‘ป้อม’ตั้ง-2กุนซือ
สมศักดิ์-พีระพันธุ์

‘บิ๊กตู่’เดินสายนครศรีฯ ติดตามแผนแก้น้ำท่วม ด้าน ‘บิ๊กป้อม’ ลุยสระแก้ว 8 ต.ค. เผยตั้ง‘สมศักดิ์-พีระพันธุ์’ นั่งที่ปรึกษาหัวหน้า พปชร. บอกสบายใจ คืน 4 กรมกระทรวงเกษตรฯ ให้ ‘จุรินทร์’ ยันเคลียร์กันเข้าใจแล้ว ลูกพรรคพปชร.เสียงอ่อย เคารพการตัดสินใจของนายกฯ ปชป.ปลื้มได้คืนความเป็นธรรม ช่วยล้างภาพนายกฯ เผด็จการ ‘วินท์ สุธีรชัย’ ลาออก ส.ส.ก้าวไกล ไปตั้งพรรคใหม่ ‘รวมไทย ยูไนเต็ด’ กกต.ลั่นพร้อมจัดเลือกตั้ง อบต. 28 พ.ย.

ลุยช่วย -นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นำส.ส.และ ว่าที่ผู้สมัครของพรรค ลงพื้นที่ช่วยเหลือมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่อำเภอผักไห่ บางบาล และท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 6 ต.ค.

‘บิ๊กตู่’บุกนครศรีฯ-พปชร.แห่รับ

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 7 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจการบริหารจัดการน้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และตรวจแผนการป้องกันอุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช

นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีรัฐมนตรีหลายคนร่วมคณะมากับ นายกฯ ทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่ส.ส.ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ จะมาต้อนรับกันอย่างพร้อมเพรียง

เป้าหมายหลักการลงพื้นที่ของนายกฯ เพื่อมาติดตามแผนบริหารจัดการน้ำ ถือเป็นการมากระชับมาตรการป้องกันแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่มักจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย.และ ธ.ค. ซึ่งปัญหาของ จ.นครศรีธรรมราช จะต้องเจอ น้ำท่วมที่เร็ว แรง อันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยส่วนหนึ่งจะได้มารับทราบความคืบหน้าโครงการผันน้ำ เลี่ยงเมือง ที่นายกฯ ได้อนุมัติไว้แล้ว คาด จะแล้วเสร็จในปี 2566

“การมาของนายกฯ ไม่ได้มาเพราะเกิด น้ำท่วมแล้ว เหมือนภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่มาตรวจสอบ ให้กำลังใจ กระตุ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับมือสถานการณ์ ซึ่งจากการลงพื้นที่ ชาวบ้านต่างดีใจที่นายกฯ ให้ความสำคัญ” นายรงค์กล่าว








Advertisement

ฟุ้งกระแสนิยมภาคใต้ดีอยู่แล้ว

ด้านนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีของคนภาคใต้ ที่นายกฯ ลงมาติดตามปัญหาด้วยตัวเอง ส่วนการไปต้อนรับนายกฯ ของ ส.ส.ภาคใต้ ยืนยันไม่มีนัยทางการเมือง หรือแสดงพลังอะไร เพราะเมื่อนายกฯ ในฐานะผู้บริหารประเทศลงพื้นที่ ในช่วงที่สภาปิดสมัยประชุม ส.ส.ก็ต้องไปต้อนรับ ถือเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่า การมาของนายกฯ จะช่วยกระตุ้นกระแสความนิยมของพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่อย่างไร นายสายัณห์กล่าวว่า วันนี้กระแสของพรรคใน จ.นครศรีธรรม ราช ไม่ตกต่ำอะไรเลย และยิ่งนายกฯ มาประชาชนดีใจอยู่แล้ว รวมถึงให้กำลังใจเพิ่มขึ้นมากกว่า ดังนั้นไม่ต้องช่วยเรื่องกระแส เพราะวันนี้ก็ดีอยู่แล้ว

‘วิรัช’จัดทีมรับ‘บิ๊กป้อม’ที่สระแก้ว

นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นายกฯ ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราชวันที่ 7 ต.ค. วันที่ 8 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.ลพบุรีในวันที่ 7 ต.ค. ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องของการวัดพลัง เพราะพรรคประกาศว่า จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และย้ำกับส.ส.ไปแล้วว่า หากใคร ไม่ติดภารกิจหรืออยู่พื้นที่ใกล้เคียง ขอให้ ไปร่วมลงพื้นที่ด้วย และหลังจากนี้จะต้องลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“ยืนยันว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการยุบสภา หรือจะมีการเลือกตั้ง เพราะรัฐบาลยังต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาโควิด-19 ปัญหาน้ำท่วมและปัญหาอื่นๆ ตรงนี้ก่อน จากนั้นค่อยมาว่ากันทีหลัง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ต้องการให้ส.ส. ทำงานช่วยประชาชนได้อย่างเต็มที่” นายไผ่กล่าว

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การลงพื้นที่จ.สระแก้ว ในวันที่ 8 ต.ค.ของพล.อ.ประวิตร นั้น ตนและส.ส.นครราชสีมา และส.ส.บางส่วน ประมาณ 20 คน จะลงพื้นที่ไปด้วย เพื่อรับฟังปัญหาด้วย แต่บางคนยังติดภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม

‘ชินวรณ์’มาให้กำลังใจ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ตนจะไปต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ ที่ลงพื้นที่จ.นครศรี ธรรมราช ในวันที่ 7 ต.ค. เพื่อให้กำลังใจ รวมถึงจะสะท้อนปัญหาภาพรวมของในพื้นที่ให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับทราบ เช่น ปัญหา น้ำท่วม ปัญหาปากท้อง ตนมองว่าการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องที่ดีและเพื่อเตรียมการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ รวมถึงให้กำลังใจข้าราชการ

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะสื่อถึงนัยทางการเมืองที่ต้องต่อสู้กันหรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า ในเชิงการเมืองพรรคไม่กังวลว่าจะถูกหั่นแบ่งคะแนน เพราะประชาธิปัตย์เป็นสถาบันหลักที่อยู่เคียงข้างประชาชน ดังนั้น แทนที่จะมองว่าเป็นเกมหรือประลองกำลังหรือหาเสียง ตนมองว่าเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประชาชน จึงขอสนับสนุน

‘ป้อม’ตั้งกุนซือ‘สมศักดิ์-พีระพันธุ์’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกระแสข่าวพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เตรียมแต่งตั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และนาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง มาเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. พล.อ. ประวิตร ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง นายสมศักดิ์ และนายพีระพันธุ์ เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคแล้ว หลังจากนายพีระพันธุ์ ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 4 ต.ค.

นายพีระพันธุ์เปิดเผยว่า ตนมีความตั้งใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐมานานแล้ว แต่ติดภารกิจหลายอย่าง และได้รับมอบหมายเป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 สภาผู้แทนราษฎร เป็นคณะผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และติดสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ระบาดหนัก เรื่องนี้ได้คุยกับพล.อ. ประวิตร นานแล้ว ท่านอยากให้มาช่วยงานพรรค เวลานี้ตนถือว่าโอเคแล้ว เหลือเพียงเคลียร์งานอีกนิดหน่อย

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เป็นเรื่องที่คนอื่นมองมากกว่า แต่คงไปห้ามอะไรไม่ได้ อยู่ที่คนมอง แต่ของจริงไม่มีอะไรขัดแย้งกัน เราไปห้ามข่าวลือไม่ได้ เป็นเรื่องที่เราต้องดูเอง ทุกคนทำงานเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมือง มีปัญหากันไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีปัญหาหรอก

เผยดันเอง‘บิ๊กตู่’ชิงนายกฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ จะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ว่า เรื่องของเขา ต้องไปถามสุชาติ มาถามอะไรตน ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนย้ายออกไปได้มาลาหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะมาลาเรื่องอะไร ต่อข้อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ด้วยหรือ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มี จะตั้งพรรคหรือเปล่า”

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการตั้งพรรคสำรองไว้แล้ว พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ที่ไหนล่ะ ใครบ้าง” ต่อข้อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ ต้องไปถามกันเอง ผู้สื่อข่าวถามกรณีแกนนำและส.ส.พรรคพลัง ประชารัฐ จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกสมัย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า นายกฯ ก็ตอบแล้วว่าคุยกันแล้ว

เมื่อถามว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ชื่อเดียว หรือเสนอชื่อคนอื่นด้วย พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า “เรื่องของผม” ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วนใหญ่พรรคต่างๆ จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็หัวหน้าพรรคเดินไม่ได้ และจะไปน้อยใจอะไร ก็ผมเป็นคนเสนอเอง” เมื่อถามถึงกรณีมีการวิจารณ์เรื่องการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ตนไม่กังวล

สบายใจคืน 4 กรมให้‘อู๊ดด้า’

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามยกเลิกคำสั่งมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร ดูแล 4 กรมในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรฯ เคยดูแลอยู่ แล้วให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้กำกับดูแลเหมือนเดิมนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นายกฯ บอกแล้วเมื่อวันที่ 5 ต.ค. และพวกตนได้คุยกันก่อนแล้วก็สบายใจ ไม่มีอะไร ในพรรคพลังประชารัฐก็ไม่มีอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าแม้จะคืน 4 กรมให้นาย จุรินทร์ แต่คณะกรรมการต่างๆ ที่มีอยู่ยังคงเดิมใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใช่ ก็จะดำเนินงานต่อไป โดยตนเป็นประธานเรื่องที่ดิน เรื่องน้ำ และเป็นประธานคณะกรรมการหลายชุดน่าจะดูแลได้ ต่อข้อถามว่าบางคณะที่มีชื่อ ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรมช.แรงงาน ยังเป็นกรรมการอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อันไหนที่เป็นโดยตำแหน่งไม่สามารถเป็นได้ แต่หากเป็นชื่อบุคคลสามารถเป็นได้

ต่อข้อถามว่าคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและพืชสมุนไพรอื่น ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ยังเป็นกรรมการอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็เดินต่อ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะเปลี่ยนคน ถ้าเขายังทำได้ก็ทำได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ทำ ไม่ได้ ต่อข้อถามว่าในฐานะที่ดูแลทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ และร.อ.ธรรมนัส ความสัมพันธ์ทั้งคู่ยังดีอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีอะไรเข้าใจกันดี

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการมองว่า พล.อ.ประยุทธ์และร.อ.ธรรมนัส ยังขัดแย้งกันอยู่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า “ก็มองกันเองล่ะสิ ไม่ใช่ๆ” เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะไม่เกิดความแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐอีกใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่เกิดหรอก เสียง 100% อยู่แล้ว”

ส.ส.พปชร.เสียงอ่อย-ยอมรับได้

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องการคืน 4 กรมในกระทรวงเกษตรฯ ไม่วิพากษ์ ไม่วิจารณ์ ไม่วิเคราะห์ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประวิตร แสดงความกังวล ต่อการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวหรือไม่ เพราะถูกมองว่าเป็นการคืน 4 กรมให้พรรคประชาธิปัตย์ดูแลกระทรวงเกษตรฯ อย่างเบ็ดเสร็จ นายวิรัชกล่าวว่า ไม่วิเคราะห์ ไม่วิพากษ์วิจารณ์ ไม่รู้อะไรเลย

ด้านนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรี ธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เราต้องเคารพการตัดสินใจของนายกฯ การรับผิดชอบงานอย่าไปมองว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ เมื่อเป็นรัฐบาลผสม ก็ต้องรับผิดชอบในการขับเคลื่อนงานร่วมกัน ถ้าประชาชนอยู่ดีกินดี ลดความลำบากยากจนก็เป็นผลงานร่วมกันอยู่แล้ว

“เป็นธรรมชาติของพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะแสดงความเห็นต่างกันบ้าง แต่อย่าไปคิดมากว่ายก 4 กรม แล้วพรรคประชาธิปัตย์ จะคุมเบ็ดเสร็จ หรือได้คะแนนนิยม เพราะภารกิจของรัฐบาล คือช่วยให้ประชาชนพ้นทุกข์ นอกจากบริหารงานตามอำนาจรัฐ ต้องช่วยชาวบ้านด้วย ดังนั้นอย่าไปทิฐิว่าใครจะคุมอันนั้นอันนี้” นายรงค์กล่าว

เคารพการตัดสินใจของนายกฯ

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรี ธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของนายกฯ และไม่ได้มองว่าเป็นการยกอำนาจเบ็ดเสร็จให้พรรคประชาธิปัตย์ หรือกรณีดังกล่าวจะทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลขึ้นอีก เพราะไม่ว่า 4 กรมจะไปอยู่ในกำกับของใคร ก็ต้องผ่านนายกฯ

แต่ยอมรับว่าการไม่มีรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐไปดูแลก็มีผลในทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะจะทำให้บทบาทหน้าที่ของพรรคในการดูแล ปกป้องผลประโยชน์และแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรทำได้ไม่เต็มที่ ขณะที่เขาสามารถเรียกความนิยมได้หากดำเนินการแก้ปัญหาต่างๆ ได้เป็นที่ยอมรับของประชาชน

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เมื่อนายกฯ ตัดสินใจแล้วต้องยอมรับ เพราะอำนาจบริหารงาน หรือการจะปรับครม.ถือเป็นดุลพินิจและเป็นอำนาจโดยชอบของนายกฯ ถึงแม้กระทรวงเกษตรฯ จะไม่มีรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐก็ไม่เป็นปัญหา เพราะสุดท้ายต้องผ่านนายกฯ และครม.พิจารณาก่อนจะขับเคลื่อนงาน

ส่วนที่มีการแสดงความเห็นตอบโต้กันก่อนหน้านั้นก็เป็นสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็นเรื่องต่างๆ ได้ โดยต้องคำนึงถึงมารยาททางการเมืองและอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของแต่ละคนด้วย

ปชป.ชี้ล้างครหาเผด็จการ

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การคืน 4 กรมให้นายจุรินทร์ ดูแลเหมือนเดิม ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ลบล้างข้อกล่าวหาที่ถูกปลุกปั่นมาตลอดว่า เป็นเผด็จการได้พอสมควร เนื่องจากพอพรรคประชาธิปัตย์ทักท้วงว่า อาจจะไม่มีความเหมาะสมและเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้พิจารณาถึงเหตุผลต่างๆ แล้วตัดสินใจอย่างกล้าหาญโดยการยกเลิกคำสั่ง เพื่อคืนอำนาจให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ จัดสรรหรือแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการ อีก 2 ท่าน ตามความเหมาะสมต่อไป

“ผมและพรรคประชาธิปัตย์ ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ดำเนินการตาม คำท้วงติงของพรรค ถือเป็นความสวยงามที่เกิดขึ้นในการทำงานของรัฐบาลด้วย การที่นายกฯ เซ็นคำสั่งยกเลิกในครั้งนี้ ถือเป็นการคืนความเป็นธรรมให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายและคำนึงถึงความเหมาะสม รวมทั้งเป็นการลบล้างคำครหาที่ว่าเป็นเผด็จการไม่ฟังใครได้พอสมควร” นายชัยชนะกล่าว

‘อ๋อย’เย้ย‘3 ป.’ละครน้ำเน่า

นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย (กตป.) กล่าวว่า การที่นายกฯ มีคำสั่งให้ พล.อ.ประวิตร ดูแล 4 กรมในกระทรวงเกษตรฯ แม้จะยกเลิกคำสั่งแล้ว แต่แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งในรัฐบาลที่ ยังไม่ลงตัว ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับพล.อ. ประวิตร ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง เพราะเป็นความขัดแย้งในเชิงอำนาจผลประโยชน์ จึงเชื่อว่าไม่มีทางที่จะเกิดความราบรื่นในการบริหารงาน

นอกจากนี้ ยังเห็นภาพการแสดงกำลังของแต่ละฝ่ายในการลงพื้นที่ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน อีกทั้งยังทำให้รัฐมนตรี ข้าราชการไม่มีสมาธิในการทำงาน เพราะต้องคอยระวังว่ากำลังจะไปอยู่ในซีกไหนในความขัดแย้งนี้ และแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของอายุรัฐบาล จึงคิดว่าทั้งนายกฯ และพรรคแกนนำรัฐบาลควรรีบหาทางจัดการปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว

เชื่อว่าหากไม่ลงตัว เปิดสภามาจะต้องลุ้นในทุกการออกกฎหมายที่สำคัญว่าจะมีการแจกกล้วยอีกหรือไม่ และต้องจับตาดูว่าจะมีการทำอะไรที่ซ่อนเร้นที่ห้องน้ำหรือไม่ เพื่อให้ผ่านกฎหมาย ถ้าเป็นเช่นนั้นสภาจะมีปัญหาไปด้วย

“พล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นหนึ่งในผู้สร้างพรรคพลังประชารัฐร่วมกับ 3 ป. และพรรคพลังประชารัฐก็สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่เกิดการพัฒนากลายเป็นความขัดแย้งระหว่างกัน ซึ่งเป็นความขัดแย้งเสมือนละครน้ำเน่าและมากกว่าเรื่องหลักการอุดมการณ์ หรือนโยบายใดๆ” นายจาตุรนต์กล่าว

ก.ก.ฟันธงรัฐบาลไม่ครบเทอม

ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีการประกาศแคนดิเดต นายกฯ ว่า สำหรับพรรคก้าวไกลเป็นการแสดงความพร้อมของพรรค ในเรื่องนโยบาย บุคลากรและกระบวนการการทำงาน เพื่อสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชน

เมื่อถามว่าคาดการณ์ว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า คาดการณ์ได้หลายสถานการณ์ แต่ความจริงรัฐบาลหมดความชอบธรรมไปนานแล้ว ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมากับคะแนนที่ออกมานั้น ถึงแม้ในระบบจะยังเป็นสินค้าหมดอายุที่ยังอยู่บนเชลฟ์ต่อได้ แต่เรื่องความชอบธรรมควรจะยุบสภาไปนานแล้วด้วยซ้ำ

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า โดยธรรมชาติรัฐบาล คงต้องการยุบสภาในสถานการณ์ที่ตัวเอง ได้เปรียบที่สุด สามารถอัดฉีดนโยบายที่จะชนะใจประชาชนและเพิ่มกระแสความนิยมได้ แต่ในการเมืองที่เป็นจริง รัฐบาลส่วนใหญ่ ยุบสภาเพราะไม่สามารถรักษาความชอบธรรมของตัวเองได้ และเกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่ในพรรครัฐบาลเอง ซึ่งตอนนี้เราเห็นชัดมากขึ้น แน่นอน พล.อ. ประยุทธ์ ต้องการอยู่ยาวที่สุด แต่สถานการณ์ความเป็นจริงน่าจะยากแล้ว ไม่มีทางอยู่ครบเทอม อย่างช้าที่สุดภายในปีหน้า

‘วินท์’ลาก้าวไกล-ตั้งพรรคใหม่

นายวินท์ สุธีรชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กประกาศลาออก ยุติการเป็นส.ส.ว่า ตลอดเวลาการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.มากว่า 2 ปี มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสันติ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยสถานการณ์และบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ขอยุติบทบาทการทำหน้าที่ส.ส. เพื่อยืนหยัดและเดินตามอุดมการณ์ที่แสดงเจตจำนงไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม

พร้อมขอบคุณพรรคอนาคตใหม่ที่ให้โอกาสเข้าสู่การเมือง ขอบคุณพรรคก้าวไกลที่นับสนุนตลอดมา รวมทั้งประธานรัฐสภาและประธานสภา เพื่อน ส.ส. นับจากนี้ขออุทิศตัวเองทำงานเพื่อประชาชนและเพื่อประเทศไทยตามอุดมการณ์ทางการเมืองของตนเองต่อไป

วันเดียวกัน นายวินท์ ได้ส่งหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องแสดงความประสงค์ขอลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นับตั้งแต่ วันที่ 6 ต.ค.2564 เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลาออกของนาย วินท์ เพื่อไปก่อตั้งพรรคการเมืองเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างขอจดทะเบียนจัดตั้ง คาดว่าจะใช้ชื่อ “รวมไทย ยูไนเต็ด” เบื้องต้นมีกำหนดแถลงข่าวเปิดตัววันที่ 7 ต.ค.

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิของนายวินท์ ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หายไป 1 ที่นั่ง สำหรับตนถือเป็นความชัดเจน เป็นการจากกันอย่างเปิดเผย ประชาชนจะได้ไม่สับสน เหมือนการนั่งรถเมล์ถ้าเดินไปสู่เส้นทางที่เราไม่อยากไป ก็โบกมือลาจากกันด้วยดี

อดีตส.ส.ร้อยเอ็ดซบปชป.

เวลา 15.30 น. ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค พร้อมนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรค มอบบัตรสมาชิกพรรคให้ นายเกษม มาลัยศรี อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคชาติพัฒนา และอดีตส.ว.ปี 2543 หลังสมัครเป็นสมาชิกพรรคและมีผล 6 ต.ค. โดยนาย จุรินทร์สวมเสื้อแจกเก็ตตราสัญลักษณ์พรรคให้นายเกษม พร้อมกล่าวขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงาน

นายเกษมกล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนาย จุรินทร์ พูดจริง ทำจริง ทำมากกว่าพูด ช่วยแก้ปัญหาเกษตรกรได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานจึงอยากสนับสนุนให้เป็นนายกฯ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ มาแก้ปัญหาประเทศชาติบ้านเมือง ที่ผ่านมาเกษตกรทั่วประเทศมีรายได้จากนโยบายประกันรายได้ถ้วนหน้า หัวหน้าพรรคเป็นคนขยัน ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ใกล้ชิดประชาชน ที่สำคัญเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตจึงเชื่อมือพรรคประชาธิปัตย์ และมั่นใจว่านายจุรินทร์ พร้อมเป็นนายกฯ

กกต.พร้อมเลือกตั้งอบต.100%

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. เป็นประธานจับสลากผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด สำหรับปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และนายก อบต. 5,300 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ถึง 1 ธ.ค.2564 รวม 405 คน ในพื้นที่ 76 จังหวัด จังหวัดละไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 8 คน โดยใช้เขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดเป็นเกณฑ์กำหนดจำนวน

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ตรวจการเลือกตั้งจะทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการเลือกตั้ง ตรวจสอบการกระทำ ความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง และลงพื้นที่หาข่าวเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง เรื่องการซื้อเสียงอยากฝากว่าอย่าไปทำเลย เพราะเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ ถ้าไม่มีการซื้อเสียงจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายๆ อย่าง และกกต.ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างพร้อมเพรียง ในวันที่ 28 พ.ย.

นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. กล่าวว่า ขอเน้นย้ำเรื่องการแจกบัตรเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ทุกคนจะมีสิทธิเลือกตั้งนายกอบต. แต่บางคน ไม่สามารถเลือกตั้งสมาชิกได้ก็ได้เน้นย้ำว่า การแจกบัตรให้พึงระมัดระวัง อย่าให้เกิดปัญหา ตอนนี้เจ้าหน้าที่มีความพร้อม 100% โดยวันที่ 11 ต.ค.นี้ กกต.ทั้ง 7 คนจะลงพื้นที่ไปตรวจการรับสมัคร จากนั้นจะนำผลการตรวจพื้นที่มาหารือกัน ครั้งนี้เรามั่นใจเต็มที่ ได้ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งไปปฏิบัติหน้าที่ทั่วประเทศในการเลือกตั้งอบต. ซึ่งจะเป็นหัวใจหลักที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ ยุติธรรม

มท.สั่งทุกหน่วยจัดรำลึกร.9

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยว่า ด้วยสำนักนายกฯ แจ้งว่าวันที่ 13 ต.ค.เป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด กรม และรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ต.ค.

โดยจัดพิธีวางพวงมาลาในวันที่ 13 ต.ค. เวลา 08.30 น. ณ สถานที่ตั้งของหน่วยงาน หรือสถานที่อื่นที่เหมาะสม มีผู้เข้าร่วมพิธีจำนวนไม่เกิน 12 คน แต่งกายชุดเครื่องแบบปกติขาว ไม่สวมหมวก (กรณีจัดนอกอาคาร สวมหมวก) พร้อมประดับเข็มที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 ก.ค.55 คู่กับเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 และเข็มที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย สีขาว และดำเนินการตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า ในด้านสถานที่ มีการจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ (เครื่องทองน้อย) ตามอาคารสถานที่ของทางราชการตลอดเดือนต.ค. และมีการเผยแพร่คำกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพร้อมภาพพระราชกรณียกิจ ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของหน่วยงาน ตั้งแต่วันที่ 1-15 ต.ค.

เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวไทยตราบกาลนิรันดร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน