซิก, โรเบิร์ต มัก และอองเดร ดูดา

ห้าทุ่มโครแอตต้องชนะ‘เช็ก’

คู่ต่อมาเวลา 23.00 น. เป็นเกมกลุ่มดี “ตาหมากรุก-โครเอเชีย” เจอกับ “สาธารณรัฐเช็ก” ที่สนามแฮมป์เดน พาร์ก เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ โดยคู่นี้เคยเจอกันมา 3 ครั้ง โครเอเชียไม่เคยแพ้เลย ชนะ 2 ครั้ง และเสมอ 1 ครั้ง ผลงานนัดแรกที่ผ่านมา โครเอเชียแพ้อังกฤษ 0-1 ส่วนสาธารณรัฐเช็ก ชนะสกอตแลนด์ 2-0 เป็นผู้นำกลุ่ม

สำหรับเกมนัดนี้คาดว่าโครเอเชียเล่นในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู โดมินิก ลิวา โควิช, ซิเม เวอร์ซัลจ์โก, โดมากอย วิดา, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก กวาร์ดิโอล, ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช, โยซิป เบรกาโล, นิโคลา วลาซิช, อิวาน เปริซิช และอันเต เรบิช

ส่วนสาธารณรัฐเช็กใช้ระบบการเล่น 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู โตมัส วาชลิก, วลาดิมีร์ ชูฟาล, อองเดร เชลุสต์กา, โตมัส กาลาส, ยาน โบริล, โตมัส ซูเชก, อเล็กซ์ กราล, ลูกัส มาโซปุสต์, วลาดิมีร์ ดาริดา, ยาคุบ ยังก์โต และปาตริก ชิก

ศึกศักดิ์ศรี‘อังกฤษ-สกอตฯ’คู่ดึก

ปิดท้ายด้วยคู่เวลา 02.00 น. เป็นศึกศักดิ์ศรีของ 2 ทีมสหราชอาณาจักร “สิงโตคำราม-อังกฤษ” กับ สกอตแลนด์ แดนวิสกี้ ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยคู่นี้เคยเจอกันมา 114 ครั้ง อังกฤษชนะ 48 ครั้ง เสมอกัน 25 ครั้ง สกอตแลนด์ชนะ 41 ครั้ง ผลงานนัดแรกที่ผ่านมาอังกฤษชนะโครเอเชีย 1-0 ส่วนสกอตแลนด์แพ้เช็ก 0-2 ยังไม่มีคะแนน

สำหรับเกมนัดนี้คาดอังกฤษเล่นในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู จอร์แดน พิกฟอร์ด, ไคล์ วอล์กเกอร์, จอห์น สโตนส์, ไทโรน มิงส์, คีแรน ทริปเปียร์, เดแคลน ไรซ์, คัลวิน ฟิลลิปส์, ฟิล โฟเดน, เมสัน เมาต์, ราฮีม สเตอร์ลิง และแฮร์รี เคน

ส่วนสกอตแลนด์เล่นในระบบ 3-5-2 ผู้รักษาประตู เดวิด มาร์แชลล์, แจ๊ก เฮนดรี, แกรนต์ แฮนลีย์, คีแรน เทียร์นีย์, สตีเฟน โอดอนเนลล์, จอห์น แม็กกินน์, สกอตต์ แม็กโทมิเนย์, สจวร์ต อาร์มสตรอง, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ลินดอน ไดก์ส และ เช อดัมส์

เวลส์ฟาดเติร์ก 2-0

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2020) เมื่อคืนวันที่ 16 มิ.ย. ที่สนามกีฬาโอลิมปิก เมืองบากู ประเทศ อาเซอร์ไบจาน กลุ่มเอ นัดสอง ทีม “แดนไก่งวง” ตุรกี พบกับ “มังกรแดง” เวลส์ โดยเกมนี้เปิดให้แฟนบอลเข้าชมความจุครึ่งสนามราวสามหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลตุรกี ซึ่งชายแดนติดกับอาร์เซอร์ไบจาน

เริ่มเกมคึกคักตั้งแต่ต้น รูปเกมผลัดกันรุกรับสวนกลับเร็ว จนช่วงสิบนาทีท้ายครึ่งแรก แกเร็ธ เบล จอมทัพทีมมังกรแดงเปิดบอลยาวจังหวะเดียวทะลุแนวรับตุรกีให้อารอน แรมซีย์ หลุดเข้าไปพักอกหนึ่งจังหวะก่อนตวัดแปบอลนิ่มๆ ส่งลูกไหลเข้าประตู กลายเป็นสกอร์ให้เวลส์ขึ้นนำก่อน หมดครึ่งแรก 1-0 และยังเป็นประตูที่ 17 ในการรับใช้ชาติของแรมซีย์อีกด้วย

ครึ่งหลัง ตุรกีพยายามบุกหนัก แต่เป็นเวลส์ที่สวนกลับแล้วลูกโทษ จากจังหวะที่เบลกระชากบอลเข้าเส้นกรอบเขตโทษแล้วถูกสะกิดล้มในนาทีที่ 59 แต่เบลที่ลุกขึ้นมายิงลูกโทษเองกลับยิงข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ช่วงท้ายนาที 90 มีจังหวะปะทะกันในกรอบโทษของเวลส์ คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ พุ่งสกัดจังหวะสับไกของบูรัก ยิลมาซ นักเตะตุรกี แล้วเกิดโต้เถียงผลักอกกันจนมีอารมณ์ จนโดนใบเหลืองว่อน นาทีสุดท้าย เวลส์ได้เตะมุม เบลลากบอลหลอกเลื้อยริมเส้นเข้าไปเปิดให้คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ กองหลัง ซัดเข้าประตู ย้ำชัยให้ “มังกรแดง” เวลส์ เอาชนะตุรกีไปอย่างสนุก 2-0 ประตู สรุปสองเกมผ่านไป เวลส์มี 4 คะแนน ขณะที่ตุรกีไม่มีแต้ม

อิตาลีเจ๋ง – มานูเอล โลคาเตลลี มิดฟิลด์อิตาลี ยิงลูกแรก ก่อนตามด้วยลูกที่สองของตนเอง พาขุนพลอัซซูรี่ถล่มสวิตเซอร์แลนด์ 3-0 คว้าชัยชนะ 2 นัดรวด ศึกฟุตบอลยูโร 2020 กลุ่มเอ ที่สนามโอลิมปิก กรุงโรม ประเทศอิตาลี

อิตาลีลอยลำ-รัวยิงสวิส3-0

อีกคู่สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นเกมนัดที่สอง กลุ่มเอ ‘อัซซูรี่’ ทีมชาติอิตาลี ลงสนามพบสวิตเซอร์แลนด์ เกมนี้มีผู้เข้าชมในสนามได้ราว 17,000 คน หรือ 25 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด รูปเกมเป็นอิตาลีที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ ขณะที่สวิสถอยลงมาตั้งรับ จนนาทีที่ 26 อิตาลีก็ขึ้นนำก่อน 1-0 โดยโดเมนิโก เบราร์ดี ลากบอลเรียดเส้นหลังก่อนเปิดเข้ามาให้มานูเอล โลคาเตลลี แปเผาขน และเป็นสกอร์เดียวในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง นาที 52 แฟนบอลอัสซูรี่ได้ลิงโลดกันอีกครั้ง จากฝีเท้าของโลคาเตลลี คนเดิม ซัดจ่อๆ เต็มเหนี่ยวด้วยซ้ายจากเส้นกะโหลก กลายเป็นสกอร์ 2-0 ให้อิตาลีหนีห่าง และเป็นประตูที่สองให้ตัวเองในเกมนี้ ช่วงท้ายเกม นาที 89 ชิโร อิมโมบิเล ได้จังหวะตวัดยิงไกลระยะ 25 หลาตุงตาข่ายสุดสวย และเป็นประตูที่ 15 ในนามทีมชาติของตน จบเกม “ขุนพลอัซซูรี่” อิตาลี เอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ไปอย่างไม่ยากเย็น 3-0 ประตู เก็บ 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัด ยิงไปถึง 6 ประตู ยังไม่เสียประตูให้คู่แข่งเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน