ให้รองรับคนไข้วิกฤต
พบอีก8คลัสเตอร์5จว.
ชวนให้ขอเพิ่มไฟเซอร์
แม้วลั่นแจกตรวจโควิด

นายกฯ เรียกถกด่วน 12 ผู้ว่าฯจังหวัดแดงเข้ม ยอดป่วยนิวไฮพุ่งเกิน 1.6 หมื่น สั่งทีมโฆษกทุกกระทรวงแจงมาตรการรัฐ ใครไม่อยากทำ ให้ลาออกไปเร่งตรวจแบบแอนติเจน เทสต์คิต นำตัวเข้ารักษาให้เร็วขึ้น สั่ง 2 กระทรวง มหาดไทย-สาธารณสุข บูรณาการเพิ่มเตียงผู้ป่วยสีแดงร.พ.สนาม จี้สถานที่ตรวจเอกชนพบติดเชื้อแล้วต้องไม่ทิ้งผู้ป่วย ยอดโควิดรายวันพุ่งอีก 16,533 ราย ตาย 133 ราย 3 จังหวัดป่วย เกินพัน กทม. สมุทรสาคร สมุทรปราการ 10 จังหวัดเกิน 300 ส่วน 24 จังหวัดยังเกินหลัก 100 ประธานสภา ‘ชวน’ ยกหูคุยรมว.ต่างประเทศ เร่งขอวัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐ 50 ล้านโดส สธ.ให้จังหวัดแดงเข้มปรับสูตรฉีดแอสตร้าฯ ทั้ง 2 เข็มได้ตามดุลพินิจแพทย์ จังหวัดอื่นยังให้ยึดฉีดผสม ซิโนแวคเข็มแรก และแอสตร้าฯ เข็ม 2 เพื่อไทยจี้อย.เร่งรับรองเครื่องตรวจโควิดนัดจ์ตามที่ทักษิณแนะ เตรียมบริจาคช่วย

ป่วยนิวไฮ 16,533-ตาย 133

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,533 ราย สะสม 543,361 ราย รักษาหาย 10,051 ราย หายสะสม 360,694 ราย เสียชีวิต 133 ราย สะสม 4,397 ราย ยังรักษาอยู่ 178,270 ราย อยู่ใน ร.พ. 67,084 ราย ร.พ.สนามและอื่นๆ 111,186 ราย อาการหนัก 4,325 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 995 ราย มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 138,892 โดส รวมสะสม 16,427,059 โดส

ผู้ติดเชื้อ 16,533 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 16,321 ราย โดยสัดส่วนมาจาก 67 จังหวัดรวมกันสูงสุด 7,892 ราย กทม.และปริมณฑล 7,536 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 893 ราย และเรือนจำ 202 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อ เดินทางมาจากต่างประเทศมี 10 ราย ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศละ 1 ราย มาเลเซีย 2 ราย เข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ 1 ราย และเมียนมา 6 ราย เข้ามาตามช่องทางธรรมชาติทั้งหมด

ส่วนผู้เสียชีวิต 133 ราย มาจาก กทม. 45 ราย สมุทรปราการ 12 ราย นนทบุรี 10 ราย นครปฐม 9 ราย สมุทรสาคร 7 ราย ชลบุรี 6 ราย ชัยภูมิ ศรีสะเกษ และปราจีนบุรี จังหวัดละ 5 ราย ปัตตานี สงขลา ชัยนาท จังหวัดละ 3 ราย สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ สุพรรณบุรี ราชบุรี จังหวัดละ 2 ราย นราธิวาส นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง นครราชสีมา บุรีรัมย์ หนองคาย กำแพงเพชร ลำปาง สุโขทัย ฉะเชิงเทรา และสระบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 65 ราย หญิง 68 ราย อายุ 21-106 ปี ค่ากลาง 64 ปี โรคประจำตัวยังเป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคไต และโรคอ้วน ติดเชื้อ จากคนในครอบครัว ผู้ใกล้ชิด นอนใน ร.พ. นานสุดก่อนเสียชีวิต 38 วัน เฉลี่ย 9 วัน พบการเสียชีวิตที่บ้าน 5 รายใน สมุทรปราการ 3 ราย กทม. และฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 1 ราย

5 จว.เจออีก 8 คลัสเตอร์

สำหรับจังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 ราย มี 34 จังหวัด โดย 10 จังหวัดรายงานติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 3,997 ราย สะสม 141,260 ราย 2.สมุทรสาคร 1,147 ราย สะสม 26,972 ราย 3.สมุทรปราการ 1,088 ราย สะสม 35,505 ราย 4.ชลบุรี 864 ราย สะสม 22,522 ราย 5.กาญจนบุรี 585 ราย สะสม 3,043 ราย 6.นนทบุรี 520 ราย สะสม 22,161 ราย 7.นครปฐม 476 ราย สะสม 10,686 ราย 8.ฉะเชิงเทรา 447 ราย สะสม 8,892 ราย 9.อุบลราชธานี 313 ราย สะสม 3,782 ราย และ 10.ปทุมธานี 308 ราย สะสม 18,510 ราย

ส่วนอีก 24 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ 162 ราย, พระนครศรีอยุธยา 155 ราย, เพชรบูรณ์ 107 ราย, ลพบุรี 150 ราย, สระบุรี 152 ราย, สุพรรณบุรี 296 ราย, ระยอง 237 ราย, กาฬสินธุ์ 107 ราย, นครราชสีมา 217 ราย, บุรีรัมย์ 208 ราย, มหาสารคาม 141 ราย, ร้อยเอ็ด 219 ราย, ศรีสะเกษ 248 ราย, สกลนคร 118 ราย, สุรินทร์ 171 ราย, อุดรธานี 189 ราย, ตาก 173 ราย, เพชรบุรี 123 ราย, ราชบุรี 145 ราย, นครศรีธรรมราช 128 ราย, นราธิวาส 274 ราย, ปัตตานี 154 ราย, ยะลา 182 ราย และสงขลา 283 ราย

คลัสเตอร์ใหม่วันนี้ ได้แก่ 1.ชลบุรี 3 คลัสเตอร์ ได้แก่ แคมป์ก่อสร้าง อ.ศรีราชา 67 ราย บริษัทอุปกรณ์ยานยนต์ อ.ศรีราชา 61 ราย และแคมป์ก่อสร้าง อ.หนองใหญ่ 14 ราย 2.กาญจนบุรี ชุมชนตำบลแสนตอ อ.ท่ามะกา 428 ราย 3.ปทุมธานี โรงงานเสาเข็ม อ.ลำลูกกา 8 ราย 4.สุพรรณบุรี โรงงานแปรรูปไก่ 2 อ.สองพี่น้อง 59 ราย และ 5.ราชบุรี 2 คลัสเตอร์ ได้แก่ โรงงานแปรรูปไก่ อ.เมือง 27 ราย และรีสอร์ต อ.สวนผึ้ง 22 ราย

ฉีดก่อนปิด – ประชาชนหลั่งไหลเดินทางมารับการฉีดวัคซีน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ กทม. หลังศบค.ให้เลิกวอล์กอินฉีด โดยจะฉีดให้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนผ่านระบบเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป

ให้จว.แดงเข้มเลือกสูตรฉีด

ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้ลงนามในหนังสือคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2564 เรื่อง แจ้งแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.วัคซีนที่จัดสรรในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 2564 ขอให้เร่งรัดในกลุ่มเป้าหมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย กลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ได้แก่ ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค รวมถึง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด19 โดยได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม อย่างน้อย 4 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ประเภทที่ 3 กลุ่มเป้าหมายที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1 และครบกำหนดนัดรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 และการให้วัคซีนโควิด 19 สลับชนิดในพื้นที่ ขอให้ถือแนวทาง ดังนี้

พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส แบ่งเป็น กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรี้อรัง 7 กลุ่มโรค รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ให้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม โดยฉีดห่างกัน 12 สัปดาห์ ทั้งนี้ สามารถฉีดวัคซีนด้วยชนิดหรือวิธีอื่นใดตามดุลพินิจของแพทย์ ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนและปริมาณที่มี และกลุ่มเป้าหมายอื่น อาจให้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มหรือให้รับวัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 2 ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนและปริมาณที่มี ส่วนจังหวัดอื่นให้ทุกกลุ่มเป้าหมายรับวัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 2 โดยให้ฉีดห่างกัน 3-4 สัปดาห์

นพ.โอภาสกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด 19 มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายประเทศมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้น เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย รัสเซีย อังกฤษ สเปน อิสราเอล เป็นต้น ขณะนี้เชื้อแพร่กระจายเร็ว การติดเชื้อเป็นวงกว้าง การออกไป ทำกิจกรรมนอกบ้านอาจติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว และนำกลับมาติดคนในครอบครัวได้ การควบคุมสถานการณ์การระบาดยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกจังหวัด เพื่อลดตัวเลขการติดเชื้อลง โดยขอให้อยู่บ้านมากที่สุด ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น เช่น ไปซื้ออาหาร ไป ร.พ. หรือไปฉีดวัคซีน ลดเดินทางข้ามจังหวัด เน้นทำงานที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม)

แฮ็กคิววัคซีนขายต่อ

น.ส.ไตรศลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ว่าเกิดกรณีการทุจริตการจองคิวเพื่อขอเข้ารับวัคซีน โดยมีการแฮ็กระบบของบริษัทเครือข่ายมือถือแห่งหนึ่ง เพื่อนำโควตาวัคซีนไปขายสิทธิต่อหัวละ 500 – 1,000 บาท และบริษัทได้แจ้งความดำเนินคดีแล้วเรียบร้อย หากสอบสวนแล้วพบว่าทำผิดจริงจะต้องโทษ จำคุก 3-10 ปี และขณะนี้กำลังสอบเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมรู้เห็นหรือไม่ หากมีจะต้อง รับโทษตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาด้วย ส่วนประชาชนผู้ที่ซื้อสิทธิมารับวัคซีน กรณีที่ให้ความร่วมมือในการข้อมูลและหลักฐานการโอนเงินการติดต่อกับตัวกลาง หรือผู้กระทำทางการจะกันเป็นพยาน และฉีดให้ แต่หากไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่ฉีดวัคซีนให้ และถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมาย เช่นเดียวกัน

ชวนถกดอนขอไฟเซอร์สหรัฐ

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ตนได้โทรศัพท์หานายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ว่า มีเพื่อน ที่อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งข้อมูลมาบอกว่า เขามีวัคซีนเหลืออยู่ 50 ล้านโดส ซึ่งนายดอน ระบุว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ กำลังดำเนินการอยู่ แต่ว่ายังไม่เกิดผลจริงจัง ดังนั้นจึงได้บอกไปว่า มีช่องทางไหนที่ช่วยกัน เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นและความปลอดภัยของประชาชน ความเป็นความตายของชาวบ้าน หนึ่งชีวิตมีความหมาย จะมีทางไหนที่เราป้องกัน เขาได้ ก็ต้องพยายามทำ เช่นเดียวกับส.ส.ทุกจังหวัดที่กำลังช่วยกันเต็มที่ เพื่อลดภาระแพทย์ พยาบาล ทั้งนี้ตนยังยืนยันว่าเราต้องรณรงค์ เคี่ยวเข็ญ ขอความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัย เพราะตรงนี้ราคาถูกที่สุด

จี้คุก-ท้องถิ่นคุมโรค

“เท่าที่ติดตามดูในต่างจังหวัดยังพบว่า มีการแอบเล่นการพนัน มีบ่อนการพนัน ดังนั้นต้องพึ่งท้องถิ่น ทั้งนายก อบจ. นายกเทศมนตรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งต่างคนต่างรู้ปัญหาในพื้นที่ของตัวเองดีว่ามีอะไร ซึ่งท่านเหล่านี้เคยร่วมมือกันตอนเกิดโควิด-19 ใหม่ จนทำให้เกิดความสำเร็จ ดังนั้นต้องพึ่งพาอาศัย ท้องถิ่นกันมากๆ อย่างน้อยแม้ไม่สามารถ ขจัดได้ แต่ก็จะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้ ขณะเดียวกันในเรือนจำ ต้องคุมเข้มจริงๆ เพราะถ้าติดเพียง 1 คนก็จะติดทั้งหมดเลย ถ้าหากเราคุมได้จริงๆ เรือนจำที่มีคนอยู่เป็นพันๆคน ก็จะปลอดภัย อย่างเช่น กรณี เรือนจำ จ.ตรัง ผมได้บอกว่าที่เรือนจำ ต้องป้องกันให้ได้ 1,000 เปอร์เซ็นต์ เพื่อความปลอดภัย และมีช่วงหนึ่งที่ จ.ตรัง ตัวเลขสูงที่สุดในภาคใต้ เนื่องมาจากโรงงานผลิตถุงมือยาง แต่ขณะนี้มีการตรวจเข้ม ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ไม่มีใครอยากติดเชื้อ แต่การมองข้ามความระมัด ระวัง ทำให้มีปัญหาตามมา ดังนั้นผมจึงขอถือโอกาสนี้ขอประชาชน ผู้นำท้องถิ่น สื่อมวลชน ช่วยกันเป็นหู เป็นตา เพราะขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในกทม.น้อยกว่าต่างจังหวัดแล้ว ซึ่งอยากให้ต่างจังหวัดพยายามคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นตัวเลขที่ต่างจังหวัดจะกลายเป็นตัวเลขที่เป็นปัญหากับบ้านเมือง” นายชวนกล่าว

ตรวจฟรี – ทีมแพทย์พยาบาล ร.พ.ราชธานี เปิดจุดคัดกรองตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิดฟรี โดยมีประชาชนมารอรับการตรวจจำนวนมาก ที่หอประชุม ในสนามกีฬาจ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.

‘บิ๊กตู่’เรียกถก 12 จว.สีแดง

เวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เรียกประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสีแดงเข้ม 12 จังหวัด ประกอบด้วย ปทุมธานี ชลบุรี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสงขลา โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สธ. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วยผ่านระบบซูม จากบ้านพักภายในกรมทหารราบ มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เพื่อหารือถึงแนวทางการรับมือกับการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 การให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย การตั้งโรงพยาบาลสนามต่างๆ รวมทั้งการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ช่วงหนึ่งในการประชุม ครม.พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอความร่วมมือจากทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะทีมโฆษกกระทรวงทุกกระทรวง ช่วยกันสื่อสารทำความเข้าใจข้อมูลและข้อเท็จจริงต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของมาตรการการแก้ปัญหาโควิด-19 ขอให้ทุกคนช่วยกันสื่อสาร แต่ถ้าไม่อยากทำก็ให้ลาออกกันไป

ให้รง.ยึดบับเบิลแอนด์ซีล

ในที่ประชุม ผู้ว่าฯได้รายงานผลสถานการณ์ การรับมือและการเตรียมพร้อม รวมทั้งแนวทาง ป้องกันการแพร่ระบาด โดยผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรารายงานว่า จำเป็นต้องใช้ระบบบับเบิลแอนด์ซีล โรงงานและแคมป์แรงงาน ซึ่งคลัสเตอร์โรงงาน เป็นแหล่งระบาดหนัก และมีคนงานข้ามจังหวัดมา เช่น สมุทรปราการ ต้องใช้มาตรการฉีดวัคซีน จัดหาที่พัก จนไปถึง ระดับสูงสุดคือปิด 14 วัน ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องว่าจังหวัด ที่มีความเสี่ยงในเรื่องของโรงงานให้ใช้ระบบบับเบิลแอนด์ซีล ในการป้องกัน นอกจากนี้ ที่ประชุมเน้นย้ำถึงการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีแอนติเจน เทสต์ คิต หรือ ATK เพื่อความรวดเร็ว ถ้าผลบวก ก็เข้าสู่การรักษา โดยต้องไป ตรวจแบบ สามารถเข้าถึงการรักษาเช่นเดียวกับการตรวจด้วย RT-PCR อีกรอบ

เพิ่มเตียงป่วยสีแดง

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวแสดงความกังวลถึงสถานที่ตรวจโควิดของเอกชน ซึ่งเมื่อตรวจแล้วหลายแห่งไม่ทำอะไรต่อ จึงมอบนโยบายให้ไปแก้ปัญหา และยังสั่งการให้เพิ่มเตียงผู้ป่วยสีแดง โดยให้ พล.อ.อนุพงษ์ รมว.มหาดไทย บูรณาการงานร่วมกับสธ. ในการดำเนินการ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชื่นชมการทำงาน ที่ไม่มีข้อขัดแย้งกับ ศบค.สาธารณสุขจังหวัด ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น แต่ละภารกิจ มีคณะกรรมการรับผิดชอบ นำเสนอ ศบค.และ ผอ.ศบค.ตัดสินใจ “ผมหวังว่าสถานการณ์ จะดีขึ้น 4-6 สัปดาห์ จากหลักฐานทางการแพทย์ในปัจจุบันแต่ยอมรับว่าเป็นห่วงการใช้ ATK ของประชาชน ว่ามีความเข้าใจการใช้มากน้อยขนาดไหน

หนูยันหา 10 ล.โดส/เดือน

ด้านนายอนุทินกล่าวยืนยันว่า การจัดหาวัคซีนจะได้เฉลี่ย 10 ล้านโดสต่อเดือน ตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป เฉลี่ยฉีดได้วันละ 1 ล้านโดส โดยกระจายไปทุกพื้นที่ตามเป้าหมายตามที่ ศบค.มอบหมาย

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสรุปถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอาจจะยังไม่ดีขึ้นในเร็ววัน แต่เราจะพยายามควบคุมให้ดีที่สุด ให้ดูสถานการณ์โลก และขอยืนยันว่ารัฐบาลยังเข้มแข็งอยู่

ยันรักกันดีกับอัศวิน

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย กรณีที่นายกฯ เรียกหารือเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ถึงจุดฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ และมีการถกเถียงถึงการส่งวัคซีนให้กทม.ว่า ข้อเท็จจริงไม่มีอะไร เป็นการตีความไปคนละอย่าง นพ.โอภาส อธิบดีคร. ยืนยันว่าได้จัดส่ง วัคซีนทั้งหมดให้กับทางกทม.แล้ว และโดยหลักการ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจที่จะนำไปแจกจ่ายในความรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ แต่ในประเด็นดังกล่าว พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. อาจตีความว่าในส่วนของกทม.ก็ขอ แต่วัคซีนที่จะฉีดตามร.พ.เอกชนหรืออื่นๆ ไม่ใช่โควตาวัคซีนของกทม. แต่ในความจริงในระบบมันใช่ ซึ่งถ้าวันประชุมดังกล่าว สำนักอนามัยหรือ ผอ.สำนักการแพทย์ กทม.ออกมาชี้แจงก็จะชัดเจนกว่านี้ ซึ่งในส่วนของผู้ว่าฯ กทม.ก็ไม่มีอะไร มีแต่พูดคุยกันแบบเปิดเผย แล้วหลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เบรกให้พอและให้ไปหาทำความเข้าใจกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พล.ต.อ.อัศวินหลุดพูดคำว่า ลูกผู้ชายหน่อยสิ แสดงว่าต้องมีอะไรในใจเยอะมากใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่ วันนี้ทุกคนก็แบกความเครียดกันหมด บางทีที่พูดอะไรไปเพราะตั้งธงมาแบบนี้ ทางฝั่งกรมควบคุมโรคไม่ได้พูดตรงตามใจ จึงอาจมีอารมณ์นิดหน่อย แต่ทุกอย่างอยู่บนเนื้องานไม่ได้เกิดจากความรู้สึกส่วนตัวแต่อย่างใด ตนกับ พล.ต.อ.อัศวินรักใคร่ชอบพอกัน ไม่มีปัญหา แล้วนพ.โอภาสก็พูดเนิบๆ ไม่ได้ชวน เถียงต่อ พื้นฐาน นพ.โอภาสเย็นอย่างนี้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ฉีดวัคซีนมาครึ่งปีแล้วทำไมกฎกติกาในการจัดสรรโควตายังมีความเห็นไม่ตรงกันอีก นายอนุทินกล่าวปฏิเสธว่าไม่ใช่ ทุกคนอยากได้วัคซีนจำนวนมาก แต่การจัดสรรวัคซีนก็จัดสรรตามความจำเป็นของพื้นที่ สัดส่วนประชากร อย่างเดือนนี้ ต้องฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง เพื่อต้องการลดอัตราการเสียชีวิตและการครองเตียง ดังนั้นการจัดสรรวัคซีนและนโยบายเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ทั้งหมดต้องดูยอดที่ได้รับมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ได้รับวัคซีนมาตามเป้าทุกอย่างและความสามารถในการฉีดก็ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ และพยายามเพิ่มให้ได้มากที่สุดเท่าที่ จะทำได้ ซึ่งทั้งสองอย่างต้องสอดคล้องกัน วัคซีนต้องมาและความสามารถในการฉีดต้องไม่น้อยกว่าวัคซีนที่มา

จุดฉีดวัคซีน – พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ตรวจเยี่ยมจุดบริการฉีดวัคซีนนอก ร.พ. ‘หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร – หอการค้าไทย’ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ และเอสซีจี สำนักงานใหญ่ เขตบางซื่อ เมื่อ 28 ก.ค.

ไม่ใช่แข่งการเมือง

เมื่อถามว่าการที่เข้าใจไม่ตรงกันเรื่องโควตา วัคซีนสะท้อนถึงเอกภาพในการบริหารจัดการของรัฐ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่อยากให้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่มีการขึ้นเสียงกันบ้าง แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้มีผลอะไร เพราะวัคซีนก็ถูกส่งไปตามกำหนดทั้งหมด วัคซีนทุกขวดส่งไปที่ใดในประเทศทาง ศบค.ต้องทราบเรื่องทั้งหมด มีการควบคุมจัดการและมีปัญหาตรงไหนก็ไล่เคลียร์กัน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคน ต้องการวัคซีนเยอะมากที่สุด ทุกหน่วยงานต้องการวัคซีนมากที่สุด ฉะนั้นเราต้องจัดสรรให้ได้มากที่สุดเหมือนกัน

ต่อข้อถามว่าคนของผู้ว่าฯ กทม.บอกว่า สิ่งที่อัดอั้นตันใจคือ จุดฉีดวัคซีนที่สถานี กลางบางซื่อ เป็นจุดเดียวที่วัคซีนไม่เคยขาด ไม่เหมือนจุดอื่น จึงมีเรื่องความหวาดระแวงทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง นายอนุทินกล่าวว่า จุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่พล.ต.อ.อัศวินบ่น ซึ่งหากตนเป็น พล.ต.อ.อัศวินจะชอบด้วยซ้ำที่มีจุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อมาช่วยแบ่งเบาในระดับหนึ่ง อย่างจุดฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ เดือนที่ผ่านมาเน้นฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง แต่ประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเรียกประชุมเมื่อวานนี้เกี่ยวกับจุดฉีดวัคซีน ที่สถานีกลางบางซื่อคือความแออัดของคน ซึ่งจัดระเบียบกันลำบากเพราะคนเยอะและต้องเร่งฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง วอล์กอินเข้ามาได้ถึงแค่สิ้นเดือนก.ค. ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป ทุกอย่างจะกลับไปสู่การลงทะเบียนเหมือนเดิม ความแออัดจะลดลง แต่ก็ยังยกเว้นคนอายุ 75 ขึ้นไป ให้วอล์กอินได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่วันนี้ภาพที่แออัดเกิดขึ้นจากการยกทั้งครอบครัวมาจากต่างจังหวัด เพื่อมารับการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ตรงนี้จะแก้ไขอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ต่อให้มาทั้งครอบครัวก็ฉีดได้แค่คนอายุ 75 ปีขึ้นไป และมีโรคกลุ่มเสี่ยง ดังนั้น แม้จะยกมาทั้งครอบครัวแต่ถ้าไม่เข้าหลักเกณฑ์ทั่วเรื่องอายุ และ 7 โรคกลุ่มเสี่ยง ก็จะไม่ได้ฉีด จะมาแบบวัดดวงไม่ได้ เต็มที่คือให้ผู้สูงอายุ 1 คนและญาติ 1 คน

“ผมกล้าพูดเพราะสัปดาห์หนึ่งแวะไป 4 วัน จะแออัดแค่ช่วงเช้า แต่เมื่อได้เข้าไปแล้วก็ไม่แออัด ทั้งนี้มุมกล้องหรืออะไรก็สามารถทำได้หมดเพื่อให้ดูแออัด แต่เมื่อคนมาเยอะเกินความสามารถที่จะจัดระเบียบได้ก็ต้องจัดระเบียบใหม่และแทนที่จะฉีดได้ 3-4 หมื่นคนก็ต้องลดเพื่อที่จะไม่ให้มีภาพของความกังวลของประชาชนทั่วไปเกิดขึ้น” นายอนุทินกล่าว

ต่อข้อถามว่าการตัดสินใจเลิกวอล์กอิน และฉีด 20,000 โดสต่อวันต่อคนถือเป็นการถอยเพื่อลดความหวาดระแวงทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้ามิติทางการเมือง ไม่ได้กลัวตรงนี้เลย ไม่ได้มีความเกรงกลัวว่าใครจะมาระแวงหรือต่อให้มีใครมาระแวงก็ไม่ได้ กลัว เพราะตนทำสิ่งที่ดี ฉีดวัคซีนให้ประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล และจัดวัคซีนพยายามกระจายให้ทั่วถึงมากที่สุด วันนี้ไม่ใช่เวลา ที่จะมานั่งคิดถึงเรื่องการเมืองแม้แต่น้อย ตนคิดจะทำอย่างไรให้จบโดยเร็วและจะทำอย่างไรให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง สภาพการเมือง ในวันนี้ใครก็ขาดใครไม่ได้ ถ้ายังจะบริหารประเทศร่วมกันต่อไป และเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในความกังวล

ไลน์หานายกฯทุกวัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า บางครั้งในทางการเมืองนายกฯ อาจไม่รู้เรื่อง แต่เป็นเรื่องของลูกน้องนายกฯ กทม.กับสถานีกลางบางซื่อ ดังนั้นการจะบอกว่าเป็นเรื่องการแบ่งซีนทางการเมือง ก็คงมองได้ นายอนุทินกล่าวว่า ขอแค่ผู้ใหญ่เข้าใจกันจบ เรื่องลูกน้องจะบังคับให้ลูกน้องแต่ละฝ่ายไม่เขม่นกันเรื่องนี้มันจิ๊บจ๊อยเกินไปที่เราจะไปนั่งคิด ตนยังไลน์รายงานนายกฯ ทุกวัน วันละหลายครั้งก็โทร.ไปรายงานพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ บางที พล.อ.ประวิตรก็โทร.มาถามสถานการณ์ หรือนายวราวุธ รมว.ทส. ก็โทร.มาคุยกันบ้าง ซึ่งได้ พูดคุยกันตลอดเวลา ถ้ารุ่นใหญ่เข้าใจกันจบ

เมื่อถามว่าจุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อเป็นที่เดียวที่วัคซีนไม่เคยขาดเพราะอะไร นายอนุทินกล่าวว่า จุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อเป็นหน่วยแยก ที่สธ.จัดให้และนับหลายคนหลายฝ่ายที่พลาดจากการลงทะเบียนหรือถูกเลื่อนนัดหรือเป็นหน่วยเก็บตก ซึ่งหน่วยนี้สธ.คิดขึ้นมาเอง แต่วันนี้ถ้าไปถามไปกดดันคนที่ทำงานแบบนี้เขาพร้อมที่จะกลับสู่ที่ตั้ง ตนก็ต้องพยายามบอกว่าต้องอดทน ต้องสละและทนความกดดัน การรถไฟแห่งประเทศไทยก็อยากจะเอาเข้าทุกวันอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่คลัสเตอร์ ตนต้องตื๊อกันหนักกว่านี้ แต่ตนยังกำกับดูแลกระทรวงคมนาคมอยู่ จึงยังมีความเกรงใจกันบ้าง

หนุนตั้งร.พ.สนามในโรงงาน

ต่อมานายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมกับผู้ว่าฯ พื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด 12 จังหวัด นายกฯ ได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาเตียงผู้ป่วย ซึ่งได้มอบหมายให้มท. และสธ. กระทรวงสาธารณสุข โดยผวจ. และนายแพทย์สาธารณสุข จังหวัด (สสจ.) จัดพื้นที่ที่เป็นโรงพยาบาลหลัก จัดตั้งร.พ.สนาม เพื่อให้ทีมหมอและพยาบาลที่มีอยู่ดูแลได้เพิ่มเติม รวมทั้งให้มีการยกระดับขีดความสามารถเตียงในร.พ.สนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีอาการสีเหลืองหรือสีแดงเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสนับสนุนภาคเอกชนจัดตั้งร.พ.สนามภายในโรงงานร่วมกับร.พ.เอกชนในพื้นที่ นายกฯ ยืนยันด้วยว่าเวชภัณท์ต่างๆ ทั้งยารักษา ยาฟาวิพิราเวียร์ ออกซิเจนและ ถังออกซิเจนมีเพียงพอ รวมทั้งได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแลป้องกันการกักตุน สินค้าด้วย หากจังหวัดไหนขาดเหลือสิ่งใด ก็ยื่นของบประมาณ ตามลำดับขั้นตอนได้ รวมทั้งแผนการกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ ยังคงเป็นไปตามนโยบาย

“ในช่วงท้ายนายกฯ กล่าวว่า ผู้ว่าฯ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานในพื้นที่ ทุกคนคือทีมประเทศไทย ขอชื่นชมความเสียสละ ความร่วมมือในการช่วยกันควบคุมการแพร่ระบาด ทุกคนคือคนไทย รวมไทย สร้างชีวิต ต้านภัยโควิด ซึ่งได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลมาตลอด ยืนยันรัฐบาล ยังทำงานอย่างเข้มแข็งร่วมกัน” นายอนุชากล่าว

ปิดค่าย – มทบ.21 สั่งปิดบริเวณบ้านพักทหารชั้นประทวน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังพบคนในครอบครัวทหารป่วยโควิด จนเกิดการติดเชื้อภายในครอบครัวและทำให้คนในค่ายทหารตกเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวนมาก เมื่อวันที่ 28 ก.ค.

เร่งลดขั้นตอน-รักษาเร็วขึ้น

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ เป็นห่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น และต้องการให้ผู้ป่วยถูกคัดแยก กักตัว ให้เร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อภายในครอบครัว และชุมชน สธ.จึงได้ออกแนวทางเวชปฏิบัติ โดยประชาชนที่มีตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเองด้วยชุดตรวจเร็ว แอนติเจน เทสต์ คิต แล้วพบผลเป็นบวก สามารถเข้าระบบแยกกักตัวแบบดูแลตนเองที่บ้าน (โฮมไอโซเลชั่น) โดยแจ้งสายด่วน โทร. 1330 ต่อ 14 หรือเพิ่มเพื่อน สปสช. ในระบบไลน์ @nhso ส่วนกลุ่มที่ไม่สามารถดูแลที่บ้านได้ ก็จะเป็นการดูแลในระบบชุมชน (คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น) ศูนย์พักคอย ฮอสพิเทล หรือ ร.พ.ซึ่งจะมีการตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้ง เพื่อป้องกันผลบวกลวง ก็ขอให้ติดต่อสปสช.เช่นกัน การดำเนินการนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการบริการได้เร็วขึ้น

จี้ขึ้นทะเบียนโควิดนัดจ์

ด้านนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เคยเสนอให้รัฐบาลนำเทคโนโลยี CovidNudge RT-PCR test มาใช้ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีมีงานวิจัยรองรับว่ามีความแม่นยำ 99.9% ในรายการแคร์ คลับเฮาส์ เมื่อคืนวันที่ 27 ก.ค. ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ลดทิฐิลง จะช่วยแก้ไขการระบาดของโรคได้มากกว่านี้ ฟังสิ่งที่ นายทักษิณเสนอทางออกให้กับประชาชนไว้บ้าง เห็นแก่ตัวเองให้น้อยลง ทำเพื่อประชาชน ให้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงหนึ่งของวงเสวนา ในรายการ Care Talk x Care ClubHouse ตอน Roadmap to New normal วางเส้นทางสู่วิถีใหม่ ที่นายทักษิณ ได้เป็น ผู้ร่วมดำเนินรายการนั้น ได้มีการเปิดเผยความคืบหน้าของ โควิดนัดจ์ อาร์ทีซีพีอาร์ เทสต์ ที่นายทักษิณจะนำมาบริจาคให้คนไทย ผ่านทาง มูลนิธิไทยคม ระบุว่า ขณะนี้รอการอนุมัติโดย อย. เพราะที่ตรวจของ DNA Nudge เป็น PCR ถ้า อย.อนุมัติ จะบริจาคผ่านมูลนิธิไทยคม

โควิดคร่า‘เกชา’อดีตดาราดัง

ที่กุโบว์ เมราชา แดนมะตาม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี น.ส.นาตาชา เปลี่ยนวิถี หรือ “แอนนา” อดีตนางแบบสาวชื่อดัง พร้อมด้วยเครือญาติ ได้นำร่างของคุณพ่อ นายเกชา เปลี่ยนวิถี อดีตนักแสดงอาวุโส ที่เสียชีวิต ด้วยโรคติดเชื้อโควิด-19 ในวัย 95 ปี ที่ร.พ. อุทัยธานี ตามคำสั่งเสียก่อนจากไป โดยพิธีเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและผู้ที่มาร่วมพิธี

ครูประจวบฯดับไม่ใช่ฉีดผสม

ส่วนกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.พงศ์ภัค ศรัทธาโสภณ อายุ 39 ปี ครูสอนพิเศษ เจ้าของสถาบันพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์คิงแมทส์ ถนนมหาราช 1 เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 20 ก.ค. หลังจาก ฉีดวัคซีนสูตรผสม แอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 2 ที่ ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ เพียงแค่วันเดียว ล่าสุด กรมควบคุมโรค สธ.ได้เผยแพร่เอกสาร สรุปผลกรณีหญิงชาวประจวบฯ เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนสลับชนิด ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ผลการชันสูตรเนื้อสมองบวมทั่วไป และพบก้อนเนื้องอกขนาด 5 เซนติเมตร ที่น่าจะเป็นมาก่อนหน้านี้ บริเวณสมองส่วนหน้าขวากดเบียดก้านสมอง ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดศีรษะและมีผลต่อการกดการหายใจ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต สรุปว่าการเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ที่บังเอิญเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

จากการตรวจสอบข้อมูลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และฐานข้อมูล MOPH-IC สำนักงานปลัดกสธ. ณ วันที่ 22 ก.ค.64 มีรายงานการฉีดวัคซีน โควิด 19 สลับชนิดไปแล้ว 124,704 ราย มีผู้ป่วย ในที่เข้ารับการรักษาในร.พ. 86 ราย อาการส่วนใหญ่คือมีไข้ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อาเจียน และไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตหรืออาการร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือการฉีดวัคซีนสลับชนิด

หนุ่มเศร้าแม่ดับคาดอนโด

จากกรณีที่พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอความช่วยเหลือช่วยแชร์ มีโยมที่รู้จักพักอยู่ที่สิริลักษณ์คอนโด ซอยวัดกำแพง ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นครอบครัว 3 คนพ่อแม่ลูก ทั้ง 3 คนติดโควิด 2 คน เป็นผู้สูงอายุ อาการป่วยรุนแรงมาตั้งแต่เมื่อวานนี้

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่คอนโดฯ ดังกล่าว พบ นางจารุวรรณ เรืองนิยม เจ้าหน้าที่นิติบุคคลของคอนโดฯ ทราบว่า ที่ชั้น 2 ห้อง 16/87 เป็นห้องที่มีครอบครัวติดเชื้อโควิด อาศัยอยู่ 3 คน พ่ออายุ 84 ปี แม่อายุ 72 ปี และลูกชาย อายุ 34 ปี มีอาการป่วยมา 3 วันแล้ว พ่อยังมีชีวิตอยู่ แต่มีอาการรุนแรง หายใจไม่ค่อยออก วัดออกซิเจนได้แค่ 45% ส่วนแม่หายใจ ไม่ค่อยออกเช่นกัน และทั้งสองคนไม่ทานอาหารเลย จึงได้ประสานไปที่พระมหาไพรวัลย์ เนื่องจากพ่อกับแม่เป็นโยมที่ขายเครื่องสังฆทาน ที่วัดสร้อยทอง เพื่อขอความช่วยเหลือ ท่านได้ ติดต่อมูลนิธิกระจกเงานำถังออกซิเจนมาให้ช่วยหายใจ และต้องการให้ทั้งหมดได้รับการรักษาเนื่องจากว่าที่คอนโดฯ มีทั้งหมด 150 ห้อง เกรงว่าจะแพร่กระจายเชื้อไปให้ลูกบ้าน

ต่อมาเวลา 15.30 น. ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ และโทรศัพท์พูดคุยกับลูกชายของครอบครัวนี้ อยู่นั้น ปรากฏว่าได้ยินเสียงพูดออกมาว่า “แม่ตายแล้ว” ซึ่งลูกชายพยายามจับตัวแม่เพื่อกระตุ้นให้ตื่น แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น จึงฝากขอความช่วยเหลือชีวิตพ่อที่หายใจ ไม่สะดวกแล้ว รวมทั้งตนเอง ให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องมารับตัวส่งรักษาร.พ.สนามโดยด่วน ขณะเดียวกันทางนิติคอนโดฯ แจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ ทหารจากกองทัพบกติดต่อมาเพื่อนำรถทหารมาเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตเพื่อหาวัดฌาปนกิจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน