โทรหานาย-นัดมอบตัวที่แสนสุข
ยันมุ่งทำงาน-ไม่มีปมรีดไถเงิน
จับครบแก๊งแล้ว-เอาผิดเพิ่มอีก6
แฉ‘โจ้’จับ638รถหรู-ฟันพันล้าน

‘ผกก.โจ้’จนมุมแล้ว หิ้วตัวเข้ากองปราบฯ ผบ.ตร.รุดสอบด้วยตัวเอง ขณะร.ต.ท.ธรณินทร์โดนรวบที่เพชรบุรี ‘จตช.’ จ่อฟันเพิ่มอีก 6 นายสภ.เมืองนครสวรรค์ส่ง 5 ตำรวจฝากขัง พร้อมค้านประกัน ต้องนอนคุกทั้งหมด ศุลกากรเผยผกก.ฉาว จับรถหรู 368 คดี นำขายทอดตลาดได้พันล้าน

จากกรณีพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือผกก.โจ้ กับพวกรวม 7 คน ร่วมกันใช้ถุงคลุมศีรษะนายจิระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตในห้องปฏิบัติงานฝ่ายเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ชุด 05 ที่ด้านหลังบ้านกาแฟ ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างสภ.เมืองนครสวรรค์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งต่อมามีการร้องเรียนจนนำมาสู่การจับกุมดำเนินคดี 5 ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ และติดตามจับกุมผกก.โจ้และร.ต.ท.ธรนินทร์ มาศวรรณา รอง สว.(ป) สภ.เมืองนครสวรรค์ที่ยังหลบหนีตามข่าว

จับแล้วผกก.โจ้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 26 ส.ค. ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวพ.ต.อ.ธิติสรรค์ได้แล้ว โดยผกก.โจ้นัดมอบตัวที่จ.ชลบุรี พื้นที่ สภ.แสนสุข จากนั้นนำตัวกลับมาสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราบ (บก.ป.) โดยพ.ต.อ.ธิติสรรค์ มีลักษณะซูบผอมหนักอย่างเห็นได้ชัดและต้องใส่เสื้อเกราะอยู่ตลอด ขณะที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เดินทางมาสอบสวนด้วยตัวเอง

จากนั้นเวลา 19.10 น. นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความ เดินทางมาที่บก.ป. พร้อมเปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อให้มาว่าความในคดีของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ซึ่งยังไม่ทราบในรายละเอียดของคดี และในวันนี้ยังไม่ได้เตรียมเงินประกันตัวมา

ขณะที่ร.ต.ท.ธรณินทร์ที่หลบหนีไปกบ ดานที่จ.เพชรบุรี ทีมสืบสวนก็สามารถติดตามควบคุมตัวได้แล้ว และส่งตัวไปยัง จ.นคร สวรรค์ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม

ผบ.ตร.รุดสอบ-โจ้รับผิดเอง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. แถลงภายหลังสอบสวนพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ว่า ขณะที่ทั้ง 7 นายที่ถูกออกหมายจับถูกจับได้ครบทั้งหมดแล้ว ยืนยันไม่ได้ปกป้องคนผิด สังคมตำรวจจะอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน ขอโทษประชาชนที่เกิดเรื่องเหล่านี้ ตั้งแต่ผบ.ตร.ถึงลูกแถวถ้าทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ

จากนั้นได้ให้พ.ต.อ.ธิติสรรค์ได้โฟนอินเข้ามาชี้แจงระหว่างแถลงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ข้อหาที่ถูกดำเนินคดี ขอให้การในชั้นศาล แต่จะขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปไม่ถูกต้อง ไม่ได้มีเจตนาฆ่าเค้า แต่ต้องการทำลายยาเสพติด ขอรับผิดแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับลูกน้องเพราะตนเป็นผู้สั่งการ ซึ่งลูกน้องก็มีการห้ามปรามแล้ว เราต้องการทำงานเรื่องเรียกรับเงินไม่มี สาบานได้ชีวิตราชการไม่มีทุจริตเรื่องเงิน

ผกก.โจ้กล่าวต่อว่า กราบขอโทษพ่อแม่น้อง และองค์กรตำรวจ ยอมรับตนผิดเอง ส่วนที่ทนายระบุมีการตบทรัพย์ ขอยืนยันไม่มีใครเรียก 20 ล้าน และไม่มีการจ่ายเงินเพื่อปิดคดี เพียงแต่ช่วยทำบุญงานศพไป 3 หมื่นบาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องการถามหายาเสพติดเท่านั้น ส่วนการใช้ถุงดำคลุมก็เพียงต้องการให้ผู้เสียชีวิตไม่เห็นหน้าตน จากสิ่งที่เกิดขึ้นก็รู้สึกช็อกและทำอะไรไม่ถูก

โดยผกก.โจ้ให้การในชั้นสอบสวนด้วยว่า ไม่ได้ต้องการหลบหนีและไม่มีใครพาหนี แต่ตนไปตั้งหลักเท่านั้น ขอโทษที่ทำให้ภาพลักษณ์ตำรวจเสียหาย

ผบ.ตร.ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง

วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 408/2564 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนพ.ต.อ.ธิติสรรค์ กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ประกอบด้วย 1.พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ แทนพล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผบช.ภ. 6, 2.พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ (สบ 8) เป็นกรรมการ, 3.พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผบช.ภ.6 เป็นกรรมการ, 4.พล.ต.ต.ภูริวัจธ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 6 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ, 5.พ.ต.อ.เจนกมล คำนวล รองผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการ, 6.พ.ต.ท. พงษ์ปกรณ์ พิพัฒนสมพร รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน มีหนังสือเรื่อง ให้บุคคลพ้นสภาพจากการเป็นจิตอาสา 904 โดยให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล และนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก พ้นจากจิตอาสาพระราชทาน เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและสถานภาพของจิตอาสา 904

นอกจากนี้มีคำสั่งให้เรียกคืนเครื่องแต่งกาย หมวก ผ้าพันคอ เครื่องหมายจิตอาสา 904 (ปีกโลหะ ปีกผ้า) บัตรประจำตัวและประกาศนียบัตรด้วย

สำหรับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก เป็น ผู้ต้องหาคดีอาญา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

จตช.จ่อฟันเพิ่มอีก 6 นาย

ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการสอบสวนว่า พฤติการณ์ทางคดีมีความชัดเจน ไม่ว่าจะจากคลิปที่ปรากฏ และผลของการสอบสวน ซึ่งในส่วนของผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สำหรับในแนวทางการสอบสวนตามที่ระบุว่าวันที่ 5 ส.ค. แต่ไม่พบว่าในบันทึกประจำวันถึงการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้ากว่า 1 แสนเม็ด ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานหามูลเหตุการกระทำผิดว่า มาจากการรีดเงินหรือว่าพยายามหายาเสพติด เพราะต้องสอบปากคำตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 5 คนก่อน แต่พฤติการณ์เหมือนจะพยายามหายาเสพติด ส่วนเรื่องการรีดเงินมันเป็นเพียงข้อมูลที่สื่อรับฟังมาจากผู้ที่ส่งข้อมูลมาให้ แต่จากการสอบปากคำภรรยาของผู้ตายยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่ได้นำยาเสพติดมาด้วย ส่วนที่มาที่ไปของการพบตำรวจ และไปอยู่ในห้องที่เกิดเหตุยังเปิดเผยไม่ได้ รวมถึงเรื่องมูลเหตุจูงใจในการกระทำผิดของผู้ต้องหา เท่าที่ดูพฤติกรรมเหมือนจะพยายามบีบเค้นเพื่อหาที่ซ่อนของ ยาเสพติด และทราบว่าผู้ตายเคยมีประวัติ ถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติด

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการทางวินัยกับพ.ต.อ.ธิติสรรค์ กับพวกรวม 7 คน ว่า กรณีทั้ง 7 นาย สืบเนื่องจากมีความผิดทางอาญา ถูกแจ้งความดำเนินคดีจึงดำเนินการได้ไว โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อนและจะถูกพิจารณาความผิดทางวินัยร้ายแรง ส่วนกรณีตำรวจที่กระทำผิดมี 13 นาย ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เคยระบุไว้ ทั้ง 6 นายที่เหลืออยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพิ่มเติม ก่อนจะดำเนินการทางวินัย ซึ่งอาจจะมีน้อยกว่าหรือมากนี้ก็ได้ ยืนยันจะว่าไปตามข้อเท็จจริงพร้อมยอมรับการดำเนินการอาจจะไม่รวดเร็วทันใจต่อกระแสสังคม แต่ยืนยันจะไม่มีการปกป้องคนทำผิด หากพบใครเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาควบคู่กันไป

แฉเหยื่อเสนอ 1 ล้านแลกปล่อย

รายงานข่าวแจ้งว่า มีข้อมูลว่าจุดเริ่มต้นที่ ‘ดาบโบ้’ ซึ่งถือเป็นพ่อบ้านของตำรวจทีมเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ชุด 05 ซึ่งมีประสบการทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์มานานหลายปี เป็นคนให้ข้อมูลกับทีมชุดจับว่าผู้ตายถือเป็นพ่อค้ายารายสำคัญในพื้นที่ และมีทรัพย์สินอยู่มาก จึงนำทีมไปจับกุม ผู้ตายและภรรยามาจากถนนสายเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ พามาแยกตัวสอบสวนภายในห้องที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าผู้ตายมีไอซ์ติดอยู่ที่ตัว 3 กรัม และพบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ บันทึกภาพถ่ายยาเสพติดไว้เป็นจำนวนมาก จึงนำตัวมาขยายผลที่บ้านกาแฟ และ นำตัวผู้ตายไปค้นบ้านพักในพื้นที่ อ.ตาคลี ในช่วงกลางดึก ซึ่งผู้ตายพักอาศัยอยู่กับบิดา แต่ผลการตรวจค้นกลับไม่พบยาเสพติดตามที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่าย จึงนำตัวกลับมาเค้นสืบสวนต่อที่ห้องทำงานเดิม จนเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป และผลการสอบปากคำผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดต่างให้การยืนยันว่า ผกก.โจ้เป็นผู้เข้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง และไม่มีใครเคยพูดเรื่องรับเงิน 2 ล้านเพื่อแลกกับอิสรภาพในการปล่อยตัวแต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในคลิปที่เห็นไม่ได้พูดเรื่องเงิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ซ้อมผู้ตายจนอ่วมแล้ว ผู้ตายยอมจะจ่ายเงินให้ 1 ล้านเพื่อแลกอิสรภาพ ดาบโบ้จึงไปรายงานผกก.ว่า มันยอมจ่าย 1 ล้านแล้วครับ ผกก.โจ้จึงตอบกลับมาว่า “รายใหญ่ไม่เอา 1 ล้านกูจะเอา 2 ล้าน และบอกว่าพวกมึงทำกันยังไง ดูนี่ต้อง กูเอง นำมาสู่การเสียชีวิตดังกล่าว”

ส่ง 5 ตำรวจฝากขัง

พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ กล่าวถึงพ่อของผู้ตายว่า ช่วงแรกเหมือนไม่ยินยอมให้ความร่วมมือ แต่ช่วงหลังเริ่มให้ความร่วมมือทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อคดี ส่วนการแจ้งความเอาผิดพ่อของผู้ตาย ยังอยู่ในรายละเอียดการพิจารณา ต้องดูในสำนวนการสอบสวนว่ามีการเชื่อมโยงไปถึงเจ้าตัวหรือไม่ หากมีความผิดเกิดขึ้น ก็ถือเป็นการแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งเจ้าตัวจะเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมในหลายประเด็นย้อนหลัง และในส่วนของประเด็นทรัพย์สินที่อาจจะมีความซับซ้อน จึงต้องใช้เวลาในการสอบสวนอีกสักระยะหนึ่ง

เวลา 09.50 น. ที่สภ.เมืองนครสวรรค์ ชุดปฏิบัติการพิเศษ จากบก.ภ.นครสวรรค์ ได้ควบคุมตัว ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผบ.หมู่(ป.), ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ผบ.หมู่(ป.), พ.ต.ต. รวีโรจน์ ดิษทอง สว.สส., ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค รอง สวป. สภ.เมืองนครสวรรค์ และส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาเร็ว ผบ.หมู่(ป.) สภ.ตาคลี 5 ผู้ต้องหา ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างที่ควบคุมตัว ส.ต.ต.ปวีกรณ์ ได้ร้องไห้อย่างหนัก พร้อมพูดว่า “ขอความยุติธรรมให้ผมด้วย” ขณะที่ ด.ต.วิสุทธิ์กล่าวว่า แล้วความจริงจะปรากฏ

ต่อมาทนายความของ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาเร็ว ผู้ต้องหาที่ 4 ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลจังหวัดนครสวรรค์ พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา ประกอบพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง ลักษณะการกระทำเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว หากให้ปล่อยชั่วคราวเชื่อว่าจะหลบหนี กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง ส่วนที่เหลือไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว

แฉ‘โจ้’จับรถหรู 368 คดี

วันเดียวกัน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตรวจสอบรถหรูของผกก.โจ้ เป็นรถที่แจ้งนำเข้า 5-6 คัน และเป็นรถที่ประมูลจากกรมศุลกากร 2 คัน ส่วนที่เหลือเป็นรถที่ซื้อขายผ่ายตลาดตามปกติ ไม่ใช่รถแจ้งนำเข้าทั้งหมด โดยกรมศุลกากรจะประสานข้อมูลกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2554-2560 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เป็นเจ้าของสำนวนคดีนำจับรถหรูและรถทั่วไปรวม 368 คัน โดยขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน เหลือ 5 คัน ซึ่งตามระเบียบกรมศุลกากร เมื่อสิ้นสุดกระบวนการขายทอดตลาดแล้ว จะแบ่งเงินค่ารางวัลนำ ตามพ.ร.บ.ศุลกากร ฉบับเดิมก่อนปี 2560 เป็นค่าสินบน 30% และเงินรางวัล 25% และกฎหมายฉบับใหม่อัตรารางวัลที่ 20% สินบน 20% ต่อ 1 คดีไม่เกิน 5 ล้านบาท อย่างไรก็ดี แม้พ.ต.อ.ธิติสรรค์ จะเป็นผู้นำส่งคดี แต่เงินสินบน และเงินรางวัล จะต้องแบ่งตามสัดส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในงานคดีทั้งหมด เช่น ชุดจับกุม ค่ารักษาดำเนินการต่างๆ ไม่ได้จัดสรรให้พ.ต.อ.ธิติสรรค์เพียงผู้เดียว จากข้อมูลพบว่ารถหรูทั้ง 368 คัน เปิดราคาประมูลที่ 500 ล้านบาท เฉพาะส่วนที่ขายทอดตลาดเป็นเงินประมาณ 1 พันล้านบาท

‘โจ้’จนมุม – โฉมหน้าพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผกก.โจ้ หลังจนมุมถูกนำตัวมากองปราบปราม ขณะที่ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ลูกน้อง (รูปเล็ก) ถูกตามจับได้ที่จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค.

แถลงจับโจ้ – พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. แถลงข่าวจับกุมผกก.โจ้ หลังสอบปากคำด้วยตัวเอง โดยเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวซักถามผกก.โจ้ผ่านระบบมือถือ ที่กองปราบฯ

ร้องไห้ – ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาเร็ว ตำรวจสภ.เมืองนครสวรรค์ หนึ่งในทีมลูกน้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ ร้องไห้อย่างหนักขณะถูกนำตัวไปฝากขัง โดยศาลจังหวัดนครสวรรค์ไม่ให้ประกันตัว ส่งไปคุมขังที่เรือนจำ เมื่อ 26 ส.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน