หลอกให้ลงทุน
ผ่าน‘ออนไลน์’
ตร.ไซเบอร์รวบ

จับสาวหล่อ หลอกน.ร. หญิงชั้นม.6 ชาว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ลงทุนออนไลน์ ผ่านแอพฯ ที่เด้งขึ้นมาระหว่าง เรียนออนไลน์สูญเงินไปกว่า 4 หมื่น ผบช.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สั่งล่าตัว ได้ที่ จ.ชลบุรี เจ้าตัวปฏิเสธไม่รู้เรื่อง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองหงส์ ตั้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

วันที่ 16 ต.ค. กรณีนางเอ (นามสมมติ) อายุ 51 ปี พา น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าแจ้งความ ต่อ พ.ต.ต.อรรถชัย ศรีจันทร์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองหงส์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเอาผิดเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งในกทม.

หลังถูกหลอกให้ไปลงทุนตามคำชักชวนในแอพฯ ที่เด้งขึ้นมาในมือถือระหว่างเรียนออนไลน์ จนหลงเชื่อเอาเงินเก็บจากการรับแปลภาษาร่วม 2 หมื่น ลงทุนด้วยหวังช่วยแบ่งเบาภาระแม่ ซึ่งตอนแรกได้เงินคืนจริงจึงขอยืมแม่อีก 25,000 เพิ่มทุนหวังได้คืนมา 9 หมื่น สุดท้ายโดนหลอกจนสูญเงินไปกว่า 40,000 บาท ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า หลังจากตกเป็นข่าวไปแล้วนั้น ได้รับรายงานจาก สภ.หนองหงส์ ว่า พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้สั่งการให้ พ.ต.ท. ภัทรเดช ภัทรบุตรเพชร รองผกก.กก. 1 บก.สอท.3 ร่วมกับพ.ต.อ.สง่า ทรงธรรม ผกก.สภ.หนองหงส์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมชุดสืบสวน เข้าจับกุม น.ส.วาสนา แก้วประจักษ์ อายุ 37 ปี เลขที่ 138 ม.3 ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ บริเวณอพาร์ตเมนต์ ชั้นที่ 5 ไม่มีชื่อ เลขที่ 63 ม.9 ถนนเฉลิม พระเกียรติ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขณะกำลังพักผ่อนอยู่กับแฟนสาว

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 1 เล่ม สมุดมีรอยเจาะรูเหมือนยกเลิกการใช้บัญชี หลังจากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.หนองหงส์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์

จาการสอบสวน น.ส.วาสนาให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ใช้เจ้าของบัญชี และไม่ใช่แอดมินแอพ FF88 ที่หลอกให้น.ส.บี นักเรียนชั้น ม.6 โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารจำนวนกว่า 40,000 บาท เพื่อร่วมลงทุน โดย น.ส.วาสนา อ้างว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวได้ยกเลิกไปแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบไปยังบัญชี ดังกล่าว พบว่ายังไม่ได้ยกเลิก แต่มีการตั้งใจเจาะรูสมุดบัญชีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้เพียงคนเดียวก่อน เนื่องจากศาลไม่ออกหมายจับแฟนสาวอีกคนที่ จนท.ไปพบอยู่ด้วยกัน และคาดว่าน่าจะมีผู้ก่อเหตุมากกว่านี้

เบื้องต้นแจ้งข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน