ท่องภูเก็ต
‘เกาะเต่า’
เปิด15กค.

ภูเก็ตแซนด์ บ็อกซ์คึก การบินไทยบินตรงนำ นักท่องเที่ยวจากยุโรปชุดแรกเกือบ 500 คนย่ำเกาะ ทั้ง ต่างชาติและคนไทยวันเดียวรวม 7 เที่ยวบิน ด้านพิพัฒน์ รมว.ท่องเที่ยว หาทางแก้ปัญหาไฟลต์ลงมาพร้อมกัน มั่นใจทำรายได้ตามเป้า 8,900 ล้านบาท รองผู้ว่าฯททท.คาดสิ้นปี มีนักเดินทางมาเยือน 3-4 ล้านคน ด้านรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ยืนยันชายหาดมีคุณภาพน้ำทะเลดี มีคุณภาพอากาศดี และ เป็นจังหวัดที่สะอาด

ฝรั่งมาแล้ว – เจ้าหน้าที่ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากยุโรปชุดแรก ที่เดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต โดยเที่ยวบินทีจี 923 เส้นทางแฟรงก์เฟิร์ต-ภูเก็ต ซึ่งมีเที่ยวบินมาลงถึง 7 เที่ยวในวันเดียว ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 ก.ค.

ผู้บริหารบินไทย-ททท.แห่รับฝรั่ง

เวลา 07.00 น. วันที่ 3 ก.ค. ที่อาคาร ผู้โดยสารต่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัทการบินไทยฯ พร้อมด้วยนายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ทท.) ด้านตลาดยุโรปแอฟริกาตะวันออกกลางและอเมริกา นางกัลยารัตน์ สุทธิพัฒนกิจรองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ตสายสนับสนุนธุรกิจ ผู้แทนนายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับผู้โดยสารเที่ยวบินแรกที่เดินทางจากยุโรปมาถึงจ.ภูเก็ต เที่ยวบินที่ TG 923 เส้นทางแฟรงก์เฟิร์ต-ภูเก็ต ทันที ที่เครื่องบินวิ่งเข้าหลุมจอดที่ 11 ได้รับการต้อนรับอุโมงค์น้ำ และเสียงปรบมือจากคณะผู้บริหารการบินไทยและททท. พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชนที่ร่วมติดตามทำข่าว

นายนนท์กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนองนโย บายของรัฐบาลในการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้โมเดลภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ด้วยการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ครบโดสให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จ.ภูเก็ตแบบไม่ต้องกักตัว และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทการบินไทยฯได้จัด 5 เที่ยวบินจากยุโรป บินตรงสู่ภูเก็ต ในเดือนก.ค.-ก.ย. ได้แก่ โคเปน เฮเกน แฟรงก์เฟิร์ต ปารีสทำการบินทุกวันศุกร์ สัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน และลอนดอน ซูริกบินทุกวันเสาร์ สัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน

คาดปีนี้ต่างชาติเข้าภูเก็ต 3-4 ล้าน

นอกจากนี้การบินไทยฯ ยังได้จัดเที่ยวบินเพิ่มเติมในตารางบินช่วงฤดูหนาวปีนี้ เพื่อรองรับการเดินทางอย่างต่อเนื่อง โดยเที่ยวบินแรก เริ่มในวันที่ 3 ก.ค. ของการบินไทยที่บินสู่ภูเก็ตในวันที่ 3 ก.ค. ได้แก่เที่ยวบิน TG 923 เส้นทางแฟรงก์เฟิร์ต-ภูเก็ต เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตเวลา 17.10 น. ตามด้วยเที่ยวบินที่ TG 953 เส้นทางโคเปนเฮเกน-ภูเก็ตและเที่ยวบินที่ TG 933 เส้นทางปารีส -ภูเก็ตตามลำดับ และในวันที่ 4 ก.ค. มีเที่ยวบินจากยุโรปอีก 2 เที่ยวบินที่ TG 917 เส้นทางลอนดอน-ภูเก็ต และเที่ยวบินที่ TG 973 เส้นทางซูริก-ภูเก็ต โดยจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางจากยุโรปทั้ง 5 เส้นทาง ดังกล่าวรวมประมาณ 300 คน








Advertisement

นายนนท์กล่าวเพิ่มเติมว่า เที่ยวบินในเส้นทางจากยุโรปบินสู่ภูเก็ตของการบินไทย เพื่อสนับสนุนโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี มีจำนวนยอดจองที่นั่งล่วงหน้าของผู้โดยสารโดยรวมตลอดเดือนก.ค. อยู่ที่ประมาณ 1300 คน

ด้านนายศิริปกรณ์กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังมองดูภูเก็ต ถ้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น และเป็นไปตามเป้าหมายที่รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าและคาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาประเทศไทย ประมาณ 3 ถึง 4 ล้านคน และด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนในจ.ภูเก็ต จะช่วยทำให้ภูเก็ตกลับมาคึกคักช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ควบคู่กับมาตรการป้องกันควบคุมโรค โควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ สำหรับวันนี้จะมีเที่ยวบินเข้าสู่ภูเก็ต 7 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 484 คน เป็นคนไทย 96 คน ชาวต่างชาติ 388 คน

เร่งแก้ปัญหาไฟลต์ลงพร้อมกัน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่า จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1-3 ก.ค.นี้ ช่วงแรกพบปัญหาการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาบริเวณสนามบินภูเก็ต จนเกิดความล่าช้าทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ในสนามบินนาน ล่าสุดทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาแล้ว เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ในสนามบินน้อยที่สุด

ทั้งนี้ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ แต่ยังกังวลเหมือนกันว่า หากเข้ามาจำนวนหลายๆ เที่ยวบินพร้อมกันอาจล่าช้าได้ จึงมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยกันดูแลและหาทางแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็เข้าใจได้เพราะวันแรกๆ มีอะไรต้องปรับกันอยู่บ้าง แต่จากนี้ไปคงเข้าที่เข้าทาง โดยอยากให้ใช้เวลาในสนามบินไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.นี้ จำนวน 1 แสนคน สร้างรายได้ 8,900 ล้านบาท และทั้งปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทุกช่องทางได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 3-4 ล้านคน ส่วนปีหน้าน่าจะเพิ่มขึ้น หลังจากประเทศจีนเปิดให้ประชาชนเดินทางออกมาเที่ยวนอกประเทศได้

โวสิ่งแวดล้อมคุณภาพเยี่ยม

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลประกาศโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นั้น ได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ติดตามเฝ้าระวังและตรวจสอบสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมพื้นที่จ.ภูเก็ต พบว่าชายหาดมีคุณภาพน้ำทะเลดี มีคุณภาพอากาศดี และเป็นจังหวัดที่สะอาด (เป็นการประเมินเรื่องการจัดการขยะมูลฝอย) ซึ่งพร้อมรับนักท่องเที่ยว ที่จะมาเที่ยวพักผ่อนในพื้นที่ที่มีคุณภาพ สิ่งแวดล้อมดีอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดี คพ. กล่าวว่า จากฐานข้อมูลคพ.พบว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ปีที่แล้ว (2563) ค่าเฉลี่ย 24 ช.ม. โมเดลภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มีค่า 4-35 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ค่าเฉลี่ยรายปี 15 มคก./ลบ.ม. และปีนี้ (2564) ค่าเฉลี่ย 24 ช.ม. ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีค่า 10-41 มคก./ลบ.ม. (พบเกินค่ามาตรฐาน 1 วัน มีค่า 61 มคก./ลบ.ม.) ทั้งนี้ วันนี้ (2 ก.ค. 64) คุณภาพอากาศในจังหวัดภูเก็ตอยู่ในระดับดีมาก ประชาชนสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ โดยปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ 14 มคก./ลบ.ม.

คุณภาพน้ำทะเลจ.ภูเก็ต มีจุดเก็บตัวอย่างน้ำทะเลทั้งหมด 20 จุด พบว่าในปี 2563 มีค่าดัชนีคุณภาพน้ำทะเลอยู่ในเกณฑ์พอใช้-ดีมาก ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี (ร้อยละ 60) โดยบริเวณที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ได้แก่ หาดในหาน (ตอนกลาง) และค่าดัชนีคุณภาพน้ำทะเลปีนี้ ช่วงฤดูแล้ง (เก็บตัวอย่างระหว่างเดือนก.พ.-มี.ค.) ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี (ร้อยละ 80) สำหรับคุณภาพน้ำทะเลบริเวณชายหาดต่างๆ พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเล เหมาะสมต่อกิจกรรมนันทนาการทางทะเล ยกเว้นหาดราไวย์ที่พบพารามิเตอร์แบคทีเรียเอ็นเทอโรคอกไคเกินค่ามาตรฐานฯอย่างต่อเนื่อง จึงควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมทางน้ำ

นายอรรถพลกล่าวว่า จ.ภูเก็ตมีคุณภาพสิ่งแวดล้อมดี ทั้งในด้านความสะอาด คุณภาพอากาศดี และคุณภาพน้ำทะเลดี เหมาะสำหรับกับการท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นอย่างดี ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเพื่อให้สิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีและยั่งยืน ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ต้องขอความร่วมมือประชาชน นักท่องเที่ยวและทุกภาคส่วนในการร่วมกันปกป้องคุณภาพสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อมลพิษทั้งด้านน้ำ อากาศ ขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย พบเห็นการลักลอบทิ้งของเสีย การระบายมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม โทร.แจ้ง 1650 ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจะติดตามตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น

เกาะเต่ารับนักท่องเที่ยว 15 ก.ค.

ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเตรียมพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่ 15 ก.ค.นี้ นายวรพงศ์ วงษ์สุวรรณ อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน ได้รายงานความคืบหน้าการ เตรียมความพร้อมของเกาะเต่า ในการเปิดรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมกับเกาะสมุยและเกาะพะงัน ภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ให้แก่คณะกรรมาธิการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎรที่รัฐสภา มีนายสุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว พร้อมตัวแทนจากกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ร่วมรับฟังด้วย ทั้งนี้รูปแบบ Samui Plus Model เริ่มต้นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องอยู่ที่เกาะสมุย ในวันที่ 1-7 โดยวันที่ 1-3 พักอยู่แบบ Area Quarantine วันที่ 4-7 ท่องเที่ยวแบบระบบปิด Sealed Route ส่วนวันที่ 8-14 ท่องเที่ยวแบบเสรี สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะพะงัน และเกาะเต่าได้ ส่วนการตรวจหาเชื้อจะมีการตรวจ RT-PCR 3 ครั้ง ในวันที่ 1 วันที่ 6-7 และ วันที่ 12-13

นายวรพงศ์ระบุว่า สมาคมธุรกิจการ ท่องเที่ยวเกาะเต่า นำเสนอการได้รับจัดสรรวัคซีนเพื่อความพร้อมของเกาะเต่า และอธิบาย SOP หรือมาตรการรองรับเพื่อเป็นคู่มือมาตรฐานถือปฏิบัติของธุรกิจและกิจกรรมบนเกาะที่จะสร้างความเชื่อมั่นปลอดภัยให้กับเจ้าบ้านและนักท่องเที่ยวที่มาถึงเกาะใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ กระทั่งเดินทางออกจากเกาะ โดยที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ท่องเที่ยว สภาผู้แทนฯ ได้สนับสนุนรูปแบบ Samui Plus Model ที่ทำเป็นต้นแบบ และจะสนับสนุนทุกทางในฐานะที่ 3 เกาะได้เสียสละเป็นต้นแบบ เป็นตัวอย่างให้จังหวัดและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ

เผยปลอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 63 วัน

รานงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1-2 ก.ค. ประชาชนกับพลเมืองต่างชาติ และแรงงานต่างด้าวบนเกาะเต่า 1,680 คนได้รับวัคซีนเข็มแรกแอสตร้าเซนนิก้า เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกาะเต่า เมื่อรวมยอดวันแรก 732 คน และยอดผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวค 1,083 คนก่อนหน้านี้ ทำให้เกาะเต่ามียอดผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรก ทั้งสิ้น 3,495 คน จากประชากรทั้งหมด 5,498 คน คิดเป็นร้อยละ 63.56 และล่าสุดโรงพยาบาล(ร.พ.)เกาะเต่า ขยายวันฉีดวัคซีนเพิ่มอีก 588 คน จะส่งผลให้เกาะเต่าสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้สูงถึงร้อยละ 74.26 ทะลุเป้าหมาย 70% ที่เป็นเงื่อนไขการเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้ Samui Plus Model ทันที และเกาะเต่าพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อการท่องเที่ยวแบบผ่อนคลายไม่กักตัวในวันที่ 8-14 ต่อเนื่องหลังการท่องเที่ยวระบบปิดที่เกาะสมุยได้เป็นอย่างมาก โดยเกาะเต่าเป็นพื้นที่สีขาว ไม่มีผู้ติดเชื้อ รายใหม่มา 63 วันแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน