ล้นอนุสรณ์สถาน
ร่วมรำลึก14ตุลา

‘จตุพร’พ้นคุกแล้ว ศาลอุทธรณ์สั่งให้ประกันตัวตีหลักทรัพย์ 3 แสนบาท เจ้าตัว เตรียมเคลื่อนไหวไล่ประยุทธ์ต่อ ส่วนที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลามากันคลาคล่ำ ร่วมรำลึกวีรชนที่ต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ทั้งตัวแทนพรรคการเมือง เครือข่ายประชาชน รวมถึงอดีตนักกิจกรรม ทั้งณัฐวุฒิ-สุธรรมก็มา ‘ประสาร มฤคพิทักษ์’ทำกร่อย ห้ามกลุ่มทะลุฟ้าติดป้ายผ้าข้อความเรียกร้องปฏิรูปการเมือง

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.), มูลนิธิ 14 ตุลา พร้อมด้วย 30 องค์กรประชาธิปไตย ร่วมจัดงานรำลึกและปาฐกถา 14 ตุลา ประจำปี 2564 โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็นช่วงเช้า ทำบุญ กล่าวรำลึก และปาฐกถา ต่อด้วยช่วงบ่ายจัดวงเสวนาในวาระครบรอบ 48 ปี 14 ตุลา

ตั้งแต่เวลา 06.55 น. เริ่มมีประชาชนนำชุดสังฆทานและอาหารมารอใส่บาตร ต่อมาเวลา 07.15 น. พระสงฆ์จำนวน 12 รูป ได้เดินทางมาถึง เวลา 07.28 น. ผู้ร่วมงานทำบุญตักบาตรพระสงฆ์มีทั้งญาติวีรชน และคนรุ่นใหม่ร่วมด้วยหลากหลายช่วงวัย นำข้าวสารอาหารแห้งและผ้าไตรจีวรถวายแด่พระสงฆ์ ทั้ง 14 รูป

ด้านกลุ่มทะลุฟ้า ตั้งจุด “สภากาแฟทะลุฟ้า” ด้านข้างอนุสรณ์สถาน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถกเถียงถึงแนวทางการเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมเชิญชวนประชาชนที่มาถึงร่วมนั่งดื่มกาแฟ มีการเปิดเพลงเนื้อหากล่าวถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

จากนั้น สมาชิกทะลุฟ้านำป้ายผ้าที่เขียนข้อความ อาทิ “ที่ใดมีเผด็จการ ที่นั่นย่อมมีการต่อสู้” “ปฏิรูปสถาบัน” “เราต้องการรัฐธรรมนูญ ฉบับ ปชช.” “พวกเราคือนักสู้ไม่ใช่นักโทษ” ไปจนถึงป้าย “แค่ต้องการประชาธิปไตย เป็นขบถหรือ?” มาผูกไว้รอบบริเวณ โดยกลุ่มทะลุฟ้าระบุว่า จะร่วมกิจกรรมรำลึกตลอดทั้งวัน ระหว่างนี้ มีพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง และองค์กรต่างๆ ร่วมส่งพวงหรีดรำลึก

อย่างไรก็ดี เมื่อเวลา 07.35 น. นายประสาร มฤคพิทักษ์ กรรมการมูลนิธิ 14 ตุลา อดีตสมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง และอดีตผู้นำนักศึกษารุ่น 14 ตุลา เข้าไปพูดคุยและต่อว่ากลุ่มทะลุฟ้าว่าการกระทำไม่เหมาะสม และขอให้ปลดป้ายข้อความ “ปฏิรูปสถาบันฯ” รวมถึงป้ายข้อความอื่นๆ ลง

นายประสารกล่าวว่า วันนี้เป็นวันรำลึกวีรชน 14 ตุลา ซึ่งต่อสู้ด้วยเลือดเนื้อ ด้วยชีวิต วีรชนเมื่อ 48 ปีที่แล้ว ทุกปีเรามีการรำลึกวีรชน มีตัวแทนรัฐบาล วันนี้มีนายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ มีกรรมการสิทธิมนุษยชน ตัวแทนรัฐบาล รัฐสภา ฝ่ายค้าน ภาคประชาชน มีระดับรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมรำลึกตรงสถูปที่นี่ เราต้องการให้สังคมไทยได้รับรู้ว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นการรำลึก คารวะวีรชน 14 ตุลา ซึ่งต่อสู้ พลีเลือดเนื้อและชีวิตให้กับประชาธิปไตย เราไม่ต้องการให้เกิดความ ขัดแย้งกับใคร เป็นพื้นที่อนุสรณ์สถานที่ใช้ทั้งเสื้อเหลือง และแดง เราเปิดโอกาสเต็มที่ ไม่ได้กีดกันเสรีภาพใคร แต่ด้วยวันนี้เรามาเคารพวีรชน จึงต้องการความสงบ เรียบร้อย ไม่ต้องการความขัดแย้งใดๆ

“ไม่เช่นนั้น วีรชน 14 ตุลา จะเสียใจ จะหมองใจ เราไม่ได้ต้องการความขัดแย้ง แต่ต้องการเสรีภาพ เสมอภาพ ภราดรภาพ เมื่อเราดำเนินการอย่างเป็นกลาง ฉะนั้น จึงต้องการให้งานรำลึกเป็นไปโดยเรียบร้อย ไม่มีการโต้แย้งกับใคร ไม่เช่นนั้นวีรชนจะตายตาไม่หลับ เราจัดกันเป็นปกติ และไม่เคยกีดกันเสรีภาพของใคร ขอเพียงคำนึงถึงส่วนรวม ไม่ใช่ความสะใจส่วนตัว คำนึงถึงวีรชน ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำ” นายประสารกล่าว

ด้านกลุ่มทะลุฟ้าเปิดเพลง อาทิ เพื่อมวลชน ของ จิ้น กรรมาชน, จากลานโพธิ์ถึงภูพาน พร้อมยืนยันว่า ถ้าหากมาพูดคุยดีๆ ก็พร้อมจะปลดป้ายลง ไม่ได้ดื้อ และเชื่อว่าสาเหตุเป็นเพราะป้ายเดียว และพร้อมให้ทีม ผู้จัดแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า กลุ่มทะลุฟ้าเป็นคนติดป้าย ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ส่วนเพลงที่เปิด และข้อความที่ปรากฏบนป้าย ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับวีรชน 14 ตุลาทั้งนั้น เช่น “เราต้องการรัฐธรรมนูญประชาชน” ซึ่งก็เป็นหนึ่งใน ข้อเรียกร้องของขบวนการต่อสู้ในเวลานั้น

เวลา 07.49 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสตรีรายหนึ่ง เป็นญาติของวีรชน 14 ตุลา ลุกขึ้นโวยทีมผู้จัดงาน ความว่า เชิญญาติวีรชนมาทุกปี แต่ตนเคยมาหรือไม่ เคยสนใจญาติวีรชนหรือไม่ “ไม่เคยเหลียวแลสมาชิกเลย ปล่อยอดอยาก ไม่อยากจะพูด แต่มันไม่ไหวแล้ว 14 ตุลามันเงียบเหงา เงียบมาก เพราะประธานไม่ดี โกงกินทุกอย่าง ไม่เคยจะเหลียวแล เคยเอาพวงมาลัยมาเคารพสามีคุณหรือไม่ 6 ตุลานี่ปลื้มจริง ปลื้มมากๆ ไม่ได้สักครึ่งของ 6 ตุลา ไม่เคยคิดเลย ที่รู้ดี เพราะคือญาติจริงของวีรชน 14 ตุลา” ญาติวีรชนกล่าว โดยญาติวีรชนรายอื่นแสดงความเห็นด้วย

ต่อมา เวลา 07.58 น. ตัวแทนพรรคก้าวไกล นำโดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า, นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรค และ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกพรรค นำพวงหรีด 2 พวง ระบุข้อความ “อุทิศชีวิตเพื่อประชาสุขสมบูรณ์” และ “จะเทิดทูนอุดมการณ์นิรันดร์ไป” มาวางรำลึก

จากนั้น เวลา 08.03 น. ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ โดย นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร และตัวแทนพรรคเพื่อไทย นำโดย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และเหรัญญิกพรรค น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค เข้าร่วมงานรำลึก 14 ตุลาและร่วมวางพวงหรีดอาลัยวีรชน

นายสุธรรม แสงประทุม อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย, อดีตรมช.มหาดไทย และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยร่วมบันทึกภาพ ก่อนกล่าวกับผู้ร่วมกิจกรรมว่า “14 ตุลางานใหญ่กว่า 6 ตุลาตั้งเยอะ จัดดีเหลือเกิน จัดดีจนงานเล็กไปเลย”

เวลา 08.30 น. มีพิธีกรรม 3 ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ และอิสลาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้าย นายณัฐวุฒิกล่าวบทกวีของ อาเวตีก อีสากยัน โดยสำนวนแปลของ ศรีนาคร หรือ จิตร ภูมิศักดิ์ ท่อนหนึ่งว่า “เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์ สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์ แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน”

ด้านน.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมวางพวงมาลารำลึก โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ผ่านมาแล้ว 48 ปี แต่การต่อสู้ของประชาชนยังไม่จบ วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลยังคงอยู่ ผู้มีอำนาจสั่งฆ่าประชาชนโดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมยังเกิดขึ้น เพราะตราบใดที่กระบวนการยุติธรรมยังเป็นแบบนี้ มันก็จะยังเกิดซ้ำอีกในสังคมไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสังคมยังไม่ยอมรับว่ามีหน้าประวัติศาสตร์เปื้อนเลือดอยู่ เหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 อาจจะถูกจดจำว่าเป็นชัยชนะของประชาชน แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่ใช่ชัยชนะที่แท้จริง เพราะถ้าเป็นชัยชนะที่แท้จริงจะไม่เกิดการปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519, พฤษภาคม 2535, เมษายน-พฤษภาคม 2553 รวมถึงการยิงประชาชนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

น.ส.พรรณิการ์กล่าวต่อว่า ก่อนการจัดงานในเช้าวันนี้ มีเหตุการณ์ปลดป้ายของประชาชนที่มีข้อความเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน ซึ่งก็น่าสงสัยว่างานนี้เป็นการรำลึกถึงประชาชนที่เสียสละและเสียชีวิตจากการต่อสู้กับเผด็จการ และเพื่อให้ข้อเรียกร้องของพวกเขาได้รับการรับฟังจากผู้มีอำนาจ เรารำลึกถึงสิ่งนั้น

แต่วันนี้กลับเกิดเหตุการณ์ที่ข้อเรียกร้องของคนในยุคสมัยปัจจุบัน นั่นคือข้อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบัน ไม่ได้รับอนุญาตให้ติด สุดท้ายต้องขยับไปตั้งด้านนอกงาน ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าตั้งคำถามว่า วันนี้เป็นวันที่รำลึกถึงการต่อสู้ของประชาชน ที่เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อข้อเรียกร้องทางการเมืองมิใช่หรือ แต่ทำไมข้อเรียกร้องของคนในยุคสมัยปัจจุบันกลับ ไม่ได้รับอนุญาตให้ปรากฏในงาน นี่ก็ยิ่งตอกย้ำว่าเหตุการณ์ 14 ตุลา ยังไม่ใช่ชัยชนะของประชาชน เพราะถ้าประชาชนชนะแล้ว ในวันนี้ข้อเรียกร้องของยุคสมัยต้องได้ปรากฏในงานรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลา

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่าน คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยที่ 1 คดีหมายเลขดำ อ.2799/2557 ชุมนุมล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ได้ยื่นอุทธรณ์การขอปล่อยชั่วคราวเมื่อวันที่ 12 ต.ค.

โดยศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้จำเลยที่ 1 เคยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตลอดมาจนกระทั่งจำเลยที่ 1 ต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่กำหนด 12 เดือนในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.240/2558 ของศาลชั้นต้น ต่อมาผู้ประกันส่งตัวจำเลยที่ 1 บังคับโทษตามคำพิพากษาคดีดังกล่าว ระหว่างนี้ได้มีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564 จำเลยที่ 1 อยู่ในเกณฑ์จะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวตามมาตรา 6 (1) ประกอบมาตรา 16 และอยู่ระหว่างการอบรมเตรียมความพร้อมการปล่อยตามที่กรมราชทัณฑ์กำหนดตามหนังสือของเรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานครที่ ยธ 0768/9068 ประกอบกับโจทก์ไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว จึงอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 1 ชั่วคราวในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นเฉพาะคดีนี้ กรณีผิดสัญญาประกันให้ปรับ 300,000 บาท

เพื่อป้องกันมิให้จำเลยที่ 1 หลบหนี จึงเห็นสมควรให้จำเลยที่ 1 นำหลักประกันตามจำนวนดังกล่าวมาวางศาล ให้ศาล ชั้น ต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากภายในวันเดียวกันนี้ ทนายจำเลยหรือญาติ นำหลักประกันมาให้ศาลอาญาพิจารณาทันเวลาราชการก็สามาถยื่นขอปล่อยตัวได้เลย

ต่อมาเวลา 18.45 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายจตุพรได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีมวลชนที่ทราบข่าว อาทิ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และกลุ่มไทยไม่ทน มารอให้กำลังใจ ท่ามกลางฝนตกลงมาโปรยปราย

นายจตุพรกล่าวว่า ตนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้รับการปล่อยตัว และขอขอบคุณศาลอุทธรณ์ที่ให้ความเมตตา รวมถึง มวลชนกลุ่มไทยไม่ทนที่มารอให้กำลังใจตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ ส่วนตัวเท่าที่ได้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง ตนมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะอยู่ในอำนาจไม่ถึง 8 ปี เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ และการเมืองไทยขณะนี้ก็เข้าสู่ภาวะวิกฤต ส่วนหลังจากนี้จะเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไรนั้น ขอพูดคุยกับพี่น้องแกนนำและเพื่อนๆ ก่อน หากมีความชัดเจนก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป

พ้นคุก – นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ ไทยไม่ทน ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังศาลอุทธรณ์ให้ประกันตัวคดีชุมนุมล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ท่ามกลางกลุ่มมวลชน ใกล้ชิดมารับและให้กำลังใจ เมื่อค่ำวันที่ 14 ต.ค.

48ปี14ตุลา – องค์กรภาคประชาชน และญาติวีรชนร่วมงานรำลึก 48 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 โดยช่วงเช้าทำบุญตักบาตร ช่วงบ่ายมีการเสวนา ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว กทม. เมื่อวันที่ 14 ต.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน