กราบพ่อ-ภูเก็ตต้อนรับอบอุ่น
ปีติ-ได้รับดอกไม้พระราชทาน
กกท.เร่งรวบรวมเงินอัดฉีดฮีโร่

ปีติดอกไม้พระราชทานจากสมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ‘น้องเทนนิส’บินถึงภูเก็ตแล้วพร้อมทีมงาน ได้รับการต้อนรับอบอุ่นก้มกราบเท้าพ่อที่มารอรับขวัญ ยื่นเหรียญทองที่ทำได้ให้คล้องให้เพื่อความเป็นสิริมงคล ท่ามกลางความประทับใจของผู้มารอต้อนรับ ด้านผู้ว่าการ กกท.เผยกองทุนการกีฬาแห่งชาติได้เตรียมเงินอัดฉีดไว้ให้ทันที 10 ล้านบาท และ ยังมอบเป็นเงินเดือนอีกประมาณ 2 ล้านบาท รวมถึงเงินอัดฉีดผู้ฝึกสอนและทีมด้วย นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ ที่จะมอบเงินอัดฉีดรวมแล้วกว่า 20 ล้านบาทแล้ว ขณะที่ฮีโร่สาวเจ้าของเหรียญทองเปิดใจขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ตามเชียร์ ทำสำเร็จได้เหรียญทองกลับบ้านแล้ว ขอมอบให้ชาวไทยทุกคน

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะได้นำฮีโร่เหรียญทองประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะหมายเลข 1 ของโลก เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่นไม่เกิน 49 ก.ก.หญิง พร้อมด้วย นายธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีม, โค้ชเช ยอง ซอก หัวหน้า ผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย, โค้ชวิชิต สิทธิกัณฑ์ และ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดรุ่น 58 ก.ก.ชาย เดินทางกลับจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ทัพฮีโร่ไทยเดินทางกลับมาด้วยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ726 มาถึงเมืองไทย ลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตเมื่อเวลา 09.25 น. พร้อมเข้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นเวลา 14 วัน มีชาวเมืองภูเก็ตแห่มาให้การต้อนรับสุดอบอุ่น โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย, นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯ ภูเก็ต, พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภูเก็ต, นายธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ นายกสมาคมกีฬา จ.ภูเก็ต, ผู้แทนธนาคารอาคาร สงเคราะห์, ผู้แทนบริษัท หาดทิพย์ จำกัด และนายสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ บิดาน้องเทนนิส เดินทางมาต้อนรับฮีโร่โอลิมปิกเกมส์สุดอบอุ่น

หลังจากลงเครื่องบินทุกคนได้ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินออกมา โดยทันทีที่ “น้องเทนนิส” พาณิภัค เดินมาพบคุณพ่อสิริชัย ยอดนักเทควันโดได้ก้มลงกราบเท้าและส่งมอบเหรียญทองโอลิมปิกให้คุณพ่อได้คล้องคอให้ สร้างความประทับใจแก่ผู้ที่มารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก จากนั้นคณะต้อนรับทั้ง 7 คนได้วางช่อดอกไม้เพื่อให้น้องเทนนิส ฮีโร่เหรีญทองประวัติศาสตร์วงการเทควันโดและ เหรียญแรกในโอลิมปิกเกมส์ 2020 พร้อมด้วยโค้ชเช ยอง ซอก, จูเนียร์, โค้ชชิต และผู้จัดการทีม ได้รับช่อดอกไม้ทั้ง 7 ช่อเพื่อเป็นกำลังใจ

นายพิพัฒน์กล่าวว่า “โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งการที่วันนี้เราเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้วน้องเทนนิสได้เหรียญทองจากการแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางเข้ามาพักกักตัวเพื่อคลายความเครียดจากการฝึกซ้อมและการแข่งขัน ซึ่งการที่จะให้น้องไปอยู่ในห้องกักตัวอย่างเดียว 14 วันจะเป็นความกดดัน เลยเชิญทีมงานทั้งหมดมาในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งคนที่ผ่านการตรวจพีซีอาร์ เทสต์ (PCR TEST) ผลออกมาเป็นปกติ สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เหมือนดังที่น้องเทนนิสอยากจะทานอาหารซีฟู้ด หรือยากจะทานอาหารพื้นเมืองของคนภูเก็ตก็ได้ทาน และหวังว่าคนไทยทั้งประเทศคงจะมีความสุขในช่วงนี้ และหวังว่าเราน่าจะได้เหรียญเพิ่มขึ้นจากนักกีฬาไทยกลับมาอีก และผมจะมารับคณะนักกีฬาทุกคนที่เดินทางกลับมาตลอด 14 วัน”

ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท.เปิดเผยว่า “วันนี้เป็นวันที่มีความสุขกับความสำเร็จของน้องเทนนิส ซึ่งในฐานะที่เราเป็นตัวแทนการกีฬาแห่งประเทศไทยขอแสดงความยินดีและขอชื่นชมกับความสำเร็จทั้งทีม เทควันโดไทย ไม่ว่าจะเป็นนายกสมาคม โค้ชเช และทีมงานที่ช่วยกันสร้างความสำเร็จในครั้งนี้ และที่สำคัญ นับเป็นพระกรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานช่อดอกไม้มาให้น้องเทนนิส พร้อมทั้งโค้ชเช และผศ.พิมล นายกสมาคมอีกด้วย นับว่าเป็นสิริมงคล อย่างยิ่ง ซึ่งวันนี้เราได้มีการเตรียมงานต้อนรับอย่างเรียบง่าย เพราะเราอยู่ในภาวะโควิด-19 แต่ถึงอย่างไรเราจะมีการถ่ายทอดให้เห็นว่าน้องเทนนิสเป็นนักกีฬาที่เพียบพร้อมทั้งความสามารถ กิริยามารยาท รวมถึงนิสัยใจคอที่เป็นกันเอง ซึ่งก็อยากให้ทุกท่านเป็นกำลังใจให้น้องเทนนิสต่อไป

ส่วนเรื่องเงินอัดฉีด ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนการกีฬาแห่งชาติ ได้เตรียมเงินอัดฉีดไว้ให้ทันที 10 ล้านบาท และยังมอบเป็นเงินเดือนอีกประมาณ 2 ล้านบาท รวมถึงเงินอัดฉีดผู้ฝึกสอนและทีมด้วย นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ ที่จะมอบเงินอัดฉีดรวมแล้วเกือบ 20 ล้านบาทแล้ว”

สำหรับยอดเงินรางวัลอัดฉีดเมื่อช่วงเช้า วันที่ 26 ก.ค.ที่น้องเทนนิสได้รับไปแล้วทั้งหมดราว 19,880,000 บาท ประกอบด้วย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 12 ล้าน ตามหลักเกณฑ์จ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ และแบ่งจ่ายรายเดือนเวลา 4 ปี, สหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ และชมรมกอล์ฟหลักสูตรสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรเพื่อความมั่นคงขั้นสูง 1 ล้านบาท, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี 1 ล้าน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 3 ล้าน

นอกจากนี้ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กำหนดให้เงินรางวัลนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลจากกีฬาโอลิมปิกเกมส์เป็นรายเดือน รวมเวลา 20 ปี เหรียญทองเดือนละ 12,000 บาท เหรียญเงิน 10,000 บาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาท โดยน้องเทนนิสรับเดือนละ 12,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี รวมเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2,880,000 บาท

พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทอง เทควันโดโอลิมปิกเกมส์กล่าวว่า วันนี้กลับมาถึงประเทศไทย ดีใจ รู้สึกอบอุ่นมากๆ ที่มีพี่ๆ ทุกคนมาต้อนรับ ดีใจที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะได้รับพระกรุณาธิคุณดอกไม้พระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทาน และกำลังใจจากพระองค์ที่ส่งถึงทีมงานทุกคน

พาณิภัคกล่าวต่อว่า ตอนนี้มาถึงภูเก็ต ตนอยากกินคุกกี้ เค้ก พวกอาหารทะเล และ เนื้อย่าง ส่วนเป้าหมายหลังจากนี้ยังคงขอทำหน้าที่ต่อไป อยากทำไปทีละขั้นเหมือนตอนทำผลงานในทุกสนามให้ดีที่สุด ในขณะที่ร่างกายยังสมบูรณ์ดีพร้อมก็อยากไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2024 ให้ได้ ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ ตามเชียร์ วันนี้ได้เหรียญทองกลับบ้านแล้วอยากมอบให้คนไทยทุกคน ขอขอบคุณมากๆ

ด้านโค้ชเช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอน เทควันโดทีมชาติไทยเผยว่า “ดีใจมากครับ อยู่เมืองไทยมาเกือบ 20 ปี ทุกครั้งที่คุมทีมชาติไทยไปแข่งขันทำเต็มที่ที่สุด ดีใจที่สุดชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นของคนไทยทั้งประเทศ ส่วนสัญชาติไทย ถ้าได้แล้วยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ถ้าเป็นไปได้อยากได้สัญชาติไทยเร็วๆ ครับ”

ขณะที่คุณพ่อสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณทุกคนทั้งคนไทยที่อยู่ในประเทศไทย และคนไทยทั่วโลกที่เชียร์กันทุกมุมโลก เชียร์กันทุกบ้าน ซึ่งกีฬาเทควันโดก็เป็นเกมที่พลิกไปพลิกมาช่วง 4-5 วินาทีสุดท้ายเป็นเรื่องสำคัญว่าใครจะมีประสบการณ์ที่เหนือกว่าที่จะแก้เกมได้ แต่การแข่งขันเราก็ต้องเตรียมใจ ไม่แพ้ก็ชนะ แต่ครั้งนี้ตนและทีมงานเทควันโดทุกคนก่อนไปเรามั่นใจว่านิสต้องได้เหรียญทองและเราก็ทำได้สำเร็จ ซึ่งช่วง 7 วินาทีสุดท้ายมันเหมือนกับที่เราไปแข่งริโอเกมส์ 2016 โดยตอนนั้นเหลือ 4 วินาทีสุดท้าย เรานำอยู่ 6-4 นิสพยายามเข้าไปแลกเพื่อทำแต้มให้ขาดแต่ไปพลาดท่าให้เขาเตะหัว เราเลยต้องแพ้ 1 แต้ม ซึ่งประสบการณ์ครั้งนั้นคงจดจำว่าช่วงวินาทีสุดท้ายประมาทไม่ได้ และที่สำคัญครั้งนี้ก่อนการแข่งขันทุกครั้งนิสจะโทร.ไลน์มาคุยทุกครั้ง ตนได้ให้กำลังใจและบอกนิสต้องสู้จนวินาทีสุดท้าย เพื่อนำเหรียญทองกลับมาให้ได้ เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศ”

ด้านกีฬายิงเป้าบิน โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่อาซากะ ชู้ตติ้งเรนจ์ เมื่อ 26 ก.ค. เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกรอบที่สอง ในอีก 2 ชุดการยิง เพื่อคัด 6 อันดับแรกผ่านเข้า สู่รอบชิงเหรียญทอง “ณี”สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ยิงเป้าบินสกีตหญิง ซึ่ง 3 ชุดแรกยิงไป 70 คะแนน ยิงอีก 2 ชุดที่ 23 และ 25 สกอร์รวม 118 คะแนน ปิดฉากโอลิมปิกสมัยที่ 4 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก

ส่วน “วอร์ม” อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข วัย 26 ปี รักษาความต่อเนื่องยิงอีก 2 ชุดที่ 24 คะแนน และ 24 คะแนน สามารถผ่านเข้ารอบชิงเหรียญ จากผลงาน 120 คะแนน โดยต้องเจอกับคู่ต่อสู้อย่าง เหม่ง เหว่ย จากจีน, ไดอานา บาโคซี จากอิตาลี, อิงลิช แอมเบอร์ สหรัฐ, นาดีน เมสเซอร์ชมิดต์ จากเยอรมนี และนาตาเลีย วิโนกราโดวา จากรัสเซีย

ผลปรากฏว่า “น้องวอร์ม” สามารถเข้าไปจนเหลือ 4 คนสุดท้ายแล้ว เหลืออีกเพียงนิดเดียวจะได้เหรียญรางวัล สุดท้ายยิงพลาดไป 1 นัด ทำให้มีเพียง 36 เท่ากับเหม่ง เหว่ย จากจีน แต่ “น้องวอร์ม” เป็นคนที่โดนตัดตัวเนื่องจากตอนเข้ารอบนั้นอยู่ในลำดับที่ 4 น้อยกว่าเหม่ง เหว่ย ที่อยู่อันดับที่ 1 โดยเหรียญทองตกเป็นของอิงลิช แอมเบอร์ ทำได้ 56 คะแนน เหรียญเงิน ไดอานา บาโคซี จากอิตาลี 55 คะแนน และเหรียญทองแดง เหม่ง เหว่ย จากจีน 46 คะแนน

หลังการแข่งขัน สุธิยาเปิดเผยว่า “คะแนนตามที่เห็น ดีไม่พอ ขาดไป 1-2 แต้ม สนิมจับนิดหน่อย ไม่ได้แข่งนานปีครึ่ง ไปแข่งไม่ได้ ไม่มีวัคซีน พอมีวัคซีนจะไปแข่งต้องรอเข็มสอง คนอื่นเขาแข่งกันไปหมดแล้ว ณีฉีดเข็มสองแล้วแต่ไปแข่งไม่ทัน”

สุธิยาเปิดเผยด้วยว่าก่อนมาแข่งขันไปทดสอบสมรรถภาพนักกีฬาแล้วกล้ามเนื้อเกร็ง ทำให้กระดูกสันหลังไปบดทับเส้นประสาท อาการหนักต้องขึ้นรถฉุกเฉินไปโรงพยาบาลเดินไม่ได้ชาลงขา เดินไม่ได้ 2 สัปดาห์ต้อนอนเฉยๆ ไม่ได้ซ้อม ไม่ได้อยากให้เป็นข่าวอะไรก่อนหน้านี้ ทำให้การเตรียมตัวครั้งสุดท้ายก่อนเดินทางทำไม่ได้เลย 2 สัปดาห์

“รู้สึกพอใจที่รักษาจนหายและเข้ามาแข่งขันได้ทั้งๆ ที่แอบคิดว่าอาการดังกล่าวอาจจะทำให้ไม่ได้มาโอลิมปิกแล้ว โดยรวมยังขาดนู่นนี่อีก จังหวะชีวิตมันไม่ได้ก็คือไม่ได้ เรายังทำได้ดี ไม่ได้มีโมเมนต์ที่ยอมแพ้ ส่วนโอลิมปิกเกมส์หนหน้าจะยังเข้าร่วมแข่งขันหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าน่าจะได้ถ้าหลังไม่พังไปเสียก่อน ค่อยว่ากันอีกที” สุธิยากล่าว

โปรแกรมแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 27 ก.ค. เดินทางเข้าสู่การชิงเหรียญเป็นวันที่ 4 ของการแข่งขัน และมีชิงทั้งหมด 22 เหรียญทอง จากว่ายน้ำ 4 เหรียญทอง ยูโด เรือพาย ยิงปืน เทควันโด ยกน้ำหนัก กีฬาละ 2 เหรียญทอง ยิมนาสติก ซอฟต์บอล เรือแคนู จักรยาน กระโดดน้ำ ขี่ม้า ฟันดาบ และไตรกีฬา กีฬาละ 1 เหรียญทอง

แต่สำหรับนักกีฬาไทยไม่มีลุ้นชิงเหรียญทองในรายการใด เนื่องจากยังแข่งขันในรอบทัวร์นาเมนต์ มวยสมัครเล่นฯ “ครีม” ใบสน มณีก้อน นักชกสาวไทย ดวลกับ หง กู่ จากจีน ในรอบ 16 คน รุ่นเวลเตอร์เวต 69 กิโลกรัมหญิง 18.27 น. “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี ชกรอบแรก 32 คน รุ่นไลต์เวต 60 กิโลกรัมหญิง พบ มาเรีย โฆเซ ปาลาซิออส เอสปิโนซา จากเอกวาดอร์ เวลา 11.39 น.

แบดมินตัน รอบแบ่งกลุ่ม หญิงเดี่ยว “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ นักตบลูกขนไก่สาวไทย ที่ประเดิมชนะ ดาเนียลา มาซีส จากเปรู มาได้ 2-0 เกม ลงสนามนัดที่ 2 กลุ่มดี พบ คริสติน คูบา จากเอสโตเนีย เวลา 16.40 น. และหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ มือวางอันดับ 9 ของรายการ ที่แพ้มาแล้ว 2 นัด ส่งท้ายกลุ่มดี เจอ กาเบลลา สโตวา กับ สเตฟานี สโตวา จากบัลแกเรีย เวลา 17.20 น.

นอกจากนี้ “แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม นักแล่นใบสาวไทย แข่งขันเรือใบเลเซอร์เรเดียล หญิง เป็นวันที่ 3 เริ่มเวลา 10.05 น. แฟนกีฬาชาวไทยติดตามชมการถ่ายทอดสด มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ได้ตลอดทั้งวัน ทาง PPTV, True4U, NBT และ AIS PLAY หรือติดตามจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ข่าวสดและหนังสือพิมพ์มติชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน