ตุ๊ก-ปิยะพงษ์ก็ยื่นศาล
เอาผิด-หมิ่นล้มบอล

‘โฟกัส จีระกุล’ ดาราสาวคนดัง ขึ้นศาลอาญา ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด เรียกค่าเสียหาย 1 ล้าน โพสต์หมิ่น-แคปภาพไปต่อว่าในทางเสียหายหลายครั้ง ลั่นเป็นคดีตัวอย่าง ทนายเผยดาราสาวรวบรวมรายชื่อนักเลงคีย์บอร์ดที่โจมตีไว้ทั้งหมด 33 ราย จะทยอยฟ้องต่อไป ขณะที่ ตุ๊ก-ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตดาวซัลโวหน้าหยก ตำนานทีมชาติ และแตงโม พงษ์พิสุทธิ์ ลูกชาย ก็ขึ้นศาลฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด โพสต์กล่าวหาล้มบอล สมัยเป็นนักบอลทีมชาติ แตงโมลั่น ขอปกป้องศักดิ์ศรีพ่อ ตลอด 30 ปี ที่ถูกทำให้เสียหาย โดนเพื่อนล้อ ถูกบูลลี่เรื่องนี้ ทั้งที่พ่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมากมาย เผยยื่นฟ้องรายเดียว ทั้งที่มีเป็นหมื่นเคสที่โพสต์โจมตีพ่อ ทั้ง 2 คดี ศาลนัดไต่สวนพร้อมกัน 15 พ.ย.นี้

โฟกัสฟ้อง – โฟกัส จีระกุล ดาราสาวพร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทกับเกรียนคีย์บอร์ด ที่แสดงความเห็นดูหมิ่นในโซเชี่ยล มีเดีย เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท เผยมีในลิสต์อีก 33 ราย เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ศาลอาญา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.โฟกัส จีระกุล อายุ 28 ปี ดารานักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วย เจมส์ กิจเกษม แมคเฟดเดน อายุ 32 ปี แฟนหนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสำราญ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีที่โพสต์ข้อความให้ น.ส.โฟกัส โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษ

นายษิทรากล่าวว่า มาฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดที่ไปโพสต์ในกลุ่มข่าวกลุ่มหนึ่ง มีคนเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ทำให้น.ส.โฟกัส ได้รับความเสียหาย โดยเรารวบรวมหลักฐาน และรายชื่อได้ทั้งหมด 33 คน จะทยอยฟ้อง แต่วันนี้ยื่นฟ้องนายสำราญก่อน เนื่องจากโพสต์ข้อความบ่อยกว่าคนอื่นๆ มีชื่อและนามสกุลชัดเจน โดยโพสต์ถึงน้องโฟกัสว่า เป็นคนไม่ดี มีการแคปภาพไปว่าในทางเสียหายในเรื่องส่วนตัว 2 ครั้ง โดยจะเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ในส่วนของการไกล่เกลี่ย ต้องดูว่าเขามาแล้วสำนึกผิดหรือไม่ แล้วจะเยียวยาอะไร

สำหรับผู้ที่โพสต์ข้อความใส่ร้ายโฟกัสอีก 32 คน เราได้รวบรวมหลักฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้จะให้น้องโฟกัสพิจารณาดู และตัดสินใจว่าจะดำเนินการ และเรียกค่าเสียหายอย่างไรต่อไป ซึ่งบางคนไม่ได้เข้าข่ายหมิ่นประมาท แต่เข้าข่ายดูหมิ่น ซึ่งมีอัตราโทษแตกต่างกัน เราฟ้องเป็นคดีอาญา

ด้านน.ส.โฟกัสกล่าวว่า ความจริงปล่อยมานานแล้ว ไม่คิดว่าอยากจะฟ้องใคร ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่เขาก็ยังเลือกวิจารณ์เราแบบนี้อยู่ ก็ต้องลองเป็นกรณีตัวอย่างดู ส่วนจะไกล่เกลี่ยกันอย่างไรนั้น อย่างแรกก็ต้องมาเจอกันก่อน มารับฟังข้อกล่าวหา แล้วค่อยว่ากันอีกที จริงๆ อยากรับคำขอโทษเป็นเงินเท่านั้น เพราะเขาจะได้คิดก่อนพูดหรือโพสต์อะไรไป เพราะมันทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง กัสเป็นเหมือนประชาชนคนหนึ่ง การพูดอะไรออกไป เป็นการวิจารณ์ของเราเอง ส่วนคนอื่นที่มาวิจารณ์กัส ต้องระวังนิดหนึ่ง เพราะมันคือการวิจารณ์ส่วนบุคคล เอาง่ายๆ คือคิดอะไรก่อนพูด หรือพิมพ์ลงไป ไม่อย่างนั้นก็อาจจะต้องเสียเวลา เสียเงินกันแบบนี้

ด้านศาลรับคำฟ้องคดีไว้พิจารณา และนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในวันที่ 15 พ.ย.2564 เวลา 13.30 น.

ส่วนการฟ้องร้องอีกคดีหนึ่ง วันเดียวกัน น.อ.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อายุ 61 ปี หรือ “เดอะตุ๊ก” อดีตศูนย์หน้านักฟุตบอลทีมชาติไทยชื่อดัง เจ้าของฉายา “เพชฌฆาตหน้าหยก” และ นายพงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน หรือ แตงโม อายุ 35 ปี บุตรชาย พร้อมทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทรงชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวกทม. เป็นจำเลยในความผิดฐาน กระทำผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, หมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ให้ได้รับความเสียหาย กรณีที่นายทรงชัยโพสต์ข้อความลงในเพจฟุตบอลทีมชาติไทย ประเด็นที่โจทก์เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย แล้วมีเรื่องราวเกี่ยวกับการล้มบอล ซึ่งเป็นความเท็จ

สำหรับคำฟ้องโจทก์ สรุปว่า เมื่อระหว่างต้นเดือนส.ค. ถึงวันที่ 3 ส.ค.2564 นายทรงชัยใช้บัญชีเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง โพสต์ข้อความเปิดเป็นสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงทำนองว่า “ไม่เอาปิยะพงษ์ แน่นอน ได้แชมป์ไทยลีก ตอนคุมทีมสโมสรทหารอากาศ ถ้าไม่มีเรื่อง (ล้มบอล)…..ก็ไม่ได้หรอก” ซึ่งล้วนเป็นเท็จ

ทำให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์เป็นบุคคลที่มีเรื่องเสื่อมเสียในวงการฟุตบอลของประเทศไทย โจทก์ไม่มีความสามารถและเหมาะสมที่จะเป็นโค้ชหรือผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย

ซึ่งข้อความดังกล่าว โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีพฤติการณ์ในการล้มบอลที่จำเลยกล่าวอ้าง และภายหลังที่จำเลยโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้ว ได้มีประชาชนทั่วไปส่งข้อความเข้ามาสอบถามถึงเรื่องที่จำเลยโพสต์กล่าวอ้างในเพจนั้นว่าความจริงเป็นอย่างไร ทำให้เกิดความเสียหายแก่วงการฟุตบอลของไทย

รวมทั้งตัวโจทก์เองที่ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชื่อเสียงของโจทก์ที่กระทำมาตลอดที่เป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย เหตุเกิดที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. และทั่วราชอาณาจักร โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย

ต่อมา ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ วันที่ 15 พ.ย.2564 เวลา 13.30 น.

น.อ.ปิยะพงษ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า เนื่องจากแตงโม บุตรชายไปเห็นในเพจฟุตบอล ซึ่งมีข้อความที่ไม่น่ารัก เขาก็เลยอยากปกป้องศักดิ์ศรี แต่ตัวตนนั้นไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเลยเวลาแล้ว อายุเยอะแล้ว ก็แค่มาเซ็นเป็นตัวแทนให้กับทนายความและแตงโม ที่อยากจะปกป้องศักดิ์ศรีในเรื่องที่เขาต้องการเท่านั้น

ด้านแตงโม พงษ์พิสุทธิ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วคุณพ่อเป็นคนสบายๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ส่วนตัวแตงโมนั้น ยุคที่คุณพ่อเล่นฟุตบอลก็เจอเรื่องราวแบบนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี

“ผมรู้สึกว่าเรื่องราวผ่านมานานแล้วคุณพ่อก็เป็นคนที่สร้างชื่อเสียงและรับใช้ประเทศชาติ ก็ไม่อยากให้ใครกล่าวให้ร้ายคุณพ่อ สมัยก่อนผมเป็นเด็ก เจอเรื่องราวแบบนี้มาเยอะแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เจอเพื่อนล้อ เพื่อนว่า และโดนเพื่อนบูลลี่ แต่ตอนนี้เมื่อผมโตแล้วก็ทราบขั้นตอนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร จึงขอใช้สิทธิทางกฎหมาย เพราะเรื่องราวเหล่านี้ไม่มีใครอยากให้คนมาต่อว่าคุณพ่อของผม ตลอด 30 ปี จริงๆ

แล้ว ถ้าถามว่าคุณพ่อเคยเจอเยอะไหม ผมว่าเป็นหมื่นเคส แต่ว่าก็มีคนส่งข้อความ โทร.มาขอโทษผมเยอะมาก หลังจากที่ผมโพสต์ออกไป ซึ่งผมก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้จะไปฟ้องทุกคน ฟ้องเพียงคนเดียวถือว่าน้อยมาก เพื่อให้เป็นตัวอย่างว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใคร จริงๆ คุณพ่อไม่ได้ติดใจอะไร แต่ตัวผมในฐานะเป็นลูกถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตผมจะต้องอยู่กับตรงนี้อีกนาน” แตงโม พงษ์พิสุทธิ์กล่าวและว่า

ข้อความที่เขาโพสต์นั้น ปรากฏในกลุ่มเพจเกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีผู้ติดตาม 7-8 แสนคน ซึ่งมีประชาชนที่เห็นข้อความเยอะ ทำให้กระทบกับคุณพ่อ ส่วนเรื่องค่าเสียหายจะให้ทนายความดำเนินการต่อไป อาจต้องดำเนินการฟ้องแพ่งด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน