ปชป.แทงสวน-ค้านเต็มที่
บิ๊กแป๊ะถอย-ชิงผู้ว่ากทม.

เพื่อไทยแถลงผลักดันสภา แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116 ก้าวไกลพร้อมร่วมมือ พปชร.ยันไม่แก้ ปชป.ไม่แตะ เตรียมค้านเต็มที่ ‘วิษณุ’ ชี้เสนอเข้าสภาได้ตามปกติ รัฐบาลไม่ต้องรับรอง เพราะไม่ใช่กฎหมายการเงิน รุ้ง-แอมเนสตี้ ยื่น 2.8 หมื่นชื่อ จี้ ‘บิ๊กตู่’ ยุติคดีผู้ชุมนุม-ปล่อยตัว นักกิจกรรมทางการเมือง ‘ชวน’ หารือวิป 2 ฝ่ายรับเปิดสภา วางโปรแกรมรัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรธน.ฉบับประชาชน 16 พ.ย. ‘ป้อม’ ยันเอง ไม่ต้องห่วงเสียงโหวต ‘อุ๊งอิ๊ง’ เข้าพรรคเพื่อไทยวันแรก ปลื้มกระแสตอบรับ ‘บิ๊กแป๊ะ’ แจ้งทีม ส.ก. ไม่ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. วุฒิสภาตีตก ‘วิวัฒน์ ตามี่’ เอ็นจีโอชนกลุ่มน้อย นั่งกสม.

พท.ยันผลักดันแก้ ม.112, 116

เวลา 11.30 น. วันที่ 1 พ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค กล่าวกรณีพรรคมีท่าทีผลักดันการแก้ไขมาตรา 112 และมาตรา 116 ว่า พรรคไม่ได้นิ่งเฉย ได้รวบรวมข้อเรียกร้องจากการชุมนุมเพื่อนำมาสู่ที่ประชุมและผลักดันเข้าสู่สภาต่อไป เสียงของทุกคนมีคุณค่า มีความสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามและละทิ้งไปได้

จึงเป็นที่มาของแถลงการณ์พรรคเพื่อให้เกิดการทบทวนมาตรา 112 และมาตรา 116 ไปจนถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ไปจนถึงการติดตามและเรียกร้องให้ประกันตัวแก่นักเคลื่อนไหว หรือผู้เห็นต่างทางการเมือง เราจะใช้ช่องทางสภาอย่างถึงที่สุด ต้องไม่นิ่งนอนใจปล่อยเรื่องเหล่านี้เงียบไป

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค พท. เสริมว่า เราจะดำเนินการต่ออย่างป็นรูปธรรม นำข้อเสนอของพี่น้องประชาชนเข้าสู่สภา สอดประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด เราจะเอาจริงเอาจัง

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าการเสนอแก้มาตรา 112 และมาตรา 116 จะเป็นชนวนความขัดแย้งรอบใหม่ น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ถ้ามีความขัดแย้งก็เชื่อว่าสภาจะเป็นที่ที่แก้ไขความขัดแย้งในสังคมได้ดีที่สุด

ยันตรวจสอบถึงการสั่งการ

ทั้งนี้ กลางดึกวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เพจพรรค พท.เผยแพร่แถลงการณ์ของนาย ชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองของพรรค ระบุ ปัญหาการใช้กฎหมายอาญาดำเนินคดีเพื่อจำกัดความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างอย่างล้นเกิน ไม่ว่าจะเป็นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตรา 116 พ.ร.บ.คอม พิวเตอร์ หรือความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สร้างผลกระทบให้ประชาชน

ตามที่ภาคประชาชนเรียกร้องและเสนอร่างแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการ กระทำดังกล่าว พท.ในฐานะพรรคที่มีเสียงสมาชิกมากที่สุดในสภา พร้อมนำข้อเสนอ ดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา เพื่อตรวจสอบระบบการทำงานของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ตำรวจ อัยการ ศาลและราชทัณฑ์ ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่หรือใช้ดุลพินิจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ และตรวจสอบการสั่งการโดยรัฐบาล รวมถึงการแก้ไขกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เพื่อให้นักโทษทางความคิดได้รับการปล่อยตัว และไม่ให้เกิดนักโทษทางความคิดเพิ่มขึ้นอีก

ชี้แก้ 112 เป็นอำนาจรัฐสภา

นายชัยเกษม กล่าวถึงการออกจดหมายเปิดผนึก ข้างต้น ว่า ประเด็นหลักของพรรค คือการเรียกร้องให้พิจารณาปล่อยนักโทษทางความคิด ทุกคนควรมีเสรีภาพทางความคิดและควรได้รับการประกันตัวตามสิทธิอย่างเท่าเทียม พรรค พท.มีจุดยืนที่ชัดเจนที่จะรับฟังความคิดเห็นประชาชน อันเนื่องมาจากปัญหาการใช้กฎหมายของฝ่ายบริหารที่ลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐาน จนทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกที่รุนแรงมากขึ้น โดยการนำข้อเรียกร้องของประชาชนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภา

เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคกรณีบางกลุ่มเสนอให้ยกเลิกมาตรา 112 นายชัยเกษม กล่าวว่า กระบวนการพิจารณาแก้ไขกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา จุดยืนของพรรคมีเจตนาเพื่อให้นักโทษทางความคิดได้รับการปล่อยตัว และไม่ให้เกิดนักโทษทางความคิดเพิ่มขึ้นอีก ส่วนการจะแก้ไขกฎหมายใดและมีเนื้อหารายละเอียดอย่างไรเป็นอำนาจของรัฐสภา

ก้าวไกลชี้เรื่องดี-จับมือพท.ลุยแก้

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า การที่หลายๆ พรรคมาร่วมแก้ไขมาตรา 112 เป็นเรื่องที่ดี ถือว่าเห็นความสำคัญกับปัญหานี้ ก่อนหน้านี้ ก.ก.พยายามสื่อสารและทำงานทางความคิดต่อสังคมว่ามาตรา 112 เป็นปัญหาทางการเมืองที่สำคัญ จำเป็นต้องใช้กลไกทางการเมืองแก้ปัญหา และเคยเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 ด้วย เมื่อพรรคการเมืองเริ่มพูดเรื่องนี้มากขึ้นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อถามว่ากังวลจะแย่งฐานเสียงกันหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าไปมองว่าเป็นการแย่งฐานคะแนนเสียง แต่ให้มองเป็นเรื่องที่ดีที่พรรคการเมืองและสังคมมาพูดเรื่องนี้มากขึ้น เป็นความสำเร็จในการทำงานความคิดทางสังคม

นายรังสิมันต์ โรม รองเลขาธิการพรรค ก.ก. โพสต์เฟซบุ๊กระบุ นี่คือนิมิตหมายอันดีที่ฝ่ายการเมืองจะเริ่มต้นสะสางปัญหาเรื้อรัง ที่ถูกผู้มีอำนาจฉวยใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างผู้เห็นต่างทางการเมืองมาช้านาน พรรคเคยยื่นเสนอชุดร่างกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพการแสดงออก รวมถึงการแก้ไขบทบัญญัติว่าด้วยการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ แต่ไม่ถูกนำเข้าบรรจุในระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา วันนี้พรรค พท.ที่ขึ้นชื่อว่ามีเสียงสมาชิกมากที่สุดในสภาแสดงจุดยืนดังที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว เชื่อว่า พท.จะช่วยเป็นกำลังสำคัญในการแก้มาตรา 112 ร่วมกัน

วิษณุไม่ขัด-ชงสภาได้เลย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค การเมืองเคลื่อนไหวให้แก้ไขมาตรา 112 และมาตรา 116 ว่าก็เหมือนการแก้กฎหมายทั้งหลาย ถ้าเสียงส่วนใหญ่ในสภาเห็นด้วยก็ถือเป็นสิทธิ์ของส.ส. และกฎหมายดังกล่าวไม่ใช่กฎหมายการเงินไม่ต้องให้รัฐบาลรับรอง สามารถเข้าชื่อเสนอต่อสภาได้ตามปกติ ส่วนเมื่อเสนอเข้าไปแล้วจะหยิบยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ หรือเลื่อนมาเมื่อไร เพราะมีกฎหมายอยู่ในวาระพิจารณาจำนวนมากก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และต้องเข้าสู่การพิจารณาทีละสภา

“เหมือนแก้กฎหมายประมวลอาญาทั่วไป ยอมรับกฎหมายที่มีความเคลื่อนไหวเสนอแก้นั้นมีความละเอียดอ่อน ทุกคนก็รู้อยู่ ซึ่งความละเอียดอ่อนจะไปมีตอนที่มีการอภิปรายว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้าน” นายวิษณุกล่าว

ปชป.ยันจุดยื่นไม่แก้ ม.112

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวให้ยกเลิกมาตรา 112 ว่า ตนยืนยันไปชัดเจนหลายครั้งว่าทิศทาง จุดยืนพรรคยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ชัดเจนและไม่เปลี่ยนแปลง สถานการณ์ของกฎเกณฑ์ กติกาประเทศปัจจุบันคือรัฐธรรมนูญมีความจำเป็นที่ต้องได้รับการแก้ไขไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่มาตรา 112 พรรคไม่มีความคิดจะไปแก้ไข เป็นสิ่งที่พรรคพูดมาตลอด

เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพูดว่าหากพรรคไหนไม่แก้มาตรา 112 ก็อย่าไปเลือก นายจุรินทร์กล่าวว่า สิ่งนี้เป็นจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค เรายึดมั่นเสมอมาและตลอดมา ฉะนั้นคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับอุดมการณ์เรื่องนี้

ลั่นค้านเต็มที่ถ้าเข้าสภา

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป. กล่าวว่า พรรคไม่มีนโยบายแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 เนื้อหาสาระสำคัญของมาตราดังกล่าวไม่ได้ไปสร้างความเสียหาย ความไม่เป็นธรรมให้กับใคร ต้องมองที่การกระทำของบุคคลมากกว่าตัวบทกฎหมาย เมื่อมีการก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันผิดถูกก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ชัดเจนว่ามาตรา 112 ไม่ได้ขัดหรือแย้งต่อหลักนิติธรรมหรือรัฐธรรมนูญ แต่อาจขัดใจผู้คิดไม่ดีต่อบ้านเมือง หากมีการยื่นร่างแก้ไขมาตรา 112 ต่อรัฐสภา พรรคพร้อมค้านเต็มที่

มาตรา 112 ไม่ได้เป็นปัญหาตามที่มีผู้บิดเบือน การเสนอแก้มาตรา 112 ต่อสภา พรรคไหน ใครอยากทำก็ไม่มีใครห้ามได้ ส่วนพรรค ปชป.ไม่มีแนวคิดยกเลิก หากมีการยื่นเข้าสภาเมื่อใดก็ต้องสู้กัน เราสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด”

‘ชวน’หารือวิป 2 ฝ่ายรับเปิดสภา

เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมร่วมกับวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประธานวิปรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ประธานวิปฝ่ายค้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อหารือถึงรายละเอียดการนัดประชุมสภา

นายชวนให้สัมภาษณ์ว่า การนัดประชุมวันนี้เพื่อหารือเบื้องต้นถึงการเปิดสมัยประชุมสภาครั้งใหม่ว่า จะขอเพิ่มวันประชุมสภาในวันศุกร์ ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ส่วนวันที่ 3-5 พ.ย. และวันที่ 8-9 พ.ย.จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา โดยหารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา แล้วว่ายังมีร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ค้างการพิจารณาอยู่ ต้องพิจารณาให้จบ

จากนั้นอาจพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับประชาชน เพราะได้อนุมัติให้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมแล้ว เรื่องที่จะขอที่ประชุมเป็นพิเศษคือเรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้วในสมัยประชุมที่แล้ว ยังค้างอยู่เพราะหยุดประชุมไป 4 สัปดาห์เนื่องจากโควิด-19 และเรื่องที่ค้างเป็นจำนวนมากคือเรื่องเพื่อทราบ จะขอความร่วมมือ ส.ส.ให้ใช้เวลาพิจารณาที่เป็นประโยชน์มากที่สุดก็มีเสียงตอบสนองที่ดี

16 พ.ย.ถกร่างแก้รธน.ฉบับปชช.

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ประธานวิปพรรคก้าวไกล กล่าวถึงผลประชุมว่า ที่ประชุมสรุปแล้วว่า วันที่ 16 พ.ย.เป็นการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับประชาชน ส่วนอื่นๆ เป็นการหารือ กำหนดว่าจะพิจารณาเรื่องอะไรวันไหน โดยสัปดาห์นี้จะประชุม 3 วัน คือ 3-5 พ.ย. นายชวนได้ขอความร่วมมือจากพรรคการเมืองเรื่องจำกัดผู้อภิปรายให้ลดลงเพื่อให้งานเดินหน้าได้เร็วขึ้น

นายวิรัชกล่าวว่า สัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์ที่สามของเดือนจะประชุมสภาสัปดาห์ละ 3 วัน เพื่อพิจารณากฎหมายที่ยังค้างและเรื่องที่กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว เนื่องจากต้องโหวตทีละมาตรา สำหรับเรื่ององค์ประชุมที่มีความกังวลว่าจะครบหรือไม่ ในส่วนของ พปชร. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค มีมาตรการคุมเข้มในส่วนที่ ส.ส.ขาดการประชุม ลาโดยไม่มีเหตุผลสมควรก็ต้องมีบทลงโทษ

ป้อมยันเองไม่มีป่วนสภา

ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ส.กังวลเรื่องเกมการเมืองช่วงเปิดสภาว่า ไม่มีอะไรต้องห่วงและกังวล โดยเฉพาะส.ส.พรรค พปชร. ได้กำชับให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

แจงจุดยืนพปชร.เรื่องม.112

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงข้อเสนอให้แก้ มาตรา 112 และมาตรา 116 ว่า พรรค พปชร. มีเป้าหมายและจุดยืนเรื่องการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมุ่งการเดินหน้าแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในสังคม แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันหลัก ธำรงไว้ ให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้

พปชร.มีบทลงโทษสส.ขาดสภา

ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีแจ้งผ่านกลุ่มไลน์ ส.ส.พปชร. เรียกประชุม 2 พ.ย.นี้ เวลา 15.00 น. ที่อาคารที่ทำการพรรค ถ.รัชดาฯ เนื่องจากมีประชุมสภา 3-4 พ.ย. และประชุมร่วมกันของรัฐสภา 5 พ.ย. พร้อมแจ้งว่าในการประชุมพรรคจะแจ้งบทลงโทษสำหรับผู้ขาดประชุม หรือผู้ที่ขาดลงมติ สำหรับสมัยประชุมนี้

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า พล.อ.วงษ์สุวรรณกำชับ ส.ส.ประชุมสภาให้ครบถ้วน ส่วนบทลงโทษมีระเบียบข้อบังคับพรรคอยู่แล้ว โดยจะใช้อย่างเคร่งครัด ต้องเอาจริงเพื่อให้การประชุมหรือการโหวตเรียบร้อย ส่วนการปรับโครงสร้างหัวหน้าภาคใหม่ครั้งนี้จะให้ส.ส. แต่ละภาคเลือกหัวหน้าและรองหัวหน้าภาค โดยมีลายเซ็นส.ส.ภาคนั้นๆ รับรอง และนำเรียนหัวหน้าพรรค 4 พ.ย.นี้

นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ให้สัมภาษณ์ว่าการเปลี่ยนระบบมาให้ส.ส.เลือกกันเอง ดีกว่าเดิม เพราะทุกคนจะได้รับการยอมรับ แบบเดิมก็ดีไม่ได้มีอะไรขัดแย้ง เพียงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจมีบางเขตที่มีปัญหาไม่ยอมรับกัน นอกนั้นปกติดี ส่วนการให้เลือกหัวหน้าภาคกันเองจะส่งผลต่อบทบาทของพล.อ.ประยุทธ์ในพรรคเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกัน และ 80 เปอร์เซ็นต์ หัวหน้าภาคก็ยังคงเป็นคนเดิม

ผู้ใหญ่ขอ-บิ๊กแป๊ะไม่ลงผู้ว่าฯกทม.

ที่อาคารปานศรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ได้เรียกประชุม ส.ก. 50 คน ที่จะลงสมัครในนามกลุ่มตนเอง พร้อมแจ้งจะไม่ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ทำให้ ส.ก.ทั้งหมดตกใจ เพราะพล.ต.อ.จักรทิพย์ ลงพื้นที่สม่ำเสมอ ไม่มีทีท่าถอดใจ โดยระบุว่า “ผมไม่อยากให้ผู้ใหญ่ที่เคารพต้องลำบากใจ จึงขอยุติการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.”

รายงานแจ้งว่า สาเหตุหนึ่งเนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ประกาศจะส่งส.ก.ในนามพรรคทั้ง 50 เขต ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีคนที่จะลงสมัครทั้ง 50 เขตเช่นกัน จึงไม่อยากแข่งกันเอง อีกทั้งเคยปรารภไม่ต้องการแข่งกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. รุ่นพี่ที่ใกล้ชิดกัน และระยะหลัง ร.อ.ธรรมนัส มีท่าทีหันไปสนับสนุน พล.ต.อ.อัศวิน มากกว่า จึงอาจเป็นเหตุผลในการตัดสินใจ ซึ่งไม่ใช่กลัวแพ้แต่สาเหตุหลักไม่ต้องการให้ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพลำบากใจ และมีผู้ใหญ่ขอมาให้ถอนตัว โดยอาจให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ไปทำงานการเมืองด้านอื่นแทน

เริ่มงาน – น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ลูกสาวคนเล็กนายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ เดินทางเข้าพรรค เพื่อประชุมทีมงานการเมืองเป็นวันแรก โดยมีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ร่วมเดินทางมาด้วย เมื่อวันที่ 1 พ.ย.

อุ๊งอิ๊งเข้าพรรควันแรก

เวลา 15.00 น.ที่ทำการ พท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางเข้าพรรคเพื่อเริ่มงานในส่วนของการเมืองเป็นวันแรก โดยมีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ร่วมเดินทางมาด้วย

น.ส.แพทองธารกล่าวถึงกระแสตอบรับหลังเปิดตัวในการประชุมใหญ่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เลื่อนๆ ดูในมือถือก็เห็นเป็นสีแดงหมดเลย วันนี้ถือเป็นการทำงานวันแรกก็ต้องมาฟอร์มทีมก่อน เพราะเราเน้นการทำงานเป็นทีม และต้องฟังไอเดียของน้องๆ คนรุ่นใหม่ด้วย ก่อนคิกออฟต่อไป ก็อยากให้ติดตามต่อไป เมื่อถามว่าพ่อให้กำลังใจมากน้อยแค่ไหน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คุยกันเรื่อยๆ คุณพ่อบอกว่ามีอะไรถามได้ ปรึกษาได้ เมื่อถามว่าเน้นแนวทางการให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน น.ส.แพทองธารกล่าวติดตลกว่า วันนี้ต้องดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง อยากให้รอดูในรอบต่อไป

พท.ตั้ง 4 รองโฆษกพรรค

ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร จะเข้ามาที่พรรค ช่วงเช้าพรรค พท.ได้แถลง เปิดตัวทีมสื่อสารการเมืองและทีมรองโฆษกพรรคพท.ชุดใหม่ สอดรับการเปลี่ยนโครงสร้างและรูปแบบการทำงาน โดยรองโฆษกพรรคที่ตั้ง ประกอบด้วย 1.นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ จะทำงานด้านเศรษฐกิจและการเมือง 2.น.ส.ณหทัย เล็กบํารุง ทำงานด้านซอฟต์เพาเวอร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ 3.น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ทำงานด้านเศรษฐกิจ กฎหมายและการเมือง และ 4.น.ส.ชญาภา สินธุไพร ทำงานประสานงานกับสภา ด้านการต่างประเทศ และการสื่อสารด้านโซเชี่ยลมีเดีย

วุฒิฯตีตก‘วิวัฒน์ ตามี่’นั่งกสม.

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา พิจารณารายงานการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม และลงคะแนนเป็นการลับ โดยที่ประชุมลงคะแนนไม่ให้ความเห็นชอบให้ นายวิวัฒน์ ตามี่ เลขานุการและกรรมการมูลนิธิพัฒนาชนกลุ่มน้อยและชาติพันธุ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ด้านผู้มีประสบการณ์ในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ผลการลงคะแนนเห็นชอบ 36 คน ไม่เห็นชอบ 153 คน ไม่ออกเสียง 30 คน

นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ประธานในที่ประชุมแจ้งว่า ผลการออกเสียงพบว่าผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา คือน้อยว่า 124 คะแนน จึงถือว่านายวิวัฒน์ ไม่ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งกสม.

ทักวิถีใหม่ – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทักทายวิถีใหม่กับนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาฯยูเอ็น และนายบอริส จอห์นสัน นายกฯ อังกฤษ ในการประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของยูเอ็น ที่สกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.

ตู่-ผู้นำโลกถกสภาพภูมิอากาศ

เมื่อเวลา 12.00 น วันที่ 1 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น สก็อตแลนด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฯและรมว.กลาโหม เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมผู้นำรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 หรือ COP 26 มีผู้นำจากทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบในวงกว้างเข้าร่วมประชุม โดยนายกฯราชอาณาจักรสเปนและประธานการประชุม COP25 จะกล่าวถ้อยแถลงเป็นอันดับแรก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงบ่าย การประชุมได้รับความสนใจจากทั้งประเทศที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนทั่วโลก

ก่อนการประชุม เวลา 11.00 น. (เวลา 18.50 น. ตามเวลาประเทศไทย) พล.อ. ประยุทธ์ ใช้เวลาระหว่างรอพิธีเปิดประชุม พบปะพูดคุยกับผู้นำประเทศต่างๆ อาทิ อิสราเอล เยอรมนี แคนาดา คูวต อย่างเป็นกันเอง ประเด็นที่สนใจร่วมกัน และการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพเอเปกปีหน้าด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน