เชื่อมรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ในสังคม
ไม่ปิดประตูแคนดิเดตนายกฯ
‘ชลน่าน’นั่งหน.-โชว์23กก.บห.
‘ตู่’บ่จอย-ตัดบทไม่พูดถึงพปชร.

‘ป้อม’นำถก กก.บห.พรรค ยุติรอยร้าว พปชร. ลั่นปัญหาทุกอย่างจบแล้ว ‘ธรรมนัส’ยิ้มร่า นั่งเลขาฯ พรรคต่อ‘บิ๊กตู่’หงุดหงิด สื่อจี้ถาม เพื่อไทยประชุมใหญ่คึก เปิดตัว‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่งประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมฯ เชื่อมต่อคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ เดินหน้าปฏิรูป 3 ด้าน การศึกษา-เทคโนโลยี-ส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ ไม่ปิดประตูแคนดิเดตนายกฯ เผย ‘พ่อแม้ว’หวังได้กลับแผ่นดินไทย ‘หมอชลน่าน’นั่งหัวหน้าพรรคตามโผ เปิดรายชื่อ 23 กรรมการบริหารพรรค พร้อมทีมยุทธศาสตร์-ทีมคัดเลือก ผู้สมัครเลือกตั้ง

‘บิ๊กตู่’สบายใจบูสต์ไฟเซอร์เข็ม 3

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 ซึ่งนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นผู้ฉีด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า มีภารกิจที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ก็ต้องได้รับการฉีดวัคซีน และผู้นำต่างประเทศทุกคนก็ได้รับการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติครั้งที่ 26 (26th United Nations Climate Change Conference) หรือ COP26 ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-12 พ.ย. ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ โดยนำคณะ ประกอบด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ และนาย วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกเดินทางช่วงค่ำวันที่ 31 ต.ค. และกลับวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งถือเป็นการ เดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีการประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้

ถก 3 ฝ่าย – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ร่วมประชุมระดับผู้นำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ครั้งที่ 13 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 28 ต.ค.

ชื่นชมผลประชุมสุดยอดอาเซียน

วันเดียวกัน ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมการประชุม สุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และครั้งที่ 39 ซึ่งรวมไว้ในวันเดียวกัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยมีบรูไนเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.ผ่านระบบการประชุมทางไกล

เวลา 12.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วม และกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 18 เวลา 14.00 น. เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย ครั้งที่ 4 พร้อมผู้นำสมาชิกอาเซียน และนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย

จากนั้นเวลา 15.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมพิธีปิดและส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียน พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วม โดยสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน กล่าวปิดในฐานะประธานอาเซียน และส่งมอบตำแหน่งให้นายกฯกัมพูชา ซึ่งจะเป็นประธานอาเซียนในปี 2565

สำหรับเอกสารที่ผู้นำได้รับรองในการประชุมครั้งนี้ มีทั้งสิ้น 25 ฉบับ อาทิ แถลงการณ์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยการยกระดับการปรับเปลี่ยนไปสู่ดิจิตอลของภูมิภาคอาเซียน, ถ้อยแถลงร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26, แถลงการณ์ผู้นำการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกว่าด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการฟื้นฟูการท่องเที่ยว

‘บิ๊กป้อม’ถกนอกรอบ 2 รมต.

เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ว่า “ไม่รู้ๆ” ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยังมีการประชุมหรือไม่เพราะข่าวว่าได้พูดคุยกันเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 27 ต.ค.ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถาม แต่เดินขึ้นห้องเพื่อเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 3/2564 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

รายงานข่าว เปิดเผยว่า ก่อนการประชุม กพต. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กก.บห.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็น 2 ใน 6 รัฐมนตรีที่ขับเคลื่อนให้ปรับโครงสร้างพรรค ได้เข้าพูดคุยกับพล.อ.ประวิตรในห้องรับรอง ซึ่งพล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะมีการปรับโครงสร้างพรรคแน่นอน แต่จะไม่แตะตำแหน่ง เลขาธิการพรรค ของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เพราะไม่ต้องการให้พรรคเกิดแรงกระเพื่อม

‘สมศักดิ์-สุชาติ’ยันทำเพื่อพรรค

นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวแกนนำพรรคและส.ส.คุยกับพล.อ.ประวิตร เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ซึ่งมีการแสดงความเห็นอย่างดุเดือด ว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ผู้สื่อข่าวถามว่าข่าวที่เกิดขึ้นจะทำให้การทำงานในสภาไปรอดหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นไร แต่ถ้านานไปกว่านี้จะมีผลกระทบ

ต่อข้อถามว่า หาก ร.อ.ธรรมนัส จะยังเป็นเลขาธิการพรรคต่อไป จะทำงานร่วมกันต่อไปอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า คงไม่สามารถแสดงความเห็นส่วนตัวได้ เมื่อถามว่า 6 รัฐมนตรีที่ขับเคลื่อนให้ปรับโครงสร้างพรรคจะอยู่ในพรรคอย่างไรหากไม่สำเร็จ นายสมศักดิ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 รัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้

ด้านนายสุชาติกล่าวว่า ยอมรับว่า มีกก.บห.พรรคบางส่วน เตรียมใบลาออกไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ยื่น เราคุยกันว่าถ้าบริหารพรรคไปในแนวทางที่ไม่ตรงกัน จะไปขวางเขาได้อย่างไร เพราะเราเป็นเสียงข้างน้อย เราต้องพิจารณาตัวเอง การเสนอแนวคิดเพื่อต้องการให้พรรคเติบโตและเป็นสถาบันทางการเมืองที่แข็งแรง ทำให้หัวหน้าพรรคสง่างาม ทำเพื่อปรับสมดุลให้สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องทำงาน ต่อไป เพราะเราทำงาน 2 ขา ทุกคนเคารพการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค ซึ่งคือศูนย์รวมจิตใจของพวกเราทุกคน

‘ประวิตร’ฉุนปมขู่ลาออก

เวลา 13.30 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ อาคารรัชดาวัน กรุงเทพฯ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาพร้อมกับร.อ.ธรรมนัส โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค มารอรับ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงบรรยากาศการหารือกับแกนนำและส.ส.พรรค ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อเย็น วันที่ 27 ต.ค. ที่ระบุในที่ประชุมว่าหากยังทะเลาะกันอยู่จะลาออก ทำให้พล.อ.ประวิตร หันมาตอบอย่างหงุดหงิดว่า “ที่ไหนวะ” ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่มีการทะเลาะกันใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตร ไม่ตอบคำถาม แล้วเดินขึ้นลิฟต์เข้าห้องประชุม ชั้น 5 ทันที

นางนฤมลให้สัมภาษณ์ถึงการไม่ได้อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรี แล้วไม่ค่อยสัมภาษณ์เท่าที่ควร โดยนางนฤมล ยกมือขอโทษพร้อมกล่าวว่า ตนยังปรารถนาดีกับทุกคนเสมอ แต่บางเรื่องก็ไม่อยากพูดเพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว เมื่อถามว่าตอนนี้กำลังใจยังดีอยู่ใช่หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า “ก็ทำงานให้พรรค ให้ประชาชน”

ส่วนการประชุมกก.บห. มีกก.บห.เข้าร่วมพร้อมเพรียง รวมถึงพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เข้าร่วมประชุมด้วยเป็นครั้งแรก ใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชั่วโมง

ลั่นทุกอย่างจบ-ไม่เปลี่ยนแปลง

พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์หลังการประชุมกก.บห.ว่า การประชุมวันนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็เหมือนเดิม จบแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อจะมีการเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ ต่อข้อถามว่าร.อ.ธรรมนัส ยังเป็นเลขาธิการพรรคอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวเสียงดังว่า ก็บอกแล้วว่าไม่เปลี่ยนแปลงแล้วจะถามอะไร เมื่อถามว่าได้พูดถึงการปรับโครงสร้างพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พูดเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ละกลุ่มในพรรคจะอยู่ร่วมกันและทำงานด้วยกันได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “โอ๊ย ไม่มีอะไร” ต่อข้อถามว่าหากเป็นเช่นนี้ยังจะทำงานร่วมกับ นายกฯ ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ได้

นายกฯ ก็ทำในส่วนของนายกฯ เดี๋ยวจะหาว่านายกฯ มาก้าวก่ายพรรคอีก ส่วนที่สมาชิกบอกว่าถ้าร.อ.ธรรมนัส ยังอยู่อาจจะเป็นปัญหาในการประสานงาน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี

ยิ้มร่า – ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยิ้มร่าออกจากพรรคพลังประชารัฐ หลังร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรคที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน โดยยังเป็นเลขาธิการพรรค ต่อไป เมื่อวันที่ 28 ต.ค.

‘ธรรมนัส’ยิ้มร่า-ทำงานต่อ

ด้านร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า ขอให้รอการแถลงข่าวจากทางพรรคและหัวหน้าพรรค ยืนยันบรรยากาศการประชุมไม่มีการทะเลาะกัน ปัญหาทุกอย่างยุติลงแล้ว มั่นใจว่าสมาชิกจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และคงไม่ต้องมีการพูดคุยเรื่องเก่ากันอีก ตามที่หัวหน้าพรรคต้องการให้ปัญหาทุกอย่างจบที่ตนเอง แล้วเดินหน้าทำงาน โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น และตนคงไม่ต้องปรับเปลี่ยนท่าทีอะไร เพราะแต่ละคนก็ทำงานของตัวเองต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเลขาธิการพรรคยังคงเป็นคนเดิม จะทำงานร่วมกับนายกฯ ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่จะพูดคุยกันเอง ตนขอทำงานตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวนายกฯ ต่อสายตรง เพื่อพูดคุยถึงปัญหาความขัดแย้ง

พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า หัวหน้าพรรคพูดแล้วว่าทุกอย่างจบหมดแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร วันนี้เป็นเพียงการปรับโครงสร้างภายในเท่านั้น ให้รอดูว่าจะปรับอย่างไร แต่ไม่มีให้ใครเข้ามาเพิ่ม และทุกอย่างเรียบร้อยดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าในที่ประชุมได้มีการเคลียร์ใจระหว่างร.อ.ธรรมนัส กับแกนนำกลุ่มสามมิตร หรือไม่ พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า ไม่มีอะไร ทุกอย่างจบหมดแล้ว วันนี้แค่มามาพูดคุยกันเท่านั้น และเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้และไม่มีข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

3 บิ๊กแถลงสยบรอยร้าว

เวลา 15.00 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กก.บห. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กก.บห. ร่วมแถลง

นายวิรัชกล่าวว่า ทุกอย่างจบในที่ประชุม โดยพล.อ.ประวิตร มอบตน นายสุชาติและนายชัยวุฒิ มาแถลงว่าในพรรค ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างในพรรคทั้งหมดจบที่พล.อ.ประวิตร ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ยังเป็นเลขาธิการพรรคต่อไป เหมือนเดิมทุกอย่าง พูดคุยครบแล้วทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังคงสนับสนุนพล.อ. ประยุทธ์ เหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐยืนยันว่าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ต่อข้อถามว่า จะทำให้นายกฯเชื่อใจและหายคลางแคลงใจได้อย่างไรในเมื่อร.อ.ธรรมนัส ยังเป็นเลขาธิการพรรคอยู่ นายวิรัชกล่าวว่า ถามอย่างนี้ก็คงไม่จบ พวกตนคลางแคลงใจเพราะคำถามแบบนี้ เมื่อถามว่านายกฯสบายใจได้ใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองอะไรอีก นายวิรัชกล่าวว่า ไม่มี ขอยืนยัน

ด้านนายสุชาติกล่าวว่า เราคุยกันทุกอย่างมีเป้าหมายเดียวกันว่าทุกอย่างจบที่หัวหน้าพรรค เวลาที่เหลืออีก 1 ปีกว่าเราเตรียมตัวสร้างพรรคให้เข้มแข็งเพื่อการเลือกตั้ง เพราะเรามีจุดศูนย์รวมอยู่ที่พล.อ.ประวิตร

นายชัยวุฒิกล่าวว่า ในที่ประชุมกก.บห.ได้ทำความเข้าใจกัน ซึ่งพล.อ.ประวิตร จะเป็นคนขับเคลื่อนพรรคการเมืองต่อไป ทุกอย่างไม่มีความขัดแย้งอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่ายังแคลงใจกันอยู่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ระบุว่าต้นตอของปัญหาคือ ร.อ.ธรรมนัส นายชัยวุฒิกล่าวว่า เป็นเรื่องในอดีต วันนี้เราก้าวไปข้างหน้าต้องคุยไปในทิศทางเดียวกัน และให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ

‘บิ๊กตู่’เลิกพูดเรื่องพปชร.

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ในที่ประชุมกก.บห. บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีคนใดแสดงความเห็นเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยพล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ขอให้จบทุกอย่าง ไม่ต้องพูดเรื่องเดิมอีก ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อ ต้องจบแล้วนะ” ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ที่เป็นผู้นำเสนอพิมพ์เขียวการจัดทำโครงสร้างระดับภาค เสนอวางยุทธศาสตร์พรรคใหม่ โดยมีการกระจายอำนาจเป็นภาคให้ ส.ส.ในภาคนั้นเลือกหัวหน้าภาคกันเองรวม 10 ภาค รวมถึงรัฐมนตรีคนใดอยู่ภาคไหนให้ดูแลภาคนั้น ข้ามภาคไม่ได้ เพื่อให้พรรคเกิดความเข้มแข็ง และเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งที่ประชุมพอใจกับแนวทางดังกล่าว

ภายหลังประชุมจบ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส และกก.บห.ได้พยายามเป็นกาวใจระหว่างนายวิรัช กับนายสุชาติ โดยเสนอว่าให้รัฐมนตรี 2-3 กอดคอกันเพื่อให้ดูเป็นเอกภาพ เมื่อพล.อ.ประวิตรได้ยิน จึงระบุว่า ดีแล้ว พร้อมพูดหยอกล้อว่า “กอดคอกันไป จะขี่คอกันก็ได้” ซึ่งหลังการประชุมปรากฏภาพนายวิรัช นายสุชาติ นายชัยวุฒิ และกก.บห.อีกหลายคน จับกลุ่มพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นนานแล้ว และยังมีรายงานข่าวว่า ในวันที่ 6 พ.ย. พล.อ.ประวิตร มีกำหนดลงพื้นที่ จ.นราธิวาส พร้อมกับรัฐมนตรีของพรรคทุกคน

เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ ถึงความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐ ทันทีที่ได้ยินคำถาม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างรำคาญว่า ‘หึ้ย ไม่ละๆ พอแล้วๆ” พร้อมยกมือห้ามตัดบท ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

ส.ส.เดือด-แฉถูกขาใหญ่อมเงิน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับการหารือระหว่าง พล.อ.ประวิตรกับแกนนำและส.ส.ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ช่วงเปิดโอกาสให้ส.ส.ระบายความอึดอัดในการทำงาน นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ ระบุว่า รายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งบอกว่า ส.ส.ชัยภูมิของพรรค 2 คนจะไปอยู่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพราะมีสมาชิกในที่นี้เป็นพวกจินตนาการ ตาบอดคลำช้าง หาว่าตนไปรับเงินมา ยืนยันว่าตนอยู่กับพรรค ไม่มีการไปรับเงินใคร การเสนอแนวทางกับหัวหน้าพรรคเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยครั้งที่แล้ว เพราะมีแกนนำพรรคบางคนที่ดูแลภาคอีสาน ดูแลค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ตกลงกันไว้จำนวนหนึ่งแต่พอการพูดคุยครั้งสุดท้าย มาบอกกับตนว่าพวกคุณเป็นส.ส.ใหม่ หัวหน้าพรรคไม่ไว้วางใจ เอาไปแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้ามาค่อยมารับคืน

ทำให้มีแกนนำคนหนึ่งชี้แจงทันทีว่า เงินจากหัวหน้าพรรคที่จ่ายมา เฉลี่ยตามความเหมาะสม ส่วนที่มีข่าวรายงานว่านายสัมฤทธิ์ไปรับเงินพรรคภูมิใจไทย ตัวเองก็มีสายในพรรคภูมิใจไทย ทราบว่าเตรียมการจะส่งลูกสาวลงสมัคร ส.ส.แทน ซึ่งนายสัมฤทธิ์โต้ทันทีว่า ระบบเลือกตั้งใหม่ จ.ชัยภูมิ มีเขตเลือกตั้งเพิ่ม 1 เขต ซึ่งเขตนั้นส่วนหนึ่งเป็นเขตเดิมของตนเอง ขอย้ำว่าที่บอกว่าตนไปรับเงินใครนั้นไม่จริง เพราะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เอาไว้หมดวาระถึงจะตัดสินใจ

ด้าน พล.อ.ประวิตรระบุว่า ที่ผ่านมาสนับสนุนค่าใช้จ่ายไปเยอะมาก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้ ต่อไปจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ขึ้นอีก

เพื่อไทยประชุมใหญ่คึกคัก

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ภายใต้แคมเปญ “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” มีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งกก.บห. และเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ชุดใหม่ โดยมีสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานจำนวนมาก ท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่าง เข้มงวด

ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานของพรรคตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย พร้อมแจกเสื้อยืดสีแดงข้อความว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” และเสื้อแจ๊กเกตสีแดงข้อความเพื่อไทยเป็นสีขาว รวมทั้งมีการเสวนาหัวข้อ “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” โดยแกนนำพรรคและคนรุ่นใหม่ของพรรคสลับขึ้นมานำเสนอแนวคิดที่พรรคเพื่อไทยจะทำในอนาคต จากนั้นเป็นการเดินแบบชุดผ้าครามสกล โดย ส.ส.ชายและหญิง ซึ่งระหว่างเดิน น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ชู 3 นิ้วบนเวทีด้วย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค กล่าวว่า วันนี้จะเป็นวันที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของพรรค มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในอนาคตเพราะมีการพูดคุยกันแล้ว ยืนยันวันนี้จะยังไม่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ตอนนี้มีประมาณ 3 รายชื่อ แต่การเปิดตัวต้องผ่านกก.บห.ก่อน ช่วงนี้จึงอาจเร็วเกินไป เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งจะเปิดรายชื่อทันที

‘สมพงษ์’ลาออกจากหน.พรรค

เวลา 12.10 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นเวลาของคนรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญ เพื่อร่วมมือร่วมใจกับประชาชนช่วยสร้างวันพรุ่งนี้ให้เป็นอนาคตและความหวังของคนไทยทุกคน ตนมีความตั้งใจตั้งแต่แรกว่าเมื่ออายุครบ 80 ปี คงจะต้องละมือทางการเมือง แต่ยังติดที่จังหวะเวลา ดังนั้นนี่คือช่วงโอกาสและจังหวะพอดี ตนถือโอกาสในวันนี้ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม้เข้ามาทำหน้าที่ต่อ ซึ่งตนและคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์จะทำหน้าที่คณะกรรมการสนับสนุนยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองของพรรค

“วันนี้ภายใต้การบริหารของหัวหน้าพรรคคนใหม่ และที่ปรึกษาคณะทำงานคนรุ่นใหม่ ผมเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นความหวังที่เป็นจริง นำอนาคตที่สดใส นำความเชื่อมั่นจากประชาชนมาสู่ประเทศไทย เพื่อประชาชนคนไทยในอนาคต เป็นที่พอใจของประชาชน และช่วงนั้นเราจะได้รับความภาคภูมิใจในฐานะพรรคเพื่อไทยที่ทำงานเพื่อประชาชนโดยตรง” นายสมพงษ์กล่าว

เปิดตัว – ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร เปิดตัวบนเวทีในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ที่จ.ขอนแก่น ขณะที่นายทักษิณและนายพานทองแท้ (รูปเล็ก) บิดาและพี่ชายติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ที่ดูไบ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.

‘อุ๊งอิ๊ง’นั่งปธ.คณะที่ปรึกษาฯ

จากนั้นนายสมพงษ์ได้เปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร เข้ารับตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอขอบพระคุณหัวหน้าและผู้บริหารพรรคที่ได้แต่งตั้งตนมารับหน้าที่ดังกล่าว เป็นหน้าที่ที่ต้องเชื่อมต่อระหว่างรุ่นสู่รุ่น ให้แต่ละรุ่นเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิด วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมมีความสำคัญมาก มนุษย์ที่อยู่ร่วมกันจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานทางความคิดร่วมกัน เราต้องพยายามเข้าใจรุ่นที่ไม่ใช่รุ่นเดียวกับเรา ให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยความเข้าใจ พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน จะต้องเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ทุกวัย

ตนสัมผัสการเมืองตอนอายุแปดขวบ คุณพ่อเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ตอนเก้าขวบคุณพ่อเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ตนได้มีโอกาสได้พบปะประชาชน อีกสองสามปีต่อมาคุณพ่อตั้งพรรคไทยรักไทยซึ่งเป็นชื่อที่อยู่ในใจเสมอ รู้สึกผูกพันกับชื่อนี้ คุณพ่อพาไปหาเสียงตามพื้นที่ต่างๆ ตลอดเวลาที่ติดตามคุณพ่อ สงสัยว่าทำไมคุณพ่อทุ่มเทโดยไม่เหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้ จนวันนี้เข้าใจแล้วว่าเมื่อท่านไปพบประชาชน แบ่งเบาความทุกข์ประชาชน นั่นคือพลังใจที่แท้จริง ท่านได้ช่วยให้คนไม่มีโอกาสให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นในชีวิตดีกว่าที่เป็นอยู่ นั่นคือพลังใจของคุณพ่อ

เผย‘แม้ว’หวังได้กลับไทย

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คิดว่าพรรคเพื่อไทยอาจมีโอกาสได้เป็นพรรคการเมืองหลักและเข้ามาแก้วิกฤตต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง สังคมและวิกฤตโอกาสของคนรุ่นใหม่ ตนจึงตอบรับเป็นที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ตั้งใจอยากใช้ประสบการณ์ของคนเจนวายเข้ามาร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อพัฒนาโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ได้มีความหวัง ความฝัน และทำความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง

ตนอยากปฏิรูป 3 เรื่องหลักคือ 1.ปฏิรูปการศึกษา เพราะการเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยมาก 2.ปฏิรูปเทคโนโลยีต้องเข้าถึงเทคโนโลยีให้มากกว่านี้ และ 3.จะต้องส่งเสริมซอฟต์ เพาเวอร์อย่างจริงจังเหมือนเกาหลี บราซิล ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเสรีภาพทางความคิด ดังนั้นผู้นำของประเทศจะต้องมีหัวใจประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

“ขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนพรรค เพื่อไทย คิดว่าแนวคิดเหล่านี้จะทำให้พรรคเพื่อไทยกลายเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง ทุกรุ่น ทุกวัย ทุกฐานะทางสังคมและทุกภาคส่วน ไม่ว่าคนไทยจะคิดต่างกันอย่างไร เราล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน และอยากเห็นประเทศเจริญก้าวหน้าต่อไป ดิฉันจะตั้งใจทำงานเต็มที่ แม้จะไม่ใช่นักการเมือง แต่ขอมุ่งมั่นทำงานด้วยความตั้งใจจริงในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ในฐานะลูกของคุณพ่อที่ไม่เคยลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมพี่น้องคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และคุณพ่อหวังว่าจะได้กลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง และกราบ ผู้มีพระคุณ” น.ส.แพทองธารกล่าว

ไม่ปิดประตูแคนดิเดตนายกฯ

น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้เข้ามาเป็นนักการเมือง และไม่ใช่นักการเมือง เป็นเพียงที่ปรึกษาพรรค จะมาทำงานด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ ด้วยหัวใจที่อยากผลักดันให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสที่มากขึ้นกว่านี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าการตัดสินใจครั้งนี้คิดนานหรือไม่ และได้คุยกับพ่ออย่างไรบ้าง น.ส. แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ เรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นเรื่องที่เราคุยกันอยู่แล้วในครอบครัว เราอยากส่งเสริมและเน้นตรงนี้จริงๆ เราไม่ได้ถนัดการเมือง ดังนั้นการเข้ามาตรงนี้โดยไม่ใช่นักการเมืองคิดว่ารู้สึกสบายใจมากกว่า

เมื่อถามว่าถ้าในอนาคตถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย จะทำตรงนั้นได้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังค่ะ คิดว่าขอทำตรงนี้เพื่อดูตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร และเสียงตอบรับของคนในพรรคด้วย ไปไหนเราก็ทำงานร่วมกันเป็นทีม วันนี้เพิ่งมาใหม่ตรงนี้ อย่างไรก็ขอกำลังใจด้วย ถ้าทำงานผิดพลาดตรงไหน อย่างไร ขอให้แนะนำกันด้วย คุณพ่อ คุณแม่ พี่ๆ สามี ลูกให้กำลังใจเสมอ ขอตั้งใจทำหน้าที่ได้รับมอบหมายตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน อย่างอื่นก็รอไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาอนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคตไป

จากนั้น น.ส.แพทองธาร เป็นตัวแทนรับมอบข้าวสาร 15 ตัน หรือ 3,000 กระสอบ จากโรงสีข้าว ส.ไทยเจริญ จ.สุรินทร์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคอีสาน ผ่านทางส.ส.พรรคเพื่อไทย แล้วมาเลือกซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภคเพิ่มเติมที่ร้านเจ้รัช ถนนกลางเมือง เพื่อนำไปประกอบ ถุงยังชีพให้มีความหลากหลายมากขึ้น

‘ชลน่าน’นั่งหน.-ตั้ง 23 กก.บห.

ต่อมาเวลา 13.30 น. ภายหลังจากนายสมพงษ์ลาออกจากหัวหน้าพรรค ทำให้กก.บห.สิ้นสภาพไปด้วย จึงต้องเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ โดยที่ประชุมเสนอชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน เป็นหัวหน้าพรรคเพียง รายชื่อเดียว จากนั้น นพ.ชลน่านเสนอรายชื่อ กก.บห. 23 คน ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค 4 คน นายสุทิน คลังแสง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ นายสรวงศ์ เทียนทอง อดีตรมช.สาธารณสุข ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เป็นเลขาธิการพรรค

รองเลขาธิการพรรค 8 คน ได้แก่ นาย วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล น.ส.อรุณี กาสยานนท์ นายจิรวัฒน์ ศิริพาณิชย์ ส.ส.มหาสารคาม นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม

กก.บห. 6 คน ได้แก่ น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย นายพชร นริพทะพันธุ์ น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส. อุบลราชธานี และ น.ส.ธีราภา ไพโรหกุล ,นายทะเบียนพรรค 1 คน คือ นายจักรพงษ์ แสงมณี ,เหรัญญิกพรรค 1 คน คือ นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีตส.ส.เพชรบูรณ์ ขณะที่โฆษกพรรค คือ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. นอกจากนี้ ยังเลือกคณะกรรมการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้ง 15 คนด้วย

ที่ประชุมยังตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย โดยมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายเสนาะ เทียนทอง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นที่ปรึกษา นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นประธานคณะกรรมการ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นกรรมการและเลขานุการ

พร้อมนำทัพทำลายเผด็จการ

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเศรษฐกิจ สุขภาพ และสิทธิเสรีภาพ ที่มาจากการบริหารงานรัฐบาลที่ยังขาดองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแก้ปัญหาไม่ตรงจุด วันนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน โดยใช้ประสบการณ์ และสติปัญญาที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีต รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ มาเป็นพลังในการนำพาประเทศก้าวข้ามวิกฤต เพื่อนำไปสู่อนาคตที่สดใส มั่นคง แก้ปัญหาที่ยังถูกปิดกั้นอยู่

ตนจะไม่ขอสัญญาแต่จะลงมือทำอย่างทันที เพื่อสร้างความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยพร้อม เดินหน้าสานต่อภารกิจในการตอบสนองความต้องการของประชาชนตามสโลแกน “พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน“ และ “พรุ่งนี้ เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” และจะปรับตัวเองให้รู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และเข้าถึงคนทุกกลุ่มทุกวัย เพื่อสร้างความเข้าใจในความแตกต่าง รวมถึงเร่งจัดทำนโยบายทั้งเศรษฐกิจ เกษตร การศึกษา การพัฒนาพื้นฐาน และการเป็นประชาธิปไตย ที่เน้นการรับฟังและการมีส่วนร่วม เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ และทำลายเผด็จการที่ยังแฝงตัวอยู่ และอาสาจะมาปลดทุกข์ เพิ่มสุข และสร้างอนาคตให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเข้ามาในช่วงที่ลูกสาวนายทักษิณ มาร่วมงาน จะถูกมองว่าจะเป็นนอมินีหรือไม่ นพ.ชลน่าน ยืนยันไม่มีการควบคุมแน่นอน เพราะโครงสร้างที่ออกมาเป็นการวางโครงสร้างแบบเปิดให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน ไม่มีการครอบงำแน่นอน

ก้าวไกลเหน็บว่าที่ผู้นำหุ่นเชิด

ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล(ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัว น.ส.แพทองธาร ร่วมงานว่า การเป็นพรรคที่ประชาชนคาดหวังต้องเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ใช่ของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือกลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง การเข้ามาสู่การเมืองทุกคนเข้ามาได้ตามกระบวนการประธิปไตยในพรรค ไม่ใช่เอาใครที่ไหนมาแล้วก็อยู่ในตำแหน่งสูง จะทำให้ความเชื่อถือในการเป็นสถาบันทางการเมืองลดน้อยลง

ส่วนน.ส.แพทองธาร จะได้เป็นแคนดิเดต นายกฯ พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค แต่ถ้าจะมาพรรคก้าวไกลก็พร้อมแข่งขัน เชื่อว่าประชาชนต้องการผู้นำที่ไม่ใช่หุ่นเชิด ต้องการผู้นำที่เกิดจากความสามารถของตัวเอง มีวิสัยทัศน์ และมาต่อสู้ทางการเมืองด้วยขาของตนเอง ประชาชนตรวจสอบในทุกแง่มุม รวมถึงแสดงผลงานด้วยตัวเองในสภา ประชาชนไม่อยากได้หุ่นเชิดและไม่มีอะไรเลย อาศัยบารมีคนอื่นขึ้นมา และเชื่อว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีความพร้อม เพราะออกมาแสดงตัวตั้งแต่ต้นและต่อสู้ให้เห็น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน