‘เปรมชัย’ เครียดนอนคุกคืนแรก ท้องเสีย ร้องขอหมอร.พ.ทองผาภูมิ ตรวจร่างกาย มอบทนายยื่นเรื่องขอออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำที่ร.พ.ในกรุงเทพฯ หลังศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีล่าเสือดำ อัยการทองผาภูมิชี้ เป็นสิทธิ์ผู้ต้องขัง แต่การอนุญาตขึ้นอยู่กับเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ประกาศ เจ้าสัวมีโรคประจำตัวอื้อ ทั้งความดัน เบาหวาน ไขมันพอกตับ โรคหัวใจ และตาซ้ายเพิ่งผ่าตัดลอกต้อกระจก ยันจนท.สถานพยาบาลเรือนจำดูแลตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด

ภายหลังจากศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา “คดีล่าเสือดำ” ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. จากการเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ท้องที่ ต.ชะแลอ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมยึดของกลางประกอบด้วยซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ. 2561 โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ คงจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน จำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 ปี 17 เดือน จำเลยที่ 4 คงจำคุก 2 ปี 21 เดือน ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาท ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ถือเป็นการปิดฉากคดีเสือดำ ที่นายเปรมชัย กับพวกต่อสู้คดีมานานกว่า 3 ปี ตามข่าวที่เสนอ มานั้น

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุม โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่เรือนจำ รวมถึงเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด

ภายหลังได้รับตัว นายเปรมชัยเข้าเรือนจำแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ อาร์ที-พีซีอาร์ พร้อมนำตัว นายเปรมชัย และพวกไปอยู่ที่แดนกักโรค ตามมาตรการคัดกรองโควิด-19 เป็นเวลา 21 วัน ซึ่งเป็นอาคารที่ตั้งอยู่โซนด้านหน้าของเรือนจำ ขณะที่ญาติของ นายเปรมชัย นำผ้าห่มไปเพิ่มให้

ล่าสุดวันเดียวกัน ทางนายเปรมชัย ได้ร้องขอให้แพทย์ ร.พ.ทองผาภูมิ ไปตรวจร่างกาย เนื่องจากทำเรื่องขออนุญาตออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ที่กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อนที่ทางเรือนจำทองผาภูมิจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะส่งตัวออกไปรักษาตามที่นายเปรมชัยร้องขอหรือไม่

ขณะที่ นายกฤตศิลป ช่วยศรี อัยการ ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 7 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดทองผาภูมิ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่นายเปรมชัย มีอาการป่วยทางสายตา รวมทั้งโรคผิวหนัง และโรคเบาหวานนั้น เป็นเรื่องของทางราชทัณฑ์ที่จะปฏิบัติต่อผู้ต้องขังระหว่างถูกจำคุก และเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องขัง เราไม่เข้าไปก้าวล่วงในส่วนนี้ ขณะที่สิทธิ์ของผู้ต้องขังหากมีอาการเจ็บป่วย ก็อาจใช้สิทธิ์ขอเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ ส่วนจะเป็นโรงพยาบาลใดนั้น เป็นสิทธิ์ที่นายเปรมชัยจะมอบหมายให้ทนายความดำเนินการได้ แต่การพิจารณาอนุญาตต้องแล้วแต่ทางเรือนจำ

ที่กรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำทองผาภูมิว่า หน่วยแพทย์ประจำเรือนจำได้ตรวจดูอาการประจำวัน นายเปรมชัย หลังรับตัวมาควบคุมที่เรือนจำทองผาภูมิเมื่อ วันที่ 8 ธ.ค. พบว่า นายเปรมชัยมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคความดัน ไขมันพอกตับ โรคหัวใจ และตาซ้ายเพิ่งผ่าตัดลอกต้อกระจก โดยเช้านี้ นายเปรมชัย มีอาการท้องเสีย พยาบาลเรือนจำได้ให้อาหารเหลว และฉีดยาลดน้ำตาลในเลือด หยอดยารักษาตาต้อกระจกทุกชั่วโมง และเรือนจำได้ประสาน ร.พ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็น ร.พ.แม่ข่าย โดยแพทย์จะเข้ามาตรวจสุขภาพผู้ต้องขังอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับคืนแรกใน ห้องขัง นายเปรมชัยมีอาการเครียดบ้าง ซึ่งเป็นปกติของผู้ต้องขังเข้าเรือนจำ

จากนั้น เวลา 12.00 น. กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงการคุมขังนายเปรมชัย โดยระบุว่า นายเปรมชัย มีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว 3 ครั้ง และช่วงเช้า แพทย์จากร.พ. ทองผาภูมิ ได้เข้าตรวจรักษาอาการ ผลการตรวจร่างกายโดยทั่วไป พบว่าไม่มีไข้ อุณหภูมิร่างกาย 36.8 องศาเซลเซียส ชีพจร 87 ครั้ง ต่อนาที หายใจ 20 ครั้งต่อนาที ความดัน 160/90 มิลลิเมตร ปรอทตรวจระดับน้ำตาลในเลือด 124 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยการตรวจและรักษาอาการถ่ายเหลว พบว่าหน้าท้องนุ่ม มีอาการปวดท้องเล็กน้อยบริเวณด้านขวาล่าง แพทย์วินิจฉัยว่า มีอาการของโรคลำไส้อักเสบเฉียบพลัน ซึ่งได้ดูแลให้ยาปฏิชีวนะระบบทางเดินอาหารเกลือแร่ และให้รับประทานอาหารอ่อนในระยะนี้ พร้อมได้เจาะเลือดส่งตรวจเพื่อดูค่าการติดเชื้อ การทำงานของไต และค่าเกลือแร่ในร่างกาย ยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจอีกครั้ง

ด้านผลการตรวจและรักษาตาซ้ายหลังการผ่าตัดต้อกระจก เบื้องต้นพบว่าไม่มีอาการแดง มีอาการคันตาซ้ายเล็กน้อย แพทย์ได้แนะนำให้หยอดตาทุก 4 ชั่วโมง ห้ามขยี้ตา ส่วนการตรวจและรักษาโรคเส้นเลือดดำที่ขาอุดตัน แพทย์ได้ตรวจขาทั้งสองข้าง พบผิวหนังที่ขาทั้งสองข้างสีดำคล้ำ ปวด บวม กดแล้ว บุ๋ม 1+ (2 มิลลิเมตร) มีแผลเรื้อรังที่ขาข้างซ้ายขนาด 2×2 เซนติเมตร ซึ่งได้ให้การรักษาอาการ ทำแผลวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สถานพยาบาลเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ได้ดูแลอาการของผู้ต้องขังอย่างใกล้ชิด พร้อมให้การดูแลรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสิทธิที่ผู้ต้องขังทุกรายพึงได้รับ โดยแพทย์ได้แนะนำให้สังเกตอาการเพิ่มเติม หากพบว่ามีอาการหน้าท้องแข็งปวดท้อง ถ่ายเหลวเพิ่ม อาเจียน เหนื่อยและอ่อนเพลียมากขึ้น รวมถึงมีอาการตาแดง คันตาหรือมองเห็นภาพลดลงให้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลประจำเรือนจำได้ทันที

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน