มรสุมถล่มหนัก เตือน15จว.

เหนือ-อีสาน-ใต้
ดินถล่ม-น้ำหลาก

มรสุมเข้าไทย เตือน 6 จังหวัดใต้ฝั่งตะวันตก เตรียมรับฝนหนักเฝ้าระวังท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ช่วง 9-13 ก.ค. ขณะศูนย์ธรณีพิบัติภัยแจ้งแพร่ น่าน เชียงราย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ระวังดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก จากฝนตก ต่อเนื่อง ด้านแม่ฮ่องสอนสั่งปิดอุทยานฯ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) กล่าวว่า กอปภ.ติดตามสภาพอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (11/2564) แจ้งว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนและภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนบน ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขณะที่คลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

นายบุญธรรมกล่าวต่อว่า กอปภ.ก. จึงประสาน 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตกเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรงช่วงวันที่ 9-13 ก.ค. แยกเป็นสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ดังนี้ ระนอง (อ.ละอุ่น และอ.กะเปอร์) พังงา (อ.ตะกั่วป่า และอ.คุระบุรี) ภูเก็ต (อ.เมืองภูเก็ต อ.กะทู้ และอ.ถลาง) กระบี่ (อ.เขาพนม อ.ปลายพระยา และอ.ลำทับ) ตรัง (อ.เมืองตรัง อ.นาโยง อ.ย่านตาข่าว อ.กันตัง อ.ห้วยยอด อ.ปะเหลียน และอ.วังวิเศษ) สตูล (อ.ควนโดน อ.ควนกาหลง อ.มะนัง และอ.ทุ่งหว้า)

สถานการณ์คลื่นลมแรง ดังนี้ ระนอง (อ.เมืองระนอง อ.กะเปอร์ และอ.สุขสำราญ) พังงา (อ.เกาะยาว อ.ตะกั่วป่า อ.ตะกั่วทุ่ง อ.คุระบุรี และอ.ท้ายเหมือง) ภูเก็ต (อ.เมืองภูเก็ต อ.กระทู้ และอ.ถลาง) กระบี่ (อ.เมืองกระบี่ อ.อ่าวลึก อ.เหนือคลอง อ.คลองท่อม และอ.เกาะลันตา) ตรัง (อ.กันตัง อ.สิเกา อ.ปะเหลียน และอ.หาดสำราญ) สตูล (อ.เมืองสตูล อ.ละงู อ.มะนัง และอ.ทุ่งหว้า) รวมถึงสั่งการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยจัดเจ้าหน้าที่ ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน พร้อมวิเคราะห์ ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัย ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ชุมชนเมือง พร้อมจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รถปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงาน พลเรือน ทหาร ตำรวจ เครือข่ายอาสาสมัคร และจิตอาสาเตรียมพร้อมทรัพยากรให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที

สำหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเลให้เข้มงวดมาตรการ ความปลอดภัยทางทะเล โดยเพิ่มการติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนภัยบริเวณชายฝั่งทะเล จัดเตรียมเครื่องมือประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำให้พร้อมใช้งาน อีกทั้งหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอพพลิเคชั่น “พ้นภัย” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ด้านศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประกาศเตือนเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในระยะ 1-2 วันนี้ โดยขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปในพื้นที่จ.แพร่ น่าน เชียงราย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค. 64

โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม บริเวณ อ.วังชิ้น ลอง จ.แพร่, อ.บ่อเกลือ ปัว เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา สันติสุข จ.น่าน, อ.เวียงป่าเป้า แม่สรวย เวียงเชียงรุ้ง เทิง จ.เชียงราย, อ.ลับแล ท่าปลา น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์, อ.ชาติตระการ วังทอง นครไทย จ.พิษณุโลก, อ.หนองไผ่ หล่มสัก หล่มเก่า เขาค้อ วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์, อ.ภูเรือ จ.เลย, อ.ขลุง มะขาม เขาคิชฌกูฏ สอยดาว โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี, อ.บ่อไร่ เขาสมิง เกาะช้าง จ.ตราด, อ.เมือง กะเปอร์ ละอุ่น กระบุรี สุขสำราญ จ.ระนอง, อ.คุระบุรี ตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา, อ.เมือง เขาพนม เกาะลันตา จ.กระบี่, อ.ห้วยยอด ปะเหลียน ย่านตาขาว จ.ตรัง, อ.ทุ่งหว้า ละงู และควนกาหลง จ.สตูล

เนื่องจากมีฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝน ได้มากกว่า 100 ม.ม. ประกอบกับยังมีฝนตกต่อเนื่อง ชั้นดินอุ้มน้ำไว้มากอาจส่งผลให้ เกิดดินถล่มได้ ทั้งนี้ ขอให้อาสาสมัคร เครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณี เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังภัยและวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านได้รับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังที่ได้มีการอบรมไว้แล้ว

วันเดียวกันนี้ นายเกียรติศักดิ์ วังวล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า อุทยานฯ สั่งปิด การท่องเที่ยวในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ถผ.1 (ถ้ำปลา) เป็นการชั่วคราว เนื่องจากช่วงคืนวันที่ 8 ก.ค. เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ป่าต้นน้ำแม่สะงี มีปริมาณน้ำไหลหลากรุนแรง ทำให้น้ำล้นตลิ่งในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวถ้ำปลาบางจุด

ขณะที่ ปภ.ลำปาง รายงานว่า เกิดเหตุ ดินสไลด์ปิดทับเส้นทางหลวงหมายเลข 1252 ตอนแม่ตอน-ข่วงกอม ที่ ก.ม. 35+200 เส้นทางจากแจ้ซ้อนไปแม่แจ๋ม ก่อนถึงแม่แจ๋ม 5 ก.ม. ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง หมวดทางหลวงแจ้ห่ม แขวงทางหลวงลำปางที่ 2 ได้นำเครื่องจักรเข้าดำเนินการแก้ไขเพื่อเปิดเส้นทางแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โดยสามารถวัดปริมาณน้ำฝนเมื่อช่วงเวลา 06.00 น. วันที่ 9 ก.ค. ได้ที่ 71.4 มิลลิเมตร ระบบเตือนภัยเป็นสีส้ม ให้เฝ้าระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม จากนั้นเวลา 09.00 น. ได้เกิดดินสไลด์และหินก้อนขนาดใหญ่ไหลมาปิดทับ เส้นทางดังกล่าว

ที่จ.หนองคาย เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงเช้าวันที่ 9 ก.ค. ลักษณะเป็นการตกหนักสลับเบา โดยบริเวณถนนในซอยดอนโพธิ์ 2 เขตเทศบาลเมืองหนองคาย น้ำฝนไม่สามารถระบายลงสู่ลำห้วย สะพานทองได้ทัน ประกอบกับลำห้วยสะพานทองนั้นมีลักษณะแคบทำให้น้ำท่วมขังตลอดทั้งซอย สถานีอุตุนิยมวิทยาหนองคาย รายงานปริมาณน้ำฝนวัดได้ 18.2 มิลลิเมตร และคาดว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องอีกหลายวัน ในลักษณะเช่นนี้อีก ส่วนปริมาณน้ำโขงวันนี้ วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคายวัดได้ 3.77 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานตอนเช้า 0.01 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 8.43 เมตร และหากฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ภาคเหนือของไทยและในลาว ก็จะส่งผล ให้ปริมาณน้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคายมีระดับเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ทางจังหวัดหนองคายได้แจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากฝนตกหนัก ทั้งดินโคลนสไลด์ถล่มในพื้นที่ ภูเขาสูง เช่น ที่อ.สังคม รอยต่อกับ อ.ปากชม จ.เลย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา หากเกิดฝนตก หนักต่อเนื่องอาจทำให้เกิดดินสไลด์ได้ และในพื้นที่ลุ่มให้เฝ้าระวัง หากมีพื้นที่เสี่ยงต่อการ เกิดน้ำท่วมฉับพลันให้รีบแจ้งหน่วยงานในพื้นที่ เตรียมการช่วยเหลือได้ทันท่วงที

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.กระบี่ ว่า มีฝนตกลง มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ระดับน้ำในลำห้วย ลำคลองเพิ่มปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปรากฏว่าน้ำไหลไม่ทันได้เอ่อท่วมในพื้นที่บ้านห้วยนาคบุตร หมู่ 4 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนรวมเกือบ 10 หลัง และท่วมสวนของชาวบ้านเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นทางอำเภอ และผู้นำในพื้นที่ได้เข้าสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนสถานการณ์ฝน จนถึงขณะนี้ยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปภ.กระบี่ประกาศแจ้งประชาชนในพื้นที่ 8 อำเภอ ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ให้ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันแล้ว