คิวกมธ.ถลกงบฯ
3ทัพจัดซื้ออาวุธ

จับตากรรมาธิการพิจารณางบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ 3 เหล่าทัพ เรือดำน้ำ ยานเกราะล้อยาง เครื่องบินโจมตี ด้านกมธ.ป.ป.ช.เล็งสอบ 3 โครงการ ทอ.มูลค่า 3 พันล้าน ไม่โปร่งใส ‘บิ๊กแอร์บูล’ ไม่กังวล พร้อมชี้แจง ปชป.ยันบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แก้ชั้น กมธ.ได้ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพื่อไทยลั่นต้องดันให้ผ่าน ฉะส.ว.เล็งยื่นตีความมีธงล้มกระดาน กมธ.พิจารณางบฯ กมธ.แก้รธน.ผวา หลังส.ว. ติดโควิด สั่งงดประชุมแล้ว แต่ ‘ชวน’ ไม่เลื่อน ประชุมสภา ประธานวิปรัฐบาลชี้ประกาศ ศบค. งดกิจกรรมรวมตัว 20 คน ไม่ยกเว้นประชุมหน่วยงานรัฐ

ปชป.ยันร่าง‘บัตร2ใบ’สมบูรณ์

วันที่ 27 มิ.ย. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธาน ส.ส.พรรค กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบบบัตร 2 ใบ ซึ่งถูกจารณ์ว่าอาจยังไม่สมบูรณ์ และจะถูกคว่ำวาระ 3 ว่า ปชป.เชื่อว่าร่างแก้ไขของพรรคมีความสมบูรณ์เพียงพอ และมีหลักการเหตุผล ที่เสนอต่อรัฐสภาอย่างชัดเจน ส่วนที่บางฝ่ายกังวลว่าบางมาตราในรัฐธรรมนูญขัดหรือแย้งกับมาตรา 83 และมาตรา 91 ก็สามารถแก้ไขให้สอดคล้องกับหลักการและเจตนารมณ์ที่สมาชิกรัฐสภาเสียงข้างมากรับหลักการ ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาจนถึงขั้นแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปไม่ได้ เชื่อว่ากมธ.วิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ (แก้ไขเพิ่มเติม) จากทุกฝ่าย จะสามารถแก้ไขให้สอดคล้องกับการแก้ไข รัฐธรรมนูญที่ปชป.เสนอได้

ปชป.ยืนยันว่าร่างแก้ไข 6 ร่างของพรรค เพื่อประโยชน์ของประชาชน รวมทั้งเรื่องระบบบัตร 2 ใบ ก็เสนอแก้ไขเพื่อประโยชน์ประชาชนบนหลักการสำคัญ 3 ประการคือ 1.สนับสนุนการใช้อำนาจอธิปไตยผ่านการเลือกตั้งเป็นอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง 2.ประชาชนสามารถแสดงออกถึงเจตจำนงของตนในการคัดกรองผู้แทนเข้าสู่อำนาจ ไม่ต้องถูกมัดมือชกว่าต้องเลือก ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคจากบัตรใบเดียว และ 3.ประชาชนสามารถใช้สิทธิ เสรีภาพ ผ่านการเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ในหมวดว่าด้วยสิทธิ เสรีภาพ

แก้ไขในชั้นกมธ.ได้

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.ปชป. รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวเรื่องเดียวกันว่า มีการพูดคุยชัดเจนแล้วตั้งแต่เสนอร่างว่าเป็นร่างที่เราต้องการแก้ไขหลักการเรื่องระบบการเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ คือ ส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ส่วนกระบวนการเลือกตั้งจะอยู่ในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่หลายคนเป็นห่วงเพราะเราขอแก้ไขเพียง 2 มาตรา แต่มีมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการเลือกตั้งประมาณ 8-9 มาตรา คิดว่าไม่น่ามีปัญหาใด เพราะข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 124 ระบุชัดเจนว่าสามารถแก้ไขเพิ่มเติมมาตราต่างๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับหลักการได้ เราจะขอเสนอแปรญัตติในชั้นกมธ.วิสามัญฯ เพิ่มเข้าไปเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ที่สุด

แทนที่จะตั้งคำถามว่าการเสนอผ่านเพียงร่างเดียวและมีปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมตั้งคำถามใหม่ว่าเรา จะแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับ หลักการตามข้อบังคับข้อ 124 อย่างไร เพื่อให้ ร่างฉบับนี้สมบูรณ์ที่สุด ตนได้สรุปไว้ชัดเจนว่าระบบการเลือกตั้งที่เสนอเป็นการเสนอเพียงหลักการ สามารถเพิ่มเติมให้เกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นได้ ทุกฝ่ายรับหลักการ มาเอง มีทั้ง ส.ว. ส.ส. จึงเชื่อว่าการแก้ไขมาตรานี้เป็นความเห็นพ้องต้องกัน แทนที่จะมา วิพากษ์วิจารณ์ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วม ขับเคลื่อนให้การแก้ไขนำไปสู่ความสมบูรณ์มากที่สุด จัดระบบการเลือกตั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ อีกครั้ง ซึ่งการแก้ไขเราจะอิงรัฐธรรมนูญปี 40 จะช่วยให้การเลือกตั้งเข้มแข็งมากขึ้น

ชู‘บัญญัติ’เหมาะปธ.แก้รธน.

เมื่อถามถึงกรณีส.ว.เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ นายชินวรณ์กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของแต่ละคน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วคิดว่าเมื่อรัฐสภารับหลักการก็ควรเป็นเรื่องของกมธ. ที่ต้องพิจารณา ส่วนสมาชิกคนใดที่เห็นว่าประเด็นใดยังไม่สมบูรณ์สามารถแปรญัตติเพิ่มเติมเข้ามา หรือคนที่เป็นกมธ.ก็สามารถแปร ญัตติเพิ่มเติมเข้ามาให้ครอบคลุมสมบูรณ์ได้

เมื่อถามถึงการประชุมนัดแรกของกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ นายชินวรณ์กล่าวว่า ทางวุฒิสภาแจ้งงดประชุมในสัปดาห์นี้ ดังนั้นนัดแรกจะเป็นวันที่ 6 ก.ค.เมื่อถามว่ามีรายชื่อนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.ปชป. ถูกเสนอให้เป็นประธานกมธ. นายชินวรณ์กล่าวว่า เราให้เกียรติพรรคแกนนำรัฐบาล แต่หากที่ประชุมเห็นชอบด้วย ส่วนตัวก็มองว่านายบัญญัติ มีความเหมาะสม และไม่น่าจะขัดข้อง

เสรีแนะสภาแก้ปัญหาเองก่อน

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวว่า แม้หลักการจะมี 2 มาตรา แต่เมื่อรัฐสภารับหลักการแล้วต้องดูว่า 2 มาตรานี้โยงมาตราใด มีความสัมพันธ์กันที่ต้องบัญญัติให้สมบูรณ์ ครบถ้วน สามารถแก้มาตราอื่นได้ โดยกมธ.เองไปตรวจและดูว่ามาตราใดที่ยังขัดแย้งหรือไม่สอดคล้องกันก็ต้องปรับให้ไปด้วยกันได้ แต่ถ้าเคร่งครัดว่ารับหลักการแค่ 2 มาตรา ส่วนอันอื่นแก้ไม่ได้เพราะไม่ได้รับหลักการ แสดงว่าร่างนี้เมื่อถึงวาระ 3 เห็นข้อขัดแย้งแล้วว่าไม่แก้ไขก็ต้องตกไป จึงอยู่ที่การพิจารณา ของกมธ.ว่าจะเสนอร่างที่สมบูรณ์มาอย่างไร หรือตัดสินใจอย่างไร ถ้าตัดสินใจมาว่าแก้มาตราอื่นด้วย สภาก็ต้องมาดูว่าแก้เกินกว่าหลักการหรือไม่

ส่วนข้อเสนอของส.ว.บางคนที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น เรื่องใดที่สงสัยสามารถ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ แต่การทำหน้าที่ของรัฐสภาต้องเข้าใจก่อนว่าอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาอยู่ตรงไหน แล้วควรต้องตัดสินใจในส่วนของสภาก่อน ต้องทำออกมาให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก่อน เพราะเป็นหน้าที่ เป็นอำนาจ แต่ถ้ายังไม่รักษาอำนาจของตัวเองไว้ เอะอะอะไรก็ส่งวินิจฉัยแล้วจะมีสภาไว้ทำไม เอาไว้ค่อยเกิดปัญหาจริงๆ ก่อน หากเดินไป ไม่ได้และถ้าจะส่งศาลฯ ก็ชอบด้วยเหตุผล

เขตเดียวคนเดียวไม่แก้ปัญหา

อยากจะชี้ให้เห็นว่าการเสนอแบบเขตเดียวคนเดียว แก้ไขปัญหาไม่ได้ ทั้งที่เจตนาต้องการ ให้การเลือกตั้งดีกว่าเดิม ซึ่งข้อเสนอในร่างนี้แม้จะเสนอบัตร 2 ใบก็ไม่เป็นไร เพราะอยู่ที่ว่าจะจัดระบบการเลือกตั้งอย่างไร ถ้าจัดแบบเขตเดียวคนเดียวมันก็ไม่สะท้อนความต้องการ ของประชาชน หรือสะท้อนความเป็นตัวแทนของประชาชนได้ ดังนั้น น่าจะใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง จะทำให้คนที่ได้รับคะแนนลำดับที่ 2,3 มีโอกาสเข้ามาเป็นตัวแทนในสภาได้ แต่ถ้าเป็นเขตเดียวคนเดียว สภาพก็แบบนี้ อีกทั้งเมื่อเขตใหญ่ขึ้นก็จะทำให้การซื้อเสียงเป็นไปได้ยาก

เพื่อไทยซัดส.ว.ตั้งธงล้มแก้รธน.

เวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค แถลงกรณีส.ว.กลุ่มหนึ่ง เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอแก้มาตรา 83 และมาตรา 91 ระบบเลือกตั้งที่เกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง และจำนวนส.ส. ซึ่งผ่านความความเห็นชอบจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาวาระแรก โดยอ้างมาตรา 86 (4) ที่ระบุเกี่ยวกับ จำนวนส.ส. แบ่งเขต 350 คน และบัญชี รายชื่อ 150 คน ซึ่งอาจทำให้ขัดกันว่า เรื่องนี้เราต้องช่วยกัน เพราะเป็นเจตนารมณ์ร่วมกันของสมาชิกรัฐสภาที่รับร่างแก้ไขในมาตรา 83 และมาตรา 91 หากส.ว.ใจกว้างรับร่างที่ 3 ของพท.ก็จะไม่เกิดปัญหาเช่นนี้ เพราะสาระสำคัญเหมือนกันกับร่างปชป. คือ แก้บัตรเลือกตั้งให้เป็น 2 ใบ กับจำนวนส.ส. แต่ตนยังเชื่อว่าสามารถแก้ไขได้ในชั้น กมธ.

วันนี้มีคำถามว่าถ้าแก้มาตรา 83 และมาตรา 91 จะแย้งกับมาตรา 86 ที่ไม่ได้มีการเสนอแก้ไขในร่างของปชป.หรือไม่ ตนเชื่อว่าในชั้นแปรญัตติของกมธ. ยังสามารถเขียนเพิ่มได้ว่าให้ยกเว้นมาตรา 86 (4) ส่วนเรื่องอื่นให้ไปกำหนดในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เพราะเมื่อเป็นเจตนารมณ์ของสมาชิกรัฐสภาแล้วต้องทำเรื่องนี้ผ่านให้ได้ ส่วนที่มีส.ว. เตรียมยื่นตีความต่างๆ ก็ทราบกันดีว่ามี ส.ว.กลุ่มหนึ่งมีความพยายามไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว จึงมีความพยายามจะล้ม แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และจำนวนส.ส.ได้

จับตา 3 เหล่าทัพซื้อยุทโธปกรณ์

นายยุทธพงศ์กล่าวถึงการประชุมคณะ อนุกมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน (ในกมธ.วิสามัญงบประมาณ 65) วันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา 13.30 น. จะมีการพิจารณางบประมาณของกองทัพบก (ทบ.) กองทัพเรือ (ทร.) และกองทัพอากาศ (ทอ.) โดยในส่วน ทร.มีการเสนองบเรือดำน้ำ 2 ลำ เพื่อให้คณะอนุกมธ.พิจารณา ทบ.มีการเสนอจัดซื้อยานเกราะล้อยาง และเฮลิคอปเตอร์โจมตี ส่วน ทอ.เสนอการจัดซื้อเครื่องบินโจมตีขนาดเบา และโครงการปฏิบัติการในห้วงอวกาศ ซึ่งเป็นรายการใหญ่ๆ ที่จะมีการเสนอ จึงอยากฝากสื่อมวลชนและประชาชนติดตามเรื่องนี้ในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังอดอยาก ตกงานและคนติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทุกวัน ขณะเดียวกันทางแพทย์ออกมาเรียกร้อง ให้ล็อกดาวน์กทม.เพราะระบบสาธารณสุขขณะนี้รับไม่ไหวแล้ว

ด้าน นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พท. กล่าวว่า พรรคห่วงสถานการณ์โควิด ดังนั้นวันอังคารที่ 29 มิ.ย.นี้ ในการประชุมพรรคตนจะเสนอเรื่องการขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เพื่อพิสูจน์ว่าการบริหารวัคซีนของรัฐบาล ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวอย่างไร

กมธ.ปปช.จ่อสอบทอ.จัดซื้อ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.เพื่อไทย ในฐานะกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ หรือกมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนฯ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากกมธ.ให้รับผิดชอบ เรื่องร้องเรียนจากกลุ่มกองทัพอากาศรักความก้าวหน้าและความถูกต้อง ขอให้ตรวจสอบ ผู้มีอำนาจของกองทัพอากาศ (ทอ.) กรณีความไม่โปร่งใสในการจัดหายุทโธปกรณ์ของ 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท ที่ถูกกล่าวหามีการดำเนินการผิดระเบียบและ ขัดต่อกฎหมาย เร่งรีบผิดปกติ และสั่งการให้เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และขอบเขตของแต่ละโครงการขึ้นใหม่ ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการจัดหาแบบเดิมที่ผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ มาเรียบร้อยแล้ว เช่น กระทรวงกลาโหม สำนักงบประมาณ และกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณ 64 เป็นต้น หากเป็นเช่นนั้นจริงย่อมไม่สามารถกระทำได้ เพราะอาจเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เบื้องต้นตนและคณะทำงานตรวจสอบเอกสารที่แนบมาโดยละเอียด เชื่อได้ว่าเป็นหนังสือราชการของทอ. เพราะมีเลขที่หนังสือและมีลายมือชื่อผู้มีอำนาจของหน่วยงานต่างๆ ลงนามอยู่จริง ส่วนรายละเอียดของหนังสือราชการระบุชัดเจนว่ามีผู้มีอำนาจสั่งการให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขวัตถุประสงค์ และสาระสำคัญของทั้ง 3 โครงการจริง

เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง

กมธ.คงต้องตรวจสอบว่าการกระทำเช่นนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์แนวทางปฏิบัติที่อนุญาต ให้ทำเช่นนี้ได้หรือไม่ หรือ ทอ.เคยดำเนินการลักษณะนี้มาก่อนหรือเปล่า ซึ่งโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ที่สำคัญและมีมูลค่าสูงเช่นนี้เชื่อว่าผู้มีอำนาจของ ทอ.คงไม่กล้าเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และสาระสำคัญของโครงการ โดยพลการอย่างแน่นอน หากมีข้อสงสัยย่อมสามารถสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้วินิจฉัย เพื่อความรอบคอบ รัดกุม และตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย กมธ.ป.ป.ช.จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง และตรวจสอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับการร้องเรียนต่อไป

สำหรับ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ พัฒนาและปรับปรุงระบบป้องการทางอากาศ ระยะที่ 7 (N-SOC C2) โครงการพัฒนาการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของทอ. (GBAD) และโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ มีมูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านบาท ทั้งหมดได้รับอนุมัติจากกระทรวงกลาโหม โดยทอ.ได้ขออนุมัติหลักการ/โครงการนำร่อง ตามแนวทางการจัดหาพร้อมการพัฒนา (Purchase and Development: P&D) ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ลำดับที่ 11 (New S-Curve 11) นอกจากนี้ ยังเป็นไปตามแผนพัฒนาของกระทรวงกลาโหม พ.ร.บ.เทคโนโลยีป้องกันประเทศ ยุทธศาสตร์ทอ. 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2563 และสอดคล้องกับสมุดปกขาวทอ. รวมทั้งได้รับการอนุมัติงบจากกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 64

‘แอร์บูล’ไม่กังวล-พร้อมแจง

ด้าน พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกทอ. กล่าวว่า พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ. ให้นโยบายเรื่องดังกล่าวว่า ได้ทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของทอ. ยืนยันว่าเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ที่ผ่านมา ผบ.ทอ.ไม่อยากตอบโต้ให้เป็นประเด็นจนกลายเป็นโต้กันไปมา แต่หาก กมธ.ป.ป.ชจะตรวจสอบ คงเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอน เมื่อถามว่าหาก กมธ.ป.ป.ช เชิญไปชี้แจง ผบ.ทอ.เตรียมการอย่างไร พล.อ.ท.ฐานัตถ์กล่าวว่า ผบ.ทอ.ทราบอยู่แล้ว และยืนยันที่ทำไปคิดถึงประโยชน์ที่คุ้มค่าของ ทอ.และยินดีชี้แจงต่อ กมธ. เมื่อถามว่า ผบ.ทอ.จะไปชี้แจงด้วยตัวเอง หรือส่งผู้แทน พล.อ.ท.ฐานัตถ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ ผบ.ทอ.ว่าช่วงดังกล่าวติดภารกิจจำเป็นหรือไม่ แต่อย่างไร ต้องชี้แจงอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา

“ผบ.ทอ.ไม่ได้กังวลอะไรเพราะทุกอย่างท่านทำด้วยความถูกต้องอยู่แล้ว ตาม พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างปี 2560 และได้ตรวจสอบระเบียบ ครบถ้วนก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา ในรายระเอียดทั้ง 3 โครงการ พิจารณา” โฆษกทอ.กล่าว

ทั้งนี้ 3 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านบาท ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการล้มเลิกแนวทางจัดหายุทโธปกรณ์ตามแผนพัฒนาทอ. ที่กำหนดไว้ในสมุดปกขาว ซึ่งจัดทำช่วงที่ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ เป็นผบ.ทอ. มีการกำหนดแนวทางการซื้อยุทโธปกรณ์เพื่อต่อยอด ไปสู่การวิจัยพัฒนา หรือพีแอนด์ดี เน้นการพึ่งพา ตัวเองและเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในประเทศ

ทำเนียบเข้มสกัดโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงนามในคําสั่งศบค.ที่ 6/2564 กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด พร้อมออกมาตรการต่างๆ ควบคุมนั้น ทำเนียบยังคงมาตรการด้านสาธารณสุข ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เวิร์ก ฟรอมโฮมถึง 30 มิ.ย.นี้ ยึดแนวทางปฏิบัติที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีประกาศ การประชุมหารือยังใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

ส่วนการปฎิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ล่าสุด น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ รักษาการผอ.สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกฯแจ้งสื่อประจำทำเนียบว่าการปฏิบัติหน้าที่ยังใช้มาตรการเดิม สถานีโทรทัศน์ช่องละ 2 ทีม สำนักข่าวและหนังสือพิมพ์สังกัดละ 2 คน เพิ่มมาตรการให้ทุกคนระมัดระวังสูงสุดในการป้องกันโควิด รวมทั้งการรุมสัมภาษณ์

สภายังไม่เลื่อนประชุม

ส่วนที่รัฐสภา หลัง พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ ส.ว. ติดเชื้อโควิด โดยมีข้าราชการและส.ว. เป็นสัมผัสเสี่ยงสูง นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนฯ กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนฯ วันที่ 30 มิ.ย. และ 1 ก.ค.นี้ ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภา กำหนดให้การประชุมยังเป็นไปตามเดิม แม้วุฒิสภาจะงดประชุมวันจันทร์และอังคารนี้เนื่องจากทางฝั่งวุฒิสภามีสมาชิกติดเชื้อ ส่วนทางสภาผู้แทนฯไม่มีสมาชิกติดเชื้อ ถือว่าได้รับผลกระทบน้อยหรือมีความเสี่ยงต่ำ และได้ทำบิ๊กคลีนนิ่งทั้งห้องประชุมสภาและบริเวณจุดเซ็นชื่อแล้ว จึงมั่นใจในมาตรการป้องกัน ส่วนที่มีส.ส.เรียกร้องให้งดประชุมสัปดาห์นี้ไปก่อนนั้น เบื้องต้นยังยืนยันว่าการประชุม ยังเป็นไปตามเดิม

กมธ.แห่งดประชุม

ในส่วนกมธ.แต่ละคณะนั้น ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 65 มีคำสั่งงดประชุมคณะกมธ. และคณะอนุกมธ.ทั้ง 9 คณะ ระหว่าง 28 มิ.ย. ถึง 2 ก.ค.นี้ เช่นเดียวกับกมธ.การกฎหมายฯ สภาผู้แทนฯ สั่งงดประชุมวันที่ 30 มิ.ย. และวันที่ 1 ก.ค.นี้

นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอแจ้งให้รับทราบถึงการงดและยกเลิกการประชุมระหว่าง 28 มิ.ย.-2ก.ค.หรือตลอดช่วงสัปดาห์นี้ หลังมีนัดหมายประชุมหลายคณะ เนื่องจากข้อกำหนดและคำสั่งศบค.สั่งงดจัดกิจกรรมการประชุมหรือรวมตัวกันมากกว่า 20 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ คำสั่งดังกล่าวไม่ได้ยกเว้นในส่วนของหน่วยงานราชการ หรือได้รับ อนุญาตให้มีการประชุมได้หรือไม่

ส่วนพปชร. แจ้งงดประชุมพรรคประจำสัปดาห์ทุกวันอังคาร และยกเลิกการประชุม วิปรัฐบาลวันที่ 28 มิ.ย. ยกเลิกการประชุมกมธ.งบประมาณ 65 รวมถึงงดประชุมกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่นัดหมายช่วงสัปดาห์นี้ ส่วนการประชุมสภาฯให้ติดตามข่าวสารและการแจ้งจากทางสภาอีกครั้ง

นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย กมธ.งบประมาณ 2565 กล่าวว่า ตนเป็นห่วงเนื่องจากปีนี้ในการพิจารณา งบล่าช้ากว่าทุกปี เพราะมีการประชุมตรงกับวันประชุมสภาอาจทำให้ล่าช้าไปพอสมควร ยังพิจารณาไม่ผ่านในกลุ่มเศรษฐกิจซึ่งเป็น กลุ่มแรก ทำให้ห่วงว่าจะพิจารณาเสร็จภายใน 105 วันหรือไม่

ขรก.สภาโพสต์ไม่เลือกปชป.

วันเดียวกัน ข้าราชการสภาฯรายหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊กระบุ “คนดีบางคนนับวันยิ่งเสื่อม ศรัทธา การเลือกตั้งเป็นความลับ แต่สมัยหน้าบอกเลย ไม่กาประชาธิปัตย์ #แมงสาบ”

และเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ข้าราชการรายนี้ ยังโพสต์ระบุถึงข่าวส.ว.ป่วยโควิด มาประชุมสภาว่า ซึ่งตนโทษคนเสนอร่าง คนนัดประชุมร่วม และสมาชิกที่ป่วยแล้วยังมา รัฐธรรมนูญอาจจะดูไม่เป็นประชาธิปไตย มีที่มาจากเผด็จการ ต้องแก้ แต่ใช่เวลานี้หรือไม่ที่ต้องรีบร้อนแก้ และทั้ง 13 ฉบับไม่ได้มีฉบับไหนที่แก้แล้วประชาชนจะอยู่ดีกินดีขึ้นเลย โดยเฉพาะฉบับที่ 13 ผ่านวาระหนึ่งได้ ก็เป็นการแก้เพื่อพรรคการเมือง เพื่อนักการเมืองเท่านั้น คงคิดว่าถ้าแก้ได้แล้วพรรคตัวเองจะได้ที่นั่งมากเป็นพรรคเกิน 100 ที่นั่ง ผลที่ตามมาถ้าเกิดคลัสตอร์รัฐสภาขึ้นมา ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็เกิดกับใครถ้าไม่ใช่ประชาชน

แต่เมื่อสื่อออนไลน์เผยแพร่ข่าวดังกล่าว ข้าราชการรายนี้ได้ลบโพสต์ออกไป

‘สศช.’ส่อชงเลื่อน‘คนละครึ่ง’

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยมีการเรียกประชุมคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจเป็นการด่วน เพื่อหามาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจ หลังมีการประกาศปิดพื้นที่และกิจการบางจุด เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด -19

“ยังไม่ทราบวาระการประชุมทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจในวันที่ 28 มิ.ย. จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะมีการหารือเลื่อนโครงการคนละครึ่งที่จะเริ่ม 1 ก.ค.นี้และมีมาตรการเศรษฐกิจอื่นเข้ามาเสริมแทนหรือไม่”

รายงานข่าวจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า คาดว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการปิดพื้นที่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถออกไปใช้จ่ายได้ ทำให้กระทรวงการคลังอาจจะเสนอให้เลื่อนโครงการคนละครึ่งที่จะเริ่มวันที่ 1 ก.ค.2564 นี้ออกไปอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากวัตถุประสงค์โครงการเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ประกาศคำสั่งล่าสุดมีการกำหนดไม่ให้ร้านอาหารนั่งกินในร้านได้เป็นเวลา 30 วัน มาตรการคนละครึ่งจึงไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี จะต้องหารือร่วมกับนายกฯอีกครั้ง เพราะยังมีบางแนวคิดให้คงระยะเวลามาตรการตามเดิมไว้ จึงต้องพิจารณาความเหมาะสมให้รอบด้าน หากมีการเลื่อน สศช. ก็ต้องเสนอเรื่องเข้าครม.เห็นชอบภายในเดือน ก.ค.นี้ เพราะมติครม.กำหนดให้เริ่มมาตรการ 1 ก.ค.

นอกจากนี้อาจมีการพิจารณาเสนอให้นายกรัฐมนตรีจ่ายเงินเพิ่มในมาตรการเราชนะ และ ม.33 เรารักกัน ที่กำลังสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.2564 นี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับแรงงานและประชาชนทดแทนไปก่อนเป็นเวลา 1 เดือน ส่วนจำนวนเงินจะให้เท่าไรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี โดยแหล่งเงินจะใช้จากพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่ได้รับการอนุมัติจากสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน