ตร.เน้น10ข้อขับขี่ปลอดภัย
แนะ3ถนนเลี่ยง‘มิตรภาพ’

‘บิ๊กปั๊ด’ ผบ.ตร. ย้ำ 10 ข้อปีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย พักผ่อนให้พอ ง่วงให้พัก เมาไม่ขับ เที่ยว-กลับบ้านปีใหม่ 7 วันอันตราย 29 ธ.ค.64 ถึง 4 ม.ค.65 บิ๊กตู่จี้บขส.ตรวจเข้มโควิด คาดช่วงปีใหม่แห่ใช้บริการกว่าแสนคนเตรียมรถรับการเดินทางไว้กว่า 9 พันเที่ยว กำชับทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกการเดินทาง 7 วันให้คล่องตัวมากที่สุด บช.ก. เปิดแอพฯ-เว็บ ให้จองห้องพักระหว่างทางป้องกันอุบัติเหตุ ตร.ภาค 3 แนะ 3 ทางเลี่ยงสายอีสาน สระบุรี ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว สธ.ขอให้ยึด 3 ม. ‘ไม่เมา-สวมแมสก์-ใส่หมวกกันน็อก’ สั่งร.พ.ระดมเพิ่มบุคลากร 120-130% ห้องฉุกเฉิน ตั้งด่านชุมชนสกัด โควิด ทส.เตรียมแจกที่ทำกินในเขตป่าสงวน-ชายเลน กว่า 3 ล้านไร่ ให้เป็นของขวัญปีใหม่

นายกฯกำชับ‘บขส.’เข้มโควิด

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นห่วงการเดินทางของประชาชนในสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ ซึ่งคาดจะมีการเดินทางข้ามจังหวัด พื้นที่จำนวนมาก จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประสานกระทรวงคมนาคม บริษัทขนส่งทางบก (บขส.) เตรียมมาตรการรองรับประชาชนที่จะมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยสธ.แนะนำว่า กรณีรถโดยสารที่ต้องใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป ควรมีการตรวจแอนติเจน เทสต์ คิต (เอทีเค) ผู้โดยสารก่อนขึ้นรถทุกคน

ส่วนผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะใช้บริการทั้งที่สถานีขนส่งและบนรถโดยสารตลอดการเดินทาง สำหรับพนักงานขับรถและพนักงานบริการจะต้องมีการตรวจเอทีเค ก่อนปฏิบัติงาน ตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เตรียมรองรับการเดินทางตั้งแต่ 29 ธ.ค. 2564-4 ม.ค.2565 รวมเวลา 7 วัน ติดตามการใช้เส้นทางจราจรทางถนน ให้มีความคล่องตัว ไม่ติดขัดด้วย

คาดแห่ใช้บริการกว่าแสนคน

นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ หวังว่า ปีนี้จะลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ และลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มากที่สุด ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย ทั้งนี้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มประมาณ 30% จากในช่วงปีใหม่ โดยเที่ยวไประหว่างวันที่ 28-30 ธ.ค. 2564 จะมี ผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 60,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,700 เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 2-3 ม.ค. 2565 คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 50,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 4,500 เที่ยว ซึ่ง บขส.พร้อมให้บริการด้วยรถโดยสารที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus และจัดการเดินรถตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดด้วย

“นายกฯ ยังแนะนำประชาชนให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เหลื่อมเวลาการเดินทางในเส้นทางเข้า-ออกกรุงเทพ มหานคร เพื่อกระจายปริมาณจราจรบนถนน และหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมฝากความห่วงใยผู้ขับขี่ยานยนต์ทุกประเภท ให้มีสติ ไม่ขับรถเร็ว เมาไม่ขับ เพื่อให้ถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย ที่สำคัญทุกคนต้องป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาลตลอดเวลา ช่วยกันลดทั้งความเสี่ยงในการแพร่/ รับเชื้อโควิด-19 และลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ด้วย” นายธนกรกล่าว

วิถีใหม่ – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวฯ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวสร้างความปลอดภัยด้านการ ท่องเที่ยววิถีใหม่ โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. และจนท.หลายฝ่ายเข้าร่วม ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.

ตร.เน้น 10 ข้อขับขี่ปลอดภัย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล ในช่วง 7 วันอันตราย ได้มอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ไปช่วยดูแลความปลอดภัยการเดินทางของพี่น้องประชาชน โดยทางพล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ ตนพร้อมด้วย พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งดูแลและรับผิดชอบงานด้านการจราจร พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการจราจร ได้ไปวางมาตรการป้องกัน และเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยในท้องถนน ในช่วงประชาชนเดินทางทั้งไปและกลับภูมิลำเนา โดยตร.มีความห่วงใย จึงอยาก เน้นย้ำ 10 ข้อ ในการขับขี่ปลอดภัยดังนี้

1.สภาพร่างกายผู้ขับขี่มีความพร้อม พักผ่อนเพียงพอ 2.ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง 3.ศึกษาและวางแผนเส้นทาง เพื่อให้ถึง ที่หมายโดยปลอดภัย 4.ดื่มไม่ขับ รวมถึง ผู้โดยสารต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์บนรถโดยเด็ดขาด 5.ถึงช้าหน่อยแต่ปลอดภัย ไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด

6.ใช้อุปกรณ์นิรภัยขณะขับขี่และโดยสาร (หมวก เข็มขัด) 7.ปฏิบัติตามกฎจราจรและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8.ไม่เปิดเพลงเสียงดัง หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญในทาง 9.หากง่วงนอนหรือเพลีย ให้แวะพัก และ10.มีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทางบนท้องถนน

สำหรับ ผู้ที่ใช้รถใช้ถนน หากเกิดอุบัติเหตุ หรือ ขอความช่วยเหลือ แจ้งได้ที่ โทร.191 หรือ 1193

ขับขี่ปลอดภัย – พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำทีมจิตอาสาทำเครื่องหมายจราจร ระหว่างเปิดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” รับเทศกาลปีใหม่ 2565 บนถนนมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อ วันที่ 27 ธ.ค.

บช.ก.เปิดห้องให้แวะพัก

เวลา 09.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รองผบช.ก. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล.และแขวงทางหลวงนครราชสีมา ที่ 12 อบต.หนองสาหร่าย ร่วมเปิดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อต้อนรับเทศการปีใหม่ 2565 มีการเปิดจุดอับ ขยายจุดสว่าง และจุดพักรับรอง มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกเก็บเศษขยะ ตัดกิ่งไม้ และทำเครื่องหมายจราจร บริเวณช่วงถนนมอเตอร์เวย (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมกับแจกหมวกกันน็อกให้กับนักเรียน เพื่อสร้างวินัยในการขับขี่ เพื่อลดอุบัติเหตุ

พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังบชก.ออกอำนวยการจราจรให้กับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาและประชาชนที่จะไปเที่ยว ทั่วประเทศ จึงได้จัดกิจกรรมขึ้นในครั้งนี้ที่บริเวณเส้นทางมอเตอร์เวย์ M6 โดยมีการร่วมกันของทุกภาคส่วน เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ ทาสีเส้นทางจราจรบนพื้นถนน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่จะต้องใช้เส้นทางสายนี้มากขึ้น

“อุบัติเหตุบนท้องถนน บางส่วนก็เกิดจากผู้ขับรถทางไกลแล้วเกิดเมื่อยล้าหลับใน หากจะจอดข้างทางก็อาจเกิดอันตราย ทางบก.ทล.จึงได้จัดห้องพักไว้รองรับประชาชนที่เดินทางไกล จอดรถแวะพักได้ หรือจะพักค้างคืนก็ได้เช่นกัน โดยจองห้องพักผ่านแอพพลิเคชั่น เว็บจองห้องที่ www.booking.hwpdth.com. ภายในห้องพัก จะมีทั้งอาหาร ห้องน้ำ ไว-ไฟ และเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ ทุกหน่วยบริการฯ และจะตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดอีกด้วย” พล.ต.ท.จิรภพกล่าว

ตั้งศปถ.รวมสถิติอุบัติเหตุ

ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ปภ.ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 65 ภายใต้การดำเนินการของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี ในระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.-5 ม.ค.2565 ที่ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลสถิติอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 65 พร้อมประสานสั่งการแก้ไขปัญหา อุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา

ทั้งนี้ ปภ.จะแถลงข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 65 ถ่ายทอดสดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทางเฟซบุ๊ก “กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM” เวลา 10.15 น. ตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่วนการประชุมหารือกับจังหวัดและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น จะเน้นใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นหลัก เช่นเดียวกับศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

สธ.ย้ำ 3 ‘ม’-ตั้งด่านชุมชน

ที่สธ. จัดแถลงข่าวชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ช่วง 7 วันปีใหม่ 2564 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,333 ครั้ง เสียชีวิต 392 ราย บาดเจ็บ 3,326 คน สาเหตุคือขับรถเร็ว 33.6% ดื่มแล้วขับ 33.06% ดังนั้น เทศกาลปีใหม่ 2565 ซึ่งยังอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ขอให้ใช้หลัก 3 ม คือ “ไม่เมา ใส่แมสก์ และสวมหมวก” ขอให้ตระหนักหากขับขี่ยานพาหนะ ต้องไม่ดื่ม ไม่ใช่แค่เมาไม่ขับ แต่ต้องดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม สวมหมวกกันน็อกเวลาขี่รถจักรยานยนต์

นายอนุทินกล่าวว่า ปีนี้ สธ.สั่งการชัดเจนให้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และ ผอ.ร.พ.ทุกแห่งอยู่ในพื้นที่ ให้ดูแลสวัสดิภาพประชาชน ผู้บริหารจะแยกย้ายไปตรวจแต่ละพื้นที่ เราเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉินแต่จะดีมากหากไม่ต้องใช้ รวมถึงมีด่านชุมชน ที่เป็นความร่วมมือฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร อสม. หากทุกคนร่วมกันเฝ้าระวัง ไม่กินเหล้า รับผิดชอบตัวเอง ผู้อื่น และประชาชน จะลดอุบัติเหตุไปเยอะ

“เราต้องได้รับความร่วมมือ เราทำได้แค่แนะนำว่าทำอย่างไรให้ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีมาตรการเอาผิด หากขายเหล้าผิดกฎหมาย เกินเวลาหรืออายุไม่ถึง 20 ปี แต่เป็นเรื่องปลายทางไม่ใช่ต้นเหตุ อยากให้ทุกคนสำนึกรับผิดชอบ เพราะดื่มไม่ได้เกิดอันตรายกับเราคนเดียว แต่รอบตัวที่เรารักหรือรักเราทั้งนั้น ไม่ควรบังเกิด ของขวัญปีใหม่ คือ ทุกคนช่วยกันดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม สอดส่องความปลอดภัยด้วยกัน จะถือเป็นของขวัญสำหรับบุคลากร เราไม่ต้องการสิ่งของ คำสรรเสริญเยินยอ หรือรายได้เพิ่มขึ้น แค่ไม่เมา สวมหมวก ใส่แมสก์ ทำตาม โควิด ฟรี เซ็ตติ้ง ก็เป็นของขวัญแล้ว” นายอนุทินกล่าว

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. กล่าวว่า ขอให้ อสม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และท้องถิ่น ดูแลความปลอดภัยประชาชน ประเมินอาการมึนเมา คัดกรองดื่มแล้วขับไม่ให้ออกไปขับรถบนถนน เฝ้าระวังร้านค้าในชุมชนไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมาย ช่วยเคาะประตูบ้าน สื่อสารความรู้การดูแลป้องกันอุบัติเหตุคนในชุมชน

เพิ่มบุคลากร-ห้องฉุกเฉิน

ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. กล่าวว่า สั่งการให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งส่วนกลางและจังหวัด ให้ สสจ. และร.พ.ฝึกทักษะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยฉุกเฉินให้กับชุดปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้นของ อปท. เตรียมความพร้อมศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทีมปฏิบัติการฉุกเฉินของ ร.พ. เครือข่ายภาครัฐและเอกชน หน่วยปฏิบัติการทางอากาศและเรือ มีหน่วยกู้ชีพ ทั้งระดับพื้นฐานและระดับสูงประจำบนเส้นทางถนนสายหลักที่มีจุดตรวจ/จุดบริการอยู่ห่างกันมาก เพื่อให้การรักษาพยาบาลเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนร.พ.ทุกแห่งมีการเพิ่มจำนวนบุคลากรเป็น 120-130% เตรียมพร้อมห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้อง ICU และระบบส่งต่อ ให้บริการเจาะเลือดตรวจระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุตามที่ตำรวจร้องขอ เตรียมป้องกันเหตุความรุนแรงในสถานพยาบาลประสานตำรวจท้องที่ตรวจความเรียบร้อยเป็นระยะ หากมีผู้เข้ารับการรักษาจากเหตุทะเลาะวิวาท ให้ส่งกำลังพลมาเตรียมพร้อมระงับเหตุและดำเนินคดีกับ ผู้ก่อเหตุขั้นเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วย และญาติ ที่มารับบริการ

แจ้งจับฝ่าฝืนจุดห้ามขาย-ดื่ม

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ที่ผ่านมายังพบร้านค้ากระทำผิด ขอให้พื้นที่ทำงานเชิงรุก ช่วงก่อนเทศกาลออกตรวจเตือน ช่วงเทศกาลบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเพื่อป้องกันการกระทำผิด และขอให้ประชาชนช่วยสอดส่อง หากพบการทำผิดกฎหมาย ขายและดื่มในสถานที่ห้าม เช่น ปั๊มน้ำมัน สถานที่ราชการ สถานศึกษา ศาสนสถาน สวนสาธารณะของราชการ เวลาที่ห้ามขาย เร่ขาย และโฆษณาส่งเสริมการขายให้แจ้งศูนย์ร้องเรียนบุหรี่และสุรา โทร.0-2590-3342 หรือสายด่วน 1422 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงปีใหม่ 2565 สสส. มีมาตรการสำคัญ ได้แก่ 1.สนับสนุนคณะทำงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) 76 จังหวัด หนุนเสริมการทำงานลดอุบัติเหตุในระดับพื้นที่

2.สนับสนุน “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” กว่า 800 ตำบลทั่วประเทศ ทำงานเชิงรุกลดอุบัติเหตุ เน้นกลุ่มเสี่ยงคือผู้ใช้รถจักรยานยนต์

3.สนับสนุนเครือข่ายกองร้อยอาสาจราจร และเครือข่ายอาสาสมัคร ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 เน้นการตั้งด่านชุมชนป้องปรามไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และบูรณาการการเฝ้าระวังโควิด- 19

และ 4.สื่อสารรณรงค์ภายใต้แคมเปญ “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” เตือนสตินักดื่มแล้วขับ” ว่า “รับไหวหรือ? ปีใหม่นี้ สสส. ชวนช่วยกันลดพฤติกรรมเสี่ยง ลดความสูญเสีย เพื่อให้ทุกคนได้ฉลอง ในเทศกาลปีใหม่นี้อย่างปลอดภัย

แนะ 3 ทางเลี่ยงรถติดมิตรภาพ

ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา, ตำรวจทางหลวง, แขวงทางหลวงนครราชสีมา, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา, สสจ., ขนส่งจังหวัด และมูลนิธิกู้ภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีปริมาณรถยนต์ในเส้นทางต่างๆ มากกว่าช่วงเวลาปกติ และพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 เป็นพื้นที่ที่ต้องรับปริมาณรถที่ออกจากกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออก ผ่านไปสู่จังหวัดทางภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด

โดยมีถนนมิตรภาพและถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา เป็นเส้นทางหลักสำคัญที่มีปริมาณผู้ใช้รถจำนวนมากในช่วงเทศกาล ตำรวจภูธรภาค 3 จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมกว่า 10,000 นาย ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ ตำรวจทางหลวงยังได้แนะนำเส้นทางเลี่ยงการจราจร เพื่อแก้ปัญหารถติดบนถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าสู่จังหวัดในภาคอีสาน จำนวน 3 เส้นทาง ประกอบด้วย

เส้นทางที่ 1 ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ-สระบุรี-เลี้ยวขวาสามแยกพุแค-เข้าถนนพุแคหล่มสัก ทล.21-เลี้ยวขวาแยกม่วงค่อม เข้าสู่ ทล.2256 หรือเลี้ยวซ้ายเข้า ทล.205 เพื่อเข้าสู่ ทล.201-ไปยังจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย

เส้นทางที่ 2 ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-ใช้ ทล.304-พนมสารคาม-กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว-ปักธงชัย-ไปยังจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี และเส้นทางที่ 3 ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-สระแก้ว-อรัญประเทศ-ตาพระยา-โนนดินแดง-ละหารทราย-ไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

โคราชจัดมหกรรมศิลปะ

ที่บริเวณ ทีเค ปาร์ก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา ร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรมลานศิลปวัฒนธรรม ในงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ เพื่อส่งเสริมให้เกิดพื้นที่ศิลปวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้ สำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้ความเข้าใจในศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สร้างจิตสำนึกรักและ ภาคภูมิใจ ในวัฒนธรรมของตนเอง มีส่วนร่วมพัฒนางานด้านศิลปะอย่างยั่งยืน ถือเป็นกิจกรรมต้อนรับเทศกาลปีใหม่ด้วย

กำหนดจัดขึ้นพร้อมกันในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง ปากช่อง และพิมาย ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 13 มี.ค.2565 โดยจะจัดกิจกรรมในวันเสาร์และอาทิตย์ของทุกสัปดาห์ ต่อเนื่องตลอด 3 เดือนของการจัดงาน “ไทยแลนด์เบียนนาเล่” กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการแสดงที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชุมชนและ มีความร่วมสมัย การจัดลานศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นหรือร่วมสมัย มีลานอาหารพื้นถิ่น และผลิตภัณฑ์ชุมชน ในจังหวัดนครราชสีมา นอกจากนี้ยังมีการจัดพื้นที่ให้กับเด็ก และเยาวชนที่สนใจศิลปะการวาดภาพได้มาลองฝึกการวาดภาพด้วยสีน้ำด้วย

ทล.สุราษฎร์เปิดศูนย์ปีใหม่

ที่บริเวณหน้า สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสมบูรณ์ ชารี รองผอ.สำนักงานทางหลวงที่ 16 นายปริญญา วีระจิตต์ ผอ.แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 1 ร.ต.อ.ปานเทพ ภจน์ธีรมนตรี รองสว. สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. ถึงวันที่ 4 ม.ค. 2565 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานี ที่ 1 เข้าร่วมกิจกรรม

นายสมบูรณ์กล่าวว่า แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 1 ได้จัดตั้งจุดบริการทั่วไทยขึ้น 1 แห่ง บริเวณหน้าสถานีตำรวจทางหลวง ชุดซ่อมฉุกเฉิน จำนวน 3 ชุด แยกเป็นชุดไฟฟ้า 2 ชุด และเซอร์วิส คาร์ 1 ชุด และ ชุดเคลื่อนที่เร็ว 5 ชุด เพื่อให้ผู้ใช้เส้นทางได้รับความสะดวก ปลอดภัย ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากการเดินทาง พร้อมทั้งบริหารจัดการการจราจรทางถนน ให้มีความคล่องตัวและไม่ติดขัด ทั้งยังรายงานสถานการณ์แบบ เรียลไทม์ ทำให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ และเข้มมาตรการป้องกันโควิด

ด้านนายปริญญากล่าวว่า กรมทางหลวงได้มีนโยบายให้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย โดยมีมาตรการเตรียมความพร้อม 3 ด้าน คือ 1.การเตรียมความพร้อมของทางหลวง ซึ่งได้แก่ ทางหลวงปลอดภัย ผิวทางดี ขับขี่สะดวก และปลอดภัย ไฟฟ้าแสงสว่าง ไฟสัญญาณจราจร ป้ายจราจร เห็นชัดเจนพร้อมใช้งาน บริเวณ 2 ข้างทางและทางแยก สะอาด สบายตา และ 2.การอำนวยความปลอดภัย โดยการแก้ไขจุดเสี่ยง จุดอันตราย รณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัย เฝ้าระวังและบูรณาการร่วมกับตำรวจทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวดขันวินัยจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้กับผู้ใช้เส้นทาง

และ 3.มาตรการด้านอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยมีเต็นท์จุดให้บริการ ดังนี้คือ จุดบริการทั่วไทย จำนวน 1 จุด ณ สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 2 ให้คำแนะนำ เส้นทาง บริการห้องน้ำ เครื่องดื่ม สถานที่ พักผ่อน หน่วยบริการเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 5 ชุด คอยให้ความช่วยเหลือผู้ใช้เส้นทาง ตรวจตราความเรียบร้อยของเส้นทาง และคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และชุดซ่อมฉุกเฉิน จำนวน 3 ชุด แยกเป็นชุดไฟฟ้า 2 ชุด คอยตรวจตราไฟฟ้าแสงสว่าง และไฟสัญญาณจราจร ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และชุด เซอร์วิส คาร์ คอยให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางถนนในเบื้องต้น

ภูเก็ตจัดงานใหญ่ส่งท้ายปี

ที่โรงแรมคอร์ทยาร์ค แมริออท จังหวัดภูเก็ต นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และพล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 (AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2022, AMAZING NEW CHAPTERS @PHUKET) ที่จะจัดขึ้นในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต

นายพิพัฒน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ททท. ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต จัดงาน COUNTDOWN 2022 ซึ่งเป็น 1 ใน 5 จังหวัด ที่มีการจัดงานส่งท้ายปีเก่า 2565 ซึ่งการจัดงานที่จังหวัดภูเก็ต เป็นการเปิดประวัติศาสตร์บทใหม่สุดอัศจรรย์ในการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สุดยิ่งใหญ่ ด้วยการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินโอเปร่าระดับโลก ชาวอิตาเลียน “อันเดรอา โบเชลลี” และศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย

พร้อมไฮไลต์การแสดงพลุชุด “มหัศจรรย์ความสุขแห่งไข่มุกอันดามัน” กว่า 20,000 นัด ที่ผสมผสานสอดคล้องไปกับบทเพลงตลอดคืน ก่อนเข้าสู่วันแรกของปี 2565 เพื่อสื่อความหมายถึงความสุขสมหวัง และพลังใจที่จะนำชาวจังหวัดภูเก็ตและคนไทย พบความสว่างไสวรุ่งเรือง ตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทาง แห่งการท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต ที่พร้อมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ที่สำคัญพลุที่จุดเป็นพลุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นพลุเมล็ดข้าวเมื่อตกยงสู่น้ำก็จะเป็นอาหารปลาต่อไป

มั่นใจนักท่องเที่ยวเชื่อมั่น

นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า จ.ภูเก็ต ขานรับนโยบายภาครัฐในการเปิดประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ภายใต้มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ในฐานะเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย และเป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรกในการต้อนรับนักเดินทางจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส และแสดงผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 เข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวมาก และได้สร้างเม็ดเงินให้กับธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องหลังสถานการณ์โควิด

ดังนั้น การจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 (AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2022, AMAZING NEW CHAPTERS @ PHUKET) จึงเป็นกิจกรรมที่สามารถถ่ายทอดภาพลักษณ์ที่ดีของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้ปรากฏแก่ชาวโลก สร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นโปรโมตจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวของโลก (World Class Destination)

นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นพ.สสจ.ภูเก็ต กล่าวว่า การจัดงานดำเนินการภายใต้มาตรการสาธารณสุข และมาตรฐาน SHA อย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้เข้าร่วมงาน โดยผู้เข้าร่วมงานทุกคนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม และมีผลตรวจการตรวจหาเชื้อโควิด-19 (เอทีเค และอาร์ที-พีซีอาร์) เป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ได้รับการรับรองจากสถานพยาบาล และลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าเท่านั้น

ชวนเที่ยวต๋าหลาด‘ไท-ยวน’

ที่จ.ราชบุรี พระครูวินัยธรอำนาจ อนุภัทโท เจ้าอาวาสวัดนาหนอง นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายสาโรจน์ มูลพวก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนแร่ พร้อมผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ได้ร่วมเปิด ต๋าหลาดไท-ยวน ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดนาหนอง ต.ดอนแร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายลง โดยมีพ่อค้า แม่ค้า ซึ่งเป็นชาวไท-ยวน ในชุมชนนำผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปต่างๆ มาวางจำหน่าย มีทั้งผ้าทอดอนแร่ ที่เป็นผ้าทอฝีมือ มีลวดลายสีสันสวยงามคงความเป็นเอกลักษณ์ มีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท และยังมีผลิตภัณฑ์และสินค้า เสื้อผ้า กระเป๋า และอาหารพื้นบ้านหลากหลาย ฝีมือของชาวบ้านมาวางจำหน่ายราคาที่ไม่แพง

นายสาโรจน์กล่าวว่า ตลาดชุมชน ต.ดอนแร่ ทำกันมา 3 ปีแล้ว แต่เจอพิษโควิดจึงได้ปิดตัวลง และวันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีได้เปิดตลาดอีกครั้ง โดยการทำตลาดขึ้นมานั้นเพราะชาวบ้านมีภูมิปัญญา มีของดี อาหารอร่อยที่ขึ้นชื่อและทำกินกัน ต๋าหลาดไท-ยวน มีพื้นที่โปร่ง โล่ง สบาย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินเดินชมธรรมชาติบริเวณท้องทุ่งนา มีดอกดาวกระจายสีเหลืองอร่ามบานสะพรั่ง ปลูกอยู่ริมคันนาให้ทุกคนได้เซลฟี่เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก หากมาในช่วงเช้า หรือช่วงเย็น ก็จะพบกับแสงแดดที่สาดส่องลงมากระทบผิวน้ำท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายใน ช่วงนี้ หรือจะมานั่งพักผ่อนสัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์ในช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ ตลาดเริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เที่ยวได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติ เลือกซื้อของฝากพื้นบ้านสุดประทับใจ และยังกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ท้าวเวสสุวัณด้วย

ทส.มอบ7นโยบายสร้างสุข

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า ทส.ได้เตรียมมอบของขวัญปีใหม่ 2565 สร้างสุขให้พี่น้องคนไทย ภายใต้นโยบายของรัฐบาล ที่มอบหมายทุกกระทรวงให้เร่งดำเนินการจัดทำแผนงานต่างๆ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยนโยบายสร้างสุขตลอดปี 2565 ได้แก่

1.การจัดที่ดินอยู่อาศัย/ทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล คทช. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3.67 ล้านไร่ และพื้นที่ป่าชายเลน 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล จำนวน12,047 ไร่

2.จัดหาพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่ออุปโภคบริโภค โดยโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟู พัฒนาแหล่งน้ำและบริหารจัดการน้ำ จำนวน 97 แห่ง ครัวเรือนได้รับประโยชน์ 27,875 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 83,111 ไร่

3.โครงการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบกระจายน้ำ จำนวน 122 แห่ง ครัวเรือนได้ประโยชน์ 21,316 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 74,331 ไร่

4.จัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล จำนวน 1,247 แห่ง ประชาชนได้ประโยชน์ 247,676 ครัวเรือน/ 990,704 ราย

5.ทุนสิ่งแวดล้อมสนับสนุนโครงการโคกหนองนาโมเดล วงเงิน 50 ล้านบาท ส่งเสริมเครือข่าย ทสม.ทั่วประเทศ จำนวน 100 โครงการ

6.ส่งเสริมความรู้ด้านทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านแอพพลิเคชั่น Green Digital Library

และ 7.แอพพลิเคชั่น คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับกิจกรรมในชีวิตประจำวันของบุคคล ซึ่งจะทำให้ประชาชนทราบถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ช่วยกันลดก๊าซเรือนกระจก

นายวราวุธกล่าวว่า ของขวัญทั้งหมดนี้ เป็นความตั้งใจของรัฐบาล และทส. ที่ต้องการสร้างความสุขให้กับพี่น้องคนไทย เพื่อพี่น้องคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน