ปชป.โวยพปชร.
ปม‘ประกันข้าว’
พท.ชงญัตติด่วน

‘บิ๊กตู่’ ลั่นรอเทียบเชิญ พร้อมแจมปาร์ตี้กระชับมิตรพรรคร่วมรัฐบาล โอดขอเห็นใจ เจอหนักวิกฤตโควิด วอนเลิกสร้างขัดแย้ง ปชป.ซัดกลับ รมต.สันติ พร้อมพัฒน์ ตำหนิประกันราคาข้าว ลั่นเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาล ชี้หน้าที่รัฐบาลจัดสรรงบฯ ให้พอ กมธ.แก้ปัญหาช้างป่า ถล่ม ‘วราวุธ’ ลอยตัว ประธานจาก พปชร.ตะเพิด ทำไม่ได้ก็ออกไป เพื่อไทยยื่นญัตติด่วน ตั้งกมธ.ตรวจสอบการใช้กฎหมาย ขัดหลักนิติธรรมต่อผู้ต้องขังทางการเมือง ศาลรธน.นัดชี้ชะตา ‘สิระ’ 22 ธ.ค. หลุดส.ส.หรือไม่ เหตุเคยต้องคดี เกี่ยวกับทรัพย์ ชาวเน็ตส่องตู้แช่ไวน์ห้องทำงาน กกต.‘ฐิติเชฏฐ์’ ข้องใจมีได้ยังไง

‘บิ๊กตู่’ชวนชมงานมหกรรมวิทย์

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2564 โดยมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เอกอัครราชทูตเดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น และรัสเซีย รวมถึงผู้แทนทูตจากสหราชอาณาจักรเข้าร่วมงาน ซึ่งงานจัดระหว่างวันที่ 9-19 พ.ย.

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานว่า วันนี้เป็นวันแห่งความสุขของนายกฯ อีกครั้ง ขอขอบคุณ อว.ที่นำนโยบายของตนและรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติในการยกระดับและพลิกโฉมประเทศ วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงเราต้องปรับตัวเป็นโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นสิ่งสำคัญที่ทำประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด

สำหรับงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ครั้งนี้เป็นมหกรรมใหญ่ครั้งหนึ่งท่ามกลางสถาน การณ์โควิด-19 จึงขอให้ทุกคนระมัดระวังตามมาตรการต่างๆ ให้ดีที่สุด หากเราป้องกันดีแล้วก็จะมั่นใจและปลอดภัย ขอเชิญชวนให้ทุกคนมาเยี่ยมชมงาน ในยุคปัจจุบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเราต้องเรียนรู้โลกแห่งอนาคต และเป็นพื้นฐานของไทยโดยต้องกระจายไปทุกพื้นที่ อยากสร้างแรงกระตุ้นให้ทุกคนให้ความสนใจ เพราะนี่คืออนาคตประเทศไทย ซึ่งเยาวชนเราไม่ด้อยกว่าชาติใดในโลกและยังสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยระดับนานาชาติ ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยาวชนไทยเต็มที่

ซื้อภาพหัวเสือรำลึกอดีต

ภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดงาน พล.อ. ประยุทธ์ได้เดินชมนิทรรศการให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามบูธต่างๆ จนมาถึงบูธของสถานทูตฝรั่งเศส นายกฯ ถูกใจภาพหัวเสือ หรือ Tiger และได้หยุดถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึก พร้อมขอซื้อภาพดังกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเคยอยู่ ร.21 ทหารเสือราชินี ก็มีรูปปั้นเป็นรูปเสือเป็นสัญลักษณ์ของกรม และตนเป็นทหารเสือราชินี นั่นคือความภาคภูมิใจเมื่อในอดีต ที่ผ่านมาก็เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภาพดังกล่าวเป็นผลงานของบริษัทจากประเทศฝรั่งเศส มีราคาหลักร้อยบาท เป็นนวัตกรรมการพิมพ์ผ้าที่ประหยัด น้ำสีคมชัดมากขึ้นกว่าการพิมพ์แบบปกติและสามารถพิมพ์ได้บนผ้าทุกชนิด ซึ่งทางบริษัทได้นำภาพดังกล่าวไปใส่กรอบและส่งมอบให้นายกฯ ภายในสัปดาห์นี้

พร้อมร่วมปาร์ตี้พรรครัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เชิญร่วมกิจกรรมพบปะกระชับสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลวันที่ 26 พ.ย.ที่สโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค ว่า เชิญมาก็ไป เห็นว่าเขาจะเชิญตน ถ้าไปได้ก็ไปอยู่แล้ว และถ้าไปได้ก็ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนคุยกับหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค พรรคร่วมรัฐบาลได้ตลอดทุกเรื่อง ขอความร่วมมือก็ช่วยกัน เพราะถือว่าเป็นผลงานรัฐบาลไปด้วยกัน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งและไม่ใช่ของนายกฯ คนเดียว เป็นนโยบายนายกฯ เป็นนโยบายรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล ครม.ถูกหรือไม่ ทุกคนต้องช่วยกันทำ ขณะเดียวกันบางอย่างก็ต้องบูรณาการ ไม่ใช่ทำงานเป็นไซโลที่แยกกันทำงานอย่างเดียว

วันนี้นายกฯ กำลังเร่งเรื่องเหล่านี้อยู่ ทั้งแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ต้องทำให้ได้จริงๆ ตอนนี้เตรียมแผนงานว่าจะทำอย่างไร กำลังนำร่องเรื่อง 1 ข้าราชการต่อ 1 ครัวเรือน ต้องไปรับผิดชอบ ไปดูว่าเขากิน เขาอยู่กันอย่างไร ลำบากตรงไหนอย่างไร เพื่อจะแก้ปัญหาได้ แต่บางทีระบบมันยาก เราพยายามทำมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ 100% มันยังไม่ยั่งยืน ด้านการเกษตรก็มีปัญหา วันหน้าเราจะมีปัญหาในเรื่องงบประมาณ ถ้าไม่หารายได้ประเทศในเรื่องใหม่ๆ จะไม่พอใช้ต่อไปอีกนาน

โอดให้เห็นใจ-เลิกสร้างปัญหา

“วันนี้คิดว่าทุกคนต้องเข้าใจรัฐบาลที่ทำงานในสถานการณ์ที่เจอโควิดหนักที่สุด ไม่เคยมีรัฐบาลไหนเจอมาก่อน ต้องเข้าใจและเห็นใจรัฐบาลตรงนี้บ้าง การใช้งบประมาณ การจัดเก็บภาษี มีปัญหาหมด ถ้าทุกคนรู้แต่ปัญหาแต่ไม่สร้างความเข้าใจจะให้ตนทำอย่างไร ก็อยากรู้นักใครจะทำอะไร อย่างไรนอกเหนือจากนี้ที่ทำได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกรณีมีข่าวช่วงเบรกประชุมครม.เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ได้หารือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อขอความร่วมมือให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้หารือพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ไม่มีปัญหา บางทีก็ไม่เข้าใจกันบ้าง อะไรกันบ้าง บางทีก็เอ๊ะ จะเอายังไงกัน ก็ประสานไปทางคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้คุยกันให้เรียบร้อย เพราะกฎหมายสำคัญรอไม่ได้ มีหลายฉบับด้วยกัน เป็นประโยชน์ของพวกเรา ไม่ใช่ของตน เป็นประโยชน์ของประเทศ ขออย่าสร้างความขัดแย้งกันอีกเลย พอแล้ว

ปชป.ซัด‘สันติ’ตำหนิประกันข้าว

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นาย สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ ระบุโครงการประกันรายได้ทำให้เกษตรกรอ่อนแอ ว่า โครง การประกันรายได้ เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่คิดและทำเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีความเข้มแข็ง อยู่ได้โดยมีหลักประกันเรื่องรายได้ มีเกษตรกรเกือบ 8 ล้านครัวเรือนทั้งประเทศ ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้

นโยบายประกันรายได้คือคำสัญญาของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อหาเสียงไว้แล้วก็ทำตามคำสัญญา และพรรคได้ผลักดันจนเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นการที่นายสันติกล่าวหาว่านโยบายนี้ทำให้เกษตรกรอ่อนแอจึงไม่เป็นความจริง เพราะเกษตรกรอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง ระบบการเกษตรได้รับการพัฒนาควบคู่กันมาตลอด การลดต้นทุนการผลิต การส่งเสริมคุณภาพ การส่งออก การส่งเสริมเทคโนโลยี การพัฒนาพันธุ์ข้าว นี่คือการทำงานในเชิงรุกทุก ผลสำเร็จคือความเป็นอยู่ของเกษตรกรเข้มแข็งขึ้น

ที่น่ากังวลคือความคิดของนักการเมืองที่อ่อนแอลง การทำงานไม่ใช่คิดว่าใครจะได้หน้า หรือเอาหน้า เมื่อมีหน้าที่ก็ต้องทำประโยชน์ให้ประชาชนให้สมบูรณ์ที่สุด การตระหนักในหน้าที่ของตนสำคัญที่สุดไม่เช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าตำหนิที่สุด เวลานี้มีเสียงสะท้อนมายังพรรคตลอดคือขอบคุณพรรคและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใส่ใจพี่น้องเกษตรกรตลอดมา โดยเฉพาะการประกันรายได้ให้ พี่น้องเกษตรกรอยู่ได้

ลั่นเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาล

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่นายสันติระบุโครงการประกันรายได้เกษตรกรสร้างภาระงบประมาณนั้น ทุกโครงการที่รัฐบาลออกมาล้วนเป็นโครงการที่เป็นภาระต่องบประมาณทั้งสิ้น และโครงการประกันรายได้ไม่ได้เป็นโครงการแรกที่รัฐบาลออกมาเพื่อช่วยเหลือชาวนา เพราะเป้าหมายของโครงการคือต้องดูแลประชาชนทุกกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมามีอีกหลายโครงการที่รัฐบาลประกาศออกมา เช่น โครงการมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ที่มีหลายกระทรวงต้องรับผิดชอบ ทั้ง กระทรวงมหาดไทย, คลัง, แรงงาน, การอุดมศึกษาฯ

โครงการประกันรายได้เป็นโครงการของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาล ตอนจัดตั้งรัฐบาลหาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบรับโครงการนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เข้าร่วมรัฐบาล เพราะเป็นโครงการที่ใช้หาเสียงกับประชาชน โครงการนี้ยังเป็นนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ดังนั้นรัฐบาลรู้อยู่แล้วว่าในแต่ละปีต้องทำอย่างไร และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องไปหางบมาจัดสรรให้เพียงพอ ไม่ใช่มาบอกว่าเป็นภาระงบหรืองบไม่เพียงพอ

กมธ.ไล่‘ท็อป’-เมินแก้ปัญหาช้างป่า

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่า สภา ผู้แทนราษฎร นำโดยนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.แถลงถึงปัญหาช้างป่าว่า ขณะนี้ กมธ.มีความพยายามแก้ไขปัญหาช้างป่าในทุกมิติ เนื่องจากขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากการถูกช้างป่าทำร้ายจำนวนมาก ล่าสุดชีวิตสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสีย 3 ราย ซึ่งกมธ.ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอเรียกร้องรัฐบาลโดยเฉพาะนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความสำคัญ จะมาลอยตัวในการแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ควรก็อยู่ในตำแหน่งนี้อีกต่อไป

ทั้งนี้ กรณีที่มีช้างป่าเข้ามาวนเวียนเข้าใกล้ชุมชนเสมือนชาวบ้านถูกปล้น ย่ำยีความรู้สึกของประชาชน ขณะที่กมธ.ได้จัดทำแผนการศึกษาแก้ปัญหาช้างป่าอย่างเป็นระบบแล้ว เตรียมนำเสนอให้รัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อดำเนินการต่อไป

นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท รองประธาน กมธ. กล่าวว่า ที่ผ่านมา กมธ.เคยเชิญนายวราวุธมาชี้แจงถึงปัญหาช้างป่า เพราะท่านดูแลกรมอุทยานฯ แต่ท่านไม่สนใจมาชี้แจง โดยบอกว่ามีคนอยู่ในที่ประชุมแล้ว ท่านเป็นถึงเจ้ากระทรวง แต่ไม่มีความรับผิดชอบ เงินเดือนก็มากกว่าพวกตน ซึ่งเป็นผู้แทน แต่พวกตนยังทำงานเพื่อประชาชนมากกว่าท่าน ส่วนท่านทำงานเพื่อประชาชนมากแค่ไหน

‘วิษณุ’แจงปมตอบกระทู้แทน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ครม.มอบหมายให้รัฐมนตรีไปตอบกระทู้สภาแทนว่า ในความหมายคือ ถ้ารัฐมนตรีว่าการ(รมว.)ไม่สะดวก ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ(รมช.)ไปตอบคำถามแทน หรือถ้ารัฐมนตรีคนใดไม่อยู่ เช่น ไปต่างประเทศ ต้องมีรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ซึ่งอาจอยู่ต่างกระทรวงไปรักษาราชการแทน ส่วนข้อมูลทางกระทรวงเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว

สมมุติทั้งรมว.และรมช.ไม่สะดวก รวมถึงคนที่รักษาราชการแทนไม่สะดวก จึงกำหนดกันว่าให้รัฐมนตรีคนอื่นไปแทน เรื่องนี้ทุกรัฐบาลก็มีเช่นนี้ จึงตกลงเป็นการภายในว่าจะมอบหมายให้ตน ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีกระทรวงรับผิดชอบ ไม่มีภาระมากเท่าไหร่ หรือนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่สมัครใจและยินดี และนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ที่จะแบ่งกันไปตอบ แต่การไปตอบแทนไม่ได้ดีเหมือนเจ้าตัวไปตอบเอง

‘ชวน’ย้ำรัฐบาลต้องรับผิดชอบ

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า การตอบกระทู้ในสมัยนี้จะมากกว่าสมัยก่อน ซึ่งตนได้แจ้งในที่ประชุมว่าอยากให้เป็นมาตรฐานไว้ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลหรือส.ส. ในภายภาคหน้าต้องมีมาตรฐานความรับผิดชอบตอบกระทู้ถาม เพราะเคยมีประสบการณ์ที่ผ่านมาว่ารัฐมนตรีหนีกระทู้ เราจึงพยายามสร้างบรรทัดฐานขึ้นมา แต่ถ้าไปดูตัวเลขจะเห็นว่ามีการตอบกระทู้ถามในยุคสมัยนี้มากเป็นพิเศษ แต่บังเอิญการประชุมสภาเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่มีปัญหา ซึ่งเป็นข้อตกลงตั้งแต่แรกว่าวันพฤหัสจะเป็นการตอบกระทู้ แต่ครม.มีการประชุมในวันพฤหัสเป็นนัดพิเศษ ทำให้รัฐมนตรีมาตอบกระทู้ได้เพียงท่านเดียว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลหรือรัฐมนตรีไม่ส่งคนมาตอบกระทู้ถามสดเราอาจต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีให้ช่วยวินิจฉัยชี้ขาด เพราะเราทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบฝ่ายบริหาร แต่ฝ่ายบริหารกลับทำตัวตรวจสอบไม่ได้ ต้องมีคนมาชี้ขาดตามกลไกรัฐธรรมนูญ ส่วนผลจะเป็นอย่างไร เราไม่ว่า เพราะเราทำตามหน้าที่

พท.ยื่นญัตติด่วนตั้งกมธ.สอบใช้กม.

เมื่อเวลา 10.40 น. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี รองประธานวิปฝ่ายค้าน และนายจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรี อยุธยา ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภา เสนอญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาและสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกิน และขัดต่อหลักนิติธรรมต่อผู้ต้องขังทางการเมือง

นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ที่ให้ไว้กับกลุ่มมายื่นหนังสือกับพรรคเมื่อ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ประสงค์จะให้พรรคผลักดันเรื่องสิทธิการประกันตัวแก่ผู้ต้องหาทางการเมือง พรรคได้เข้าชื่อกันเสนอเรื่องนี้เป็นญัตติด่วน เราจะใช้ทุกกระบวนการของสภาในการผลักดันเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาให้เร็วที่สุด

ยันไม่เกี่ยวมาตรา 112

นพ.ชลน่าน กล่าวว่าสำหรับวัตถุประสงค์ที่ยื่นมี 3 เรื่องใหญ่ 1.เพื่อให้ผลการพิจารณาศึกษาและสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ จะส่งผลต่อการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม ถ้าสภามีมติเห็นชอบและส่งไปยังรัฐบาลจะทำให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องนี้พึงสังวร โดยเฉพาะด้านการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะเป็นการระงับยับยั้งการจับกุมคุมขังผู้เห็นต่างทางการเมืองรายใหม่ได้ 2.กระบวน การเรียกร้องสิทธิในการประกันตัว เรามีผลการศึกษาส่งไปยังรัฐบาล ย้ำว่าเป็นเรื่องสิทธิ ไม่ได้ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมที่มี คำพิพากษาแล้ว

3.หลักสิทธิมนุษยชนต้องเป็นไปตามหลักสากล ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังจะไปแถลงความก้าวหน้าเรื่องนี้ต่อองค์กรระหว่างประเทศ แต่ที่ทราบคือรัฐบาลละเลยที่จะพูดถึงประเด็นสิทธิผู้ต้องขังทางการเมือง จึงจำเป็นต้องบรรจุญัตติเพื่อให้รัฐบาลมีความรับผิดชอบ และ มีมาตรการที่จะบอกกับนานาอารยประเทศว่าเราเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้

เมื่อถามว่าญัตตินี้จะศึกษาเกี่ยวกับการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะข้อเสนอของกลุ่มพลเมืองผู้ต้องขังทางการเมืองเรียกร้องสิทธิประกันตน ไม่ใช่กฎหมายใดเป็นการเฉพาะ ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมหลายฉบับ เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และมาตรา 112 บางส่วน ไปดำเนินการทางการเมือง หรือนักโทษทางความคิด ฉะนั้นอย่าไปผูกกับคดี 112

โฆษกรัฐยันนายกฯไม่แก้ม.112

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่มีกระแสเรียกร้องของบุคคลบางกลุ่ม เสนอให้แก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงรัฐบาลประกาศจุดยืนชัดเจนหลายครั้ง ไม่สนับสนุนการแก้ไข และยกเลิกมาตรา 112 รัฐบาลบริหารประเทศยึดหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญของชาติไทย ไม่ควรนำมาเป็นประเด็นแบ่งข้างให้เกิดความแตกแยกในสังคม และยังถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนในการปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเสาหลักและศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ

“ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน สถาบันกษัตริย์ มีคุณูปการอย่างหาที่สุดมิได้ เป็นสถาบันที่ก่อเกิดศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามให้แก่คนในชาติ ทุกพระองค์เปี่ยมด้วยน้ำพระทัยที่ทรงคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชน พระมหากษัตริย์ไทยทุกรัชกาลในแต่ละยุคสมัย ทรงอุทิศพระองค์ ปฏิบัติ พระราชกรณียกิจเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและประชาชน ดังนั้น รัฐธรรมนูญจึงให้การรับรองหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและประเพณีการปกครองที่เหมาะสมกับสถานการณ์และลักษณะสังคมไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ผู้ใดจะละเมิดมิได้” นายธนกรกล่าว

จี้กกต.เช็กพรรคล้มปกครอง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้ข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันของแกนนำคณะราษฎร เข้าข่ายการ กระทำที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสั่งให้เลิกการกระทำ รวมถึงการกระทำของเครือข่ายว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะทำให้เกิดความมั่นคงในสถาบันของชาติ และผลคำวินิจฉัยดังกล่าวจะมีผลผูกพันต่อทุกองค์กร ทั้งตำรวจ อัยการ และศาลยุติธรรมด้วย

ในความเห็นทางกฎหมาย มองว่าหากพบบุคคลที่กระทำพฤติกรรมตามที่ศาลวินิจฉัย เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกาเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาว่ามีพรรคการเมืองใดที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายด้วยหรือไม่ เพราะจะโยงกับลักษณะ ของมาตรา 92(1) และ (2) ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนกรณีมีผู้เตรียมเสนอให้ยกเลิกมาตรา 112 นั้น นายไพบูลย์กล่าวว่า ต้องพิจารณารายละเอียดว่า มีผลกระทบต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. กล่าวว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวถือว่าเป็นที่สุด และมีผลผูกพันกับทุกองค์กรให้ปฏิบัติตาม ส่วนกรณีที่มีนักการเมืองเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวมีสิทธิถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้หรือไม่ นายคำนูณกล่าวว่า แล้วแต่พยานหลักฐาน และต้องดูเป็นรายกรณี

ศาลรธน.ชี้ชะตา‘สิระ’22ธ.ค.

วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายคำร้องของประธานสภา ที่ขอให้วินิจฉัยกรณี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน คดีหมายเลขดำที่ 812/2534 คดีหมายเลขแดงที่ 2218/2538 เป็นกรณีเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา ทำให้เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6)

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามมาตรา 82 วรรคสอง และมีคำสั่งยกคำขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ต่อมาผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับ คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไว้ในสำนวน และให้หน่วยงานและพยานที่เกี่ยวข้องชี้แจงตามที่ศาลกำหนด พร้อมจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

โดยวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนและกำหนดนัดด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันพุธที่ 22 ธ.ค. เวลา 15.00 น.

สภาขลุกขลัก-โหวตกฎหมาย

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองในคดีอาญา ฉบับที่ พ.ศ. ..วาระ 2-3 ตามที่กมธ. วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จ ที่มีปัญหาตกค้างมาจากการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการลงมติโหวตมาตรา 6 เนื่องจากส.ส.ไม่อยู่ในห้องประชุม จนต้องชิงปิดประชุมสภา เพื่อป้องกันปัญหาองค์ประชุมล่ม

เมื่อเริ่มประชุมเป็นการโหวตลงมติมาตรา 6 ก็เกิดปัญหาซ้ำรอยทันที เนื่องจากส.ส.อยู่ในห้องประชุมค่อนข้างบางตา นายศุภชัยต้องกดออดเรียกอยู่หลายครั้ง พร้อมเรียกให้ส.ส.ที่อยู่ในห้องประชุมกมธ.ต่างๆ และอยู่ภายนอกห้องประชุมให้รีบเข้ามาโหวต โดยมีส.ส. หลายคนวิ่งกระหืดกระหอบ ทยอยเข้ามาในห้องประชุมต่อเนื่อง ใช้เวลาเกือบ 10 นาที ส.ส.จึงเข้ามาอยู่ในห้องประชุมจนครบองค์ประชุม โดยมีองค์ประชุมกดบัตรแสดงตน 271 เสียง เกินกึ่งหนึ่ง 238 เสียง มา 33 เสียง จากจำนวนส.ส.ทั้งหมด 475 คน ก่อนที่ประชุมลงมติเห็นชอบ มาตรา 6

ชาวเน็ตส่องตู้แช่ไวน์ห้องกกต.

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ภาพนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. กำลังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในห้องทำงาน ที่สำนักงาน กกต. เกี่ยวกับความพร้อมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่จะมีขึ้นวันที่ 28 พ.ย. แต่ปรากฏว่าถูกคนในโลกออนไลน์ตาดี เห็นตู้ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับตู้แช่ไวน์ขนาดใหญ่อยู่ในห้องทำงานของนายฐิติเชฏฐ์ด้วย พร้อม ตั้งคำถามว่า ในสถานที่หน่วยงานราชการ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แช่เย็นอยู่ได้อย่างไร ทั้งที่มีกฎห้ามชัดเจนว่า ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ราชการ

กระทั่งเวลา 14.00 น. มีการลบภาพ ดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊กสำนักงาน กกต. แล้ว แต่ยังคงมีคนในโลกออนไลน์จำนวนหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวในโพสต์อื่นๆ ของเฟซบุ๊กสำนักงาน กกต.

ไทยรับไม้เจ้าภาพเอเปกปี 65

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก (APEC Economic Leaders’ Week: AELW) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 11-12 พ.ย.2564 โดยมีกำหนดการในส่วนที่เกี่ยวข้องดังนี้ วันที่ 11 พ.ย. เวลา 19.00 น. ร่วมการหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก วันที่ 12 พ.ย. ช่วงบ่ายกล่าวปาฐกถาในการประชุม APEC CEO Summit

เวลา 18.00 น. ร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 28 โดยในตอนท้ายของวันที่ 12 พ.ย. จะร่วมพิธีรับมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปก ซึ่งน.ส.จาซินดา อาร์เดิร์น นายกฯ นิวซีแลนด์จะ ส่งมอบการเป็นเจ้าภาพเอเปกให้นายกฯ ไทย

ในปี 2564 นี้ นิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกในหัวข้อหลักร่วมกัน ทำงาน เติบโต ไปด้วยกัน (Join, Work, Grow. Together.) และได้นำเสนอ 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.นโยบายเศรษฐกิจ และการค้าที่ส่งเสริมการฟื้นฟู 2.การเพิ่มการมีส่วนร่วมและความยั่งยืนเพื่อการฟื้นฟู 3.การมุ่งสู่นวัตกรรมและการฟื้นฟูที่ใช้ดิจิทัล

“นายกฯ มีความพร้อมที่จะนำเสนอบทบาทของประเทศไทย ผลักดันประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกันในหลายประเด็น ได้แก่ 1.ความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างกันและการท่องเที่ยว 2.การกระตุ้นการค้าและการลงทุน

3.การพลิกโฉมเศรษฐกิจ โดยนำเสนอโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนชาวไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพเอเปกปี 2565 พร้อมแสดงจุดยืนและบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ มั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถเป็นเจ้าภาพที่ส่งผลอย่างรูปธรรมให้กรอบการทำงานเอเปกในปี 2565 ได้อย่างแน่นอน” นายธนกรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน