เผยสธ.ลงนาม-ไฟเซอร์
จองซื้อยา‘แพกซ์โลวิด’
ทัวร์‘หมี-กิมจิ’พรึบไทย
หนุ่มรอฉีด‘โมเดอร์นา’
สุดท้ายลงปอดดับสลด

ปลัดมท.โล่ง ผลตรวจไม่ติดเชื้อโควิด แต่ต้องกักตัว 14 วัน หลังภรรยาผลเป็นบวกต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาล อธิบดีกรมการแพทย์เผยเซ็นแล้วสัญญาลับซื้อ ‘แพกซ์โลวิด’ ยาต้านไวรัสชนิดกินจากไฟเซอร์ อย.แจงปมผลลวงเอทีเคตรวจนร.มุกดาหาร ไม่ใช่ยี่ห้อที่อย.รับรอง เชียงใหม่-ภูเก็ตรับอบอุ่นเที่ยวปฐมฤกษ์ ‘กิมจิ-หมีขาว’ บินถึงไทย

ป่วยโควิดอีก 8 พันดับ 69

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 8,467 ราย สะสม 1,960,039 ราย หายป่วย 8,288 ราย สะสม 1,843,018 ราย เสียชีวิต 69 ราย สะสม 19,611 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 97,410 ราย อยู่ในร.พ. 43,490 ราย ร.พ.สนามและอื่นๆ 53,920 ราย มีอาการหนัก 2,054 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 447 ราย

ภาพรวมผู้ติดเชื้อวันนี้มาจาก 67 จังหวัดรวมกันสูงสุด 4,870 ราย คิดเป็นร้อยละ 64, พื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ 1,438 ราย คิดเป็นร้อยละ 19, กรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,266 ราย คิดเป็นร้อยละ 17, เรือนจำ 880 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศมี 13 ราย ได้แก่ ตุรกี รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สวิตเซอร์แลนด์ มาเลเซีย ประเทศละ 1 ราย ฝรั่งเศส 2 ราย กัมพูชา 5 ราย (ช่องทางธรรมชาติ 1 ราย) และเมียนมา 1 ราย (ช่องทางธรรมชาติ)

ผู้เสียชีวิต 69 ราย มาจาก 30 จังหวัด มาจากกทม. 20 ราย ภาคกลางและตะวันออก 16 ราย ภาคใต้ 12 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 ราย ภาคเหนือ 7 ราย และปริมณฑล 4 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 36 ราย หญิง 33 ราย อายุ 16-98 ปี ค่ากลางอายุ 74 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุ 60 ปี และมีโรคประจำตัวรวมกัน ร้อยละ 94 ไม่มีโรคเรื้อรัง ร้อยละ 6

สูงกว่าค่าเฉลี่ย 7 วัน

ภาพรวมแนวโน้มการติดเชื้อของวันนี้ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและสูงกว่าค่าเฉลี่ย 7 วัน โดยเฉพาะในเรือนจำ มีเพียง 4 จังหวัดชายแดนใต้ที่แนวโน้มลดลง และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส่วนจังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 รายมี 20 จังหวัด โดย 10 อันดับที่ติดเชื้อสูงสุดได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 809 ราย สะสม 403,955 ราย 2.เชียงใหม่ 487 ราย สะสม 18,707 ราย 3.สงขลา 462 ราย สะสม 49,972 ราย 4.นครศรีธรรมราช 449 ราย สะสม 32,051 ราย 5.ปัตตานี 437 ราย สะสม 39,621 ราย 6.ยะลา 321 ราย สะสม 42,711 ราย 7.ชลบุรี 294 ราย สะสม 102,991 ราย 8.นราธิวาส 218 ราย สะสม 37,724 ราย 9.สมุทรปราการ 197 ราย สะสม 123,810 ราย และ 10.ขอนแก่น 191 ราย สะสม 19,462 ราย

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 วันที่ 5 พ.ย. ฉีดเพิ่มขึ้น 861,848 โดส สะสม 79,517,972 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 43,694,336 ราย คิดเป็น 60.7% ของประชากร เข็มสอง 33,263,737 ราย คิดเป็น 46.2% ของประชากร และเข็มสาม 2,559,899 ราย คิดเป็น 3.6% ของประชากร

ส่วนผู้เดินทางเข้าประเทศ วันที่ 5 พ.ย. จำนวน 2,148 คน เข้าระบบ Test&Go มากสุด 1,888 คน กักตัว 160 คน และแซนด์ บ็อกซ์ 100 คน สะสม 5 วันเปิดประเทศมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 11,358 คน เป็นระบบ Test&Go 10,057 คน ระบบกักตัว 843 คน แบ่งเป็น กักตัว 7 วัน 226 คน และกักตัว 10 วัน 617 คน และระบบแซนด์บ็อกซ์ 458 คน มีผู้ติดเชื้อรวม 14 คน คิดเป็น 0.08% สำหรับประเทศที่เข้ามามากที่สุด ยังเป็นสหรัฐอเมริกา 2,108 คน ตามด้วยเยอรมนี 1,851 คน และอังกฤษ 1,230 คน

‘บิ๊กตู่’เร่งหายารักษา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เมื่อวานนี้ (วันศุกร์ที่ 5 พ.ย.) บริษัทไฟเซอร์เพิ่งประกาศความสำเร็จ ในการพัฒนายารักษาโควิด-19 ที่มีชื่อว่า “แพกซ์โลวิด” (Paxlovid) ช่วยลดการรักษาตัวในโรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตใน ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ (วันพฤหัสบดีที่ 4 พ.ย.) ที่ประเทศอังกฤษเพิ่งประกาศอนุญาตให้ใช้ยาเม็ดรักษาโควิด “โมลนูพิราเวียร์” ของบริษัทเมอร์คได้ แต่กว่ายาเหล่านี้จะเริ่มมีออกมาให้ใช้คงจะเป็นในช่วงต้นปีหน้า โดยผมได้เน้นย้ำกับทางกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว ว่าให้เร่งดำเนินการในทันที เพื่อสั่งซื้อยาตั้งแต่ ตอนนี้ จะได้เป็นคิวแรกๆ

สถานการณ์แพร่ระบาดโควิดของบ้านเราในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่ดีอยู่ภายใต้การควบคุม เราคนไทยทุกคนยังคงต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ รักษาวินัยของตัวเองอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ และเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไปนะครับ ทั้งนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราคงได้รับทราบข่าวสารว่าหลายประเทศในยุโรปมีจำนวน ผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาพุ่งสูงขึ้นอีก องค์การอนามัยโลกประเมินว่า สาเหตุมาจากการที่ผู้คนเริ่มหละหลวม ไม่สวมหน้ากากอนามัย และไม่เว้นระยะห่างทางสังคม จึงขอความร่วมมือให้ชาวไทยทุกคนช่วยกันรักษาวินัยต่อไป

สัญญาลับซื้อแพกซ์โลวิด

วันเดียวกัน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดซื้อยาแพกซ์โลวิดจากบริษัท ไฟเซอร์ว่า กรมการแพทย์ได้เชิญทางบริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทยมาหารือร่วมกันเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยทางบริษัทระบุว่า เราต้องเซ็นเอกสารไม่เปิดเผยข้อมูลซึ่งได้เซ็นไปแล้ว หลังจากนี้จะติดตามเป็นระยะ แต่เท่าที่ทราบข้อมูลขณะนี้ทางบริษัทยังไม่ได้กำหนดว่าจะขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ อเมริกาเมื่อไหร่ ทั้งนี้ ทางบริษัทยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดการใช้ยารวมถึงราคาขาย

นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า บริษัทไฟเซอร์ระบุว่า แผนยาแพกซ์โลวิดจะไล่ตามยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) เราคุยกันว่า หากทางบริษัทมีผลการศึกษาอย่างไรให้มาแชร์กับเรา เพื่อจะทำไทม์ไลน์ให้เหมือนกับยาโมลนูพิราเวียร์ เพราะยาทั้ง 2 ตัวออกฤทธิ์คนละที่คือ ยาโมลนูพิราเวียร์ออกฤทธิ์คล้ายยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ที่ยับยั้งการจำลองตัวเองของไวรัสไม่ให้แบ่งตัวออกไป แต่ขณะที่ยาแพกซ์โลวิด ต้องออกฤทธิ์ร่วมกับยาอีกตัวที่เป็นโปรตีเอส อินฮิบิเตอร์ (protease inhibitor) น่าจะใช้ร่วมกับนาโมลนูพิราเวียร์ได้

แย้มไฟเซอร์ให้ช่วยวิจัย

สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่มีอาการ หรือแข็งแรงดี โดยหลักการคือไม่ควร ใช้ยา โดยเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดมาแล้ว เพราะอาการจะไม่รุนแรงอยู่แล้ว ยาก็มีข้อดีข้อเสียด้วย ดังนั้น เราต้องดูตามความรุนแรงของผู้ติดเชื้อ แต่ทางที่ดีเราควรป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม” นพ.สมศักดิ์กล่าว

สำหรับการทดลองยาต้านไวรัสทั้ง 2 ตัว ใช้ในผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค โดยเป็นกลุ่มเสี่ยงคือผู้สูงอายุมีปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคในอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้น คนที่แข็งแรงดีแล้วติดเชื้อไม่ต้องใช้ยา ทั้งนี้ จากที่คุยกับบริษัทไฟเซอร์ เขาก็มีความต้องการให้เราดำเนินการเหมือนกับยาโมลนูพิราเวียร์ในการศึกษาวิจัยในไทย ซึ่งเรายินดี โดยกำลังให้ทีมผู้ทรงคุณวุฒิของกรมการแพทย์ติดต่อให้มาร่วมหารือกันอีกรอบภายหลังที่มีความคืบหน้า เนื่องจากทางบริษัทต้องไปคุยกับบริษัทแม่ของไฟเซอร์ก่อน ทั้งนี้ เราพร้อมนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย คาดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร แต่ก็ไม่อยากให้เราหวังกับยาเพียงอย่างเดียว เพราะการฉีดวัคซีนแล้วป้องกันตัวเองดีๆ จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

นายกฯห่วงนร.เปิดเทอม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ติดตามผลการเปิดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติของนักเรียนทุกระดับชั้น ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กำชับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เน้นมาตรการลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด สร้างความปลอดภัยแก่นักเรียนทุกระดับชั้น

พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีนให้นักเรียนและบุคลากรการศึกษาให้ครอบคลุมมากที่สุด ศธ. รายงานข้อมูลวันที่ 2 พ.ย. โรงเรียนที่เปิดภาคเรียนออนไซต์แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. กว่า 12,110 แห่ง จากโรงเรียนทุกสังกัดทั้งหมด 35,193 แห่ง สำหรับโรงเรียนที่มีความพร้อมจะมีการหารือร่วมกันระหว่างครู นักเรียน และ ผู้ปกครอง เพื่อเปิดการเรียนการสอนแบบปกติในระยะต่อไป ขณะนี้หลายโรงเรียนยังมีรูปแบบการเรียนผสมผสาน

ภาพรวมการฉีดวัคซีน ให้แก่นักเรียนช่วงอายุ 12 ปีขึ้นไป ประกอบด้วย นักเรียนชั้น ป.6-ม.6 นักศึกษา ปวช.1-3 ปวส.1-2 ข้อมูลวันที่ 5 พ.ย. มีผู้ที่แสดงความประสงค์ 3,856,257 ราย ได้รับวัคซีนแล้ว 3,110,016 ราย คิดเป็นร้อยละ 80.65 ฉีดวัคซีนให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกสังกัด แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 809,783 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 561,007 ราย จะเร่งฉีดวัคซีนให้กับครูและบุคลากรที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอีกประมาณ 84,604 ราย ต่อไป

เมียปลัดมท.ติดเชื้อ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ภรรยาไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ร.พ.สมิติเวช สุขุมวิท เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อใช้ผลสำหรับบินไปร่วมประชุม COP26 ที่กลาสโกว์ ประเทศอังกฤษ ได้รับทราบผลทางโทรศัพท์เมื่อเช้านี้ว่ามีผลเป็นบวก ตนเป็นบุคคลใกล้ชิดมาก กำลังเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลอยู่ จึงขอเรียนมาเพื่อโปรดทราบและขออภัยที่คงทำให้ท่านที่ได้พบเจอต้องลำบากในการเฝ้าระวังตัว

“ตอนนี้ผมถูกกวาดคอ กวาดจมูกเพื่อนำเนื้อเยื่อไปตรวจแล้ว หมอให้กลับบ้านไปรอผลการตรวจ ส่วนภรรยาเข้าห้องผู้ป่วยไปแล้ว หมอไม่อนุญาตให้ญาติติดตามไปส่งหรือเฝ้า ตามมาตรการการรักษา สำหรับอาการคุณวันดี ก็ปกติดี ไม่มีอาการอะไร เดินตามบุรุษพยาบาลไปได้เอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิพงษ์ ได้เข้าตรวจหาเชื้อด้วยระบบ RT-PCR ที่โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลในวันนี้ โดยผลได้ออกมาในช่วงเย็น ปรากฏว่าผลเป็นลบไม่ติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด

ด้านนายสุทธิพงษ์กล่าวภายหลังทราบว่า ขณะนี้แม้ตนจะไม่ติดเชื้อโควิด แต่ก็จะขอกักตัวเองเป็นเวลา 14 วันตามมาตรการทางสาธารณสุขเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

อย.แจง‘เอทีเค’มุกดาหาร

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิด เผยว่า จากกรณีข่าวผลการตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 ของครูและนักเรียนโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรพ์ จ.มุกดาหาร ด้วยชุดตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen self-test Test Kits) หรือชุดตรวจเอทีเค และปรากฏผลบวกลวงจำนวนมาก อย.ตรวจสอบพบว่า ชุดตรวจดังกล่าว คือ ยี่ห้อ Dvot SARS-CoV-2 Antigen test Kit ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. โดยทางโรงเรียนได้รับบริจาคมา จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ขอให้ทุกภาคส่วนโปรดระมัดระวัง ในการนำชุดตรวจให้บุคลากรในหน่วยงาน

การจะเลือกใช้ชุดตรวจยี่ห้อใดหรือหากประสงค์จะซื้อชุดตรวจไปบริจาคให้แก่หน่วยงานหรือสถานศึกษาใดๆ จึงต้องตรวจสอบการได้รับอนุญาตให้ชัดเจน ชุดตรวจเอทีเคใช้เพื่อคัดกรองเบื้องต้น เหมาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือทำงานในสถานที่โอกาสแพร่เชื้อสูง เช่น ทำงานในโรงงาน ร้านอาหาร หรือไปในสถานที่แออัด หากใช้อย่างถูกต้องตามคำแนะนำ จะพบผลบวกลวงน้อยมาก กรณีที่มีเชื้อจำนวนไม่มากหรืออยู่ในช่วงการติดเชื้อระยะแรก ผลที่ได้อาจเป็นลบ ดังนั้น กรณีได้ผลลบ แต่หากมีความเสี่ยงขอให้มีการเฝ้าระวังตนเองและดำเนินการตรวจซ้ำอีกครั้ง 3-5 วัน

นพ.สุรโชคกล่าวอีกว่า สามารถตรวจสอบรายชื่อชุดตรวจที่ อย.รับรองถูกต้องกว่า 100 รายการ ได้ที่เว็บไซต์ https://www.fda.moph.go.th/sites/Medical/ SitePages/test_kit_covid19.aspx

เกาหลีก็มา – จังหวัดเชียงใหม่จัดต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้จากเที่ยวบินปฐมฤกษ์ อินชอน-เชียงใหม่ ตามโครงการชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ พร้อมคัดกรองตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เมื่อวันที่ 6 พ.ย.

‘กิมจิ-หมีขาว’บินเที่ยวไทย

วันเดียวกัน นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผวจ.ภูเก็ต นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (ผภก.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต, ผู้บริหาร, พนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต, หน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่สายการบิน ร่วมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก บริเวณประตูทางออกขึ้นเครื่องหมายเลข 11 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ตามมาตรการเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว (Test&go และ Sandbox) สายการบิน Aeroflot Russian Airlines เที่ยวบินที่ SU274 เส้นทางการบิน SVO-HKT นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 277 คน จากท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย มายังจังหวัดภูเก็ต

ก่อนหน้านั้น เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา นายรัฐพล นราดิศร รองผวจ.เชียงใหม่ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการททท. ด้านสื่อสารการตลาด นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมต้อนรับชาวเกาหลีใต้ 83 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกที่เดินทางมายัง จ.เชียงใหม่ ด้วยสายการบิน JEJU Air เที่ยวบินที่ 7C4205 อินชอน-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ตามโครงการ CHARMING Chiang Mai

ผู้โดยสารทั้งหมดผ่านกระบวนการขาเข้าระหว่างประเทศ ทั้ง 8 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การจัดเตรียมเอกสาร ส่วนใหญ่ใช้เอกสาร COE ในการแสดงต่อเจ้าหน้าที่ มีเพียงผู้โดยสารไม่กี่รายที่ใช้ระบบ Thailand Pass เมื่อผ่านการตรวจเอกสารและรับรองจากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศแล้ว ผู้โดยสารจะไปสู่ขั้นตอนพิธีการตรวจคนเข้าเมือง การรับสัมภาระ และหลังจากผ่านด่านทางศุลกากรแล้ว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร ก่อนที่จะไปพบกับผู้ประกอบการนำเที่ยวที่จุดนัดพบ และขึ้นรถไปยังที่พักต่อไป

รอ‘โมเดอร์นา’จนดับ

ส่วนที่วัดป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ มีพิธีฌาปนกิจชายอายุ 35 ปี (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) พนักงานบริษัทชื่อดัง หลังเสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ลงปอด เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตเดินทางไปติดต่อลูกค้าที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมเพื่อนรวม 2 คน ก่อนติดเชื้อทั้งคู่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล

โดยผู้ตายอาการทรุดหนักต่อเนื่องกระทั่งเชื้อลงปอดเสียชีวิตในที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ยอมรับการฉีดวัคซีน เนื่องจากต้องการรอฉีดวัคซีนโมเดอร์นาที่จองไว้เพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้น ขณะที่เพื่อนรักษาหายออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. เนื่องจากฉีดวัคซีนซิโนแวคกับแอสตร้าเซนเนก้ามาแล้วรวม 2 เข็ม ทำให้เชื้อไม่ลงปอด

พิจิตรปิดร.ร.เพิ่ม

นายสุวิทย์ชาติ นวมเพชร นายอำเภอวชิรบารมี จ.พิจิตร เผยถึงกรณีนักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนบ้านสระบรเพ็ด ต.วังโมกข์ ติดโควิดจากกลุ่มคนในพื้นพื้นที่กลุ่มเสี่ยง กรุงเทพฯ และ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มาร่วมงานศพญาติในพื้นที่ ล่าสุดมีนักเรียนโรงเรียนเดียวกันติดเพิ่มอีก 2 คน และนักเรียนมัธยมโรงเรียนวังโมกข์วิทยา 3 คน ทำให้จำนวนนักเรียนติดเชื้อรวม 7 คน ชาวบ้านอีก 9 คน

เบื้องต้นสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่แล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านสระ บรเพ็ด โรงเรียนอนุบาลบ้านสระบรเพ็ด และโรงเรียนวังโมกข์พิทยา เพื่อเป็นการป้องกันจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น นอกจากนี้อำเภอร่วมกับสาธารณสุขอำเภอ เตรียมปูพรมค้นหาผู้ติดเชื้อโควิดยกหมู่บ้านคือ หมู่ที่ 4 ทั้งหมด จำนวน 302 คน และหมู่บ้านใกล้เคียงทั้งหมด เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด มั่นใจว่าน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ไม่น่าห่วงอะไร เพราะเด็กนักเรียนติดเชื้อจากญาติที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง

ขอนแก่นคุมเข้มคลัสเตอร์ใหม่

นายประจวบ รักแพทย์ นายอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น เผยว่า กลุ่มที่เป็นกังวลในการสุ่มเสี่ยงในการแพร่ระบาดในพื้นที่คือกลุ่มของโรงงานผลิตสายไฟรถยนต์ บ้านหินกอง ต.น้ำพอง ติดเชื้อมาตั้งแต่ วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา มีพนักงานที่มาจากอำเภอข้างเคียงเป็นพนักงานเข้าใหม่ติดเชื้อมาจากการที่คนงานทั้งหมดกว่า 700 คน ตรวจพบเชื้อ 37 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 พิจารณาอยู่ในเกณฑ์ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดโรงงาน

โดยผู้ที่ติดเชื้อนำตัวเข้าระบบการรักษาของอำเภอตามประกาศของจังหวัดแล้ว และเร่งตรวจหาเชื้อแบบเอทีเค พร้อมกับทำบับเบิลแอนด์ซีล แบ่งคนงานทั้งหมดออกเป็น 10 บล็อก ปิดไปแล้ว 4 บล็อก เหลือกลุ่มที่ยังไม่ติดเชื้อ 6 บล็อก ต่อด้วยการลดจำนวนพนักงานหยุดพัก เดิมทำงาน 700 กว่า ลดเหลือ 400 กว่าคน เพื่อเป็นการสกัดกลุ่มเสี่ยง พร้อมแบ่งกลุ่มในการรับประทานอาหารกลางวัน และระหว่างทำงานไม่มีการสัมผัสกัน

วันเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 พบผู้ป่วยใหม่พุ่งขึ้นมา 102 ราย เป็นการติดเชื้อกันเองในจังหวัด 94 ราย และติดเชื้อมาจากนอกจังหวัด 8 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสมล่าสุดอยู่ที่ 30,484 ราย โดยรักษาหายแล้ว 28,461 ราย ยังรักษาอยู่ 1,791 ราย มีเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิง อายุ 57 ปี ชาว ต.หนองกระทุ่ม อ.เมืองนครราชสีมา มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยควิด-19 ทำให้ยอด ผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 232 ราย

ส่วนทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จากจำนวนผู้ต้องขังหญิงทั้งหมด 1,925 ราย ล่าสุดพบติดเชื้อโควิด-19 รวมจำนวน 260 ราย แยกกักทุกรายใน ร.พ.สนามทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา พร้อมกับทำ Bubble and Seal ในทัณฑสถานด้วย สรุปรวมยอดสะสมผู้ต้องขังในจังหวัดนครราชสีมา ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวน 716 ราย

สงขลายังลามไม่หยุด

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาเปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 462 คน นับเป็นวันที่สี่ ที่พบผู้ติดเชื้อในระดับ 400 คน เสียชีวิต 1 ราย ติดเชื้อสะสม 51,157 คน ผู้เสียชีวิตตั้งแต่เดือนเม.ย.64 จำนวน 183 ราย นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม 6,400 กว่าคน ได้รับแจ้งจำนวนผู้รักษาหายแล้ว 44,200 กว่าคน

กลุ่มผู้ติดเชื้อที่พบมาตลอดเวลา 2 เดือน กลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่จากกลุ่มเด็กไปยังผู้ใหญ่เพิ่มขึ้น พื้นที่ที่พบในลำดับต้นๆ มี 8 อำเภอ ประกอบด้วย จะนะ หาดใหญ่ นาทวี สิงหนคร เมือง รัตภูมิ เทพา และสะบ้าย้อย ส่วยอีก 8 อำเภอพบบ้างแต่ในจำนวนน้อย แม้ประชาชนฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบร้อยละ 70 ของกลุ่ม เป้าหมาย แต่มีประชาชนบางกลุ่มละเลยมาตรการส่วนบุคคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน