เมื่อวันที่ 20 พ.ย. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง โพสต์เฟซบุ๊กให้ความเห็น กรณีบริษัทประกันไม่จ่ายเงินสินไหมทดแทน 2.5 ล้านให้กับบิดาเเละมารดาอาชีพชาวนา ของ น.ส.พัชราภา หรือ น้องหญิง เกรัมย์ ลูกสาววัย 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปีที่ 4 ที่เสียชีวิตจากการถูกรถเบนซ์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน

ศาลตัดสินรถยนต์เป็นฝ่ายผิด เเละคปภ.สั่งให้บริษัทประกันจ่าย แต่บริษัทกลับให้ไปฟ้องเอา ว่า คดีนี้อัยการเป็นโจทก์ฟ้องศาลให้แล้ว ปกติอัยการฟ้องคดีอาญาแล้ว จะยื่นขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่งให้แก่ผู้เสียหายด้วย หากไม่จ่ายก็ดำเนินการในส่วนบังคับทางคดีแพ่งต่อไป

นายโกศลวัฒน์กล่าวต่อว่า หากบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายเงิน ครอบครัวบอกว่าไม่มีเงินจ้างทนายความ แนะนำให้กลับไปหาอัยการ สำนักงานอัยการมีสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย (สคช.) โดยเฉพาะมีฐานะยากจน ขัดสน อัยการมีบริการจัดหาทนายความอาสา และช่วยดูแลคดีให้เกิดความเป็นธรรม หากต้องใช้สิทธิ์ทางศาลก็ยื่นฟ้องศาลให้ฟรี หากไกล่เกลี่ยสำเร็จก็ไม่ต้องขึ้นศาล

ที่จ.บุรีรัมย์ นายชลเกียรติ แก้วนวล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคณะเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่น.ส.พัชราภาผู้เสียชีวิต เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย

นายชลเกียรติกล่าวว่า เบื้องต้นจะให้ไปยื่นคำร้องที่อัยการจังหวัด หลังจากนั้นจะเชิญผู้เสียหาย, บริษัทประกัน และ คปภ.จังหวัด มาร่วมหารือเพื่อหาแนวทางการไกล่เกลี่ย หากตกลงกันไม่ได้ จะมีทีมเจ้าหน้าที่ไปยื่นคำร้องต่อยุติธรรมจังหวัด เพราะให้สำรองค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการวางเงินในชั้นศาล โดยจะมีทนายอาสา เข้าไปช่วยเหลือ เพื่อฟ้องแพ่งต่อบริษัทประกันต่อไป

ด้านนายโชติวุฒิ สามีคนขับรถเบนซ์ และอดีตประธานสภาทนายความ ออกมาระบุกรณีที่เกิดขึ้นว่า จริงแล้ว คปภ.มีอำนาจในการบังคับให้บริษัทประกันจ่าย แต่แปลกที่ยังไม่สามารถกระทำได้ รถเบนซ์คันนี้เสียค่าประกันปีละประมาณ 50,000 บาท ยอดเยียวยาสูงถึง 2 ล้าน บวกกับพ.ร.บ.ภาคบังคับอีก 500,000 บาท รวม 2.5 ล้าน เงินจำนวนนี้น่าจะไปเยียวยาจิตใจของผู้สูญเสีย นอกจากนี้หลักฐานชี้ชัดว่า รถเบนซ์ของภรรยาตนชนท้ายรถน้องหญิง ไม่ใช่ประมาทร่วม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน