ขโมย‘แดงอินโด’ราคา2แสน
แต่แค้น-ถูกเจ้าของแจ้งจับ
บุกยิง16นัด-ตร.รวบทันควัน

จับทันควันหนุ่มโหด รัว 16 นัด ฆ่า 2 ศพ บาดเจ็บอีก 1 สุดสลด คนตายเป็นพี่สาวต่างมารดาด้วย เผยเหตุ ฆ่าโหด เคยมีเรื่องบาดหมางยาวนาน จนกระทั่งมือปืนบุกขโมยกล้วยด่างต้นละ 2 แสนของบ้าน พี่สาวไป จนถูกแจ้งความดำเนินคดี แม้จะเอามาคืนแล้วก็ตาม ล่าสุดใกล้วันที่ศาลนัดพิพากษา ดื่มเหล้าเมามาบุกบ้าน มีปากเสียงยิงขาลูกชายเจ็บ ก่อนยิงสามี-ภรรยา เสียชีวิต หลังก่อเหตุกบดานอยู่ในบ้าน เกลี้ยกล่อมนานนับชั่วโมงจนยอมมอบตัว รับสารภาพทั้งหมด แต่ไม่ขอทำแผนฯ หวั่นโดนประชาทัณฑ์

บุกยิง2ศพ – นายสมเจตน์ ภู่แก้ว (รูปเล็ก) อดีตผู้สมัครส.ท.เมืองนครปฐม บุกยิงนายคุณากร ปัญญาเตียม กับน.ส. สุกัญญา ภู่แก้ว คู่สามีภรรยา เสียชีวิต และยิงลูกชายบาดเจ็บ สาเหตุทะเลาะกันเรื่องขโมยกล้วยด่างราคา 2 แสน เมื่อ 4 ธ.ค.

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. พ.ต.ท. วีรวิทย์ ลภัสจารุสกุล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งมีคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.อ. ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ชัยชาญพัฒน์ ยติรัตนกัญญา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครปฐม ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม กองพิสูจน์หลักฐาน 7 แพทย์เวรโรงพยาบาลนครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบศพนายคุณากร ปัญญาเตียม อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นห้อง ถูกอาวุธปืนยิงเข้าตามลำตัวหลายนัด ใกล้กันพบศพน.ส.สุกัญญา ภู่แก้ว อายุ 49 ปี ภรรยาของนายคุณากรนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่เบ้าตาทะลุแก้ม ภายในบ้านยังพบรอยเลือดเปรอะไปทั่วบริเวณ

ที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. 16 ปลอก ตกอยู่เกลื่อนพื้น เศษหัวกระสุนปืน 6 ชิ้น ซึ่งเป็นปลอกกระสุนที่คนร้ายใช้กระสุนยิง ตกอยู่บริเวณภายในบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บเป็นหลักฐาน ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลนครปฐม ทราบชื่อต่อมานายฆนากร ปัญญาเตียม อายุ 25 ปี ลูกชายของนายคุณากร และน.ส.สุกัญญา ผู้ตาย ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ต้นขาด้านขวา แพทย์ผ่าตัดช่วยเหลืออาการปลอดภัย

ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายสมเจตน์ ภู่แก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/2 หมู่ 2 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม อดีต ผู้สมัคร ส.ท. เทศบาลเมืองนครปฐม เป็นน้องชายต่างมารดากับ น.ส.สุกัญญา ผู้ตาย หลังเกิดเหตุหลบหนีซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพักของตัวเอง ที่อยู่ติดกับบ้านของผู้ตาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เข้าไปตรวจสอบ พบ น.ส.ประวีณา วงษ์คงคำ ภรรยาของนายสมเจตน์ ให้การว่านายสมเจตน์อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงระดมปิดล้อมบ้าน เกลี้ยกล่อมให้นายสมเจตน์ยอมมอบตัว โดยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงยินยอม และพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดอาวุธปืนและซองกระสุนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ที่นำไปซ่อนในตู้เย็นภายในบ้านพัก จากนั้นตร.ควบคุมตัวขึ้นรถไปสอบปากคำยัง สภ.เมืองนครปฐม ท่ามกลางบรรดาญาติของผู้ตายที่มายืนล้อมอยู่หน้าบ้าน ส่งเสียงด่าทอสาปแช่ง

ด้านนายประภาวุธ ภู่แก้ว อายุ 25 ปี ลูกชายของนางสุกัญญา ผู้ตาย และเป็น พี่ชายของนายฆนากร ผู้บาดเจ็บ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำธุระนอกบ้าน ในช่วงเวลา 22.00 น.น้องชายโทรศัพท์มาบอกกับตนว่ามีการตั้งวงกินเหล้ากันอยู่ที่ข้างบ้าน แล้วเริ่มจะพูดจาไม่ดี มีปากเสียงกัน ซึ่งนายสมเจตน์นั้นมีอาวุธปืนด้วย ตนเองยังบอกกับน้องชายเลยว่า ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็ให้โทร.แจ้งตำรวจเลย จากนั้นประมาณเที่ยงคืน น้องโทรศัพท์กลับมาอีกทีบอกว่าพ่อกับแม่เสียชีวิตแล้ว

นายประภาวุธกล่าวอีกว่า น้องชายเล่าว่า นายสมเจตน์เดินเข้ามายิงนายฆนากรก่อนเข้าที่ขา จากนั้นเมื่อพ่อได้ยินเสียงปืนจึงคว้าเหล็กออกมาช่วย ส่วนแม่ก็วิ่งตามมาหวังจะช่วยลูก ปรากฏว่านายสมเจตน์สาดกระสุนปืนใส่ไม่ยั้ง ถ้าหากตนเองอยู่ในเหตุการณ์คงจะตายกันยกครัว สำหรับปัญหาต่างๆ นั้น เกิดจากเรื่องเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเองนอนเล่นอยู่ในบ้านรู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาในบ้าน เมื่อแหวกผ้าม่านดู ปรากฏว่าเห็นนายสมเจตน์เดินเข้ามาดูต้นกล้วยด่างพันธุ์แดงอินโดที่บ้าน หลังจากนั้นผ่านไป 2 วัน ต้นกล้วยด่างหายไป พอต้นกล้วยด่างหายไปได้มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต วันแรกนายสมเจตน์ร้อนตัว พูดจาข่มขู่ไว้ว่า “อย่ามาโทษกูนะ กูจะฆ่าให้หมดบ้านเลย” จากนั้นจึงได้แจ้งความไว้ จนนายสมเจตน์รู้จึงเก็บตัวไม่ค่อยออกมา

หลังจากนั้นนายสมเจตน์นำต้นกล้วยด่างราคา 200,000 บาท ที่ขโมยไปนำมาคืน แต่แล้วก็ทำเป็นไม่พอใจ และอยากจะมาขอเคลียร์ปัญหา แต่คนที่บ้านไม่อยากคุยด้วย เพราะต้องการจะดำเนินคดี เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยทะเลาะกันมีเรื่องบาดหมางใจกันมาเป็น 10 ปีแล้ว พ่อของตนเคยถูกไม้ตีหัวจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางบ้านก็ทราบกันดีว่าเป็นฝีมือของนาย สมเจตน์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะไปเอาผิด จึงทำให้ผิดใจกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายสมเจตน์มาสอบปากคำ นายสมเจตน์รับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงทะเลาะกับนายฆนากรผู้บาดเจ็บ นายคุณากรและน.ส. สุกัญญาผู้เสียชีวิต เป็นพี่สาวต่างมารดาของนายสมเจตน์ เคยก่อเหตุลักทรัพย์ต้นกล้วยด่างพันธุ์แดงอินโด ของนายฆนากรไปจากบ้านพักที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคดีความเรื่องนี้มีกำหนดนัดหมายฟังคำพิพากษาวันที่ 22 ธันวาคม 2564 จากนั้นทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงท้าทายกันเรื่อยมา และทะเลาะกันมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนเกิดเหตุนายสมเจตน์นั่งดื่มเหล้าและอยู่ในอาการมึนเมาเดินมาที่บ้านของผู้ตายเพื่อ ก่อเหตุดังกล่าว โดยยิงปืนทั้งหมด 16 นัด

เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเข้าห้องขังเพื่อส่งตัวฝากขังที่ศาลนครปฐม ในวันที่ 5 ธ.ค. โดยผู้ต้องหาไม่ยินยอมที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะกลัวว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ทั้งนี้ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืน ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน