จากกรณีศาลจังหวัดปัตตานีออกหมายจับ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ และ มีประเด็นสังคมตั้งคำถามว่าเหตุใดข้อมูลหมายจับจึงไม่ถูกนำเข้าสู่สารบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนเป็นเหตุให้เสี่ยโจ้ ถูกปล่อยตัว ภายหลังถูกตำรวจสอบสวนกลางจับกุมในข้อหาฟอกเงินและนำตัวส่งพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.64

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พ.ย. พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งการให้พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และได้รายงานผลเบื้องต้นให้ทราบเป็นการเร่งด่วนแล้ว

ซึ่งพล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้มอบหมายให้ตนพิจารณารายงานดังกล่าว พบว่ายังมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบขยาย รายละเอียดเพิ่มเติม ประกอบกับเรื่องกรณีดังกล่าว เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบสร้างความเสียหายต่อขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องพิจารณาความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อสงสัยประเด็นที่ว่ามีการทำกันเชื่อมโยงเป็นขบวนการหรือเป็นแค่ความประมาท เลินเล่อ จึงต้องอาศัยการตรวจสอบทุกลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อ เร่งรวบรวมพยาน หลักฐานต่างๆ อย่างละเอียดโดยเร็ว

พล.ต.อ.วิสนุกล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าพล.ต.อ.สุวัฒน์ให้ความสำคัญในกรณีนี้ และกำชับให้ตนกำกับการดำเนินการดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าข้อบกพร่องดังกล่าวเป็นการกระทำโดยเจตนา และเข้าข่ายกระทำผิดอาญา ก็ต้องมีการดำเนินคดีอาญา และวินัยแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนด้วยความเด็ดขาด ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.วิสนุได้หารือกับพล.ต.อ.สุวัฒน์แล้ว และมีความเห็นตรงกัน ให้สืบสวนวินัยข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนฯ จากจเรตำรวจร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 แทนการให้ต้นสังกัดดำเนินการสืบสวนเพียง หน่วยเดียว โดยให้จเรตำรวจ (สบ 8) ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่าระดับผู้บัญชาการเป็นประธาน เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง และสร้างความเชื่อมั่นในการตอบคำถามสังคม ขณะนี้ กองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างยกร่างเสนอคำสั่งให้ ผบ.ตร.ลงนามตั้งกรรมการ ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน