แต่ตกเย็นยังปะทะเดือด
บช.น.สั่งสอบคฝ.ยิงมั่ว
ไทยไม่ทนระดม40จว.
บุกบ้านสส.บี้โหวตเทตู่
ทะลุฟ้าบุกร้องยูเอ็นอีก

ผบ.ตร.สั่งปรับแผนเผชิญม็อบ เอาตู้คอนเทนเนอร์ออก สุดท้ายช่วงเย็นยังมี ชุมนุม แล้วก็ปะทะกันเช่นเดิม ผู้ชุมนุมปาประทัด ส่วนคฝ.ใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และรถฉีดน้ำ ผลักดันพ้นถนนวิภาวดีฯ ขณะที่รองผบช.น.ระบุเตรียมตรวจสอบคลิปคฝ.ยิ่งมั่ว ระบุต้องดูก่อนและหลังเกิดเหตุด้วยหากตร.ถูกทำร้ายก็มีสิทธิ์สกัดม็อบ กล่มทะลุฟ้า ลุยอีก ฟ้องยูเอ็น ประจานรัฐบาลจับกุมคนเห็นต่างขังคุก ไม่ให้ประกัน ด้านชาวแฟลตดินแดงขึ้นป้ายไม่เอาแก๊สน้ำตา ไทยไม่ทนนัดระดม 40 จังหวัด บุกบ้าน ส.ส. โหวตไม่ไว้วางใจตู่

ตร.ขอตรวจคลิปยิงประชาชน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ส.ค. พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ชี้แจงถึงกรณีที่ในโลกโซเชี่ยลเผยแพร่คลิปเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้ปืนยิงกระสุนยาง ยิงใส่ประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณแยกดินแดงเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา 3 นัด ว่า บช.น.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าและหลังเกิดเหตุเป็นอย่างไร แต่ตามหลักการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน จะใช้ก็ต่อเมื่อยับยั้ง ห้ามปราม ระงับเหตุ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล ส่วนการยิงระยะประชิดและช่วงตัวท่อนบนนั้น ต้องดูเจตนาของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการระงับเหตุวุ่นวาย หรือเป็นการป้องกันตัวเองหรือไม่อย่างไร เช่นคนขับขี่รถจักรยาน ยนต์อาจขับพุ่งชนเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปโดยสมเหตุสมผล ก็ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นชายคนดังกล่าวที่ปรากฏตามคลิปแต่งกายคล้ายตำรวจ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นบุคคลใด และจะเรียกมาสอบสวนว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ทั้งนี้ขอประชาชนอย่าเพิ่งตัดสินใจจากคลิปเพียง 3.78 วินาที ขอให้ดูคลิปเหตุการณ์ยาวทั้งหมดก่อน

พล.ต.ต.ปิยะเปิดเผยอีกว่า เช่นเดียวกับที่มีคลิปตำรวจควบคุมฝูงชนยืนอยู่บนสะพานลอยหน้าแฟลตดินแดง และยิงกระสุนยางใส่ประชาชนบริเวณใต้แฟลตดินแดงนั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลยังไม่ได้รับรายงานคลิปดังกล่าว และจะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าหากตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่บกพร่องหรือมีความผิด บช.น. ก็มีมาตรการดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอยู่แล้ว

ฟันวินัย-ยิงม็อบสะพานวันชาติ

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า เหมือนที่เคยดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุสลายการชุมนุมที่สะพานวันชาติเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าตำรวจมีพฤติกรรมอาจจะเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามหลักสากล โดยมีการใช้กำลังเข้าไปสลายการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขอย้ำกับประชาชนว่า ตำรวจได้ตรวจสอบคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จำนวน 18 คลิป ต้องขอใช้เวลาในการตรวจสอบ ว่าคลิปใดเป็นคลิปปลอม คลิปใดเป็นคลิปจริง หรือคลิปจริงที่ตัดทอนมาบางส่วน และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณ ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่ม ผู้ชุมนุม บริเวณแยกดินแดงเมื่อวันที่ 20 ส.ค. พบพฤติการณ์พยายามฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ และรื้อตู้คอนเทนเนอร์ โดยผู้ชุมนุมมีการขว้างปา ลูกแก้ว ลูกหิน พลุ เพลิง ระเบิดปิงปอง ไปป์บอมบ์ใส่เจ้าหน้าที่ ที่พยายามรักษาพื้นที่ ซึ่งตำรวจจับกุมผู้ชุมนุม 26 คน พร้อมตรวจยึดของกลางระเบิดปิงปอง ไปป์บอมบ์ และระเบิดแสวงเครื่องได้ 200 ลูก นำตัวส่งดำเนินคดีแล้ว สรุปการดำเนินคดีในห้วงเดือน ก.ค.ถึงเดือน ส.ค. เป็นเวลา 2 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้น 807 คดี มีผู้ต้องหาที่ต้องถูกดำเนินคดี 468 คน จับกุมแล้ว 211 คน

ส่วนการชุมนุมในวันนี้มี 2 จุด คือบริเวณสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ถนนราช ดำเนิน และแยกดินแดงในช่วงเย็น ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป และยืนยันว่าการชุมนุมในขณะนี้เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ปรับยุทธวิธี – พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ประชุมติดตามสถานการณ์การชุมนุม โดยสั่งปรับยุทธวิธี กำชับไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติการในที่พักอาศัย ชุมชน หรือซอยขนาดเล็ก เน้นรักษาพื้นที่ถนนเส้นหลัก ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 21 ส.ค.

ผบ.ตร.สั่งถอนคอนเทนเนอร์

ต่อมาเวลา 12.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการชุมนุม ที่บช.น.จากนั้นเวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์แถลงว่า จะปรับยุทธิวิธีให้กับเจ้าหน้าที่ในการเข้าระงับเหตุวุ่นวายที่เกิดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณดินแดงและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้วยความรุนแรงจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน โดยเฉพาะคลิปเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนยิงประชิดใส่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และยิงใส่ใต้แฟลตดินแดง 2 เหตุการณ์ สั่งการให้ บช.น.ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ต้องพิจารณาถึงเหตุและผลเป็นเรื่องๆ ไป เพราะหลักยุทธวิธีสากลเป็นเพียงหลักเกณฑ์กว้างๆ ที่กำหนดขึ้นเท่านั้น ไม่มีการบังคับตายตัว จึงต้องเรียกตำรวจนายดังกล่าวมาตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถตอบคำถามของสังคมได้ว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงจริงหรือไม่

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สั่งการให้ปรับยุทธวิธีแล้ว กำชับไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติการภายในที่พักอาศัย ชุมชน หรือซอยขนาดเล็ก แต่เน้นการรักษาพื้นที่บริเวณถนนเส้นหลัก ป้องกันไม่ให้มีการเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการและทรัพย์สินของประชาชน หรือโจมตีเจ้าหน้าที่ รวมถึงยกเลิกการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ที่ขวางถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก ใกล้สามเหลี่ยมดินแดงที่จะมุ่งหน้ากรมทหารราบที่ 1 และยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ปกป้องบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นการปกป้องสถานที่ราชการ

ต่อมาที่บริเวณถนนวิภาวดีขาออก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประกาศปรับยุทธวิธีรับมือการปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดง โดยให้ยกเลิกการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ขวาง ถ.วิภาวดีฯ ขาออกมุ่งหน้ากรมทหารราบที่ 1 เพื่อลดผลกระทบกับประชาชนนั้น ที่บริเวณ ถ.วิภาวดีฯ ด้านคู่ขนานใกล้กับ ร.พ.ทหารผ่านศึก มีการวางแนวรั้วปิดการจราจร โดยให้รถใช้เส้นทางช่องทางด่วนแทน นอกจากนี้บริเวณใกล้กับปั๊มน้ำมัน ปตท.ราบ 1 มีการวางตู้คอนเทนเนอร์ไว้จำนวนหนึ่งอีกด้วย

รื้อออกแล้ว – เจ้าหน้าที่ปรับยุทธวิธีรับมือม็อบสามเหลี่ยมดินแดง โดยรื้อถอนตู้คอนเทนเนอร์ขวางถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก มุ่งหน้ากรมทหารราบที่ 1 บ้านพักพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.

แนะผู้เสียหายฟ้องร้องตร.

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเลขาธิการสมาพันธ์ นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีปรากฏคลิปภาพชายใส่เครื่องเเบบ คฝ. ใช้อาวุธคล้ายปืนยาวจ่อยิงใส่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในระยะประชิดตัวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักกติกาสากลและไม่เป็นไปตามหลักการสลายการชุมนุม ตำรวจใช้วิธีการดำเนินการโดยมิได้คำนึงถึงความเหมาะสม โดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่เกิดกับประชาชน กระทำโดยเจตนากระทำความผิดทางอาญา เป็นการทำซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยผู้บังคับบัญชาเพิกเฉย ละเลย ไม่สั่งการให้หยุดยั้งการกระทำที่เป็นอันตรายต่อชีวิตประชาชน ถือเป็นการไม่รับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ของตนผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ

ตำรวจคนดังกล่าวเป็นใคร ต้องกล้าออกมาแสดงตัว ให้สมกับที่ยิงปืนในระยะประชิดตัวใส่ประชาชน ขอเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชา ต้องเอาตำรวจในคลิปออกมาชี้แจงต่อสังคมโดยด่วน ขอให้ผู้ถูกยิงและถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนแจ้งความ ระบุจุดเกิดเหตุ รวบรวมคลิปต่างๆ เพื่อดำเนินคดี

ฟ้องโลก – กลุ่มทะลุฟ้าจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ พร้อมยื่นหนังสือร้องสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชา ชาติ กรณีถูกรัฐบาลจับกุมคุมขังไม่เป็นธรรม และปราบปรามรุนแรง ที่สำนักงานยูเอ็น กทม. เมื่อวันที่ 21 ส.ค.

‘ทะลุฟ้า’ฟ้องโลกหน้ายูเอ็น

เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) กลุ่มทะลุฟ้ามีการนัดรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ตรวจสอบ และคัดค้านการจับกุมที่ไม่ชอบธรรม โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า ยื่นหนังสือทะลุโลก เปิดโปงทรราชให้ต่างชาติได้รับรู้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ชื่อกิจกรรม ‘ยืนหยุดขัง’ โดยการยืนนิ่ง 112 นาที รวมถึงขึ้นป้ายผ้าข้อความภาษาอังกฤษ ขนาดใหญ่ ไว้บริเวณรั้วด้านหน้า UN ที่มีข้อความเรียกร้องให้นานาชาติ ให้เข้าใจว่ากลุ่มเเกนนำเป็นนักสู้ ไม่ใช่นักโทษ เเละเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมไทย เเละข้อความเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก

ด้านนายทรงพล สนธิรักษ์ หรือยาใจ โฆษกกลุ่มทะลุฟ้า เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือไปเเล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยวันนี้ได้เดินทางมาจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้นานาชาติได้รับรู้ ถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะการจับกุมคุมขังเเกนนำ เเละผู้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา จึงขอเรียกร้องให้เข้ามาร่วมตรวจสอบเเละขอให้ปล่อย ผู้ถูกคุมขังทุกคน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการ ปิดกั้นสิทธิเเละเสรีภาพการเเสดงออกในการชุมนุม

ไทยไม่ทนพร้อมเคลื่อน 40 จว.

ที่ห้องประชุมไทยไม่ทน สถานีพีซทีวี (Peace TV) รามอินทรา 40 แยก 33/1 นายยศ วริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก กล่าวว่า กลุ่มไทยไม่ทนฯ จึงจะเริ่มกิจกรรมการรณรงค์ ยกมือไม่ไว้วางใจทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้า เป็นต้นไป โดยจะเคลื่อนขบวนไปหน้าสำนักงาน ส.ส.พปชร. บ้านพัก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และอาจลามไปถึงบ้านพักของส.ว.ด้วย โดยสามารถติดตามการนัดหมายได้ที่เพจกลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย

นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กล่าวว่า 4 ประการแห่งความล้มเหลวของรัฐบาล ประการแรกไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้ ประการที่สอง ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั่วประเทศ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประการที่สาม ไม่มีแนวทางแก้ปัญหาโควิดอย่างชัดเจน และประการที่สี่ มีเจตนาจงใจที่จะไม่แก้ปัญหาทางการเมือง เพื่อที่จะให้ความแตกแยกเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย

ดังนั้นในวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น คณะไทยไม่ทนฯ จะรณรงค์ ยกมือไม่ไว้วางใจทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานคณะทำงานไปกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว ดังนั้น พี่น้องประชาชนที่เห็นด้วย ขอให้เตรียมการเคลื่อนขบวนไปยังที่ทำการและบ้านพักของ ส.ส. ไม่ว่าจะเป็นส.ส.ของพรรค พปชร. พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย รวมไปถึงพรรคเล็ก ขอให้ส.ส.ทั้งหมดยกมือไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี โดยกิจกรรมดังกล่าวจะเริ่มทำในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจนกว่าการอภิปรายจะสิ้นสุดลง

ส่วนในพื้นที่กทม. จะมีการนัดหมายทวงถามความรับผิดชอบกับพรรค พปชร. เพราะสร้าง พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นมา ขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมตัว เพื่อจะไปถามหาความรับผิดชอบ เพราะส.ส.พรรค พปชร. ให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ว่า จะเลิกสนับสนุนได้หรือไม่ การทำกิจกรรม ดังกล่าวจะพิสูจน์ธาตุแท้ของส.ส. ว่ายังเป็นที่พึ่งหรือที่หวังหรือไม่

รื้อถอนตู้ – เจ้าหน้าที่รื้อถอนตู้คอนเทนเนอร์ออกจากถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก มุ่งหน้ากรมทหารราบที่ 1 บ้านพักพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขณะที่นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย โพสต์ภาพบาดแผลถูกกระสุนแก๊สน้ำตา บาดเจ็บหนักถึงขั้นสูญเสียดวงตา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.

ลูกนัทกลับบ้าน-ห่วงเพนกวิน

นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซ ลูกนัท เข้ามาร่วมชุมนุมบริเวณแยกดินแดง เมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 ก่อนถูกวัตถุบางอย่างจากฝั่งตำรวจ คฝ.ที่ยิงมา ทำให้บาดเจ็บสาหัส กระจกตาขวาฉีกขาด ลูกตาขวาแตก จอประสาทตาขวาลอก แพทย์มีความเห็นว่าหลังการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว ดวงตาข้างขวาของ ลูกนัทจะไม่สามารถมองเห็นได้อีกนั้น

ล่าสุด นายธนัตถ์โพสต์ภาพแผลที่คิ้ว พร้อมระบุว่า “Coming home today III i’m back in black b***ches #แล้วเมื่อไหร่เพนกวินเพื่อนกูจะได้กลับบ้านได้เข้ารพ? #พูดหยุดโกงพอกูพูดก็หยุดกู”

นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ถูกส่งตัวรักษาที่ทัณฑสถาน ร.พ.ราชทัณฑ์ 4 คน ประกอบด้วย นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายสิริชัย นาถึง และ นาย Sam Samart หรือแซมสาแมท ยืนยันดูแลด้านสุขภาพและรักษาพยาบาล เพื่อให้เกิดผลดีแก่ผู้ต้องขังทุกคนอย่างเต็มที่ ให้ได้รับความเท่าเทียม เสมอภาค และไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด โดยให้การดูแลรักษาเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป

ฝากขังพกระเบิด-เผาป้อม

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ยื่นคำร้องฝากขัง นายทัพชัย สิโนนยาง อายุ 22 ปี นายชนะดล ลอยมั่นคง อายุ 24 ปี นายสหชาติ ยงจัตุรัส อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีขนอาวุธ วัตถุระเบิด และระเบิดปิงปอง เข้าร่วมชุมนุมบริเวณแยกดินแดง วันที่ 20 ส.ค.

ตรวจค้นภายในตัวนายทัพชัย พบของกลาง ระเบิดปิงปองหลากสี 100 ลูก พร้อมหนังสติ๊ก 1 อัน บรรจุอยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล และตรวจค้นภายในตัวนายชนะดล ผู้ต้องหาที่ 2 พบของกลางระเบิดปิงปองหลากสี 29 ลูก พร้อมหนังสติ๊ก 3 อัน และระเบิดแสวงเครื่อง 1 ลูก บรรจุอยู่ในกระเป๋าสะพายสีเขียว ตรวจค้นตัวนายสหชาติ ผู้ต้องหาที่ 3 พบของกลางหนังสติ๊ก 6 อัน

นอกจากนี้พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ยื่นคำร้องฝากขัง นายประวิตร ธิบูรณ์บุญ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีเผาป้อมตำรวจจราจรใต้ทางด่วนดินแดง ในเหตุการณ์วันที่ 10 ส.ค.

ขณะที่ศาลอาญาให้ประกันตัวผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 คนละ 110,000 บาทส่วนผู้ต้องหาที่ 3 ให้ประกัน 35,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหากระทำการใด ในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหา หรือเข้าร่วมในกิจกรรมใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ในบ้านเมือง

ส่วนสำนวนนายประวิตรที่ถูกกล่าวหา เผาป้อมตำรวจยื่นประกันเป็นเงินสด 47,000 บาทศาลอนุญาตให้ประกัน พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามผู้ต้องหากระทำการใด ในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหา หรือเข้าร่วมใน กิจกรรมใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ในบ้านเมือง

เดือดร้อน – คณะกรรมการแฟลตดินแดง กทม. ขึ้นป้ายเรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่ ยุติเสียงปืน และยิงแก๊ส น้ำตาสลายการชุมนุม เนื่องจากชาวบ้านหลาย พันคนเดือดร้อน และ ได้รับผลกระทบจากแก๊ส น้ำตา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.

คนดินแดงไม่เอาแก๊สน้ำตา

ที่แฟลตดินแดง มีกลุ่มชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณนี้ ขึ้นป้ายมีข้อความว่า “ขอให้ยุติเสียงปืน- แก๊สน้ำตา ! มันสร้างความเดือดร้อน ให้พวกเรารู้บ้างมั้ย ? “และข้อความว่า พวกเราชาวดินแดง ไม่ต้องการให้ที่นี้เป็นสนามรบ โดยนายอดิศร โพธิ์อ่าน หนึ่งในชาวบ้านแฟลตดินแดง เปิดเผยว่า คนที่พักอยู่ที่นี้ได้รับผลกระทบจากแก๊สน้ำตา เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่ดี

เนื่องจากว่าน้องๆ ที่รักในประชาธิปไตยจะใช้ที่นี้เป็นทางหนีทีไล่ เพราะซอยในนี้มีมากกว่า 20 ซอย ตนเข้าใจได้ กลุ่มผู้ชุมนุมกลัวการโดนจับ จึงได้หนีมาอยู่ที่นี้ แต่พอเจ้าหน้าที่จะมาสลายการชุมนุม พวกเขาควรมีวิธีกระทำที่ดีกว่านี้ อาจจะแค่มาดันๆ ไปก็พอ ไม่ควรถึงขนาดยิงแก๊สน้ำตา แก๊สน้ำตามันส่งผลกระทบต่อคนที่อาศัยอยู่บนแฟลตนี้ ไม่ว่าจะด้านหน้า หรือด้านหลัง ผลกระทบคือแสบตาจนทานข้าวกันไม่ได้ เด็กๆ ก็ใช้ชีวิตกันลำบาก เพราะว่ามันแสบไปหมด นอนก็ไม่ได้ครั่นเนื้อครั่นตัว แสบไปหมด นี้ยังไม่รวมถึงเสียงดัง ที่ไปรบกวนเวลาหลับเวลานอน

นายอดิศร เปิดเผยต่อว่า ซึ่งคนที่ได้รับผล กระทบบริเวณจุดนี้มีหลายพันคน ถึงเป็นหมื่นคน เพราะห้องห้องหนึ่งไม่ได้อยู่คน สองคน มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ละห้องจะอยู่กัน 5 คน และแก๊สน้ำตาไม่ได้โดนเฉพาะข้างหน้า ข้างหลังก็โดน ทุกคนที่อยู่บริเวณนี้ ก็ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก มีบางคนที่เขาได้รับผลกระทบ โผล่ออกมาบอกเจ้าหน้าที่ดีๆ ว่าอย่ายิงแก๊สน้ำตาเลย แต่เขากลับโดนยิงสวนขึ้นไป ตรงนี้ก็มีคลิปออกมาแล้ว ยิ่งยิงไปบนอาคารเขายิ่งเดือดร้อน เศษกระสุนก็ไปโดนหน้าเขา ซึ่งตนอยากให้เจ้าหน้าที่ย้ายตู้คอนเทนเนอร์ออกไป แล้วให้น้องๆ ไปแสดงสัญลักษณ์ที่หน้าบ้านนายกฯ ตนเชื่อว่าถ้าไม่ไปปิดกั้นเขา เขาก็ไปแค่แสดงสัญลักษณ์

โคราชคาร์ม็อบไล่ตู่

ที่จ.นครราชสีมา กลุ่มเยาวชน “Korat Movement” ได้นัดจัดกิจกรรมคาร์ม็อบขึ้น เพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โดยนัดรวมตัวกันเวลา 14.00 น. ใน 3 มุมเมือง ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณลานจอดรถตลาดเซฟวัน ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง ฝั่งขาออกไปกรุงเทพฯ

จุดที่ 2 บริเวณตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ต.จอหอ อ.เมือง ฝั่งไป จ.ขอนแก่น และจุดที่ 3 บริเวณลานจอดถห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสหัวทะเล ต.หัวทะเล อ.เมือง ฝั่งไป จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะที่บริเวณลานจอดรถตลาดเซฟวัน ซึ่งมีเยาวชนสวมชุดเสื้อผ้าสีดำ ทยอยเดินทางมารวมกลุ่มกัน ต่อเนื่อง มีรถเครื่องขยายเสียง และมีรถจักรยานยนต์ เป็นยานพาหนะ

ทั้งนี้มีการเขียนป้ายข้อความโจมตีรัฐบาล และขับไล่รัฐบาลหลายข้อความ อาทิ รัฐบาลล้มเหลว ประชาชนล้มตาย, ชนชั้นปรสิต, งบประมาณปี 65 วางแผนปล้นตั้งแต่ปี 56, ไฟเซอร์มีไว้ฉีด ไม่ใช่มีไว้..อม และเราต้องการวัคซีน mRNA เป็นต้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ. โพธิ์กลาง กว่า 10 นาย กระจายกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่ห่างๆ

สำหรับคาร์ม็อบโคราชครั้งนี้ เป็นการแสดงพลังขับไล่รัฐบาลพร้อมกับคาร์ม็อบในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนมิตรภาพจาก 3 จุด และไปรวมตัวกันที่บริเวณศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะมีการเปิดเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล พร้อมกับสลับการแสดงดนตรี ไปจนถึงเวลา 21.00 น. จึงสลายการชุมนุม

จับเดือด – เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน พร้อมชุดเคลื่อนที่เร็ว ไล่จับกุมกลุ่มวัยรุ่นผู้ชุมนุม หลังระดมฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมี ยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง สลายม็อบสามเหลี่ยมดินแดง อย่างดุเดือด เมื่อค่ำวันที่ 21 ส.ค.

ดินแดงปะทะเดือดอีก

เมื่อเวลา 17.30 น. ที่สามเหลี่ยมดินแดง มีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกว่า 100 คน พร้อมรถมอเตอร์ไซค์กว่า 50 คัน ทั้งที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปิดถนนแต่อย่างใด ส่วนเส้นทางวิภาวดีฯ มุ่งหน้าไปยังแยกสุทธิสารนั้น ก็ยังเดินทางได้ตามปกติ ส่วนตู้คอนเทนเนอร์นั้นทางเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนเก็บไว้ข้างทาง กลุ่มวัยรุ่นจุดประทัดบริเวณใต้ทางด่วนอีกด้วย จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก มุ่งหน้ากรมทหารราบ ที่ 1 ห่างกันไม่กี่นาที กลุ่มจยย.ได้เลี้ยวขบวนกลับมาที่แยกดินแดงอีกครั้ง

เวลา 17.35 น. หลังกลุ่ม จยย. เริ่มมีการเคลื่อนไหว ตำรวจ คฝ. มาตั้งแนวบริเวณปากซอยพหลโยธินซอย 2 ข้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ก่อนจะเกิดปะทะกัน เจ้าหน้าที่ใช้รถฉีดน้ำ และแก๊สน้ำตายิงใส่ โดยระบุว่ากลุ่มผู้ชุมนุมปาประทัดใส่ก่อน

เวลา 19.15 น. ที่บริเวณใกล้ด่านเก็บเงินขึ้นทางด่วนดินแดง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มวัยรุ่นยังคงปะทะกับ คฝ.ที่วางกำลังหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ อย่างต่อเนื่อง มีการขว้างปาประทัดยักษ์ ระเบิดเพลิง ระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ โดยทาง คฝ.ได้ฉีดน้ำผสมสารเคมีผลักดันกลุ่มวัยรุ่นให้ไปยังพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง เหตุการณ์ยังคงวุ่นวายอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาเวลา 19.45 น. คฝ.พร้อมชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มวัยรุ่น ทำให้มีผู้ถูกจับ 5 คน พร้อมรถจักรยานยนต์ ส่วนกลุ่มที่เหลือ ถอยไปรวมตัวที่สามเหลี่ยมดินแดง ขณะที่แนวคฝ.ขยับแนวเตรียมสลายการชุมนุมที่แยกใต้ด่วนดินแดงต่อไป

เวลา 20.10 น. วัยรุ่นยังรวมตัวอยู่บริเวณหน้าปั๊มเชลล์ ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก พร้อมกับจุดพลุเพลิง ระเบิดปิงปองตอบโต้เจ้าหน้าที่เป็นระยะ มีเพลิงลุกไหม้ขึ้นหน้าแนวรถจีโน่ ด้านเจ้าหน้าที่ประกาศแจ้งเตือนให้กลุ่มวัยรุ่นกลับบ้าน ต่อมาตำรวจประกาศเตรียมเข้าจับกุมอีกครั้ง ด้านวัยรุ่นส่งสัญญาณมือบอกต่อๆ กันให้ถอย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน