นครศรีฯสั่งรพ.
เบรกใช้’เล่อปู๋’

ศูนย์วัคซีนกลางบางซื่อเปิดลงทะเบียนวัคซีนเข็ม 3 และกลุ่มอายุ 18 ปีอัพ ให้ลงทะเบียนผ่าน 4 ค่ายมือถือ สสจ.นครศรีธรรมราชห้ามร.พ.ในจังหวัด ใช้ชุดตรวจเอทีเค ‘เล่อปู๋’ เป็นเครื่องมือแพทย์ เหตุให้ผลคลาดเคลื่อนในกลุ่มผู้เสี่ยงสูง ศบค.เผยป่วยใหม่ 9,869 เสียชีวิต 92 ราย ภาพรวมติดเชื้อลดลง

กินเจ – ประชาชนออกมาจับจ่ายเลือกซื้ออาหารเจ ที่ตลาดย่านเยาวราช กทม. เนื่องในเทศกาลกินเจ โดยปีนี้บรรยากาศไม่ค่อยคึกคัก เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิดระบาด และภาวะเศรษฐกิจซบเซา เมื่อวันที่ 5 ต.ค.

ป่วยใหม่ 9,869-ชี้ติดเชื้อลดลง

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 9,869 ราย สะสม 1,657,231 ราย หายป่วย 11,152 ราย สะสม 1,531,229 ราย เสียชีวิต 92 ราย สะสม 17,203 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 108,373 ราย อยู่ใน รพ. 36,649 ราย ร.พ.สนามและอื่นๆ 71,724 ราย มีอาการหนัก 3,013 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 701 ราย

ภาพรวมผู้ติดเชื้อวันนี้มาจาก 67 จังหวัดรวมกันสูงสุด 5,224 ราย กทม.และปริมณฑล 2,465 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 1,890 ราย เรือนจำ 273 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศมี 17 ราย ได้แก่ สวีเดน 6 ราย รัสเซีย 5 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย กาตาร์ 1 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย และมาเลเซีย 2 ราย (ช่องทางธรรมชาติ)

ภาพรวมการติดเชื้อทั่วประเทศลดลง ผู้ติดเชื้อ วันนี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 7 วัน รวมถึง 4 จังหวัดชายแดนใต้ด้วยที่วันนี้ตัวเลขลดลง และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีเพียงเรือนจำ สมุทรสาคร และนครปฐม ที่การติดเชื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ย 7 วัน โดย 10 อันดับที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 1,224 ราย สะสม 372,859 ราย 2.สมุทรปราการ 577 ราย สะสม 112,588 ราย 3.ชลบุรี 555 ราย สะสม 90,481 ราย

4.ปัตตานี 530 ราย สะสม 23,483 ราย 5.สงขลา 468 ราย สะสม 32,093 ราย 6.นราธิวาส 461 ราย สะสม 26,066 ราย 7.นครศรีธรรมราช 457 ราย สะสม 17,463 ราย 8.ยะลา 431 ราย สะสม 26,019 ราย 9.สมุทรสาคร 357 ราย สะสม 89,652 ราย และ 10.ระยอง 318 ราย สะสม 33,415 ราย

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 4 ต.ค. ฉีดเพิ่มขึ้น 770,947 โดส สะสม 55,921,443 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 33,243,525 ราย คิดเป็น 46.1% ของประชากร เข็มสอง 21,162,251 ราย คิดเป็น 29.4% ของประชากร และเข็มสาม 1,515,667 ราย คิดเป็น 2.1% ของประชากร

‘บางซื่อ’เปิดลงทะเบียนวัคซีน

ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนรอบใหม่ 2 กลุ่ม ในวันพฤหัสฯที่ 7 ต.ค. ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ผ่าน 4 ค่ายมือถือ เอไอเอส, ทรู, ดีแทค และเอ็นที ในกลุ่มผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ไม่เคยได้รับเข็ม 1 และเข็มกระตุ้นสำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนซิโนแวค เข็ม 1-2 ภายใน ก.ค.64

โดยศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ และค่ายมือถือทั้ง 4 เตรียมเปิดให้ประชาชน 2 กลุ่ม ลงทะเบียนดังนี้ กลุ่มผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน สามารถลงทะเบียนสูตรไขว้ คือรับวัคซีนเข็ม 1 ซิโนแวค และเข็ม 2 แอสตร้า เซนเนก้า, กลุ่มที่เคยรับวัคซีนซิโนแวค เข็ม 1 และ 2 ครบก่อน 31 ก.ค. 64 จากทุกศูนย์ฉีดจะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้น

โดยทั้ง 2 กลุ่มสามารถเริ่มลงทะเบียน ผ่านช่องทางการลงทะเบียนของ 4 ค่ายมือถือ ภายใต้การสนับสนุนของ กสทช. ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 9-31 ต.ค. 2564 ช่วงเวลา 09.00-17.00 น.

โดยช่องทางการจองของแต่ละค่ายประกอบด้วย เอไอเอส : www.ais.th/vaccine, ทรู : ระบบ USSD กด *707#โทร.ออก เฉพาะเลขหมายทรูมูฟ เอช เท่านั้น เว็บไซต์ vaccine.trueid.net และ คิวอาร์โค้ด ที่สามารถสแกนได้จากสื่อในทรูวิชั่นส์และสื่อประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ ของทรู

ทั้งนี้ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2700-9022 หรือ www.truecorp.co.th, ดีแทค : https://app.dtac.co.th/vaccine/index.html และ เอ็นที : https://covid19vaccine.ntplc.co.th ทั้งนี้ ไม่รับการวอล์กอิน หรือฉีดให้ผู้ติดตาม โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/CentralVaccinationCenter/

อย.ยังไม่อนุมัติวัคซีน 3 ขวบ

วันเดียวกัน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ขณะนี้ อย.ได้รับหนังสือรับรองการใช้จากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนซิโนฟาร์มที่นำเข้าโดยบริษัท ไบโอเจนเนเทค แต่ยังต้องรอข้อมูล ผลการใช้วัคซีนกับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปในเฟส 3 อยู่ และวันนี้ได้นัดกับบริษัท ไบโอเจเนเทคให้เข้ามาหารือร่วมกันแล้ว ขณะเดียวกันองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่ได้รับอนุญาต นำเข้าวัคซีนซิโนแวค ยังไม่ได้ส่งเอกสารเข้ามา เช่นกัน แต่ได้พูดคุยกับทางสธ.เป็นประจำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม อย.ก็ได้ส่งหนังสือไปแจ้งทั้ง 2 ผู้ได้รับอนุญาตให้นำเอกสารมาส่งแล้วถึง 2 ครั้ง

“การประเมินวัคซีนต้องดูความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ต้องดูข้อมูลว่าฉีดเด็กแล้วมีความปลอดภัย มีภูมิในการป้องกันโรคได้เพียงพอ โดยเฉพาะเชื้อเดลตาด้วย ซึ่งไม่เหมือน ในผู้ใหญ่ เพราะ 1.เด็กตัวเล็กกว่า 2.ประสิทธิภาพ ในเด็กจะกันได้หรือไม่ เทียบกับประโยชน์ ที่ได้รับ เพราะโอกาสเด็กเป็นโรคจะน้อยกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว อย่างในผู้ใหญ่ฉีดแล้วลดอัตราเสียชีวิตได้ชัดเจน ก็ต้องดูว่าในเด็กชัดเจนหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้เขาต้องมาแสดง” นพ.สุรโชคกล่าว

นพ.สุรโชค กล่าวว่า การฉีดในเด็กอายุน้อย ต่างประเทศเองก็ยังอยู่ในการทดลอง ฉีดอยู่ไม่กี่ประเทศ ยังไม่ได้ฉีดทั่วไปในประเทศอื่น ส่วนกรณีที่วัคซีนยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนให้ใช้กับผู้อายุ 3 ปีขึ้นไปในประเทศผู้ผลิต ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาขึ้นทะเบียนในไทย เพียงแต่โดยปกติแล้วการขึ้นทะเบียนก็คงไม่ขึ้น ในต่างประเทศก่อน แต่ข้อมูลทั้งหมดก็เป็นชุดเดียวกันที่นำไปยื่นอนุญาตที่อื่นๆ เช่น องค์การอนามัยโลก อย.สหรัฐ หรือในไทยด้วย

ฉีดนักเรียน – นักเรียนโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มแรก ที่โรงเรียน เมื่อวันที่ 5 ต.ค. เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดการเรียนการสอนตามปกติในเดือนพ.ย.นี้

ตู่ดูฉีดน.ร.วันนี้

วันเดียวกัน นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า วันที่ 6 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. จะลงพื้นที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนนักเรียน ซึ่งมีนักเรียนเข้ารับการฉีดวัคซีนกว่า 2 พันคน แบ่งเป็นช่วงเช้าและบ่าย

นายสุภัทรกล่าวต่อว่า สำหรับยอดคิกออฟฉีดวัคซีนวันแรก 4 ต.ค.ใน 13 เขตสุขภาพ 15 จังหวัด อยู่ที่ประมาณกว่า 1 หมื่นราย สาเหตุที่ตัวเลขมีไม่มากเพราะเป็นวันเริ่มต้น แต่จะปูพรมเร่งฉีดทั่วประเทศในวันที่ 5-7 ต.ค. ยกเว้นจังหวัดนนทบุรีที่จะฉีดในวันที่ 15-17 ต.ค.และไม่ให้ฉีดในโรงเรียน แต่ให้ฉีดที่เมืองทองธานี

ซึ่งทางจังหวัดจะบริหารจัดการโดยคาดว่าฉีดได้วันละ 3 หมื่นราย โดยขณะนี้มีผู้ปกครองยินยอมให้ลูกฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 3,757,218 ล้านคน จากตัวเลขนักเรียนนักศึกษาทั้งหมด 5,023,686 คน และจะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

โดยทางสธ.จัดส่งวัคซีนให้จังหวัด ต่างๆ แล้ว กว่า 1.8 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 50 ของจำนวนนักเรียนที่ผู้ปกครองยินยอมให้ฉีดเข็มแรก ส่วนที่เหลือจะทยอยส่งมาหลังจากได้รับวัคซีน ซึ่งอย่างช้าวันที่ 13 ต.ค. วัคซีนล็อตที่สองจะต้องส่งไปยังจังหวัดต่างๆ

“ทั่วประเทศเริ่มฉีดใน 13 เขตสุขภาพ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม แต่จะปูพรม 100% วันที่ 5-7 ต.ค. ส่วนแต่ละจังหวัดจะฉีดวันละเท่าไรนั้นไม่ได้รายงานตัวเลขมาที่ศธ. ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละจังหวัดบริหารจัดการ ทั้งนี้ จากการฉีดวัคซีนวันแรกมีนักเรียนเกิดอาการแน่นหน้าอกหลังการฉีดวัคซีน 3 รายที่จังหวัดชัยนาท จากการตรวจสอบพบว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ 1 ราย ส่วนที่เหลือไม่พบอาการผิดปกติและได้กลับไปที่พัก ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังไม่ได้รับรายงาน” นายสุภัทรกล่าว

ยันไม่บังคับเปิดเทอม 1 พ.ย.

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เท่าที่ดูภาพรวมการฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานเด็กได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการฉีดทั้งครูและนักเรียนเพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 วันที่ 1 พ.ย. แต่ต้องดูปัจจัยความเสี่ยงด้านการแพร่ระบาดประกอบด้วย หากพื้นที่ใดมีความพร้อมตามหลักเกณฑ์ของสธ.ก็สามารถจะเปิดเรียนได้

นายอัมพรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความ ว่าทุกโรงเรียนจะต้องเปิดเทอมพร้อมกันวันที่ 1 พ.ย. และหากโรงเรียนประกาศเปิดเทอม ก็ไม่จำเป็นว่าต้องมาเรียนพร้อมกันทั้งหมด อาจใช้วิธีสลับวันมาเรียน เพื่อลดความเครียดจากการเรียนออนไลน์ ทั้งหมดอยู่ที่ความพร้อม ผลการประเมินความเสี่ยง และการพิจารณาของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จังหวัด ส่วนการจัดการเรียนการสอนระหว่างเด็กที่ได้รับวัคซีนแล้วกับเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนนั้นขึ้นอยู่กับโรงเรียนบริหารจัดการ เช่น แยกห้องเรียน แต่ทั้งหมดต้องยึดมาตรการของสธ.เป็นหลักเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปด้วยความปลอดภัยสูงสุด

ไอซ์แลนด์ให้ไฟเซอร์แสนโดส

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าครม.เห็นชอบให้กรมควบคุมโรคเป็นผู้ลงนามจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 4 แสนโดส ระหว่างฮังการี ไทย และแอสตร้าเซนเนก้า

ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด ให้ครบ 126.2 ล้านโดส มั่นใจว่าปีนี้จะฉีดวัคซีน ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากรกลุ่มเป้าหมายภายในเดือนธ.ค. 2564 ครม.ยังเห็นชอบรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากไอซ์แลนด์และเยอรมนี

โดยให้รมว.สาธารณสุขเป็นผู้มีอำนาจลงนาม ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ ประสงค์จะบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 100,000 โดสให้กับไทย ส่วนเยอรมนีจะสนับสนุนบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 346,100 โดส คาดว่าไอซ์แลนด์และเยอรมนีจะส่งมอบวัคซีนได้ภายในเดือนต.ค.นี้

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับ การสั่งการ และประสานกับผู้ว่าฯ และผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่ากรมควบคุมโรคในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้แจ้งแนวทางการดำเนินงานเตรียมความพร้อม ให้บริการวัคซีนไฟเซอร์สำหรับนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ได้แจ้งไปยังผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแนวทางของกรมควบคุมโรค

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติกรอบวงเงิน 1,320 ล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนดเงินกู้ฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด สำหรับการช่วยเหลือเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 660,318 คน สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 18,540 แห่ง

ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยจ่ายเป็นเงินเยียวยาลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของ ผู้ปกครอง ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายของโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรม ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเป็น 1,389,722 คน จากเดิมที่ไม่ครอบคลุมเด็กเล็ก และกรอบวงเงินโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 2,779 ล้านบาท

การขยายกลุ่มเป้าหมายครั้งนี้ จะช่วยบรรเทาภาระและผลกระทบทางด้านค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้ ขณะเดียวกันยังเห็นชอบหลักการโครงการจ้างแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และสายงานบริการทางการแพทย์อื่น เพื่อรองรับสถานการณ์โรคโควิด ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรอบวงเงินรวม 4,335 ล้านบาท

ฉีดนักเรียน – เด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปีในจ.ยะลา เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดเรียนออนไซต์เดือนพ.ย.นี้ ที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 5 ต.ค.

ยะลาเริ่มฉีดนักเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ยะลา ว่า แผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้นักเรียนอายุระหว่าง 12-18 ปี ในพื้นที่จ.ยะลา มีนักเรียนที่ประสงค์ฉีดและผ่านการยินยอมของผู้ปกครอง แล้ว 33,195 คน คิดเป็นร้อยละ 62 ของนักเรียนทั้งหมด โดยที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดของร.พ.ยะลา อาคารศรีนิบง ศูนย์เยาวชนเทศบาล นครยะลา นายนพปฎล มุณีรัตน์ ผอ.ร.ร.คณะราษฎรบำรุงยะลา ได้นำนักเรียนกว่า 2 พันคน เข้าฉีดวัคซีนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนในเดือนพ.ย.นี้

นายภิรมย์ นิลทยา ผวจ.ยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลาได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์จากรัฐบาลเพื่อนำมาฉีดให้นักเรียน 20,000 โดส และจะทยอยส่งมาเพิ่มอีก ส่วนที่ตกค้างยังไม่ได้ฉีดนั้นก็คงจะให้มาฉีดกันทั้งหมด ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าจำนวนวัคซีน 20,000 โดส จะสามารถฉีดครบภายใน 7 วันคงจะเรียบร้อย และเท่าที่สังเกตดูแล้วเด็กๆ มีกำลังใจดีพร้อมฉีดวัคซีนเพื่อจะได้เจอเพื่อนๆ และเปิดเรียนต่อไป

ภูเก็ตได้เข็ม 3 แล้วร่วม 2 แสน

ศบค.สงขลาเปิดเผยว่า จ.สงขลาพบผู้ป่วยรายใหม่ 468 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยติดจากกลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่มากเป็นอันดับ 1 รองลงมาจากกลุ่มรอการสอบสวนโรค กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน ร้านค้าและบริษัท และกลุ่มติดเชื้อในชุมชน ยอดสะสม 33,217 คน เสียชีวิตสะสม 158 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 6 พันกว่าคน

ส่วนนักเรียนในพื้นที่จ.สงขลา ขอรับวัคซีนด้วยความสมัครใจทุกสังกัด 92,235 คน จากเด็กนักเรียนทั้งหมด 114,895 คน ที่ยังเหลือนักเรียนไม่ขอรับวัคซีนประมาณ 22,660 คน อาจจะมาจากผู้ปกครองบางคนยังไม่กล้าตัดสินใจหรือผู้ปกครองต้องการ ดูตัวอย่างก่อน ต้องมีการทำความเข้าใจอีกระยะหนึ่งและก่อนโรงเรียนเปิดเทอมที่ 2 เดือนพ.ย.64 จะมีนักเรียนขอรับวัคซีนเพิ่ม

สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ภูเก็ต รายงานว่าจำนวนผู้ลงทะเบียนและได้รับการฉีดวัคซีนในจังหวัดภูเก็ต ข้อมูลจนถึงวันที่ 4 ต.ค. 2564 ได้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้วเกิน 1 ใน 3 ของเป้าหมายที่วางไว้ 547,584 คน โดยผู้ที่ฉีดเข็มแรก 432,765 คน คิดเป็น 79.03% ผู้ที่ฉีดครบสองเข็ม 409,505 คน คิดเป็น 74.78% และ ผู้ที่ฉีดครบสามเข็ม 190,744 คน คิดเป็น 34.83% จากข้อมูลจนถึง 4 ต.ค. ภูเก็ตมีผู้ลงทะเบียนและรอรับการฉีดวัคซีน 491,990 คน ดังนั้น ขอให้พี่น้องชาวภูเก็ตแจ้งลงทะเบียนรับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่ WWW.ภูเก็ตต้องชนะ.COM

สสจ.นครศรีห้ามรพ.ใช้‘เล่อปู๋’

ที่จ.นครศรีธรรมราช นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครศรีธรรมราช แถลงว่า สั่งห้ามทุกโรงพยาบาล ในเขตจ.นครศรีธรรมราช ใช้ชุด Antigen test kit (ATK) ยี่ห้อเล่อปู๋ (Lepu) หลังจากพบว่า การตรวจมาตรฐานระบุว่า มีการติดเชื้อ แต่ชุด ตรวจชนิดนี้ระบุไม่ติดเชื้อ มีการพบลักษณะนี้ สูงมากถือว่าไม่ปลอดภัยหากนำชุดตรวจนี้ มาใช้ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในทางการแพทย์ ไม่แนะนำ แต่หากเป็นกลุ่มเสี่ยงจะมีชุดตรวจมาตรฐานที่ทำให้ปลอดภัย

“เอาเป็นว่า ATK ชนิดนี้ไม่ได้เป็น ATK ที่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาว่าเอาไปใช้ผิดวัตถุ ประสงค์ อันนี้ใช้กับผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ไม่ได้ใช้กับกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะต้องตรวจด้วยเครื่องมือคุณภาพสูง และไม่ใช่โรงพยาบาล บุคลากรสาธารณสุขจะอุตริ นำเครื่องมือคุณภาพต่ำมาเทียบกับเครื่องมือคุณภาพที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้ จะเรียกว่าเป็นการ มั่วซั่วหรือการมักง่าย เพราะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสม หากประชาชนทั่วไปใช้ยังถือว่าโอเค” นพ.จรัสพงษ์กล่าว

นพ.จรัสพงษ์กล่าวด้วยว่า มีการนำ ATK ตรวจชาวบ้านที่ทุ่งใหญ่ 1 พันราย พบระบุติดเชื้อ 187 ราย แต่เมื่อนำเอาเข้าระบบ PCR. ยืนยันพบผลบวกแค่ 92 รายเท่านั้น ประมาณครึ่งต่อครึ่ง ดังนั้นหากนำมาเป็นเครื่องมือแพทย์นั้นไม่ได้ ผิดวัตถุประสงค์ ผิดไอเท็ม ผิดจรรยาบรรณ เมื่อพูดถึงคำว่าผิดจรรยาบรรณ นั้นถือว่าเจ็บปวดมาก ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการไปแล้วและมีการยืนยันด้วยวิทยาศาสตร์

ศบค.นครศรีธรรมราช แจ้งว่า วันนี้พบติดเชื้อ เพิ่มอีก 259 ราย ยอดสะสมแล้ว 18,642 ราย รักษาหายแล้ว 13,141 ราย เสียชีวิต 103 ราย

สภ.น้ำเกลี้ยงติดโควิด 51 นาย

ที่จ.ศรีสะเกษ นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นพ.สสจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า พบคลัสเตอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.น้ำเกลี้ยง มากกว่า 50 นายว่า เบื้องต้นคือมีเจ้าหน้าที่ตำรวจป่วยมาที่ร.พ. และตรวจพบติดเชื้อ จึงระดมตรวจกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงคือเพื่อนร่วมงาน พบติดเชื้อรวม 51 นาย จากตำรวจในสภ.ทั้งหมด 60 นาย

เบื้องต้นเปิดร.พ.สนามดูแลแล้ว เพราะส่วนใหญ่ร่างกาย แข็งแรง ติดเชื้อไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ส่วนอีก 9 นายต้องกักตัวดูอาการและตรวจซ้ำ ส่วนไทม์ไลน์อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ว่ามีกิจกรรมอะไรที่สุ่มเสี่ยงติดโควิดหรือไม่

ชาวระยองจี้ตรวจโรงงาน

ศบค.เชียงใหม่ แจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 83 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 76 ราย และอีก 7 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด ยังคงรักษาตัว 904 ราย แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 685 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 180 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 35 ราย และอาการ ค่อนข้างหนัก (สีแดง) 4 ราย

ส่วนยอดผู้เสียชีวิต สะสมยังคงอยู่ที่ 40 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมระลอกเดือนเม.ย. 2564 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วทั้งหมด 9,018 ราย และรักษาหายแล้ว 8,034 ราย ส่วนการบริหารจัดการวัคซีน มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 705,887 คน คิดเป็นร้อยละ 55.97 ของเป้าหมาย

ที่จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง กล่าวว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 318 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด 33,664 คน เสียชีวิต 11 คน รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 188 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวระยองต่างต้องการให้ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้มีการปกปิดยอดผู้ติดเชื้อ จากผู้ประกอบการ ที่กลัวจะถูกสั่งปิดโรงงาน จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตไม่ลดลง

กาญจน์พบคลัสเตอร์แคมป์ช้าง

ศบค.กาญจนบุรี รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 112 ราย ทั้งหมดตรวจในรูปแบบ RT-PCR แยกเป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 96 ราย นอกพื้นที่จังหวัด 10 ราย สถานประกอบการ 6 ราย รวมผู้ป่วยสะส 17,978 ราย หายป่วย 127 ราย หายป่วยสะสม 15,108 ราย รักษาอยู่โรงพยาบาล 2,707 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชาว อ.ไทรโยค รวมเสียชีวิตสะสม 163 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้นพบคลัสเตอร์กลุ่มใหม่ คือคลัสเตอร์กลุ่มแคมป์ช้าง ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มี 16 ราย

ที่จ.สระแก้ว นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สระแก้ว เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยใหม่ยืนยัน 111 ราย แยกเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 30 ราย ติดเชื้อจากจังหวัดอื่น 6 ราย ผู้ต้องขัง 75 ราย รักษาหายแล้ว 160 ราย กำลังรักษา 1,813 ราย อาการหนัก 15 ราย ผู้ป่วย ทั้งหมดมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุก เฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทำให้จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยสะสม 14,299 ราย รักษาหายสะสม 12,934 ราย เสียชีวิตสะสม 70 ราย

นพ.ประภาสกล่าวต่อว่า วันนี้พบการติดเชื้อ ในผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดสระแก้วเพิ่มอีก 75 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ป่วยสะสมทั้งหมด 1,243 รายหรือคิดเป็นร้อยละ 99.11 ของผู้ต้องขังทั้งหมด กำลังรักษา 624 ราย ส่วนใหญ่พบว่าไม่มีอาการ 526 รายและมีอาการปานกลาง 98 ราย ในขณะที่รักษาหายแล้ว 619 ราย

ทั้งนี้พบการติดเชื้อภายในจังหวัดใน 4 คลัสเตอร์เก่า 1 คลัสเตอร์ใหม่ที่ตลาดจุดผ่อนปรนบ้านเขาดิน อ.คลองหาด ที่พบแม่ค้าขายเครื่องแกงและลูก อยู่อ.วังน้ำเย็น ติดเชื้อ รวมจุดนี้ป่วยสะสม 8 ราย ซึ่งวันนี้เครือข่ายบริการสุขภาพอำเภอคลองหาด ออกหน่วยตรวจ ATK เชิงรุกในกลุ่ม ผู้ค้าคนไทยเป้าหมาย 300 ราย เพื่อค้นหา กลุ่มเสี่ยงและวางมาตรการควบคุมโรคต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน