เปิดเพิ่มออนไซต์
ตรวจเข้มครู-นร.
‘ตู่’วอนฉีดวัคซีน

ติดเชื้อรายใหม่ลดต่อเนื่อง เหลือ 6 พัน เสียชีวิตอีก 45 อาการหนัก 1.7 พัน โคราชปิดหมู่บ้านที่ปักธงชัย หลังเจอคลัสเตอร์ใหม่งานบุญ-งานบวช ต้องกักชาวบ้าน 61 หลัง ชาวบ้านโอดไปเกี่ยวข้าวที่กำลังสุกไม่ได้ โรงเรียนทั่วปท.เปิดเรียนออนไซต์เพิ่ม หลายจว.คึกคัก กทม.เปิดเรียนออนไซต์เพิ่มอีก 109 โรงเรียน ต้องตรวจหาเชื้อเข้มข้นด้วยเอทีเค ‘ตรีนุช’ รมว.ศธ.เผยนักเรียน 12-18 ปีฉีดวัคซีนแล้ว 80 % ‘บิ๊กตู่’ วอนชาวบ้านฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสสิ้นปีนี้

ติดเชื้ออีก 6,343-ตายเพิ่ม 45

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,343 ราย เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 6,143 ราย ติดเชื้อจากการเดินทางจากต่างประเทศ 12 ราย คัดกรองในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 188 ราย รวม ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 2,024,753 ราย ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 7,663 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,910,509 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 45 คน เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 20,081 คน ผู้ป่วยรักษาอยู่ 94,163 ราย รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 44,917 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 49,246 ราย อาการหนัก 1,776 ราย ใช้เครื่องช่วยหัวใจ 417 ราย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 45 คน แบ่งเป็นชาย 24 ราย หญิง 21 ราย เป็นคนไทย 43 ราย เมียนมา 2 ราย ผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไปมี 31 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 12 ราย รวม 2 กลุ่มนี้คิดเป็น 96% ซึ่งการเสียชีวิตพบว่าภาคใต้เสียชีวิตเพิ่มมากที่สุด โดยจังหวัดที่มีกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวฉีดวัคซีนได้ต่ำที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน นครนายก สุพรรณบุรี ราชบุรี อ่างทอง ขอนแก่น ลพบุรี กาญจนบุรี ปัตตานี และสระบุรี ดังนั้นขอให้เข้ามารับการฉีดวัคซีนเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุดที่จะเสียชีวิตได้

จว.ชายแดนใต้ป่วยเริ่มลด

โฆษกศบค.กล่าวว่า สำหรับแนวโน้ม ผู้ติดเชื้อภาพรวมลดระดับลงมาอย่างน่าดีใจ โดยชายแดนภาคใต้ตัวเลขเริ่มลดลง กทม.และปริมณฑลเริ่มคงที่ โดย 10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่สูงสุด 1.กรุงเทพฯ 790 ราย 2.สงขลา 462 ราย 3.นครศรีธรรมราช 428 ราย 4.เชียงใหม่ 376 ราย 5.ปัตตานี 318 ราย 6.สุราษฎร์ธานี 231 ราย 7.ยะลา 207 ราย 8.นราธิวาส 193 ราย 9.ชลบุรี 185 ราย และ 10.สมุทรปราการ 168 ราย

“ที่ประชุมยังพูดถึงเรื่องคลัสเตอร์ใน หลายจังหวัด เนื่องจากยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์พบที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด ส่วนเรือนจำมีกระจายไปหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งต้องยอมรับว่าพื้นที่จำกัดหรือแออัด มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ รวมทั้งแรงงานประมง ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แคมป์คนงานก่อสร้างทั้งที่เชียงใหม่ อุดรธานี และสระบุรี พิธีกรรมทางศาสนา งานกฐินที่ จ.ยโสธร งานศพที่ จ.เชียงใหม่ พะเยา และศรีสะเกษ เป็นต้น ดังนั้นทุกพื้นที่มีความเสี่ยง จึงจำเป็นต้องป้องกันตัวแบบครอบจักรวาล แต่ละที่ล้วนมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ทั้งสิ้น จึงจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือและเว้นระยะห่าง”

ฉีดวัคซีนแล้ว 85 ล้านโดส

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีน เมื่อวันที่ 14 พ.ย.64 มีการฉีดวัคซีน 545,174 โดส ทำให้ยอดรวมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. รวม 85,012,095 โดส จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 45,374,194 ราย คิดเป็น 63% และเข็มที่ 2 สะสม 36,855,732 ราย คิดเป็น 51.2% เข็มที่ 3 สะสม 2,782,979 ราย คิดเป็น 3.9% ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายว่าสิ้นเดือนนี้ต้องฉีดเข็ม 1 ให้ได้ 70% ส่วนจะได้ตามเป้าหรือไม่นั้น ต้องขอความร่วมมือภาครัฐเอกชนและประชาชนด้วย ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนนักศึกษานั้น ตั้งเป้าไว้ 4.5 ล้านคน ฉีดแล้ว 2.9 ล้านคน ซึ่งจะพยายามเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากขึ้น

ส่วน 10 อันดับที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ต่ำสุดคือ นครพนม หนองบัวลำภู บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ แม่ฮ่องสอน สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอ่างทอง ส่วนจังหวัดที่ยังมีการแพร่ระบาดก็ยังคงต้องฉีดวัคซีนเช่นเดียวกัน โดยบางพื้นที่ยังฉีดเข็มหนึ่งได้ไม่ถึง 50% คือ ปัตตานี และราชบุรี ดังนั้นสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะต้องป้องกันโรคเป็นกลุ่มหรือหมู่ จำเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็ม 1 ให้มากที่สุด

“ส่วนการเปิดประเทศมีผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร รวมทุกท่าอากาศยาน ตั้งแต่วันที่ 1-14 พ.ย. มี 50,074 ราย ติดเชื้อ 56 ราย คิดเป็น 0.11% ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำมาก โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ และเยอรมนี”

เปิดเรียน – โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร กทม. จัดตรวจเชิงรุกด้วยเอทีเคให้ครู นักเรียน รวมทั้งบุคลากรที่เกี่ยวข้องในโรงเรียน ในการเปิดเรียนออนไซต์วันแรก เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 15 พ.ย.

กทม.เปิดเรียนออนไซต์อีก109รร.

ที่โรงเรียนมัธยมปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าฯกทม. พร้อมด้วย นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของโรงเรียนสังกัดกทม. ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

นายเกรียงยศกล่าวว่า ปัจจุบันผู้ติดเชื้อ โควิด-19 มีจำนวนลดลง อีกทั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับวัคซีนเกินร้อยละ 96 ส่วนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนในสังกัดกทม.ได้รับวัคซีนเกินร้อยละ 80 ดังนั้นจึงเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในระดับชั้น ม.1-6 รวม 109 โรงเรียน แบบออนไซต์ ในวันที่ 15 พ.ย.64 พร้อม ทั้งจัดให้มีการตรวจ ATK สำหรับนักเรียนที่จะเข้าชั้นเรียน

โดยโรงเรียนมัธยมปุรณาวาส ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัดมีจุดคัดกรองบริเวณประตูทางเข้าโรงเรียน ตรวจวัดอุณหภูมิ จุดแอลกอฮอล์ล้างมือ พร้อมทั้งมีการตรวจ ATK นักเรียนในช่วงที่ผ่านมา จำนวน 600 คน ผลตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อ หลังจากนั้นจะสุ่มตรวจ ATK ร้อยละ 10-20 จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด

เปิดเรียน – เทศบาลนครนครราชสีมา จัดตรวจเชิงรุกด้วยเอทีเค ให้แก่ครู นักเรียน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องในโรงเรียนเทศบาล 3 (ยมราชสามัคคี) จำนวน 500 คน ในการเปิดเรียนออนไซต์วันแรก เมื่อ วันที่ 15 พ.ย.

โคราชเข้มเปิดเรียนออนไซต์

เมื่อเวลา 10.00 น. นายสหพล กาญจน เวนิช รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานควบคุมโรคร่วมดำเนินการตรวจเชิงรุก ATK ให้กับครูและนักเรียน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องในสังกัดโรงเรียนเทศบาล 3 (ยมราชสามัคคี) จำนวน 500 คน ผลตรวจไม่พบติดเชื้อ

ว่าที่ร.ต.อนุวัฒน์ ฉินสูงเนิน ผู้อำนวย การร.ร.เทศบาล 3 เปิดเผยว่า วันแรกของการปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไซต์ ผู้บริหารเทศบาลนครฯและบุคลากรทางการศึกษาสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับนักเรียนชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1,004 คน รวมทั้งครูและผู้เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับฉีดวัคซีน เนื่องจากเป็น กลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เพื่อลดความแออัด รักษาระยะห่างทางสังคมได้จัดการเรียนแบบแบ่งกลุ่มเอเลขคู่และกลุ่มบี เลขคี่ สลับกัน มาเรียน บรรยากาศวันแรกเด็กนักเรียนรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ได้มาเรียน ได้พบเพื่อนและครูที่ปรึกษา หลังจากต้องเรียนออนไลน์มาตั้งแต่เดือนพ.ค.

โคราชติดเชื้ออีก 87

นพ.สมบัติ วัฒนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาแถลงว่า มี ผู้ป่วยรายใหม่ 87 ราย ติดเชื้อสะสม 31,464 ราย รักษาหาย 29,434 ราย ยังรักษา 1,788 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย ชีวิตสะสม 242 ราย ส่วนในเรือนจำกลางนครราชสีมา พบผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย สะสม 1,876 ราย และทัณฑสถานหญิง อ.สีคิ้ว ป่วยสะสม 506 ราย รวม 2,382 ราย ทีมสอบสวนโรคเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดคลัสเตอร์ใหม่ที่มีสาเหตุการติดเชื้อจากกิจกรรมงานบุญ เลี้ยงสังสรรค์ งานคล้ายวันเกิดและลักลอบเล่นการพนัน รวมทั้งคลัสเตอร์เดิมซึ่งเชื้อลุกลามอย่างต่อเนื่อง

ปิดพื้นที่ – จังหวัดนครราชสีมาสั่งปิดพื้นที่หมู่บ้านเก่านางเหริญ ต.เกษมทรัพย์ อ.ปักธงชัย รวม 61 หลังคาเรือน เพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด หลังคลัสเตอร์งานบุญ-งานบวชมีผู้ป่วยลามแล้ว 47 คน เมื่อวันที่ 15 พ.ย.

ปิดหมู่บ้าน-กัก 61 หลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่บ้านเก่านางเหริญ หมู่ที่ 5 ต.เกษมทรัพย์ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่อ.ปักธงชัย ตั้งจุดเฝ้าระวังไม่ให้คนเข้า-ออก พื้นที่ควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด หลังตรวจพบชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าวติดเชื้อจากคลัสเตอร์งานบุญ และงานบวช 47 ราย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา จึงมีคำสั่งให้ปิดพื้นที่หมู่บ้าน 61 หลัง จากทั้งหมด 190 หลัง เพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดของเชื้อไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบว่าชาวบ้านที่ถูกกักบริเวณต่างอยู่แต่ในบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่จากรพ.สต.นางเหริญ และผู้ใจบุญนำข้าวสาร อาหารแห้ง ไปมอบให้อย่างต่อเนื่อง

ผู้ว่าฯนครราชสีมา มีคำสั่งปิดหมู่บ้านเก่านางเหริญ 15 วัน ระหว่างวันที่ 12-26 พ.ย.64 โดยการปิดหมู่บ้านเป็นบางส่วน แบ่งเป็นโซนเสี่ยงสูงพื้นที่สีแดง ซึ่งจะปิดพื้นที่กักบริเวณชาวบ้าน 61 หลัง มีประชากรที่ถูกกักบริเวณ 122 คน กลุ่มนี้ห้ามออกจากบ้าน เด็ดขาด ยกเว้นกรณีเจ็บป่วย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่จาก โรงพยาบาลปักธงชัยมาช่วยนำตัวไปรักษา และกำลังนำกลุ่มเสี่ยงสูงไปตรวจ RT-PCR ต่อไป ขณะที่โซนอื่นๆ จะปูพรมตรวจ ATK ทั้งหมู่บ้าน ในวันที่ 17 พ.ย.นี้

หมู่บ้านเก่านางเหริญมี 190 หลัง ประชาชนอาศัย 595 คน ร้อยละ 90 มีอาชีพทำนา ซึ่งอยู่ในช่วงเกี่ยวข้าวพอดี จึงได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

พิษณุโลกยังเรียนออนไลน์อีกอื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.พิษณุโลก เริ่มเปิดเรียนออนไซต์ เทอมสองเป็นวันแรก หลังหยุดจากสถานการณ์โควิดมานาน เด็กนักเรียนหลายคนมาโรงเรียนด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านมาอย่างยาวนานตั้งแต่เทอม 1 โดยวันนี้นักเรียนทุกคนเตรียมตัวสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันตนเองมาอย่างมิดชิด และที่บริเวณหน้าโรงเรียนมีการคัดกรองเข้ม นอกจากนี้ ทุกโรงเรียนเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองหรือนักเรียนที่ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์โควิดสามารถเลือกเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านได้ โดยทำแบบสำรวจความคิดเห็นผู้ปกครองก่อนเปิดเรียน

ทั้งนี้ มีโรงเรียนหลายแห่งในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลกขยายการเรียนออนไลน์ออกไปอีก ยังไม่เปิดเรียนออนไซต์

‘มหาชัย’เข้มเรียนออนไซต์

เมื่อเวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดเรียนแบบออนไซต์ในจ.สมุทรสาครว่า ที่โรงเรียนสมุทรสาครบูรณะ ตั้งอยู่ใจกลางของตัวเมืองสมุทรสาคร มีนักเรียนจำนวนมากเดินทางมาโรงเรียนกันตามปกติ ก่อนเข้าเรียน นักเรียนทุกคนต้องแสดงผลการตรวจ ATK ที่ตรวจมาจากที่บ้านให้คุณครูได้ดูก่อน และมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ตรวจ ATK ทางโรงเรียนประสานกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมาตรวจให้ก่อนที่จะเข้าห้องเรียน

ส่วนที่โรงเรียนอนุบาลสมุทรสาคร ซึ่งนักเรียนทั้งหมดยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเพราะเป็นกลุ่มเด็กเล็ก พบว่ามีผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานเข้าเรียนกันอย่างคึกคัก ขณะที่นักเรียนรู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้กลับมาเรียนในชั้นเรียน ได้พบเพื่อน และพบคุณครู ทางโรงเรียนมีมาตรการเข้ม เริ่มตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ สแกนด้วยเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่ใช้แอพพลิเคชั่นรองรับอีกรอบ ก่อนเดินผ่านเครื่องฉีดพ่นแอลกอฮอล์ เพื่อเข้าห้องเรียน

เผยนร.ฉีดวัคซีนแล้ว 80%

ด้านน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ตัวเลขล่าสุดมีโรงเรียนเปิดเรียนออนไซต์อยู่ที่ 1.3 หมื่นแห่ง และจะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยต้องเข้าใจว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จะอยู่กับต่อเนื่อง

ดังนั้นจึงต้องหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้เด็กไม่ขาดกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งศธ.ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขจัดมาตรการป้องกันและดูแล และแผนเผชิญเหตุที่เกิดเหตุการแพร่ระบาด โดยกำชับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพฐ.)และโรงเรียนทั่วประเทศให้ดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างเข้มข้น

น.ส.ตรีนุชกล่าวต่อว่า ส่วนการจัดหาชุดตรวจหาเชื้อ ATK ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการเปิดภาคเรียน เพียงแต่บางจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก และโรงเรียนมีความกังวล ทางศบค.จังหวัดจะพิจารณาประสานงานกับสาธารณสุขจังหวัด เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้ศธ.ทำงานเชื่อมโยงกับสธ. มาตลอด มีการฉีดวัคซีนนักเรียนอายุ 12-18 ปีไปแล้วมากกว่า ร้อยละ 80 ฉีดวัคซีนครูเข็มแรก กว่าร้อยละ 90 เข็ม 2 ร้อยละ 60 ขณะที่นายกฯ ก็เร่งรัดการฉีดวัคซีนภาพรวมทั่วประเทศ ตอนนี้คลัสเตอร์โรงเรียนคงไม่ใช่ปัญหา แต่สิ่งที่กังวลคือคลัสเตอร์ที่จะติดจากผู้ใหญ่มากกว่า

‘บิ๊กตู่’วอนคนกระบี่ฉีดวัคซีน

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือและสร้างความปลอดภัย ทางการท่องเที่ยวจ.กระบี่ พร้อมชมการสาธิตเหตุการณ์จำลองการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

โดยนายกฯ กล่าวว่า ทราบว่ามีการฉีดวัคซีนเกือบครบ 100% แล้ว ขอให้ฉีดวัคซีนไม่ต้องกลัว เพราะเขาฉีดกันทั้งโลกและองค์การอนามัยโลก (WHO) มีการรับรองวัคซีนแล้วทุกตัว ฉีดเข็ม 1-2 ภูมิขึ้นระดับหนึ่ง และฉีดเข็ม 3 ภูมิขึ้นสูง

ซึ่งในปี 2565 ถ้าโควิด-19 ยังอยู่เราก็ฉีดแค่เข็มเดียว เหมือนไข้หวัดใหญ่ ไม่ต้องไปกลัวอะไร ต้องปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีอาการรุนแรงไม่เสียชีวิต เมื่อวัคซีนครบเศรษฐกิจจะดีขึ้น สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ถ้าไม่ฉีดวัคซีนคงจะมีมาตรการทางสังคม โดยวันข้างหน้าจะมีพื้นที่สีขาว สีฟ้า จึงขอให้ไปฉีดวัคซีนกัน ตอนนี้คนฉีดวัคซีนน้อยลงไม่ทราบว่าเพราะอะไร

‘บิ๊กตู่’ฮึ่มสถานประกอบการ

ที่อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานพิธีเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต้อนรับนักท่องเที่ยว และพบผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวและผู้นําท้องถิ่น รวมถึงพบกับกลุ่มผู้ประกอบการเรือหางยาว ลงเรือไปตรวจเยี่ยมเรือบริการนักท่องเที่ยวที่จอดอยู่บริเวณชายฝั่ง

นายกฯกล่าวช่วงหนึ่งระหว่างพบปะกับประชาชนว่า ยินดีที่ได้เปิดการท่องเที่ยวในจ.กระบี่ อย่างปลอดภัย มาตรการทุกมาตรการต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มงวดเด็ดขาด ตนสั่งการไปแล้ว อะไรที่ปล่อยปละละเลยไม่อนุญาตแล้วยังทำก็ต้องถูกลงโทษสถานหนัก เช่น สถานบริการ เพราะนี่คือกติกาที่ต้องมีให้แก่กัน จะบอกว่าขาดทุนเยอะไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นมาอีกรอบ ก็ถอยหลังกลับไปอีกกว่าจะเปิดได้ใช้เวลาอีกนาน

รัฐบาลพยายามทำเต็มที่แล้ว ต้องอยู่กับรัฐบาล สถานประกอบการ ผู้บริโภค ประชาชน สังคม ว่าจะช่วยกันทำให้สังคมลดการแพร่ระบาด โควิด-19 ได้อย่างไร ขอให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนให้ครบ มีน้อยก็บ่น มีเยอะก็ไม่ฉีด ไม่กล้าไป ฉีดแล้วอย่างไรก็ไม่ตาย ไม่ป่วยรุนแรง ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และต้องฉีดให้ครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปีนี้ แต่ตอนนี้พยายามทำให้ถึงร้อยละ 70 ก่อน ประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนภายในประเทศทั้งของจุฬาฯ และมหิดล คาดว่าในปีหน้าสำเร็จ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน