ย้ำปาราชิกแล้ว
ศิษย์แห่ไปส่ง
บินกลับสหรัฐ

คณะผู้ปกครองสงฆ์เอาผิดกลุ่มพระห้อมล้อมกราบไหว้ ‘ยันตระ’ ลงโทษตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน หรืออื่นๆ เพื่อมิให้กระทำผิดอีก สำนักพุทธฯ ระบุแม้อ้างยังเป็นพระ แต่คณะสงฆ์ไทยถือว่าปาราชิก ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว ไม่สามารถดำรงตนในฐานะพระภิกษุได้อีกต่อไป ขณะที่อดีตพระผู้อื้อฉาวเดินทางออกจากไทยกลับสหรัฐแล้ว โดยมีพระ แม่ชี ลูกศิษย์กว่า 50 แห่ไปส่งขึ้นเครื่องด้วย

กลับอเมริกา – นายวินัย ละอองสุวรรณ หรืออดีตพระยันตระ เดินทางมาขึ้นเครื่องบินกลับประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีพระสงฆ์ แม่ชีและลูกศิษย์กว่า 50 คน ยกขบวนมาส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 27 ต.ค. นายวินัย ละอองสุวรรณ หรืออดีตพระยันตระ แต่งกายห่มเขียว ไว้ผมยาว หนวดเคราเฟิ้ม เดินทางมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อรอขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีพระสงฆ์ แม่ชี และลูกศิษย์รวมประมาณ 50 คนมารอส่งขึ้นเครื่องบิน

ต่อมาเวลา 06.00 น. ระหว่างที่อดีตพระยันตระเดินเข้าไปเพื่อรอขึ้นเครื่อง ได้เอามือแตะศีรษะลูกศิษย์ พร้อมยกมือไหว้ ส่วนพระสงฆ์ที่ร่วมเดินมาส่งพูดว่า “ซาโยนาระ” จากนั้นอดีตพระยันตระเดินเข้าไปภายในห้องพักสำหรับผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องบิน เป็นเที่ยวเอ็นเอช 806 ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 07.00 น. ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นเปลี่ยนเครื่องบินเดินทางต่อไปยังสหรัฐอเมริกา โดยมีพระสงฆ์ 3 รูปร่วมเดินทางไปด้วย

วันเดียวกัน นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รักษาการผอ.พศ. กล่าวถึงกรณีพระสงฆ์ที่ไปกราบไหว้อดีตพระยันตระว่าเป็นเรื่องไม่สมควร แม้นายวินัยจะกล่าวอ้างยืนยันยังเป็นพระ เพียงแต่ไม่ปลงผม หนวด แต่คณะสงฆ์ไทยถือว่าท่านปาราชิก ไม่สามารถดำรงตนในฐานะพระภิกษุได้อีกต่อไป ต้องขาดจากความเป็นพระไปแล้ว รับทราบว่าเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ของกลุ่มพระสงฆ์ลูกศิษย์อดีตพระยันตระ เตรียมจะพิจารณาลงโทษแล้ว โทษ จะหนักหรือเบา คงต้องให้พระสังฆาธิการ ผู้ปกครอง หรือเจ้าอาวาสวัดที่พระนั้นๆ สังกัด เป็นผู้พิจารณาโทษ จะว่ากล่าวตักเตือน หรือลงโทษอื่นๆ มิให้กระทำความผิดนั้นอีก

นายสิปป์บวรกล่าวว่า หลังจากพิจารณาโทษแล้ว จะรายงานคณะสงฆ์ตามลำดับชั้น ไปจนถึงเจ้าคณะจังหวัดเพื่อทราบ แต่ด้วยธรรมเนียมปฏิบัติของคณะสงฆ์ จะมีความแตกต่างจากธรรมเนียมระบบราชการ การรายงานไปแต่ละลำดับชั้น จึงอาจมีความล่าช้าไปบ้าง และหลังจากเจ้าคณะจังหวัดรับทราบแล้ว ท่านจะแจ้งให้ทำรายงานส่งมาถึงสำนักพุทธฯ เพื่อทราบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน