ขู่ทิ้งพปชร.-ถ้ายังทะเลาะกัน
ชัยวุฒิซัดตรงๆ-ยัน‘ตู่’ไม่เอา
‘ศรีสุวรรณ’ยื่นกกต.ยุบพรรค
ปมนายกฯปิดห้องคุย6รมต.

จับตา พปชร.ประชุมกรรมการบริหารวันนี้ ‘ป้อม’เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ถกนอกรอบแกนนำพรรค-ส.ส. ‘ชัยวุฒิ’เปิดหน้าชน‘ธรรมนัส’ ชี้ถ้ายังเป็นเลขาฯ พรรค ทำงานกับนายกฯ ลำบาก หัวหน้าป้อมอุ้มสุดตัว ลั่นถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน ‘กูลาออก’สะพัด‘บิ๊กตู่’ ระแวงเกมเขย่าเก้าอี้ ซ้ำรอยศึกซักฟอกสั่งวิปรัฐบาลย้ายที่ประชุมจากรัฐสภามาทำเนียบ อ้างเพื่อทำงานใกล้ชิดฝ่ายบริหาร นักร้อง ‘ศรีสุวรรณ’ บุกกกต.ยื่นยุบพลังประชารัฐ ปม ‘ประยุทธ์’ เรียก 6 รัฐมนตรีพปชร.ปิดห้องคุย เพื่อไทยประชุมใหญ่ขอนแก่น เซอร์ไพรส์เปิดตัว‘อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร’ ร่วมพรรค นายกฯ เตรียมบินประชุมซีโอพี 26 ที่สกอตแลนด์ 31 ต.ค.-3 พ.ย.

‘บิ๊กตู่’เตรียมบินไปสกอตแลนด์

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า จะ เดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดด้าน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสห ประชาชาติ ครั้งที่ 26 (26th United Nations Climate Change Conference) หรือ COP26 ในวันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย.64 ซึ่งการประชุมมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-12 พ.ย. ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ มีบรรดาผู้นำโลกมากกว่า 120 ประเทศ ตลอดจนผู้แทนและ เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั่วโลกรวมกว่า 25,000 คน เข้าร่วม

ถือเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางออกนอกประเทศหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีการประกาศเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย. สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์ดังกล่าวได้เลื่อนจากวันอังคารที่ 2 พ.ย. เป็นวันพฤหัสที่ 4 พ.ย.

ตั้ง‘อนุชา’รักษาการผอ.สบนร.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ ลงนามแต่งตั้ง นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ให้ดำรงตำแหน่ง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (สบนร.) โดยมีภารกิจหลัก คือสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในการดำเนินภารกิจเชิงยุทธ ศาสตร์และเชิงบูรณาการ ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชาชน ที่ยังมีความล่าช้า หรือทำตามระบบราชการปกติไม่สำเร็จ จนอาจเกิดความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง

นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่รวบรวมข้อมูล รับฟังข้อคิดเห็น ศึกษาวิเคราะห์ เสนอแนะแนวทางหรือมาตรการในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล หรือเรื่องอื่นตามที่นายกฯมอบหมาย ตลอดจนสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลแก่ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สบนร.เป็นหน่วยงานพิเศษที่สังกัดสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่ได้ย้ายมาอยู่ในสังกัดสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ก.ค.62 โดยทำงานขึ้นตรงกับนายกฯ

เคืองถูกถามปัญหาในพปชร.

ส่วนภารกิจในวันที่ 27 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องผ่านการประชุมทางไกล ที่ตึกภักดีบดินทร์ ตั้งแต่เวลา 09.30 น.

ขณะที่เวลา 14.00 น. ก่อนเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 24 เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวการปรับโครงสร้างภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีการนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันที่ 28 ต.ค. และล่าสุดท่าทีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ยังคงนั่งในตำแหน่งเลขาธิการพรรคต่อไป โดย พล.อ.ประยุทธ์หันมามองกลุ่มผู้สื่อข่าวในลักษณะเคืองๆ แต่ไม่ตอบคำถาม

‘บิ๊กป้อม’เรียกประชุมกก.บห.

สำหรับปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีข่าวจะปรับโครงสร้างกก.บห. เพื่อบีบให้ ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากเลขาธิการพรรค กระทั่งมีข่าวว่า กก.บห. โดยเฉพาะในกลุ่มสามมิตรเตรียมเซ็นใบลาออกจากตำแหน่งแล้วหลายคน เพื่อเปิดทางให้ปรับโครงสร้างพรรค แต่ช่วงเย็นวันที่ 26 ต.ค.มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ต่อสายหา กก.บห.ทุกคนว่า อย่าเพิ่งลาออกและให้ไปพูดคุยในวันที่ 28 ต.ค.

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตรได้ลงนามในหนังสือเรียกประชุมกก.บห. ตามที่เลขาธิการพรรคเสนอ ในวันที่ 28 ต.ค. เวลา 12.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ที่ทำการพรรค ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเตรียมความพร้อม สืบเนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2/2564 ตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้ ประกอบกับฝ่ายทะเบียนมีเรื่องการจัดตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดจะรายงานให้กก.บห.ทราบ เพื่อให้หัวหน้าภาคได้รายงานความคืบหน้า ในการขับเคลื่อนพรรคในพื้นที่ด้วย

อุ้ม‘ธรรมนัส’-ขู่ลาออกถ้ายังฟัดกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 27 ต.ค. กก.บห.บางส่วน อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อร่วมรับประทานอาหารเช้ากับพล.อ.ประวิตร และ 1 ในแกนนำพรรคได้พูดกับพล.อ.ประวิตรว่า รัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐจำเป็นต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าเป็น ร.อ.ธรรมนัส คงทำงานกันลำบาก เพราะนายกฯ ไม่เอา ร.อ. ธรรมนัส จึงควรปรับโครงสร้างให้ทำงานได้

พล.อ.ประวิตรกล่าวสวนว่า “พวกคุณไปฟังความข้างเดียวกัน ถ้าไม่เอาธรรมนัส แล้วจะเอาใคร เขาทำงานได้ ทำงานเพื่อพรรค แล้วใครจะทำงาน คนอื่นก็เป็นคู่กรณีของเขา ถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน กูลาออก ใครอยากมาเป็นก็มาเป็นเลย” แกนนำคนเดิมระบุว่า ถ้ายังเป็น ร.อ.ธรรมนัส ปัญหาจะไม่จบ เพราะนายกฯอาจไปตั้งพรรคใหม่ ทำให้ พล.อ.ประวิตรตอบอย่างมีอารมณ์ว่า “ถ้านายกฯ ตั้งพรรคใหม่ ผมก็เลิก ไม่เล่นแล้วการเมือง”

ช่วงหนึ่งยังมีการพูดถึงการหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กับ 6 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดย พล.อ.ประวิตรระบุว่า วันดังกล่าวไม่ได้มี ข้อสรุปอะไร ตนเองเพียงนั่งรับฟังเฉยๆ “ก็วันนั้นพวกมึงรุมกู”

ขอให้ทุกคนรักกัน

ต่อมาช่วงบ่าย บรรดาแกนนำ และส.ส.หลายคนได้ทยอยเข้าพบ พล.อ.ประวิตร อาทิ ร.อ.ธรรมนัส นายชัยวุฒิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง โดยพล.อ.ประวิตร เปิดโอกาสให้สมาชิกสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะที่ส.ส.ภาคใต้บางคน กล่าวว่า จริงๆ แล้วพวกเราไม่มีอะไร เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทะเลาะกันเอง พล.อ.ประวิตรจึงตอบกลับว่า “ที่เป็นปัญหาอาจมีบางคนทะเลาะ และมีเด็กไปบอกนายกฯ จึงทำให้เป็นปัญหา เอาเป็นว่าต่อไปนี้ ขอให้รักกัน พูดคุยกัน และให้จบตรงนี้ ไม่เป็นไร ถ้าที่ผ่านมามีอะไรผิดพลาด หรือผมอาจจะดูแลทุกคนไม่ดีพอก็ขอโทษ แต่ยืนยันว่าผมรักสมาชิกทุกคน”

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัสได้อธิบายว่า “ผมไม่มีอะไร ที่ผ่านมาทำงาน ใจถึงพึ่งได้ พร้อมช่วยทุกคน แต่เรื่องที่เกิดขึ้น มีบางคนที่ไม่ชอบผมเอาไปพูดนอกพรรค ทำให้สับสน ขอให้มาพูดกัน” และเสนอให้ ส.ส.กลุ่มต่างๆ มานั่งฟังจะได้รับทราบไปพร้อมกัน ให้มันจบกันวันนี้ แต่บรรยากาศตรึงเครียดขึ้นเมื่อนายชัยวุฒิ พูดสวนว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกัน เมื่อครั้ง ที่จะโหวตสวนผมและนายกฯคืออะไร” ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “ที่ผ่านมาก็ขอโทษ ส่งข้อความและชี้แจงไปหมดแล้ว” นายชัยวุฒิย้ำอีกครั้งว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกันจะดีกว่า”

สมาชิกยังไว้ใจหัวหน้า-เลขาฯ

ในการหารือครั้งนี้ ยังได้แจกกระดาษที่เป็นลักษณะแบบสอบถามประมาณ 7-8 ข้อ เป็นใบละ 1 คำถามให้กับสมาชิกไปเขียนด้วยลายมือ ไม่ต้องระบุชื่อ เช่น สอบถามว่าต้องการให้ใครเป็นหัวหน้าพรรค ต้องการให้ใครเป็นเลขาธิการพรรค และอนาคตอยากให้พรรคเป็นอย่างไร รวมถึงให้แสดงความรู้สึกที่มีต่อรัฐมนตรีในสังกัดพรรค

ด้านพล.อ.ประวิตรได้อ่านผลการกรอกแบบสอบถาม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ทั้งหมดพร้อมใจกันยืนยันให้ พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนเลขาธิการพรรคประมาณ 80% ยังไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส รองลงมาคือ นายอนุชา นาคาศัย อดีตเลขาธิการพรรค น้อยที่สุดคือชื่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ขณะที่การแสดง ความเห็นต่อรัฐมนตรีของพรรค ส่วนใหญ่ ไปในทิศทางเดียวคือ ไม่พอใจต่อการปฏิบัติตัวของรัฐมนตรี 2 กระทรวงคือ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงดีอีเอส ซึ่งผลการตอบแบบสอบถามดังกล่าว จะนำไปรายงาน ให้ที่ประชุม กก.บห.ทราบในวันที่ 28 ต.ค.

ค่ำวันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส โพสต์ผ่านเพจ ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่า“ผมยืนยันกับ พี่น้องประชาชนอีกครั้งว่า ต่อให้ผมไม่มี ตำแหน่งใดๆเลย เหมือนก่อนเข้ามาในวงจรการเมือง เป็นเพียง ร.อ.ธรรมนัส ผมก็จะอุทิศตนช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่เหมือนเดิม ผมอาจจะไม่ใช่คนพูดเก่ง มีวาทศิลป์ แต่ขอให้ดูผลงาน ความทุ่มเท ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ขอขอบพระคุณทุกกำลังใจจากทุกๆคน”

‘ชัยวุฒิ’ซัด‘ธรรมนัส’มีปัญหา

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าเป็นหนึ่งในกก.บห.พรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นใบลาออก เพื่อเปิดทางปรับโครงสร้างพรรคว่า ขณะนี้กำลังพูดคุยกันถึงการลาออก โดยวันที่ 28 ต.ค. จะคุยกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการว่าจะปรับแก้อย่างไร ทุกคนต้องหาทางออกร่วมกัน ส่วนเหตุผลที่ต้องปรับโครงสร้างเพราะรัฐบาลและพรรค ต้องเป็นเนื้อเดียวกัน เดินไปด้วยกัน หากพรรคไม่ไปทางเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ก็ทำงานยาก

ผู้สื่อข่าวถามว่ากก.บห.ที่จะลาออก จำนวนเกินกึ่งหนึ่งหรือยัง นายชัยวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ถึง และยังไม่ถึงขั้นลาออก แต่เป็นการพูดคุย หากลาออกจะแถลงข่าว ต่อข้อถามว่าการจะปรับโครงสร้างพรรค เพราะมองว่าร.อ.ธรรมนัสมีปัญหาใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิย้อนถามว่า “แล้วคุณคิดว่ามีปัญหาหรือไม่ สื่อมวลชนดูกันเองว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง” เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่า ร.อ.ธรรมนัสมีปัญหาหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า “ผมคิดว่ามี ไม่เช่นนั้นไม่มีการพูดคุยกันเพื่อจะปรับโครงสร้าง แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียด เชื่อว่าประชาชนและสื่อมวลชนรู้อยู่แล้วว่าคืออะไร ขอให้เดินไปข้างหน้า อย่าพูดถึงอดีต”

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ยืนยันขณะนี้ตนยังไม่ได้เซ็นใบลาออก และหัวหน้าพรรคยังไม่ได้เรียกมาพูดคุยกำชับอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าความขัดแย้งภายในอาจ มาจากการจัดทำโพลวัดเรตติ้งส.ส.ภาคใต้ หรือไม่ นายสัมพันธ์กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าเกี่ยว

‘วิรัช’ย้ำทุกอย่างจบแน่

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า วันที่ 28 ต.ค.จะมีการประชุมกก.บห. พล.อ.ประวิตร บอกว่าหากมีอะไรขัดข้องหมองใจกันก็ให้มาพูดคุยกัน ต่อข้อถามว่าดูแนวโน้มการให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประวิตร เป็นลักษณะปรับเปลี่ยนโครงสร้างกก.บห. นายวิรัชกล่าวว่า ต้องรอฟังพล.อ.ประวิตร ความชัดเจนทุกอย่างคงอยู่ในวันที่ 28 ต.ค. แต่ไม่รู้จะจบแบบไหน ไม่มีแผนเอ ไม่มีแผนบี ไม่มีแผนสำรอง อยู่ที่หน้างานจะเป็นลักษณะไหน

เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคยังไม่ส่งสัญญาณใช่หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ยัง ต่อข้อถามว่า ยังเชื่อมั่นหรือไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงเลขา ธิการพรรคจะถูกทำแท้ง นายวิรัชกล่าวว่า ไม่สามารถตอบชัดเจนได้ แต่ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสแล้ว กำลังใจยังดี ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาลอยู่แล้วคงไม่ได้มาเกี่ยวข้อง ตนพยายามย้ำตลอด เพราะรู้ว่าทุกคำพูดที่พูดออกไปนั้นอาจมีคนนำไป ร้องเรียนได้ จึงต้องระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ

ลั่นไม่หนักใจงานในสภา

นายวิรัชให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึก ทั่วไทย Inside Thailand โดยช่วงหนึ่งผู้ดำเนินรายการถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากทางทำเนียบรัฐบาลไม่ไว้ใจ เพราะเกรงว่า ร.อ. ธรรมนัสกับคณะจะลอยแพรัฐบาลกลางสภา ทำให้มีปัญหาทางการเมืองจึงจะเอา ร.อ.ธรรมนัสออกจากเลขาธิการพรรค จะเคลียร์ความไม่ไว้ใจตรงนี้อย่างไรว่า พล.อ.ประวิตรถามตนว่า เปิดสมัยประชุมสภา มีอะไรหนักใจไหม จึงบอกว่าตอนนี้ไม่มีอะไรหนักใจ และถ้าตนยังอยู่ตรงนี้และยังไม่มีใครปลดหรือพล.อ.ประวิตรไม่ได้ปลด ยืนยันได้เลยว่าไม่มี วันนี้ทุกสิ่งที่พล.ประวิตร ทำ คือการถ่วงดุล อำนาจการทำงานในพรรค ที่ทุกคนต้องเข้ามาดูแล และเข้ามาโหวต

“บางทีผมก็มีความหนักใจคนที่เป็นรัฐมนตรี บางทีไม่มาประชุมสภา ไม่มาประชุมพรรค ขาดประจำ ต้องโทร.ตาม โทร.เรียก ซึ่งมันเหนื่อย ผมถึงได้บอกว่า ไม่ต้องกลัวเลยเปิดประชุมสภาวันที่ 3-5 พ.ย.นี้ไม่มีปัญหา หรือจะพิจารณาร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) อะไร เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังเดินไปได้ ตรงนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” นายวิรัชกล่าว

‘บิ๊กตู่’สั่งวิปรัฐประชุมที่ทำเนียบ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.64 ปรากฏว่าล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการ ผู้เกี่ยวข้องว่า จากนี้ไปให้วิปรัฐบาล มาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ทุกวันจันทร์ จากปกติประชุมที่รัฐสภา เนื่องจากเห็นว่าในสมัยประชุมนี้มีกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาในสภาเป็นจำนวนมาก อาทิ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ รวมถึงการพิจารณาร่างพ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิด

โดยจะประชุมวิปรัฐบาลนัดแรกที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 8 พ.ย. เวลา 14.00 น. ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ไว้วางใจ เกรงว่าจะมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกับเมื่อตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มีการเดินเกมล้มพล.อ.ประยุทธ์

‘อนุชา’แจงทำงานใกล้ชิดขึ้น

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการ นายกฯ ฝ่ายการเมือง ในฐานะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 2 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย. ตนได้ประสานไปยังผู้ใหญ่พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้การทำงานฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติมีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และด้วยสถานที่ที่มีความสะดวก รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ได้แจ้งว่าวันที่ 8 พ.ย.จะให้มีการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล

ส่วนวันที่ 1 พ.ย.ยังคงใช้ที่รัฐสภาและวันนั้นตนจะได้แจ้งเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งได้พูดคุยกับประธานวิปรัฐบาลแล้ว โดยวันที่ 8 พ.ย.จะใช้ตึกสันติไมตรี และมีความเป็นไปได้หลังจากนี้จะใช้ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ประชุมวิปรัฐบาลที่เดียว ซึ่งนายกฯเห็นด้วย

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะโฆษกวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนคิดว่าการประชุมวิปรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาลจะช่วยทำให้ฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ คือ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล มีโอกาสพบปะกันมากขึ้น เกิดความใกล้ชิดและความเข้าใจกัน จะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างตรงจุด ขณะที่นายกฯจะได้เข้าใจปัญหามากขึ้นเช่นกัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมเสถียรภาพของรัฐบาลให้ดีขึ้นด้วย ในอดีตไม่ว่าจะรัฐบาลยุคไหน วิปรัฐบาลมีการประชุมกันทุกวันจันทร์ที่ทำเนียบรัฐบาลอยู่แล้ว

พรรคเล็กแนะถกเรื่องเอกภาพ

นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ในฐานะวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พ.ย.นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้นัดหารือวิปรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล เรื่องการเตรียมความพร้อมการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่เกิดขึ้นภายในพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำรัฐบาลทำให้พรรคเล็กมีคำถามถึงเอกภาพของรัฐบาล จึงอยากเสนอให้นายวิรัชนัดพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาลหารือนอกรอบ เพื่อพูดคุยถึงเอกภาพของรัฐบาล

“ประธานวิปรัฐบาล ควรจะสร้างการมีส่วนร่วม เปิดอกคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่มีแต่ข่าวซุบซิบ ซึ่งทำให้พรรคร่วมรัฐบาลสับสน ผมมองว่าหากรัฐบาลทำให้ภาพของความมีเอกภาพชัดเจนจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมถึงทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ” นายโกวิทย์กล่าว

เมื่อถามว่าแกนนำรัฐบาลได้ส่งสัญญาณ ถึงการเลือกตั้งหรือยุบสภามายังพรรคเล็กหรือไม่ นายโกวิทย์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี เชื่อว่ารัฐบาลควรบริหารราชการแผ่นดินและแก้ปัญหาประชาชนให้ลุล่วง และควรรอให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเสร็จสิ้น ซึ่งรวมถึงเลือกผู้ว่าฯกรุงเทพฯ และการผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2566 ก่อน

‘ศรีสุวรรณ’ยื่นกกต.ยุบพปชร.

เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้วินิจฉัยกรณีพล.อ.ประยุทธ์ เรียก 6 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐเข้าหารือเมื่อวันที่ 25 ต.ค. เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 และมาตรา 29 หรือไม่

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า แม้ว่าโฆษกประจำสำนักนายกฯจะออกมาแก้เกี้ยวว่าเป็นการหารือกิจการบ้านเมืองธรรมดาทั่วไป แต่ตนเชื่อว่าโซเชี่ยลมีเดียและสังคมไทยไม่เชื่อ เพราะหลังจากการหารือดังกล่าวแล้วก็นำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงในพรรคพลังประชารัฐมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการปรับรื้อโครงสร้างของพรรค และยังจะมีการนัดประชุมเป็นการด่วนของกก.บห.ใน วันที่ 28 ต.ค. ก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการหารือกันของ 6 รัฐมนตรีกับนายกฯ พฤติการณ์ ดังกล่าวอาจเข้าข่ายบุคคลใดที่อาจมิใช่สมาชิกของพรรคการเมืองเข้าไปครอบงำ หรือชี้แนะ ชี้นำการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองได้

โดยบทลงโทษความผิดในมาตรา 28 ที่หนักคืออาจจะเกี่ยวพันไปถึงมาตรา 92(3) ซึ่งอาจเข้าข่ายการยุบพรรคได้ หาก กกต.วินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 สามารถจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อยุบพรรคได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมพรรคยังไม่เริ่ม แต่มาร้องเรียนก่อนความผิดยังไม่เกิด นาย ศรีสุวรรณกล่าวว่า หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมตนจะนำมาร้องเพิ่มได้อีก เพราะถ้าไม่มีการพูดคุยกันเรื่องพรรคการเมืองจริง แน่นอนว่ากก.บห. 26 คนคงจะไม่มีการลาออก หรือจะไม่มีการประชุมเพื่อเปลี่ยนแปลงกก.บห.

‘ภูมิธรรม’ขย่มซีกรัฐบาล

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และเลขาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการ ขับเคลื่อนงานในสภา ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้เสียงที่จะสร้างความมั่นใจให้กับพรรครัฐบาลมีไม่มากอยู่แล้ว และความขัดแย้งของกลุ่มผู้นำของพรรคพลังประชารัฐก็มีมาต่อเนื่องไม่หยุด ดังนั้น อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้กะทันหันทันทีทันใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูกฎหมาย เช่น พ.ร.ก.ต่างๆ ที่จะเข้าสภาแล้วไม่กล้าเอาเข้า ก็เกิดจากการที่ฟากรัฐบาลไม่สบายใจในเรื่องนี้ เพราะกฎหมายเมื่อเข้ามาแล้วไปไม่ได้ รัฐบาลจะต้องไปทันที จึงเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครประมาท

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านวางแผนเดินหน้างานในสภาอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ฝ่ายค้านยังจะเดินหน้าทำหน้าที่ตรวจสอบเช่นเดิม ไม่มีลดหย่อนหรือผ่อนลง เราจะทำตามหน้าที่ อะไรก็ตามที่เข้ามาเราต้องตรวจสอบ และขณะนี้แต่ละพรรคการเมืองเริ่มหันกลับไปเตรียมความพร้อมของตัวเองเผื่อในกรณีที่จะเกิดการเลือกตั้งขึ้น เนื่องจากขณะนี้เสถียรภาพของรัฐบาลไม่เหลือแล้ว

‘ชลน่าน’หน.พท.-‘อุ๊งอิ๊ง’โผล่ประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของพรรคเพื่อไทย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น วันที่ 28 ต.ค. นอกจากมีวาระการขับเคลื่อนพรรคภายใต้แคมเปญ “พรุ่งนี้ เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” แล้ว ยังจะมีการเลือกตั้งกก.บห.ชุดใหม่ และกรรมการสรรหาชุดใหม่ด้วย โดยมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ได้ทำหนังสือลาออกจากตำแหน่งก่อนการประชุม เป็นนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และแต่งตั้งนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำกลุ่มแคร์ เป็นผู้อำนวยการพรรคแทนนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ที่ออกไปรักษาตัวด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนกก.บห.อีกจำนวนหนึ่ง อาทิ รองหัวหน้าพรรคที่จะปรับออก เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ แล้วแต่งตั้งคนใหม่เข้ามาแทน เช่น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส่วนโฆษกพรรคให้ น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. มาแทนน.ส.อรุณี กาสยานนท์ แล้วให้น.ส.อรุณีไปนั่งรองเลขาธิการพรรค เนื่องจากต้องรักษาตัวจากอาการกระทบกับเส้นเสียง พร้อมดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาอยู่ในฝ่ายบริหารเพิ่มขึ้น โดยมีนายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค

การประชุมครั้งนี้จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ด้วย โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะเข้าร่วมประชุม พร้อมพูดคุยและให้กำลังใจกลุ่มส.ส.และสมาชิกพรรคด้วย

เวทีโลก – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16 ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยมีผู้นำชาติต่างๆ และโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมด้วย ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 ต.ค.

‘บิ๊กตู่’นำถกอาเซียนบวกสาม

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และครั้งที่ 39 ซึ่งรวมไว้ในวันเดียวกัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีบรูไนเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.ผ่านระบบการประชุมทางไกล

เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในนามอาเซียน ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 24 ว่า อาเซียนและญี่ปุ่นได้รักษามิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกันเกือบ 50 ปี บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเป็นหุ้นส่วนแบบใจถึงใจ และความเป็นหุ้นส่วนที่ เท่าเทียมกัน ไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานพร้อมผลักดันการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษที่ญี่ปุ่นในปีค.ศ.2023 ตามความประสงค์ของญี่ปุ่น

เวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 1 ว่า ขอเสนอแนวทางส่งเสริมความร่วมมือ 3 ด้าน 1.ด้านสาธารณสุข 2.การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การเจรจาเพื่อยกระดับเอฟทีเอ อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ตอบสนองภาคเอกชน 3.การฟื้นฟูความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ควรพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดพรมแดนระหว่างกัน และหวังจะได้ต้อนรับนายกฯ มอร์ริสัน ในโอกาสที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพเอเปกปี 2565 ซึ่งตรงกับการครบรอบ 70 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรเลีย

อาเซียน-ญี่ปุ่น – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 27 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 ต.ค.

เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 24 พร้อมผู้นำจากสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ว่า อาเซียนบวกสามมีจุดแข็งที่การตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวผ่านบททดสอบมาแล้วหลายครั้ง และไทยเชื่อมั่นว่าประเทศสมาชิกจะสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ อีกครั้ง พร้อมยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

“ในโอกาสที่จะครบรอบ 25 ปี อาเซียนบวกสามในปีหน้า ความร่วมมือระหว่างประเทศบวกสามที่เข้มแข็งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างประชาคมเอเชียตะวันออกที่แข็งแกร่ง ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนและความไพบูลย์ร่วมกันของภูมิภาค” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16

ทะลุฟ้ายื่นกมธ.จี้สอบใช้ม.112

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ต.ค. ที่รัฐสภา คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) และกลุ่มทะลุฟ้า นำโดย นายธีรัตม์ พณิชอุดมพัชร์ ยื่นหนังสือต่อกมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกมธ. และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกมธ. เป็นตัวแทนในการรับหนังสือดังกล่าว

นายธีรัตม์กล่าวว่า วันนี้เป็นการยื่นหนังสือเพื่อขอให้คณะกมธ.ตรวจสอบการใช้บังคับโดยเจ้าหน้าที่รัฐ และพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นต่อประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 สืบเนื่องจากที่ผ่านมามีประชาชนถูกดำเนินคดีในมาตรานี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับมีโทษจำคุกเพียงสถานเดียว และมีอัตราโทษสูง ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรา 112 เป็นปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ที่อาจเป็นไปโดยไม่สุจริตในหลายกรณี

ด้านนายรังสิมันต์กล่าวว่า กมธ.คงคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ในฐานะที่เป็นกมธ. ดูแลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนจะไม่นิ่งดูดาย ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขมาตรา 112 ผ่านกระบวนทางสภาแล้ว แต่ต้องยอมรับว่ากระบวนการไม่ง่ายที่จะผลักดัน และเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ในสภา ซึ่งสภายังไม่บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ ซึ่งเขาอ้างว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ทั้งที่จริงไม่ได้ขัดแต่อย่างใด เพราะการเสนอแก้ไขดังกล่าวเราเพียงแค่ให้มีการกำหนดอัตราโทษลดลง และย้ายหมวด เพื่อให้ประกันตัวมาต่อสู้คดีได้

ด้าน นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองว่า ได้ตรวจสุขภาพของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายอานนท์ นำภา พบว่า ทุกคนสุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี ไม่มีอาการเจ็บป่วย เช่นเดียวกับ นายอมร อมรรัตนานนท์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สุขภาพแข็งแรงปกติ ได้มีการสังเกตอาการและรักษาโรคเบาหวานซึ่งเป็นโรคประจำตัวด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน