น้ำเหนือมาแล้ว
เพิ่มสูงต่อเนื่อง
โกนเซินยังแรง
กรมชลฯ เตือนระดับน้ำแม่น้ำ เจ้าพระยาสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังฝนตกหนักในภาคเหนือ-ภาคกลาง แนะติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เปิดสายด่วน1460 ช่วยเหลือตลอด 24 ช.ม. ‘ประยุทธ์’ ลงพื้นที่ตรวจสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ พร้อมรับฟังปัญหาน้ำท่วมสมุทรปราการ ลั่นไม่โทษใคร อ้างขนาดประเทศร่ำรวยยังเจอเหมือนกัน ด้านโกนเซินยังแผลงฤทธิ์แม้อ่อนกำลัง เป็นดีเปรสชัน ฝนถล่มแทบทุกภาคทั่วไทย เชียงใหม่น้ำป่ากลืนร่าง 2 ป้า เจอศพแล้ว 1 ส่วนเพชรบูรณ์หนุ่มใหญ่จมน้ำดับ อุตุฯ เตือนอีสาน-ตะวันออกหนักสุด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
ชี้อีสาน-ตะวันออกเสี่ยงน้ำท่วม
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 ก.ย. นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุดีเปรสชัน “โกนเซิน” ฉบับที่ 13 ที่บริเวณชายฝั่งของเมืองกวางงาย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 15.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตร(ก.ม.) ต่อชั่วโมง(ช.ม.) และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยอย่างช้าๆ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในระยะต่อไป
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจ.บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัด ระวัง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง จนถึงวันที่ 14 ก.ย. จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ช.ม.
ตู่ลั่น“น้ำท่วม”ไม่โทษใคร
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ชั้น 3 อาคารโรงพยาบาล รามาธิบดีจักรนฤบดินทร์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ และปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.สมุทรปราการ หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน และมีน้ำทะเลหนุนทำให้ระบายน้ำช้าและท่วมขัง 4 อำเภอ คือ อ.เมือง บางพลี บางบ่อ และบางเสาธง
โดยหน่วยงานราชการในจังหวัดพร้อมกองทัพ รายงานว่า ได้เร่งดำเนินการะบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขังแล้ว ซึ่งปีนี้จ.สมุทรปราการดำเนินการตามแผนงานโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จำนวน 7 โครงการ งบประมาณ 83.5846 ล้านบาท โดยกรมชลประทาน และองค์การจัดการน้ำเสีย มีพื้นที่รับประโยชน์ 2,500 ไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 8,716 ครัวเรือน
ต่อมาเวลา 15.20 น. ที่สะพานยกระดับ สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร อ.เมืองสมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาตรวจความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง โดยจุดแรกเยี่ยมชมและรับฟังรายงานการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จ.สมุทรปราการ และ การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชลประทาน จากนั้น เยี่ยมชมจุดสูบน้ำบนสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ถือเป็น การตรวจระบบแรงดันน้ำครั้งแรกตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา เพราะก่อนหน้านั้นมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมอยู่หลายพื้นที่ ซึ่งคงไม่ได้ไปโทษใครอะไร เพราะผ่านมาแล้ว
สำหรับสะพานส่งน้ำ สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ เป็นที่ระบายน้ำหลัก วันนี้ได้คุยกับสนทช. กรมชลประทาน ถือว่าสถานีระบายน้ำแห่งนี้ยังสามารถแก้ปัญหาเรื่องป้องกันและแก้ไข น้ำท่วมได้มากพอสมควรในระดับหนึ่ง ส่วนข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องบริหารพื้นที่ไป
แนะต้องแก้ปัญหาระยะยาว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะต้องดูว่ามีเครื่องกีดขวางในการระบายน้ำอย่างไร และต้องวางแผนกับสนทช.ในการบริหารจัดการเรื่องน้ำ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มีระบบหมุนน้ำดีเพียงพอเท่าไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย เพราะหลายประเทศเกิดปัญหาน้ำท่วม ประเทศที่มีรายได้สูงก็มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม จึงกำชับไปว่าขอให้ระวังและมองอนาคตไว้ด้วย ถ้าวันหน้ามากกว่านี้ด้วยสถานการณ์ภูมิอากาศโลกมากขึ้น อย่างเรื่องโลกร้อน น้ำแข็งละลาย ปริมาณน้ำในทะเลสูงขึ้น จึงต้องมองปัญหาในระยะยาว และ ร่วมมือกันไว้กับหลายประเทศ หลายภูมิภาค
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกฯ เน้นย้ำให้ส่วนราชการในท้องที่รวมถึงท้องถิ่น และส.ส. ทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดน้ำท่วมให้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เตรียมแผนบริหารจัดการโดยเฉพาะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ในบริเวณจุดเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ต้องแก้ไขปัญหาระบายน้ำทันที หากสถานการณ์รุนแรง ต้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนรับรู้สถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ และเตรียมตัวอพยพ จะต้องจัดหาสถานที่พักชั่วคราวให้ประชาชนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะ ช่วงนี้ที่ประสบปัญหาการระบาดโควิด-19 ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญที่สุด
เผยป้อมสั่งช่วยชาวบ้าน 58 จว.
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำชับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนการทำงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)
โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ร่วมเฝ้าระวังและเตรียมแผนรองรับพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยกว่า 1,500 ตำบล ใน 58 จังหวัดตามการประเมินผลกระทบจากสถานการณ์น้ำและฤดูฝนที่มีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ที่มีโอกาสพัฒนาเป็นลานีญา คาดการณ์ว่า ก.ย.-ต.ค. จะมีพายุ 2-3 ลูก เคลื่อนเข้าไทย ส่งผลให้ฝนตกหนักต่อเนื่อง อาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
พร้อมกันนี้ ขอให้คงความต่อเนื่องในการเร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่หลายจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจากพายุโกนเซิน ซึ่งเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.พิจิตรที่กำลังเกิดขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรย้ำให้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ให้ความสำคัญบริหารจัดการน้ำตามแผนในพื้นที่สำคัญ ทั้งแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง เขื่อนระบายน้ำและแม่น้ำสายหลัก โดยเฉพาะการบริหารน้ำหลากที่ไม่สามารถควบคุม ผ่านระบบชลประทานและการกักเก็บในพื้นที่การเกษตร เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก พร้อมทั้งให้ใช้โอกาสนี้เร่งเก็บกักน้ำต้นทุนที่ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกร้อยละ 37 สำหรับฤดูแล้ง ที่จะมาถึง
กรมชลฯชี้น้ำเจ้าพระยาสูง
พล.ท.คงชีพกล่าวว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้น กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพ ยังคงจัดกำลังพล ยานพาหนะ รวมทั้งเรือผลักดันน้ำและเครื่องมือช่างเข้าไปสนับสนุนการทำงานของจังหวัดที่ประสบอุทกภัยในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และ อ.เมือง จ.ตาก เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะปกติ และอยู่ระหว่างเร่งเข้าไปสนับสนุน 5 อำเภอใน จ.พิจิตร ที่ฝนตกหนักสะสม น้ำป่าไหลหลากเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่
จากสถานการณ์ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศไทย ทำให้หลายพื้นที่เกิดปัญหาน้ำท่วมจนมีประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ทวิตเตอร์กรมชลประทาน โพสต์ข้อความแจ้งเตือนประชาชน ความว่า ฝนที่ตกหนักทางตอนบนและภาคกลาง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้ประชาชนติดตาม สถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ตลอด 24 ช.ม.
สั่งตำรวจเร่งช่วยเหลือชาวบ้าน
พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษก ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ ดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งข้าราชการตำรวจ หน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์เช่นเดียวกัน รวมถึงสถานที่ราชการต่างๆ เช่น สถานีตำรวจ บ้านพักข้าราชการตำรวจ ที่ได้รับความเสียหาย
จึงได้กำชับพร้อมสั่งการไปยังทุกหน่วยในสังกัด เร่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยด่วน ทั้งในเรื่องการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของประชาชน การอำนวยความสะดวก ด้านจราจร การจัดเตรียมสถานที่รองรับ หากมี การอพยพ และการเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค สำหรับแจกจ่ายบรรเทาความเดือดในเบื้องต้น
น้ำป่าพัด 2 ป้าจมหาย-เจอศพ 1
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.ชียงใหม่ว่า เวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 11 ก.ย. เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน น้ำป่าไหลหลากลงสู่น้ำแม่ลาย ขณะนั้นนางสถิตย์พร ศรีคร้าม หรือป้าตุ๊ก อายุ 55 ปี มีบ้านพักส่วนตัว ที่ริมแม่น้ำลาย หมู่ 7 บ้านปางจำปี ต.ห้วยแก้ว เดินลงไปเก็บเก้าอี้ตัวโปรดที่ใช้นั่งกินกาแฟแต่ปรากฏว่าเกิดเดินพลาดพลัดตกลงไปในลำน้ำที่ไหลเชี่ยว
ส่วนสามีซึ่งเป็นชาวต่างชาติพยายามเข้าช่วยเหลือแต่ไม่สามารถช่วยได้ ร่างของป้าตุ๊กถูกกระแสน้ำพัดหายไป สามีได้ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและทาง กู้ชีพ-กู้ภัยฯ ทราบเหตุได้ระดมกำลังหลายหน่วยงานนำเรือยางออกค้นหาตลอดทั้งคืน ขณะรายงานข่าวนี้ยังไม่พบตัวป้าตุ๊ก
ด้านฝ่ายป้องกันสาธารณภัยจ.เชียงใหม่รายงานว่า เกิดฝนตกหนักบริเวณบ้านปางจำปี หมู่ที่ 7 ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ระดับน้ำในลำห้วยแม่ลายสูงขึ้นและไหลเชี่ยว และในเวลาประมาณ 19.30 น.เกิดอุบัติเหตุน้ำพัดนางศศิธร คล้ายคำ อายุ 55 ปี ราษฎรบ้านปางจำปี หายไปกับกระแสน้ำ โดยว่าที่ร.ต.ณัฐพงค์ ฐิตวิกรานต์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.เชียงใหม่ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันฯ ร่วมบูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เวลา 09.30 น. วันที่ 12 ก.ย. มีการค้นหาร่างนางสถิตย์พร ศรีคร้าม ผู้สูญหายจากเหตุน้ำป่าพัดร่าง บริเวณลำห้วยแม่ลายน้อย หน้าบ้านเลขที่ 88 หมู่ที่ 7 บ้านปางจำปี รวมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 200 นาย เวลาประมาณ 10.15 น. พบร่างผู้สูญหายบริเวณลำน้ำแม่ลาย บ้านโป่งกุ่มสามัคคี หมู่ที่ 6 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด โดยร่างติดอยู่กับเศษวัชพืชริมน้ำ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงประสานสภ.ดอยสะเก็ดตรวจสอบตามกระบวนการต่อไป
หนุ่มใหญ่ฝ่าน้ำท่วมดับอนาถ
ที่จ.เพชรบูรณ์ เวลาประมาณ 10.20 น. ขณะที่ พ.ต.ท.ประภาส บุญสิงห์ พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสภ.หล่มสัก อ.หล่มสัก ได้รับแจ้งมีคนจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณ สามแยกบ้านใหม่ ม.9 ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่น้ำท่วมสูงประมาณ 50 ซ.ม. และน้ำไหลค่อนข้างเชี่ยว พบศพนายวุฒิชัย สายยอด อายุ 47 ปี อาศัยอยู่หมู่ที่ 9 ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นสีดำ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 6-8 ช.ม.
นายวุฒิชัย ใสยอด เป็นนักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหล่มสัก ให้การว่าได้ไปช่วยงานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหล่มสักเพื่อบรรจุถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.หล่มสัก จนกระทั่งช่วงค่ำกลับบ้านโดยมีเพื่อนขี่รถมาส่ง แต่เนื่องจากระดับน้ำสูง ผู้ตายจึงเดินเข้าไปเพื่อที่จะกลับบ้าน เมื่อมาถึง ที่เกิดเหตุซึ่งช่วงเมื่อคืนนี้ระดับน้ำจุดดังกล่าวค่อนข้างสูงและแรง ประกอบกับผู้ตายทำงานมาทั้งวันอาจเหนื่อยจึงเป็นลมล้มลงและจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้สอบสวนและชันสูตรเพื่อหาสาเหตุที่ แท้จริงต่อไป
น้ำป่าเขาพระเอ่อท่วมปากน้ำโพ
ที่จ.นครสวรรค์ อิทธิพลพายุฝนส่งผลให้น้ำจากเขาพระ-เขาสูง อ.หนองบัว ไหลหลากล้นคลองสาธารณะเข้าท่วมขังในพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาลต.หนองบัวหลายสิบหลังคาเรือน โดยเฉพาะที่ชุมชนบ้านเนินน้ำเย็น หมู่ที่ 2 ต.หนองบัว อ.หนองบัว มีน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ต่ำโดยระดับน้ำสูง 20-40 ซ.ม. ชาวบ้านกว่า 10 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบแต่ไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้น ล่าสุดยังคงมีน้ำไหลเอ่อล้นคลองสาธารณะเข้าพื้นที่ชุมชนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อีกเป็นจำนวนมาก
นางสุนันท์ มหาวีระตระกูล ชาวบ้านในหมู่ที่ 2 บ้านเนินน้ำเย็น ต.หนองบัว อ.หนองบัว บอกว่าได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง ทุกครั้งที่เกิดฝนตกหนัก เนื่องจากน้ำระบายออกนอกชุมชนและบริเวณบ้านไม่ทัน สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและชาวบ้านใกล้เคียงเป็นอย่างมาก จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเข้ามาดูแล และจัดการเรื่องการระบายน้ำออกในพื้นที่ให้ด้วย
พิจิตรก็อ่วมน้ำท่วม 5 อำเภอ
ที่จ.พิจิตร เกิดน้ำท่วม 5 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.วังทรายพูน อ.วชิรบารมี อ.สามง่าม อ.ทับคล้อ และ อ.สากเหล็ก รวม 4 ตำบล 13 หมู่บ้าน 2 ชุมชน ทำให้สถานที่ราชการ โรงเรียน บ้านเรือนที่พักอาศัย และพื้นที่เกษตร ได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเฉพาะอ.ดงเจริญ หมู่ที่ 1 ต.ห้วยพุก พนังกั้นน้ำบริเวณคลองบอระเพ็ด ตำบลห้วยพุก พังเสียหาย ทำให้น้ำทะลักท่วม บ้านราษฎรหมู่ที่ 1 ต.ห้วยพุก โรงเรียนห้วยพุก วัดห้วยพุก (อบต.ห้วยพุกนำรถแบ๊กโฮและเครื่องมือดำเนินการซ่อมพนังกั้นน้ำเรียบร้อย
ในส่วน อ.ทับคล้อ น้ำป่าที่ไหลมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลผ่านบริเวณคลอง วังแดงทะลักเอ่อล้นเข้าท่วมในเขตเทศบาล ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จังหวัดพิจิตร โดยมีสถานที่สำคัญได้รับผลกระทบหลายแห่ง ได้แก่ วัดมงคลทับคล้อ น้ำท่วมศาสนสถานและบริเวณลานวัด พระสงฆ์และสามเณรช่วยกัน สูบน้ำ พร้อมทั้งได้จัดเรียงแนวกระสอบทรายป้องกัน
น้ำท่วมขังเนินมะปราง-วังทอง
ด้านจ.พิษณุโลก มวลน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ยังท่วมในพื้นที่ ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง และบางส่วนของต.บ้านกลาง อ.วังทอง โดยเฉพาะที่หมู่ 13 บ้านวังน้ำบ่อ ต.ไทรย้อย น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์หลากท่วมบ้านวังน้ำบ่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตั้งแต่เช้าวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ระดับน้ำลดเพียง 10 ซ.ม.เท่านั้น เบื้องต้นนายทวีศักดิ์ ล่อกา ปลัดอำเภอเนินมะปราง ร่วมกับชาวบ้านทำอาหารออกแจกจ่ายให้กับชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบเป็นการเบื้องต้น คาดว่าภายใน 1-2 วันหากไม่มีฝนตกลงมาอีกน้ำคงลดระดับจนเป็นปกติ
ส่วนที่หมู่ 17 บ้านตานม ต.บ้านกลาง อ.วังทอง ฝนที่ตกลงมาหลายวันติดต่อกันทำให้น้ำจากเทือกเขาไหลเข้าท่วมไร่นา ไร่อ้อย ไร่มันฯ และนาข้าวหลายร้อยไร่ ชาวบ้านต่างพลิกวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการนำยอ สวิง เบ็ด มาจับปลาที่ไหลมาตามน้ำ แต่ถือว่าดีเพราะที่นี่ประสบกับความแห้งแล้งมาเกือบ 2 ปี ขณะที่น้ำได้หลากลงมาเร็ว ไปเร็ว จะเหลือติดคลองไว้ใช้ และเข้าบึงน้ำดิบจำนวนหนึ่ง
น้ำปิงล้นตลิ่งท่วมบ้าน-ไร่นา
ที่จ.กำแพงเพชร เกิดกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง ระดับน้ำสูงในแม่น้ำปิง น้ำมีสีขุ่น บางที่ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ไร่นาทางการเกษตรจำนวนมาก เช่นเดียวกับพื้นที่ ม.1 (บ้านถนนงาม) ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง น้ำไหลเข้าท่วมชุมชน บ้านเรือน วัด โรงเรียน ระดับน้ำสูงถึงเข่า ทำให้การสัญจรของประชาชน ทั้งหมู่บ้านและรถเข้าออกหมู่บ้านยากลำบาก ชาวบ้านได้ช่วยกันนำกระสอบมากรอกทรายเพื่อกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้านสูงกว่าเดิม
นายวัฒนพล ทรัพย์แสนทวี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 (บ้านถนนงาม) อยู่บ้านเลขที่ 58/1 ม.1 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง กล่าวว่า น้ำจากทางเหนือไหลมาอย่างต่อเนื่อง จึงระดมทุกภาคส่วนนำรถแบ๊กโฮมาช่วยขุดตามเหมืองคลองต่างๆ ให้ระดับน้ำระบายดีขึ้น ซึ่งวันนี้ได้ระดมคนในหมู่บ้านมาช่วยกันกรอกกระสอบทรายนำไปกั้นหน้าบ้านของตนเองเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้า ขณะที่ปริมาณน้ำยังมีระดับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง อาจจะใช้เวลา 2-3 วันคงจะดีขึ้น
ชาวบ้านอพยพขึ้นที่สูงหนีน้ำ
ที่ จ.นครราชสีมา จากสถานการณ์ฝนตก ลงมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ 4 หมู่บ้านของต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด ซึ่งเป็นพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับผลกระทบมากกว่า 100 หลังคาเรือน ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานสำนักงานชลประทานนครราชสีมาที่ 8 เปิดประตูระบายน้ำ เร่งการระบายน้ำเข้าอ่างลำเชียงไกรตอนล่าง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้นแล้ว
ซึ่งอิทธิพลจากฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้มีมวลน้ำจำนวนมากจากอ.เทพารักษ์ และอ.ด่านขุนทด ไหลมารวมกันที่ด้านบนเหนืออ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างที่อ.โนนไทย ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน้ำเกินความจุอ่าง 105% จนต้องเบี่ยงทางมวลน้ำบางส่วนไม่ให้ไหลลงอ่างเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวอ่างเก็บน้ำ ทำให้น้ำไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำ คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์น่าจะคลี่คลายในเร็ววันนี้
ในส่วนบ้านหนองบัวละคร ปริมาณน้ำท่วม สูง 50-80 ซ.ม. ประชาชนต้องอพยพขึ้นมาอยู่ในที่สูงเหนือน้ำ พร้อมจัดกำลังเวรยามตรวจตราความปลอดภัย เบื้องต้นองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวละครตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินจากอุทกภัย เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างทันท่วงที
แจ้งระวังน้ำท่วมฉับพลัน
ที่จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 กองบัญชาการกองทัพไทย จ.อุบลราชธานี จัดเตรียมชุดปฏิบัติการเคลื่อนเร็ว ทั้งรถยกสูง รถผลิตน้ำประปาสนาม เรือยนต์ และอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิต พร้อมออกช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ตามลำน้ำซอม ลำโดมใหญ่ ที่เป็นสาขาของแม่น้ำมูล หากเกิดอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโกนเซิน
ว่าที่ร.ต.มนต์สง่า ลีลาศสง่างาม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.อุบลราชธานี กล่าวถึงการรับมือพายุโกนเซินว่า มีการแจ้งเตือนไปยังพื้นที่ตามริมน้ำและพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากของจังหวัดให้ระวังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและเตรียมกำลังไว้ช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจนกว่าสถานการณ์พายุลูกนี้ จะพัดผ่านไป
ขอนแก่นปักธงเหลืองเตือนจม
นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 (ผอ.ชป.6) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่บริเวณเขื่อนทดน้ำลำน้ำเชิญ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และบริเวณสะพานเชิญใต้ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่หลังจากที่มีพายุฝนพัดตกลงมาในเขต จ.ขอนแก่น อย่างหนักอย่างต่อเนื่องว่า ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น วัดปริมาณฝนสะสมได้ประมาณ 100 ม.ม.
ทำให้มีน้ำหลากจากเทือกเขาในพื้นที่ อ.ภูผาม่าน ไหลลงลำน้ำเชิญสะสมในปริมาณมาก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพรม-เชิญ จึงปรับการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำน้ำเชิญ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกวันละ 1 ล้านลบ.ม. เพื่อควบคุมไม่ให้ปริมาณน้ำที่จะไหลมาเพิ่มจากอ.ภูกระดึง จ.เลย และจาก อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เอ่อล้น เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ช.ม. เตรียมเครื่องจักรเครื่องมือให้พร้อมสำหรับให้การช่วยเหลือประชาชน ติดตั้งธงสัญลักษณ์ แจ้งเตือนสถานการณ์เป็นสีเหลืองหรือเฝ้าระวัง พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เร่งพร่องน้ำในอ่างฯ และลำน้ำที่มีปริมาณมาก
ขอนแก่นชาวบ้านจับปลาขาย
ที่จ.ขอนแก่น คลองน้ำซึ่งไหลผ่านทุ่งนาและป่าอ้อย ทางเข้าหมู่บ้านป่ากล้วย ม.6 ต.โนนคอม อ.ภูผาม่าน ชาวบ้านในพื้นที่ต่างนำ สะดุ้งและอุปกรณ์จับปลามาดักปลากันจำนวนมากหลังปริมาณน้ำได้เพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุที่ทำให้พื้นที่ของจ.ขอนแก่น มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
นางลำดวน คำตื้อ กล่าวว่า ช่วงนี้ฝนตกในพื้นที่แทบทุกวัน น้ำเอ่อล้นในหลายพื้นที่ ส่วนจุดที่ยืนยกสะดุ้งนั้นเป็นลำห้วยธรรมชาติ เมื่อถึงฤดูฝนจะมีน้ำที่ไหลมาจากห้วยโศก ห้วยม่วง ผ่านมายังหมู่บ้าน ซึ่งจะมีปลานานาชนิดไหลมากับน้ำด้วย เป็นปลาตัวขนาดเล็กและปลาซิว หากใครได้เยอะจะนำไปขายในกิโลกรัม (ก.ก.) ละ 50 บาท
ใช้เรือพายเข้าออกหมู่บ้าน
ที่จ.ปราจีนบุรี สถานการณ์น้ำท่วมชุมชนตลาดเก่า เทศบาล ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ที่น้ำท่วมก่อนหน้านี้ ระดับน้ำยังคงท่วมสูงอยู่ที่ระดับ 70-150 ซ.ม. มีแนวโน้มสูงขึ้นๆ และยังขยายวงกว้างท่วมหมู่บ้านปากน้ำ ม.12 ต.กบินทร์ ตั้งแต่ค่ำวันที่ 11 ก.ย. น้ำในแม่น้ำล้นจากตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ซึ่งเป็นบ้านยกพื้น 2 ชั้น ระดับน้ำสูง 40 ซ.ม. ท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านยาว 1 ก.ม. ระดับน้ำสูง 25 ซ.ม. ชาวบ้านต้องใช้เรือพายเข้า-ออก และเดินเข้าออกระหว่างหมู่บ้าน คาดว่าน้ำ จะสูงขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านขนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ออกมาไว้บนถนน บางคนนำตาข่ายออกมาดักปลาซึ่งได้ปลาสร้อยที่ตื่นน้ำใหม่ 5 ก.ก.
น.ส.ดาวรุ่ง สิทธิพุ่ม ชาวบ้านริมน้ำกล่าวว่า เป็นประจำทุกปีน้ำท่วมชุมชนตลาดเก่าบริเวณนี้ต้องถูกน้ำท่วมไปด้วยเพราะอยู่ติดกับริมแม่น้ำปราจีนบุรี ทุกคนชินแล้วกับการถูกน้ำท่วมในแต่ละปีจะท่วมมากท่วมน้อย ทุกคนทำใจและชินแล้ว น้ำจะถึงกลางเดือนนี้ก็จะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ