ติดใหม่14,956ตาย262
ทวด103ปี-สาวท้องดับ

สธ.ยันโควิดสายพันธุ์‘มิว’ยังไม่พบระบาดในไทย แต่ต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ เตือนคุมเข้มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โครงการแซนด์บ็อกซ์ไทยตายรายวันอีก 262 ราย มีทวดวัย 103 ปีด้วย ติดเชื้อเพิ่ม 14,956 ราย หายป่วย 17,936 ราย ‘มหาชัย’ ปรับแผนวอล์กอินฉีดวัคซีน ไม่ต้องจองผ่านหมอพร้อม ด้านพิจิตรผวาโควิด งดจัดแข่งเรือประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน กระบี่สั่งปิดตลาดนัดต้นทวย หลังพบคลัสเตอร์แม่ค้าอาหารทะเล ติดเชื้อกว่า 100 ราย สระแก้วป่วยรายใหม่ 102 ราย เจอคลัสเตอร์ใหม่ร้านซักรีดที่อรัญประเทศ อีกจุดที่วัฒนานคร ลูกหนี้ติดโควิดมาจ่ายเงินเลยแพร่เชื้อสู่เจ้าหนี้และครอบครัว

ติดเชื้อเพิ่ม 14,956-ตายอีก 262

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยติดเชื้อใหม่ 14,956 ราย ป่วยสะสม 1,234,487 ราย รักษาหายป่วย 17,936 ราย สูงกว่าติดเชื้อใหม่ หายป่วยสะสม 1,058,704 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 262 ราย เสียชีวิตสะสม 12,103 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 163,680 ราย อยู่ในร.พ. 23,313 ราย ร.พ.สนามและอื่นๆ 140,367 ราย มีอาการหนัก 4,841 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,030 ราย ภาพรวมผู้ติดเชื้อวันนี้มาจาก 67 จังหวัดรวมกันสูงสุด 7,440 ราย กทม. และปริมณฑล 6,074 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 1,069 ราย เรือนจำ 356 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ได้แก่ ลาว 1 ราย กัมพูชา 11 ราย เข้ามาช่องทางธรรมชาติ 1 ราย มาเลเซีย 2 ราย เข้ามาช่องทางธรรมชาติ ญี่ปุ่น อิสราเอล และอังกฤษ ประเทศละ 1 ราย

ผู้เสียชีวิต 262 ราย มาจาก 37 จังหวัด ได้แก่ กทม. 80 ราย, ปทุมธานี 24 ราย, สมุทรสาคร 17 ราย, ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จังหวัดละ 14 ราย, อ่างทอง 11 ราย, สมุทรปราการ 9 ราย, นครปฐม ตาก จังหวัดละ 8 ราย, สุพรรณบุรี ลพบุรี จังหวัดละ 7 ราย, ยะลา นครนายก จังหวัดละ 6 ราย, อุดรธานี ปัตตานี จังหวัดละ 5 ราย, นราธิวาส 4 ราย, นนทบุรี นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ระยอง ราชบุรี จังหวัดละ 3 ราย, เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ปราจีนบุรี จังหวัดละ 2 ราย และขอนแก่น ศรีสะเกษ ชัยภูมิ บึงกาฬ กระบี่ ภูเก็ต ระนอง สงขลา สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี จันทบุรี และสมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย

‘ทวด 103-สาวท้อง’ดับโควิด

ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 140 ราย และหญิง 122 ราย อายุ 25-103 ปี เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 183 ราย คิดเป็น 70% อายุต่ำกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 52 ราย คิดเป็น 20% รวม 2 กลุ่มนี้สูง 90% อายุน้อยกว่า 60 ปีไม่มีโรคเรื้อรัง 26 ราย คิดเป็น 10% และหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย จ.นราธิวาส คิดเป็น 0.4%

สำหรับ 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 3,322 ราย สะสม 286,604 ราย 2.สมุทรปราการ 1,220 ราย สะสม 82,421 ราย 3.ชลบุรี 881 ราย สะสม 64,185 ราย 4.สมุทรสาคร 733 ราย สะสม 75,783 ราย 5.พระนครศรีอยุธยา 494 ราย สะสม 21,083 ราย 6.นราธิวาส 428 ราย สะสม 13,978 ราย 7.ราชบุรี 349 ราย สะสม 18,268 ราย 8.นครปฐม 341 ราย สะสม 26,887 ราย 9.ระยอง 340 ราย สะสม 18,588 ราย และ 10.สระบุรี 310 ราย สะสม 19,035 ราย

ฉีดแล้ว 33 ล้านโดส

สำหรับจังหวัดที่มีการติดเชื้อน้อยกว่า 20 ราย มี 11 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย 19 ราย, ชัยนาท 14 ราย, สตูล 14 ราย, น่าน 13 ราย, แม่ฮ่องสอน 12 ราย, แพร่ 10 ราย, เลย 10 ราย, ลำปาง 8 ราย, มุกดาหาร 8 ราย, พะเยา 6 ราย, บึงกาฬ 5 ราย

ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 1 ก.ย. ฉีดได้ 827,462 โดส สะสม 33,427,463 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 24,147,532 ราย ครบ 2 เข็ม 8,684,695 ราย และเข็มสาม 595,236 ราย

ไทยเพิ่มเฝ้าระวัง‘สายพันธุ์มิว’

วันเดียวกัน ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล ให้สัมภาษณ์กรณีองค์การอนามัยโลก (WHO) ยกระดับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์มิว (Mu) หรือ B.1.621 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง (Variants of Interest :VOI) นั้นว่า สายพันธุ์มิวถูกพบครั้งแรกที่โคลัมเบีย เมื่อม.ค.2564 ในฐานข้อมูลกลางโควิดโลก (GISAID) มีการเผยแพร่ข้อมูลที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น และมีการถอดรหัสพันธุกรรม พบการกลายพันธุ์ที่ต่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่นค่อนข้างมากถึง 50-60 ตำแหน่ง จึงเป็นปัจจัยทำให้องค์การอนามัยโลกพิจารณายกระดับให้เป็นสายพันธุ์ที่เฝ้าระวังตัวที่ 5 จากก่อนหน้ามี 4 สายพันธุ์ คืออีตา (Eta- B.1.525) ระบาดในหลายประเทศ, ไอโอตา (Iota-B.1.526) ระบาดในสหรัฐอเมริกา, แคปปา (Kappa- B.1.617.1) ระบาดในอินเดีย และแลมบ์ดา (Lambda- C.37) ระบาดในเปรู

“สายพันธุ์เหล่านี้ถูกจัดเป็นกลุ่มสีเหลืองที่ความรุนแรงยังต่ำกว่าสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variants of Concern :VOC) เป็นกลุ่มสีแดงมี 4 ตัวที่ระบาดในขณะนี้คือ เดลตา, อัลฟา, เบตา และแกมมา สำหรับสายพันธุ์มิวระบาดอยู่ในประเทศที่ไกลจากบ้านเรา และประเทศในแถบเอเชีย รวมถึงไทยก็ยังไม่พบรายงานการระบาด ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะยังไม่มีหลักฐานทางคลินิกที่บ่งชี้ว่าจะรุนแรงกว่าสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่รหัสพันธุกรรมบ่งชี้ว่าอาจจะหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้” ดร.วสันต์กล่าว

จี้คุมเข้มโครงการแซนด์บ็อกซ์

ดร.วสันต์กล่าวต่อว่า ความกังวลที่ถูกจัดให้เฝ้าระวัง ส่วนใหญ่จะพิจารณาจากภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับวัคซีนป้องกัน เนื่องจากเกรงว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าไปหรือแอนติบอดีสังเคราะห์ที่ฉีดเข้าไปจะไม่ตอบสนอง ดังนั้นจึงต้องรีบศึกษาทดลองในห้องปฏิบัติการ แต่ไม่ได้หมายความว่าในร่างกายมนุษย์จริงๆ จะเป็นเช่นนั้น บ่อยครั้งที่เรากังวลใจทำให้เกิดการเฝ้าระวังเป็นสิ่งที่ดี เช่นสายพันธุ์เบตาที่ระบาดในนราธิวาส แต่เมื่อศึกษาพบการแพร่ระบาดไม่ได้เพิ่มจำนวนมากเท่าเดลตาหรืออัลฟา กระทรวงสาธารณสุขก็ควบคุมจำนวนจนเรียกได้ว่าเอาอยู่ อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังสายพันธุ์มิวสำหรับประเทศไทย ต้องเข้มงวดระบบการเฝ้าระวังคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทั้งในสถานกักตัวผู้มาจากต่างประเทศและโครงการแซนด์บ็อกซ์

ด้านนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เตรียมแถลงความคืบหน้า การตรวจหาเชื้อโควิดในสายพันธุ์ กลุ่ม AY หรือ C.1.2 และสายพันธุ์มิว ล่าสุด ยังไม่พบทั้งสายพันธุ์ C.1.2 หรือมิว ในไทย เข้าใจว่าการเผยแพร่ข่าวการพบสายพันธุ์ต่างๆ มาจากการอ่านข่าวข้อมูลจากต่างประเทศ อย่าเพิ่งรีบตกใจหรือกังวล มาตรการต่างๆ ทั้งสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และมีระยะห่างยังเป็นกลไกป้องกันควบคุมโรคที่ดีที่สุด ส่วนเมื่อมีการผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการ เช่นนั่งรับประทานอาหารในร้าน ขอย้ำว่าการตรวจด้วยชุดทดสอบ ATK สามารถช่วยคัดกรองได้ระดับหนึ่ง แม้จะไม่ไวเท่า RT-PCR แต่มีราคาถูกกว่า หากอนาคต ATK ถูกลงเรื่อยๆ เพียงชุดละ 60 บาท เชื่อว่าการตรวจคัดกรองในระดับบุคคลจะเพิ่มมากขึ้น และเกิดความคุ้มค่ามากกว่า เพราะต้นทุนการตรวจ RT-PCR สุ่มตรวจ 1 แสนคน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,500 บาทต่อคน รวมค่าใช้จ่ายสูงถึง 150 ล้านบาท

กระบี่ปิดตลาดนัดต้นทวย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการโรค ติดต่อจ.กระบี่สั่งปิดตลาดนัดต้นทวย หมู่ที่ 1 ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-14 ก.ย. 64 เนื่องจากพบพ่อค้าแม่ค้าอาหารทะเลภายในตลาดติดโควิด จากนั้นแพร่กระจายไปยังพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นและประชาชนในพื้นที่ต.คลองเขม้า ต.ตลิ่งชัน และ ต.โคกยาง

ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้แล้วกว่า 100 คน โดยเฉพาะในต.คลองเขม้ามี 40 คน จาก 4 หมู่บ้าน โดยหมู่ที่ 1 พบป่วย 10 คน หมู่ที่ 2 พบป่วย 4 คน หมู่ที่ 3 พบป่วย 12 คน และหมู่ที่ 4 พบป่วย 14 คน และเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่รอผลตรวจจากร.พ.เหนือคลองอีก 93 คน สำหรับประชากรในต.คลองเขม้า มีกว่า 6,000 คน

นายศุภชัย มาศชาย กำนันตำบลคลอง เขม้า กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค -19 ภายในหมู่บ้าน ตำบล เนื่องจากการทำงานของหน่วยงานของภาครัฐขาดความชัดเจน และล่าช้าในการตรวจสอบคนป่วย และรับส่งผู้ป่วยโควิค-19 อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปิดหมู่บ้านหรือตำบลเพื่อสแกนผู้ติดเชื้อจะทำให้ง่ายต่อการควบคุมโรค ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านยังใช้ชีวิตตามปกติ

น.ส.กาญจนา เพชรชิต ปลัดอบต.คลอง เขม้า รักษาการนายกอบต.คลองเขม้า กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดนัดต้นทวยติดเชื้อมาจากผู้ที่ขับรถบรรทุกน้ำแข็งและอาหารทะเลจากจ.ระนองมาส่งให้ในตลาด จากนั้นเชื้อแพร่กระจายไปยังพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นๆ และลูกค้าที่มาซื้อสินค้า โดยกลุ่มแม่ค้ากลุ่มนี้ตระเวนขายอาหารทะเลตามตลาดนัดต่างๆ ในหลายพื้นที่ ทั้งในตัวเมืองกระบี่และอำเภอใกล้เคียง โดยกังวลว่าจะมีการแพร่เชื้อเป็นวงกว้าง จึงต้องเร่งจัดซื้อตรวจหาเชื้อประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ แต่มีชุดตรวจเพียง 300 ชุดเท่านั้น เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดงบประมาณประจำปี จึงขอสนับสนุนชุดตรวจหาเชื้อจากหน่วยงานภาครัฐด้วย

ส่วนจ.กระบี่ พบผู้ป่วยรายใหม่ 26 ราย ป่วยสะสม 1,634 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เสียชีวิตสะสม 3 ราย

พิจิตรงดจัดแข่งเรือประเพณี

นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าฯ พิจิตร เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้มีผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงน้อยลง และยอดผู้ติดเชื้อโควิดก็ลดน้อยลง แต่ไม่สามารถไว้วางใจได้ ดังนั้นต้องควบคุมกันไปอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่จ.พิจิตร ต้องทำตามมาตรการการป้องกัน การแพร่ระบาดเชื้อโควิดอย่างเคร่งครัด

นายรังสรรค์กล่าวต่อว่า สำหรับงานแข่งเรือประเพณีชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจ.พิจิตรจัดงานของทุกปีช่วงต้นเดือนก.ย. แต่ปีนี้คณะกรรมการวัดอารามหลวง หรือวัดท่าหลวง และคณะกรรมการควบคุมโรคเห็นพ้องต้องกันว่า ปีนี้งดจัดงานแข่งเรือยาวประเพณี สาเหตุเนื่องจากสถานการณ์โควิดยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับหากจัดงานเกรงว่าจะทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม เพราะจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติเดินทางมาเที่ยว ซึ่งน่าห่วง

สำหรับงานแข่งเรือประเพณีชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะจัดขึ้นที่บริเวณสนามลำน้ำน่าน หน้าวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.พิจิตร มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 48 ราย แยกเป็นอ.เมือง พิจิตร 11 ราย อ.บึงนาราง 12 ราย อ.ทับคล้อ 6 ราย อ.ตะพานหิน 8 ราย อ.โพธิ์ประทับช้าง 5 ราย อ.โพทะเล 1 ราย อ.สามง่าม 3 ราย อ.บางมูลนาก 2 ราย

คลัสเตอร์ชุมชนโคราชลาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในจ.นครราชสีมา มีคลัสเตอร์ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากระบาดในชุมชนเปราะบางเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้แก่ คลัสเตอร์ชุมชนทุ่งสว่าง ซึ่งผู้ป่วยรายแรกเป็นชายอายุ 56 ปี ทำงานรับจ้างที่อ.เฉลิมพระเกียรติ มีอาการป่วย จึงไปตรวจรักษาที่ร.พ.เฉลิมพระเกียรติ พบติดเชื้อโควิด ทางร.พ.จึงรับตัวเข้ารักษา พร้อมแจ้งให้เทศบาลนครนำกลุ่มเสี่ยงในครอบครัวและเพื่อนร่วมงานที่อาศัยในละแวกเดียวกันไปตรวจหาเชื้อ พบติดเชื้อ 8 ราย สอบสวนโรคเพิ่มเติมพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก ทำให้ชุมชนทุ่งสว่างมีผู้ติดเชื้อแล้ว 23 ราย และเชื้อระบาดขยายวงไปยังชุมชนข้างเคียง ซึ่งมีทั้งชุมชนท้าวสุระ ซอย 3 ชุมชนศาลาลอย ชุมชนศาลเจ้าพ่อเสือ และชุมชนวัดทุ่งสว่าง

ผลการตรวจเชิงรุกพบว่าชาวชุมชนท้าวสุระ ซอย 3 ติดเชื้อ 11 ราย รวมติดเชื้อแล้ว 34 ราย ส่งรักษาร.พ.มหาราชนครราชสีมา และมีกลุ่มเสี่ยงสูงใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด 396 ราย เบื้องต้นเทศบาลนครนำชุดตรวจ ATK ตรวจคัดกรองเชิงรุกผู้ที่มีความเสี่ยงในชุมชนทุ่งสว่าง และชุมชนท้าวสุระกว่า 200 ราย และนำตัวผู้ที่มีความเสี่ยง 12 รายไปกักตัวที่ศูนย์กักตัวเทศบาลนครนครราชสีมา ส่วนที่เหลือให้กักตัวอยู่ที่บ้าน และปิดพื้นที่ชุมชนทุ่งสว่าง และชุมชนท้าวสุระ ซอย 3 ไว้ เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของโรคโควิด-19

เจออีกคลัสเตอร์รง.แปรรูปหมู

ส่วนคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณสามแยกปักธงชัย เขตเทศบาลนครนครราชสีมาซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปสุกรชื่อดังและร้านขายของฝากโคราชซึ่งกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ที่เพิ่งพบโควิดระบาด โดยหลังจากโรงงานทราบว่ามีพนักงาน 2 ราย เป็นสามีภรรยาและอาศัยอยู่บ้านคนชุม ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง ซึ่งละแวกใกล้เคียงมีผู้ป่วยโควิดหลายราย จึงสั่งให้พักงาน 3 วัน เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด เมื่อสอบสวนโรคไม่พบประวัติการสัมผัสผู้ป่วยในพื้นที่ จึงให้กลับเข้ามาทำงานตามปกติ แต่ให้แยกโต๊ะทำงานจากคนงานรายอื่น จากนั้นให้ตรวจหาเชื้อ ATK รอบ 2 พบผลเป็นบวก จึงส่งตรวจ RT-PCR ซ้ำที่ ร.พ.มหาราชฯ และพบว่าติดเชื้อโควิด โรงงานจึงตรวจเชิงรุก ATK ลูกจ้างแผนกผลิตหมูยอทั้งหมด 75 ราย พบผลเป็นบวก 14 ราย ส่งพนักงานทั้งหมดเข้าสถานที่กักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัด กำหนดพักห้องละ 1 คน และให้การดูแลรักษาตามมาตรการสาธารณสุข และจ้างบริษัทเอกชนทำความสะอาดมาฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรค พร้อมปิดแผนกหมูยอและปิดโรงงานเอาไว้ จากนั้นจึงส่งคนงานทั้ง 75 ราย ไปตรวจ RT-PCR ซ้ำ ต่อมาผลตรวจ PCR พบคนงานติดเชื้อโควิด 13 ราย เบื้องต้นคลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อรวม 15 รายแล้ว

ทั้งนี้ ทน.นครราชสีมาลงพื้นที่สอบสวนโรค ร่วมกับทีมสอบสวนโรคสาธารณสุขนครราชสีมา

ร้านนวดสปาโคราชโอดลูกค้าน้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศร้านนวด สปา ในจ.นครราชสีมา มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมามีคำสั่งคลายล็อกดาวน์ให้สามารถเปิดบริการได้ แต่ให้นวดได้เฉพาะฝ่าเท้า ระยะเวลานวดต่อคนไม่เกิน 2 ชั่วโมง และเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 20.00 น. โดยที่ร้านสปาศิราศรม สาขา 1 ถนนสืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เริ่มมีลูกค้าเดินทางเข้ามาใช้บริการเป็นระยะ โดยทางร้านคัดกรองลูกค้า ด้วยการวัดอุณหภูมิ ลงชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ ผู้ใช้บริการทุกราย และทำความสะอาดภายในร้าน ตามมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด

นางภารดี พจนาภิมล อายุ 42 ปี เจ้าของร้านสปาศิราศรม เปิดเผยว่า ร้านสปาศิราศรมเปิดให้บริการในจ.นครราชสีมา ทั้งหมด 12 สาขา หลังจากมีคำสั่งคลายล็อกดาวน์ให้เปิดบริการได้เมื่อวันที่ 1 ก.ย.64 เป็นวันแรก มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการนวดเท้า แต่ไม่มากนัก เฉลี่ยสาขาละ 3-4 คนเท่านั้น ทำให้รายได้ไม่น่าจะเพียงพอต่อค่าใช้จ่าย เนื่องจากแต่ละร้านต้องมีค่าจ้างพนักงานนวด ค่าน้ำ ค่าไฟ และ ค่าอุปกรณ์ต่างๆ จิปาถะ

คาดว่าสาเหตุมาจากทางจังหวัดยังไม่ได้ปลดล็อกประกาศห้ามออกนอกบ้านหลังเวลา 21.00 น. ด้วย ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เคยมาใช้บริการช่วงค่ำหลังเลิกงาน ไม่มาใช้บริการ เพราะช่วงปกติร้านจะเปิดถึงเวลา 24.00 น. รวมทั้งการให้เปิดบริการได้เฉพาะนวดฝ่าเท้า ก็มีผลทำให้ลูกค้าที่ต้องการนวดตัวไม่ได้มาใช้บริการเช่นกัน หากเป็นไปได้ อยากให้จังหวัดคลายล็อกดาวน์ให้เปิดร้านได้ถึงเวลา 24.00 น. และเปิดให้นวดตัว บ่า ไหล่ ได้ด้วย จะทำให้ร้านนวดสปา นวดแผนไทย มีลูกค้าเพิ่มขึ้น เป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และพนักงาน ในช่วงภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ได้เป็นอย่างมาก

ภูเก็ตติดเชื้อพุ่ง 206 ราย

ส่วนที่จ.ภูเก็ต พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 206 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 4,535 ราย โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย ติดเชื้อสะสม 85 ราย โครงการรับกลับบ้าน 42 ราย ต่างจังหวัด 10 ราย ต่างประเทศ 23 ราย ทางรักษาหายกลับบ้าน 2,052 ราย กักตัวในศูนย์ดูแล โควิค-19 รายใหม่ 29 ราย

สระแก้วพบคลัสเตอร์ร้านซักรีด

นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 102 ราย แยกเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 93 ราย จากต่างประเทศ 9 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุก การเฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใน LQ ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและต่างประเทศ ทำให้จ.สระแก้ว มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 10,054 ราย รักษาหาย 149 ราย รักษาหายสะสม 8,563 ราย กำลังรักษา 1,474 ราย เสียชีวิตสะสม 50 ราย

ขณะนี้พบคลัสเตอร์ใหม่ ได้แก่ร้านซักรีดทางแยกวังปลาตอง อ.อรัญประเทศ พบเจ้าของร้านและคนในบ้านติดเชื้อ 5 ราย เนื่องจากเป็นร้านที่มีลูกค้าใช้บริการจำนวนมากและมีบริการรับส่ง-ผ้าถึงบ้าน ขณะนี้อ.อรัญประเทศ พบผู้ติดเชื้อกระจายในพื้นที่ ทำให้คนในร้านอาจไปสัมผัสเชื้อมาแล้วแพร่สู่คนในครอบครัว

ส่วนที่อ.วัฒนานคร มีกรณีลูกหนี้นำเงินมาจ่ายเจ้าหนี้ ต่อมาลูกหนี้ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเจ้าหนี้มีอาการป่วย จึงไปตรวจพบเชื้อเช่นกัน ทำให้ติดเชื้อร่วมบ้านรวม 5 ราย จากการสอบสวนโรคพบ 2 สาเหตุที่อาจเชื่อมโยงการติดเชื้อมาได้แก่พี่เลี้ยงชาวกัมพูชาที่จ้างมาเลี้ยงลูกมีประวัติเดินทางไปตลาดโรงเกลือและนำเชื้อมาติดคนในครอบครัว อีกกรณีหนึ่งพบลูกชายทำงานธนาคาร 2 แห่ง ตั้งอยู่ในห้าง เทสโก้โลตัส สาขาอรัญประเทศ พบผู้ติดเชื้อ ต่อเนื่องแล้วมาติดคนในครอบครัว

อยุธยาเสียชีวิตเพิ่ม 2

นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 326 ราย รักษาตัวหาย 483 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 70 ปี และชายไทย อายุ 76 ปี ทั้งสองรายมีโรคประจำตัว เสียชีวิตสะสม 203 ราย ส่วนการฉีดวัคซีน ฉีดแล้ว 407,851 โดส คิดเป็น 59.47 เปอร์เซ็นต์ เราตั้งเป้าหมาย 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่ 554,781 คน

แม่ฮ่องสอนวุ่นพบคลัสเตอร์ครู

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า มีผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดทั้งหมด 82 ราย พบเชื้อ 12 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัดทั้งหมด โดยทั้ง 12 รายเป็นข้าราชการครูในพื้นที่อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาใน อ.แม่สะเรียง รวมถึงผู้ใกล้ชิด ก่อนพบติดเชื้อ กลุ่มครูศึกษานิเทศก์เดินทางไปนิเทศงานที่โรงเรียนบ้านสบเมยและบ้านบุญเลอ ระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค. 2564 โดยผู้ที่ติดเชื้อคิดว่าตนเองติดเชื้อในจุดที่เดินทางไปนิเทศงาน ขณะที่คนทั่วไปอ่านไทม์ไลน์แล้ว มีข้อสงสัยว่าทำไมพบเชื้อรวดเร็ว และเชื่อว่าติดที่ร.ร.บ้านสบเมย และบ้านบุญเลอ ทั้งที่การติดเชื้อส่วนใหญ่จะใช้ระยะฟักตัวของไวรัสนานมากกว่านั้นแล้วทำไมไม่ยอมแจ้งไทม์ไลน์ก่อนหน้านั้น ทำให้เกิดกระแสดรามาในสื่อโซเชี่ยล เนื่องจากคนที่อ่านไทม์ไลน์ต้องการทราบว่าก่อนหน้านั้นไปที่ไหนบ้าง จะได้ตระหนักและหาทางป้องกันตัวเอง ไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง

ด้านนายเอกชัย คำลือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สำหรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคกรณีพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนครั้งนี้ สั่งห้ามไม่ให้เดินทางเข้า-ออกในหมู่บ้านสบเมย, บ้านพะละอึ, บ้านพะคุยแฮ, บ้านโกหง่อคี, บ้านปู่ทา, บ้านกลอเซโล, บ้านบุญเลอร์หลวง-น้อย และบ้านโตแฮ ซึ่งมีเด็กนักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีครูป่วย พร้อมส่งทีมควบคุมโรคออกตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในหมู่บ้านดังกล่าว ทำลายเชื้อในโรงเรียนและในหมู่บ้านสบเมย

นายทศพล ดิษฐ์ศิริ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวถึงการควบคุมโรคคลัสเตอร์หมู่บ้านห้วยมะโอ หมู่ 2 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมยว่า ทีมสอบสวนควบคุมโรคตรวจคัดกรองเชิงรุก ด้วยชุดตรวจ แรพิด แอนติเจนซ้ำอีกครั้ง เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 155 ราย ผลเป็นบวก 12 ราย ทั้งหมดไม่มีอาการป่วย ให้รักษาโดยการแยกกักตัวที่บ้าน รวมผู้ป่วยที่พบในคลัสเตอร์นี้ 30 ราย

จนท.ไปรษณีย์แม่ฮ่องสอนก็ติดเชื้อ

ด้านร.พ.ศรีสังวาล แม่ฮ่องสอน รายงานว่า ตรวจพบเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แม่ฮ่องสอนติด โควิด โดยผู้ป่วยให้ประวัติว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เดินทางโดยรถไปรษณีย์ไปนิเทศงานที่ไปรษณีย์อำเภอแม่สะเรียง โดยไป-กลับ

ซึ่งเคสเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ดังกล่าวไม่ได้นำไปรวมกับเคสคลัสเตอร์ที่อ.สบเมย ล่าสุดจากการดำเนินการสอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในพื้นที่ มีผู้สัมผัสทั้งหมด 62 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 ราย ได้แก่ ภรรยา เพื่อนร่วมงานที่ทำงานห้องเดียวกัน 4 ราย และบุคลากรสาธารณสุข 2 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 55 ราย ได้แก่ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ 32 ราย บุคลากรสาธารณสุข 12 ราย ผู้ป่วยที่มารับบริการที่ห้องตรวจตา 5 ราย ผู้ป่วยที่ตึกผู้ป่วยศัลยกรรมชาย 6 ราย และดำเนินการค้นหาผู้สัมผัสเชิงรุก ณ ที่ทำการไปรษณีย์อำเภอเมือง 36 ราย โดยวิธี ATK ขณะนี้รอผลตรวจ ฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 ได้ร้อยละ 70%

ชลบุรีติดอีก 881-ดับเพิ่ม 4

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 881 ราย ยอดติดเชื้อสะสม 64,187 ราย กำลังรักษาตัวอยู่อีก 15,098 ราย หายป่วยสะสม 48,695 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย เสียชีวิตสะสม 394 ราย ยังพบผู้ติดเชื้อกระจาย 10 อำเภอ มากสุดที่อ.ศรีราชา 284 ราย

การติดเชื้อวันนี้ส่วนมากมาจากสถานประกอบการ 61 แห่ง ตลาด 5 แห่ง แคมป์คนงานก่อสร้าง 10 แห่ง และชุมชน 4 แห่ง

จากการตรวจเชิงรุกของสาธารณสุขอำเภอ และสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี พบในบริษัท ไทยเพรสซิเด้นท์ฟูดส์ อ.ศรีราชา 19 ราย สะสม 89 ราย คลัสเตอร์ แคมป์ก่อสร้าง บริษัท The indeed condo อ.พานทอง 13 ราย สะสม 22 ราย คลัสเตอร์ บริษัท บริดจสโตน เทคนิค ไฟเบอร์ จำกัด อ.บางละมุง 8 ราย สะสม 8 ราย คลัสเตอร์ บริษัท ออโตลิฟ (ประเทศไทย) จำกัด อ.พานทอง 7 ราย สะสม 90 ราย คลัสเตอร์ บริษัท ฮันซอล อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด อ.บ้านบึง 7 ราย สะสม 17 ราย คลัสเตอร์ กลุ่มคนงานต่างด้าวฟาร์มไก่ อ.หนองใหญ่ 6 ราย สะสม 6 ราย

‘มหาชัย’ปรับแผนวอล์กอินฉีด

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 733 ราย จำนวนนี้เป็นคนที่อยู่ในจ.สมุทรสาคร 303 ราย คนนอกจังหวัด 62 ราย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มบับเบิล แอนด์ ซีลของโรงงานอุตสาหกรรมอีก 318 ราย ติดเชื้อสะสม 93,671 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 77,328 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 15,740 ราย และผู้เสียชีวิตรายวัน 19 ราย เสียชีวิตสะสม 603 ราย

ส่วนกรณีโรงพยาบาลสมุทรสาครทดลองเปิดจุดฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินไปแล้ว 3 จุด เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้างสรรพสินค้าแลนด์มาร์ค, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย และโรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย ปรากฏว่ามีผู้ที่มาเข้ารับการฉีควัคซีนเกิดความสับสนเกี่ยวกับเรื่องหลักฐานที่ต้องนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดฉีด และการสแกน แอพพลิเคชั่นไลน์หมอพร้อม ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนอย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและครอบคลุม จึงหารือร่วมกันอีกครั้ง ล่าสุดสรุปแล้วว่าผู้ที่วอล์กอินเข้ามาฉีดวัคซีนใน 3 จุดฉีดดังกล่าว ถ้าเป็นคนไทยที่พักอาศัยหรือทำงานอยู่ในสมุทรสาครสามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใดเดียวแสดงเป็นหลักฐานเข้ารับการฉีดได้เลย โดยไม่ต้องจองล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่นใดๆ ไม่ว่าจะเป็นในระบบหมอพร้อมหรือช่องทางอื่นๆ ที่ทางจังหวัดได้จัดทำขึ้นมา

สระบุรีติดเชื้อเพิ่ม 368

สำนักงานสาธารณสุขสระบุรี รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 368 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 9 ราย ที่อ.เมือง 2 ราย อ. แก่งคอย 3 ราย อ.เฉลิมพระเกียรติ 2 ราย อ.วังม่วง 1 ราย อ.หนองแซง 1 ราย เสียชีวิตสะสม 204 ราย

เชียงใหม่ติดเชื้อ 22 ราย

ส่วนจ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 22 ราย โดย 20 รายเป็นการติดเชื้อในจังหวัด และอีก 2 ราย มาจากต่างจังหวัด รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท 441 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เสียชีวิตสะสม 37 ราย ส่วนการวัคซีน ขณะนี้ฉีดแล้ว 422,278 คน คิดเป็นร้อยละ 33.48 ของกลุ่มเป้าหมาย

ที่ศูนย์บัญชาการบริหารการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.เชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ประชุมให้ทุกหน่วยฉีดใน จ.เชียงใหม่ทั้ง 25 อำเภอเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กลุ่ม 608 ประกอบด้วยกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ขึ้นไป ให้ได้มากกว่าร้อยละ 70 ก่อนที่จะฉีดให้กลุ่มอื่น

ตรวจยะลา – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุกในกลุ่มผู้ค้าขาย และประชาชนที่ตลาดสดเมืองใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา หากพบติดเชื้อจะแยกตัวไปรักษา พร้อมฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยง เมื่อวันที่ 2 ก.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน