เตรียมส่งชิงผู้ว่ากทม.ด้วย ก้าวไกลลั่น

เปิดชื่อ-ร้องอ๋อ
‘ดร.เอ้’โผล่ไหว้
ศาลหลักเมือง
หน่อยปล่อยรถ
สร้างไทย77จว.

สนามกทม.เริ่มคึกคัก‘ก้าวไกล’เตรียมเปิดตัวผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. เดือนม.ค.65 ลั่นเป็นบุคคล ที่สังคมรู้จักดี ด้านพปชร.ปัดโยนหิน ยันชื่อ ผู้ว่าฯ หมูป่า กระแสดีสุด ‘อู๊ดด้า’ รอกรรมการบริหารเคาะ 13 ธ.ค.นี้ ส่ง ดร.เอ้-สุชัชวีร์ ลงสมัคร โวเสียงตอบรับดี ด้านเจ้าตัวไปไหว้ศาลหลักเมืองเอาฤกษ์เอาชัย ‘ชวน’ยอมรับเอง ชื่อเสียงเกียรติภูมิประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิมแล้ว ส่วน‘สุดารัตน์’ปล่อยคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด รับฟังทุกเสียงจัดทำนโยบาย ชูแก้รธน.มาตรา 265 ‘ยิ่งลักษณ์’ โพสต์ วันรัฐธรรมนูญ แต่คนไทยภูมิใจ เหตุรธน. มาจากคสช.

ชวนรับชื่อเสียงปชป.ไม่เหมือนเดิม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พร้อมด้วยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภา ข้าราชการ และตัวแทนจากพรรคการเมืองเข้าร่วม รวมถึงส.ว.

จากนั้นนายชวน ในฐานะประธานสภา ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงสมาชิกพรรคหลายคนเริ่มทยอยออกจากพรรคว่า ตนเป็นห่วงเหมือนกัน และเห็นใจผู้บริหารพรรค ซึ่งต้องเร่งหาทางแก้ไข แต่เข้าใจว่าชื่อเสียงเกียรติภูมิปชป. ไม่ได้เป็นอย่างเดิม ก็เปลี่ยนแปลงไปตามระยะเวลาและสถานการณ์ เพราะปัจจุบันมีการแข่งขันมากขึ้น แต่คนส่วนใหญ่ยังมั่นคงอยู่ ที่น่าเสียดายคือ คนที่ได้ตำแหน่งในช่วงที่อยู่พรรคแล้วออกไปเป็นคู่แข่ง ทำให้พรรคเหนื่อยเป็นพิเศษ ที่จะต้องแข่งกับคนของตัวเอง ซึ่งหลายคน ตนก็ขอร้องไม่ให้ออกไป แต่เป็นสิทธิของเขา

ชี้เป็นสิทธิ์พรรคร่วมส่งซ่อมสส.

เมื่อถามถึงการแข่งขันเลือกรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ระหว่างนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามผู้บริหารพรรค แต่อย่าแปลกใจ ทุกครั้งต้องแข่งขัน แต่จบได้ง่าย เพราะเข้าใจกันว่าหลังแข่งขันแล้วก็มาทำงานร่วมกันได้ ต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามีศักยภาพทำงาน ซึ่งผู้บริหารพรรคต้องหาหนทางแก้ไข ทั้งนี้ ในอดีตเคยมีช่วงที่พรรคตกต่ำมากกว่านี้มาก แต่ตอนหลังก็ฟื้นกลับมาได้หมด

ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม ที่จ.ชุมพร และสงขลา ทั้งที่เป็นพื้นที่เดิมของปชป. นายชวนกล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของพรรคร่วมที่จะตกลงกัน เมื่อถามถึงมารยาททางการเมือง ควรเปิดทางให้พรรคเจ้าของพื้นที่เดิม นายชวนกล่าวว่า พูดยาก เพราะเป็นเรื่องของสิทธิ์ของพรรคการเมืองที่จะทำได้ ไปตำหนิ ติเตียนไม่ได้

‘อู๊ดด้า’มั่นใจผลงานเข้าตาคนใต้

ที่จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ส.สงขลาและชุมพร หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพความเป็นส.ส.ของนายชุมพล จุลใส อดีตส.ส.เขต 1 ชุมพร และนายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.เขต 6 สงขลาสิ้นสุดลงว่า พรรคเปิดรับสมัครผู้สนใจลงเลือกตั้งซ่อมถึงวันที่ 11 ธ.ค. จากนั้นจะทำไพรมารี่โหวต และส่งผลกลับมาที่คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ซึ่งมีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธาน พิจารณาแล้วเสนอต่อคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ต่อไป

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะมีทั้งพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พรรคภูมิใจไทย(ภท.) และพรรคกล้าลงแข่งขันด้วย จะทำให้พรรคเหนื่อยมากเหมือนการเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครศรีธรรมราชหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่เป็นไร เรามั่นใจในการทำหน้าที่ทั้งในสภาและในฐานะรัฐบาลก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งประเทศ รวมถึงในภาคใต้ด้วย เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่เสียเก้าอี้ส.ส.ทั้ง 2 เขตให้พรรคอื่น นายจุรินทร์กล่าวว่า เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุดมาลงสมัคร และเราเคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่มีปัญหา

รอมติกก.บห.เคาะชื่อ‘ดร.เอ้’

นายจุรินทร์กล่าวว่า ในวันที่ 13 ธ.ค. เวลา 09.30 น. ได้นัดประชุม กก.บห. เพื่อพิจารณาส่งผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งตอนนี้มีชื่อชัดเจนแล้ว พร้อมทั้งมีผู้สมัครสมาชิกกรุงเทพ มหานคร(ส.ก.) ครบทุกเขตแล้วเช่นกัน ส่วนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นชื่อที่พรรคจะเลือกให้เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคหรือไม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า มีชื่อเดียวและเป็นไปตามนั้น แต่ต้องรอให้ผ่านมติกก.บห. ตามระเบียบข้อบังคับพรรค

ปัดวิจารณ์พปชร.ส่งผู้ว่าฯหมูป่า

ส่วนที่พปชร.เปิดชื่อ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ ปทุมธานี รวมถึงนาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่จะลงในนามอิสระนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ปชป.ถือว่ามีความพร้อมทั้งตัวผู้สมัครและสมาชิกที่ร่วมทำงานมาอย่างต่อเนื่อง และได้ให้ความสำคัญกับชาวกรุงเทพฯ เสมอมา แม้บางช่วงจะได้รับความไว้วางใจมากบ้าง น้อยบ้าง แต่ครั้งนี้ถือเป็นหน้าที่ของพรรคที่จะเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้พิจารณา จึงมั่นใจว่าจะได้รับเสียงตอบรับในระดับที่น่าพึงพอใจ

ทั้งนี้ ตนไม่ขอพูดถึงผู้สมัครอื่น เพราะบางชื่อยังไม่ชัดเจน แต่ยืนยันจะทำหน้าที่ให้เต็มที่ และหากได้รับความไว้วางใจ จะยังคงเน้นย้ำเรื่องการทำได้ไว ทำได้จริง ซึ่งทิศทางและยุทธศาสตร์ ผู้ว่าฯ กทม.ในนามปชป. จะต้องทำงานร่วมกันและเป็นเนื้อเดียวกับพรรค โดยจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งหลังมีมติในวันที่ 13 ธ.ค.

ปชป.พร้อมสู้ทุกพรรค

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้า ปชป. กล่าวถึงพปชร.จะส่งนายณรงค์ศักดิ์ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า ไม่ขอก้าวล่วงพรรคอื่น เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคจะพิจารณา ถ้าผู้ว่าฯ ปทุมธานี ตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็เป็นเรื่องดี ประชาชนจะได้มีทางเลือกให้พิจารณาเพิ่มมากขึ้น

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป. กล่าวว่า ขณะนี้มี 2 คนยื่นขอลงสมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส. โดยเขต 1 ชุมพร คือนาย อิสรพงษ์ มากอำไพ เลขานุการนายก อบจ.ชุมพร ส่วนสงขลา เขต 6 คือน.ส.สุภาพร กำเนิดผล รองนายก อบจ.สงขลา ทั้งนี้ มั่นใจว่าผลงานของอดีตส.ส.ของพรรคทั้ง 2 เขตจะทำให้ประชาชนเลือกปชป.เช่นเดิม และไม่กังวลที่ พปชร.จะส่งผู้สมัครลงแข่งขัน เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็ลงแข่งขันได้ ปชป.พร้อมสู้ทุกพรรค

ไหว้ศาล – ‘ดร.เอ้’ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เข้าไหว้ขอพรศาลหลักเมือง กทม. ก่อนเปิดตัวลงชิงผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.

‘ดร.เอ้’รุดไหว้ศาลหลักเมือง

เมื่อเวลา 11.00 น. นายสุชัชวีร์ พร้อมด้วยบุคคลใกล้ชิด ได้เดินทางไปสักการะศาล หลักเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลและเอาฤกษ์เอาชัยสำหรับการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนาม ปชป. ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเปิดตัวในวันที่ 13 ธ.ค.นี้

พปชร.ปัดโยนหินชื่อ‘ณรงค์ศักดิ์’

ที่รัฐสภา นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส. กทม. ในฐานะหัวหน้าภาคกทม. พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ตัวผู้สมัครที่จะลงผู้ว่าฯ กทม. ย้ำว่ายังไม่มีมติใดๆ จากคณะทำงานภาค กทม. และยังไม่มีมติจาก กก.บห. ส่วนที่ปรากฏชื่อนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร จะลงในนามพรรคนั้น ยืนยันยังไม่มีมติ แต่ยอมรับจากการลงพื้นที่ของส.ส.และคณะทำงานภาค กทม. เป็นชื่อที่ประชาชนให้ความสนใจและได้รับกระแสตอบรับที่ดี นอกจากชื่อในโพลทั้งหลาย คือชื่อนายณรงค์ศักดิ์ และจะเป็นสิ่งที่ต้องหารือและแลกเปลี่ยนในคณะทำงาน

เมื่อถามว่าการเปิดชื่อผู้ว่าฯ หมูป่าออกมา เป็นการโยนหินถามทางก่อนหรือไม่ นายจักรพันธ์กล่าวว่า ไม่ทราบใครโยน แต่ไม่ใช่ส.ส.กทม.แน่ เราต้องให้เกียรติท่าน เพราะท่านยังรับราชการ เป็นข้าราชการระดับสูง จึงจะไม่นำชื่อมาเปิดเผยแบบนี้แน่นอน แต่ต้องมาจากปากของนายณรงค์ศักดิ์ว่าสนใจ กระบวนการถึงจะเริ่มขึ้น

รอพรรคอื่นเปิดตัวก่อน

ส่วนที่มีกระแสข่าว ผู้ว่าฯ หมูป่า ได้เข้าพบพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้า พปชร. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ นายจักรพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ยืนยัน แต่ในฐานะภาค กทม. ไม่เคยได้พบปะกัน และหัวหน้าพรรคก็มอบนโยบายชัดเจนว่า เรื่องนี้ต้องเห็นพ้องต้องกัน และหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้พิจารณารอบสุดท้าย ส่วนที่นายณรงค์ศักดิ์ ขอเวลาตัดสินใจ 2 สัปดาห์เพื่อปรึกษาครอบครัวก่อนนั้น นายจักรพันธ์กล่าวว่า ไม่ยืนยันเช่นกัน เพราะไม่เคยเจอ

เมื่อถามว่าพรรคกำหนดวันเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการหรือไม่ นายจักรพันธ์กล่าวว่า ยังไม่กำหนดวัน และคิดว่าสนามกทม.เป็นสนามละเอียดอ่อน มีเรื่องกระแส และเรื่องพรรคใหญ่ที่ทำงานในพื้นที่กทม.หลายพรรคให้ความสนใจ ซึ่งคิดว่ากระบวนการจะชัดเจน เมื่อพรรคใดพรรคหนึ่งเปิดตัว ก็จะเป็นตัวเร่งพรรคอื่นๆ ให้เปิดตัวด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน และเชื่อว่าอีกไม่นานคงมีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยคิดไว้คร่าวๆ หลังเลือกตั้งอบต. 3 เดือน ซึ่งเราเตรียมคนและนโยบายไว้แล้ว

ยังกั๊กส่งแข่งเลือกตั้งซ่อม

ด้านน.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษก พปชร. กล่าวถึงการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมใน จ.ชุมพร และสงขลาว่า เบื้องต้นต้องเข้าที่ประชุมกก.บห.ก่อนว่ามีมติจะส่งหรือไม่ส่ง ถ้าส่งก็จะเข้ากระบวนการคณะกรรมการสรรหา ส่วนที่ปชป.อยากให้ทางพรรคร่วมรัฐบาลหลีกทางให้กันนั้น น.ส.พัชรินทร์กล่าวว่า จะประชุมหารืออีกครั้ง ซึ่งการเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วในการส่งผู้สมัครลงในแต่ละพื้นที่

ก้าวไกลนัดม.ค.65เปิดตัวชิงกทม.

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคว่า ขณะนี้คณะกรรมการสรรหาของพรรค ตัดสินใจเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เรียบร้อยแล้ว และจะส่งให้กก.บห.พิจารณา เบื้องต้นได้ตัวแคนดิเดตที่จะส่งลงแข่งแล้ว แต่มีรายชื่ออีก 2 คน เตรียมไว้เผื่อกรณีจำเป็น โดยพรรคจะเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมผู้สมัครรองผู้ว่าฯ ฝ่ายต่างๆ เช่น ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายผังเมือง รวมถึงทีมงานนโยบาย ในช่วงเดือนม.ค.2565 เป็นเหมือนการเปิดตัวคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของกทม. ที่ต้องมีฝ่ายต่างๆ ร่วมกันทำงาน

นายวิโรจน์กล่าวว่า แคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค หากเปิดออกมาแล้ว สังคมจะรู้จักอย่างแน่นอน โดยคิดว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคนกทม. เมื่อถามย้ำว่าแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคอยู่ในแวดวงใด นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ หากตอบแล้วจะต้องรู้ทันที

ไทยสร้างไทยปล่อยคาราวาน

ที่ศูนย์อำนวยการพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ นายพงศกร อรรณนพพร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยการ และพัฒนาพรรค นายวัฒนา เมืองสุข ประธานคณะกรรมการกฎหมายและการเมือง พร้อมทีมไทยสร้างไทย และสมาชิกพรรค ปล่อยขบวนคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ก้าวแรกของขบวนคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด เริ่มต้นในวันรัฐธรรมนูญ โดยขบวนรถกว่า 50 คัน จะสัญจรไปทั่วประเทศเพื่อรับฟังทุกเสียง ทุกปัญหา ทุกความต้องการ เพื่อนำมาจัดทำนโยบาย สร้างเศรษฐกิจให้รุ่งเรือง แก้ปัญหาความขัดแย้ง

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า แนวทางของพรรคคือ การใช้กลไกของสภาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 256 จะเป็นทางออกนำไปสู่การคลี่คลายวิกฤตทางการเมือง โดยเฉพาะปัญหาขัดแย้งที่ฝังรากลึกมานาน และเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนจะนำประเทศ หลุดพ้นจากรัฐราชการรวมศูนย์ ที่ครอบงำประเทศชาติ ประชาชน เปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบริการประชาชน ที่ข้าราชการไม่ใช่เจ้านายประชาชน แต่ต้องเป็นผู้ดูแลและพร้อมให้บริการ สร้างโอกาสให้ประชาชนทำมาหากินได้อย่างเข้มแข็ง

สร้างไทย 77 จว. – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมสมาชิกพรรค ปล่อยขบวนคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด รับฟังปัญหาจากชาวบ้านทั่วประเทศ ที่ศูนย์อำนวยการพรรคไทยสร้างไทย กทม. เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.

‘หน่อย’ปัดลงชิงผู้ว่าฯกทม.

คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งผู้สมัครลงชิงผู้ว่าฯ กทม.ว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไร ส่วนที่ทสท. ถูกมองว่าสนับสนุนนายชัชชาตินั้น ยืนยันว่าหากจะสนับสนุนหรือทำอะไรต้องส่งนามในทสท.เท่านั้น เพราะต้องตรงไปตรงมากับประชาชน ขณะที่การส่งผู้สมัคร ส.ก. อยู่ระหว่างวางตัวผู้สมัคร

เมื่อถามถึงปชป. ส่งนายสุชัชวีร์ และ พปชร. เตรียมส่งนายณรงค์ศักดิ์ ทางพรรคมั่นใจหรือไม่ว่าจะสู้ศึกนี้ได้ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชน เพราะทสท. ย้ำตลอดว่าเราแข่งกับตัวเอง เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ทุกวันนี้บ้านเมืองอยู่ในวิกฤตของการเมืองมานานแล้ว ต้องยุติวิกฤต ยุติความขัดแย้ง ฟังทุกความเห็นที่แตกต่าง และมุ่งสร้างเศรษฐกิจให้ดีกับประชาชน นี่คือทางออกของประเทศ และเป็นภารกิจสุดท้าย ในการสร้างทสท. เพื่อช่วยสร้างประเทศไทยให้ดีที่สุด

ส่วนปล่อยขบวนคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด ประชาชนเข้าใจว่าคุณหญิงสุดารัตน์เตรียมลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.นั้น คุณหญิง สุดารัตน์กล่าวว่า ทสท. ยึดเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราต้องเดินหน้าเพื่อประชาชนเท่านั้น

พท.จี้รัฐบาลเร่งจัดเลือกตั้ง

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงปชป.เตรียมเปิดตัว นายสุชัชวีร์ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า ทำให้ประชาชนมีตัวเลือกมากขึ้น และการที่แต่ละพรรคเตรียม เปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.มากขึ้น คงทำให้รัฐบาลนำมาประเมินว่าหากยื้อการเลือกตั้งออกไป จะเป็นผลเสียต่อรัฐบาล ทำให้ประชาชนเสียโอกาส ยิ่งตอนนี้ใน กทม.เกิดวิกฤตในหลายเรื่อง ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่จะยื้อการเลือกตั้งออกไปอีก แต่ควรจัดการเลือกตั้ง โดยเร็ว

เมื่อถามถึงความพร้อมของ พท.ต่อการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. นายอนุสรณ์กล่าวว่า การเลือกตั้งส.ก. พรรคจะส่งผู้สมัครแน่นอน ส่วนผู้ว่าฯ กทม.คงต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย

ยิ่งลักษณ์ยี้รธน.ฉบับคสช.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊ก รำลึกเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า 10 ธ.ค. เป็นวันรัฐธรรมนูญ แต่พวกเราคนไทยไม่สามารถพูดถึงรัฐธรรมนูญได้อย่างภาคภูมิ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีที่มาจากการสืบทอดอำนาจของ คสช. จำกัดและลิดรอนสิทธิของประชาชน ยากต่อการนำประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุด้วยว่า ดังนั้น จุด เริ่มต้นของการแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศที่ดีที่สุด คือการทำกติกาให้เป็นสากล เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เริ่มจากการรับฟังเสียงของทุกภาคส่วน เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม สร้างกติกาสูงสุดร่วมกัน ซึ่งตนยังเฝ้ารอจะได้เห็นรัฐธรรมนูญที่มาจากความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

สุวัจน์ลั่นชพน.ต้องกลับมายิ่งใหญ่

ที่ห้องประชุมลำปลายมาศ โรงแรมแคนทารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา(ชพน.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกฯ และประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นประธานเปิดการประชุม และมีผู้บริหารพรรคและสมาชิกพรรคทั่วประเทศกว่า 1,500 คนเข้าร่วมประชุม

นายสุวัจน์กล่าวว่า การประชุมใหญ่ครั้งนี้เพื่อเตรียมหาตัวแทนพรรคลงสมัครส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า รวมถึงจัดทำนโยบาย เน้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจในภาคอีสาน ซึ่งชพน.เคยได้ส.ส.ถึง 60 คน ในยุคของพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรค การเมืองเขาวัดกันด้วยเสียงในรัฐสภา แต่ตอนนี้ชพน.มีแค่ 4 เสียงเท่านั้น ถือเป็นพรรคขนาดเล็ก ดังนั้น เราต้องกลับมาเป็นพรรคขนาดกลางหรือพรรคใหญ่ให้ได้ วันนี้ความขัดแย้งทางการเมือง ถือว่าเป็นอุปสรรคของการพัฒนาประเทศ ทำให้ขาดพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้น ชพน.จะทำการเมืองโดยไม่ขัดแย้งกับใคร ที่สำคัญ จ.นครราชสีมา ถือเป็นเรือนตายของพรรค ในอดีตเราเคยได้ส.ส.นครราชสีมา มากถึง 15 คน วันนี้ก็ต้องทำให้ได้ ต้องมาวางแผน กำหนดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้พรรคกลับมายิ่งใหญ่ในจ.นครราชสีมาเหมือนในอดีตให้ได้

ปปช.จ่อตรวจบัญชีอบต.ใหม่-เก่า

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. มีการเลือกตั้งอบต.ทั่วประเทศ วันนี้คนที่พ้น นายก อบต.และรองนายก อบต. ที่ต้องยื่นบัญชีรวมแล้ว 15,900 บัญชี ส่วนกรณีรับตำแหน่งใหม่ ที่ต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับรองอีก 15,900 บัญชี จากนั้นต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ภายใน 60 วัน ดังนั้น เราจะมีบัญชีอบต.กว่า 30,000 บัญชี มีบัญชีเทศบาล 20,000 กว่า ของค้างเก่าอีก 20,000 กว่าบัญชี รวมแล้ว 70,000 กว่าบัญชี ที่ป.ป.ช.ต้องดำเนินการ

เข้มร่ำรวยผิดปกติ-ยึดคืนแผ่นดิน

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า นอกจากนี้ ป.ป.ช.จะดำเนินการเรื่องร่ำรวยผิดปกติ เรียกคืนทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน อย่างปี 64 เรียกคืนมาได้ 655.99 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีเรื่องตรวจสอบร่ำรวยผิดปกติอยู่ 300 กว่าเรื่อง ไต่สวนอยู่ 100 กว่าเรื่อง และถ้าจริงจังในเรื่องนี้ คนก็จะเกรงกลัว และมีความโปร่งใสเกิดขึ้น ซึ่งเรากำลังแก้กฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ตนได้มอบให้นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประเมินว่าจะปรับโครงสร้างหน่วยงานไต่สวนอย่างไร โดยจะเพิ่มสำนักไต่สวนคดีร่ำรวยผิดปกติขึ้นมา เพราะเป้าหมายคือต้องการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต “ไม่ทน ไม่ทำ ไม่เฉย” เชื่อมั่นว่าเราได้เดินมาในทางที่ถูกต้องและแนวโน้มน่าจะมีความหวัง แต่คงต้องพิสูจน์กันต่อไป