40ชายหญิงฉี่ม่วงเพียบ
ตร.ปรับแผนรับแห่กลับ
เส้นมิตรภาพรถติดหนึบ
อุบัติเหตุ 3วันตาย‘153’
เมาขับจับแล้ว2,406คดี

ตร.ปรับแผน รับคนแห่กลับกรุง เส้นมิตรภาพติดหนึบ ‘ปากช่อง’ เร่งระบาย อุบัติเหตุ 3 วันปีใหม่ ตาย 153 เจ็บ 1,322 จากอุบัติเหตุ 1,339 ครั้ง เทียบปีก่อนสถิติลดลงทุกอย่าง อธิบดีกรมคุมประพฤติเผยจับเมาขับ 2,406 คดี แค่วันสิ้นปีมีจับนักดื่มฝืนขับถึง 1,723 คดี ตร.บุกทลายปาร์ตี้ยาในร้านอาหารย่านห้วยขวาง พบ ‘อี-เค’ เกลื่อนพื้น จับ 40 นักเที่ยวตรวจฉี่ มีเสพถึง 27 ราย

ทำบุญปีใหม่ – นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดมหาดไทย และภริยา นำคณะผู้บริหารหน่วยงาน และประชาชนร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันปีใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่วัดราชบพิธฯ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

นายกฯ-ครม.ถวายพระพรปีใหม่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและภริยา พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2565 ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ด้านตะวันออก ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง

ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธาน นำคณะผู้บริหารหน่วยงานและประชาชนร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันปีใหม่ 2565 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความเป็นสิริมงคล

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า เนื่องในอภิลักขิต สมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2565 เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทานพระรูป พร้อมลายพระหัตถ์เชิญพระพุทธภาษิต และพระคติธรรม ประทานพรสำหรับความสุขปีใหม่ พุทธศักราช 2565 ว่า “ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้” ซึ่งนับเป็นสิริมงคลแก่พุทธศาสนิกชน ที่จะได้น้อมนำพรปีใหม่ประทานนี้ ไปใช้ในการปฏิบัติบูชาเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีงาม และเกิดประโยชน์กับชีวิต อันจะนำมาซึ่งความสุขอย่างยั่งยืน

บุญปีใหม่ – พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2565 บริเวณลานหน้าพระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เขตดุสิต กทม. เมื่อเช้าวันที่ 1 ม.ค.

3 วันปีใหม่-ชนดับ 153

วันเดียวกัน นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ 2565 ว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของเทศกาลปีใหม่ เกิดอุบัติเหตุ 555 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 65 ราย ผู้บาดเจ็บ 535 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 36.40 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 34.77 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.41

ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 80.18 ถนนกรมทางหลวง ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 36.04 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 21.00 น. ร้อยละ 21.44 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 18.38 ทั้งนี้ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,907 จุด เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงาน 66,969 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 369,802 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 86,358 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 24,992 ราย ไม่มีใบขับขี่ 22,518 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (26 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ อุดรธานี (5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (23 คน)

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วัน วันที่ 29 – 31 ธ.ค. 2564 เกิดอุบัติเหตุรวม 1,339 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 153 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 1,322 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 40 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ (57 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (9 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (51 คน) ทั้งนี้ศปถ.ได้ประสานจังหวัดปรับแผนการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินงานของด่านชุมชนและจุดสกัดตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

เน้นการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของ ผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 18.01-21.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุสูง คุมเข้มการขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ การใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกที่นั่งในรถทุกประเภท รวมถึงการสวมนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บรุนแรง อีกทั้งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว ทางแยก ทางร่วม รวมถึงการจอดรถบน ไหล่ทางที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

แก้บน – ประชาชนจากหลายพื้นที่นำหัวหมูต้ม ไก่ต้ม เหล้าขาว และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ มาถวายหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่นอก ต.หนองยายดา อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เพื่อขอพร ในวันขึ้นปีใหม่ และแก้บน เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

เผยวันสิ้นปีจับเมาขับ 1,723 คดี

ด้านนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ว่า มีคดีทั้งสิ้น 1,872 คดี เป็นคดีขับรถในขณะเมาสุรา 1,723 คดี คดีขับรถประมาท 1 คดี คดีขับเสพ 148 คดี ทำให้ยอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ 3 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด ระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค. 64 มีจำนวน ทั้งสิ้น 2,896 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 2,406 คดี คิดเป็นร้อยละ 83.08 คดีขับเสพ 480 คดี คิดเป็นร้อยละ 16.57 คดีขับรถประมาท 10 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.35

นายวิตถวัลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ชัยภูมิ 194 คดี สกลนคร 159 คดี และบุรีรัมย์ 157 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่งานคุมประพฤติในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (31 ธันวาคม 2563 และ2564) พบว่า คดีขับรถใน ขณะเมาสุรา ปี พ.ศ. 2563 จำนวน 582 คดี และปี พ.ศ. 2564 จำนวน 1,723 คดี เพิ่มขึ้น จำนวน 1,141 คดี คิดเป็น ร้อยละ 66

ฝากบ้านยังไร้เหตุอาชญากรรม

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. โฆษกบช.น. เปิดเผยว่า การดูแลความปลอดภัยช่วงปีใหม่นั้น พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้สั่งการให้จัดกำลังตำรวจ 14,000 นายดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกจราจรให้กับประชาชน ในภาพรวม 31 ธ.ค.ที่ผ่านมาเป็นไปได้ด้วยดี มีการจับกุม สถานกระกอบการ สน.ปทุมวัน 3 แห่ง มีการใช้บริการแออัดมีผิดตามข้อกำหนดกรุงเทพมหานครและสน.ห้วยขวาง จับกุม 1 ราย มีผู้ต้องหา 37 ราย ในลักษณะการจัดงานปาร์ตี้ ยึดยาอี 8 เม็ด ยาเค 9 ถุง พบมีสาร เสพติด 26 ราย ส่วนพื้นที่จัดปีใหม่มีเหตุความวุ่นวายแต่อย่างใด ผู้ฝากบ้าน 862 หลัง ที่ผ่านมาไม่มีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวว่า สถิติการฝากบ้านกับตำรวจตั้งแต่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา 7,106 หลัง กทม.- ต่างจังหวัด คืนบ้านประมาณ 90 หลัง ยังไม่ได้รับรายงานมีเหตุแต่อย่างใด ปีที่ 6,100 หลัง ปีนี้ฝากผ่านแอพพลิเคชั่น โอบีเอสมากพอสมควร 1,339 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 309 ราย ขณะนี้ผ่านมา 3 วัน มีผู้เสียชีวิตลดลง ร้อยละ 20 ส่วนการเดินทางกลับบ้านในช่วงอีก 2-3 วัน หากง่วงก็ให้จอดรถหยุดพัก

ชี้สถิติ‘ชน-ดับ’ลดลงจากปีก่อน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ จากการตรวจสอบข้อมูลในช่วง 3 วันแรก ของเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565 ระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค. 64 ได้ตั้งจุดตรวจเพื่อบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลักอย่างเข้มข้น โดยแต่ละวันมีการตั้งจุดตรวจ จำนวน 1,240 จุดตรวจ (แบ่งเป็นจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 769 จุดตรวจ จุดตรวจแอลกอฮอล์อีก 471 จุดตรวจ)

สำหรับผลการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ช่วง 3 วันที่ผ่านมา สามารถจับกุม ผู้กระทำผิดได้ทั้งสิ้นจำนวน 198,159 ราย สถิติการบังคับใช้กฎหมายเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว 7.64% และเฉพาะข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา มีการจับกุมผู้กระทำผิดในช่วง 3 วันที่ผ่านมา 7,391 ราย ซึ่งจับกุมได้มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วคิดเป็น 75.39% รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถิติอุบัติเหตุในภาพรวมช่วง 3 วันแรกของเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565

เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเทศกาลปีใหม่ปีที่แล้ว สถิติอุบัติเหตุลดลงทุกตัวเลข ได้แก่ 1.การเกิดอุบัติเหตุ 3 วันแรกของเทศกาลปีใหม่ 2565 เกิด 1,339 ครั้ง ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีใหม่ปีที่แล้ว 309 ครั้ง (ลดลง 18.75%), 2.ผู้เสียชีวิต 3 วันแรก 153 ราย ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีใหม่ปีที่แล้ว 31 ราย (ลดลง 16.85%), 3.ผู้บาดเจ็บ 3 วันแรก 1,322 คน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีใหม่ปีที่แล้ว 313 คน (ลดลง 19.14%) สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดในช่วง 3 วันแรก อันดับ 1 คือขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด (34.96%) อันดับ 2 คือขับรถในขณะเมาสุรา (29.93%)

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวต่อว่า วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นวันที่ 4 จาก 7 วันควบคุมเข้มข้น ซึ่งโดยสถิติของปีใหม่ที่ผ่านๆ มา วันนี้จะเป็นวันที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุ และมีผู้เสียชีวิตสูงที่สุดจากทั้งหมด 7 วัน สาเหตุเพราะประชาชนบางส่วนได้ฉลองคืนส่งท้ายปีเก่า มีการดื่มสุรา หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ แล้ววันรุ่งขึ้นมาขับรถ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ โดยวันนี้จะเริ่มมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับเข้า กทม. ขอให้ดูแลสภาพร่างกายให้มีความพร้อมก่อนขับขี่ ตรวจสภาพรถ ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด หากระหว่างทางเกิดประสบเหตุ หรือต้องการความ ช่วยเหลือ โทร. 191 หรือ 1193

ปาร์ตี้ฉี่ม่วง – ตำรวจ กก.ดส.บช.น. จับกุมร้าน ‘ข้าวซอย’ ในซอยรัชดานิเวศน์ แยก 10 เขตห้วยขวาง ลักลอบเปิดจำหน่ายสุรา ฝ่าฝืนประกาศ กทม. พบผู้ใช้บริการชาย-หญิงรวม 40 ราย ตรวจพบฉี่ม่วง 27 ราย เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

ดส.จับปาร์ตี้ยาปีใหม่

เวลาประมาณ 04.00 น. วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต. นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง, พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส., พ.ต.ท.นราธิป คงเพ็ชร์, พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล.,พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.กก.ดส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เข้าจับกุม ร้านชื่อ ‘ข้าวซอย’ เลขที่ 420 ซอยรัชดานิเวศน์ แยก 10 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

ซึ่งได้ลักลอบเปิดเป็นสถานบริการ จำหน่ายสุรา และฝ่าฝืนประกาศกทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 47 พบยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาอี) จำนวน 1 ถุง ภายในถุงมี 8 เม็ด พบวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 9 ถุง น้ำหนักรวมถุงประมาณ 5 กรัม และหลอดพลาสติกซึ่งเป็นอุปกรณ์การเสพ ตกกระจายอยู่บนพื้นขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น และพบ ผู้ใช้บริการรวม 40 ราย เป็นชาย 23 ราย หญิง 17 ราย ผลการตรวจปัสสาวะทั้งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 พบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 27 ราย แบ่งเป็นชาย 17 ราย หญิง 10 ราย

จากการสอบถาม ทราบว่า นายศราวุธ คงขำ เป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548, ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามความในมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558, เปิดให้บริการร้านอาหารเกินระยะเวลาตามคำสั่งประกาศ กทม. ฉบับที่ 47 ลง 29 พฤศจิกายน 2564” ในส่วนของผู้ใช้บริการ จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คว่ำดับ – อุบัติเหตุรถเก๋งโตโยต้า อัลติส เสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณปากซอยลาดพร้าว 43/2 เขตห้วยขวาง กทม. นายสาริกข์ บุญส่ง อายุ 25 ปี คนขับเสียชีวิต เพื่อนอีก 3 รายบาดเจ็บ สอบพบขับกลับจากกินเลี้ยงฉลองปีใหม่แล้วหลับใน เนื่องจากผู้ตายไม่ดื่มสุรา เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

ฉลองปีใหม่-หลับในชนดับ

เมื่อเวลา 05.30 น. ร.ต.อ.ภัทรชัย มนตรี รองสารวัตร (สอบสวน) สน.พหลโยธิน รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำมี ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณปากซอยลาดพร้าว 43/2 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน ทิศทางมุ่งหน้าโชคชัย 4 ริม ฟุตปาธใกล้กับสะพานลอยคนข้าม พบรถ โตโยต้า อัลติส ทะเบียน ฆฎ 4904 กรุงเทพฯ สภาพพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า ด้านหน้ารถพังยับเยิน

ภายในรถพบนายสาริกข์ บุญส่ง อายุ 25 ปี คนขับ เสียชีวิต และยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นวัยรุ่นชายอีก 3 รายที่นั่งมาในรถคันดังกล่าว อายุประมาณ 25 ปี 2 ราย และอายุ 20 ปี 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีบาดแผล ถลอกและมีเศษกระจกบาดตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำตัวทั้ง 3 รายส่งร.พ.เปาโล โชคชัย 4

สอบสวนเพื่อนผู้เสียชีวิตให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายสาริกข์ซึ่งทำงานเกี่ยวกับขนส่งจากต่างประเทศและผู้บาดเจ็บได้ไปกินเลี้ยงสังสรรค์ฉลองปีใหม่กันที่ร้านอาหาร ย่านลาดพร้าว โดยนายสาริกข์ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่มีอาการคล้ายง่วงนอนและยังฝืนนั่งคุยกับเพื่อนๆ จนกระทั่งงานสังสรรค์ฉลองปีใหม่เลิก นายสาริกข์ได้ขับรถพาเพื่อน 3 คนไปส่งที่พักย่านรามคำแหง แล้วอาการวูบหลับในทำให้รถพุ่งชนขอบทางถนนก่อนที่รถจะพลิกคว่ำ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ต้องรอให้อาการผู้บาดเจ็บดีขึ้น จึงสอบปากคำ รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องหน้ารถคันที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง ก่อนจะสรุปหาสาเหตุ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้นำส่งชันสูตรศพ ที่สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ก่อนมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

แสงแรก – บรรยากาศประทับใจ นักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่ชมพระอาทิตย์ขึ้น แสงแรกของปีใหม่ 2565 ที่ผานกแอ่น อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น 9-11 องศา เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

2 พันคนแห่รับแสงแรกภูกระดึง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศ วันขึ้นปีใหม่ ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ วันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงแต่ละจังหวัด ต่างร่วมกันเป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคล ในวันขึ้นปีใหม่ โดยมีประชาชนพากันเข้าวัดทำบุญกันอย่างคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับบรรยากาศ รับแสงแรกในประเทศไทย ที่ผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดต่างๆ เกือบ 1,000 คน มารอชมแสงแรกของปี 2565 เพื่อเสริมพลังและความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตรับความสดใสต้อนรับปีใหม่ เมื่อดวงพระอาทิตย์เริ่มทอแสงขึ้นมาจากหลังเทือกเขาของประเทศ สปป.ลาว ก็เรียกเสียงพึงพอใจจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่พากันสวมเสื้อกันหนาว เอาผ้าห่มมาคลุมตัวนั่งรอชมท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นอุณหภูมิลดต่ำ 15 องศาเซลเซียส และมีลมพัดแรงโชยมาเป็นระยะ โดยปีนี้พระอาทิตย์ขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.26 นาฬิกา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เลย ว่า วันนี้เป็นวันแรกของปี 2565 มีภาพแสงตะวันแรกของปี บนยอดเขาสูงอย่าง 1,288 เมตร ยอดภูกระดึง ซึ่งเช้าวันนี้อากาศยังหนาวต่อเนื่อง 9-11 องศา นักท่องเที่ยวจำนวนมาก 2,000 กว่าคน ขึ้นยอดเขาภูกระดึงและเดินเท้า 2 ก.ม. ไปชมแสงแรกของปีใหม่ ที่ผานกแอ่น

แห่กลับ – สภาพการจราจรถนนมิตรภาพ ขาเข้า ช่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เริ่มติดขัด หลังประชาชน ส่วนหนึ่งเริ่มเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังจบงานฉลองขึ้นปีใหม่ และท่องเที่ยวต่างจังหวัด เมื่อวันที่ 1 ม.ค.

คนแห่กลับมิตรภาพแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.นครราชสีมาว่า หลังเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2565 ประชาชนจำนวนมากเริ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดในวันที่ 2-3 ม.ค. ทำให้มีปริมาณรถเริ่มสะสมมากขึ้น โดยเวลา 15.00 น. บริเวณเส้นทางถนนมิตรภาพผ่าน อ.ปากช่อง การจราจรในหลายช่วงติดขัด ตั้งแต่ขึ้นเนินเขามอบันไดม้า ต.หนองน้ำแดง ติดขัดยาวกว่า 10 ก.ม. จนถึงช่วงก.ม.51-52 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงต้องเปิดช่องทางพิเศษ จากก.ม.53 ก่อนขึ้นเนินเขามอบันไดม้า มาออกที่ ก.ม.47 บ้านปางอโศก ต.กลางดง เพื่อระบายรถ แต่ช่วยให้รถเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ มีชะลอตัวช้าลงในบางจุด และช้าลงตลอดเส้นทางลงเนินกลางดงเข้าเขต อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

พ.ต.ท.จิรพันธ์ มณีรัตน์ สว.ส.ทล.กก.1 บก.ทล.6 นครราชสีมา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ออกบริการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อระบายไม่ให้การจราจรติดขัดและสะสมมากขึ้น และแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงถนนมิตรภาพเพื่อไม่ต้องมาแออัด เจ้าหน้าที่ก็พยายามอำนวยด้านการจราจรให้ดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างปลอดภัย

และเปิดช่องทางระบายรถในหลายจุด เพื่อไม่ให้สะสมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปริมาณรถจากอีสานตอนล่าง เช่น จ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ และจ.ชัยภูมิ และอีสานตอนบน เช่น จ.หนองคาย จ.อุดรธานี และจ.สกลนคร จะมาสะสมรวมกันบริเวณถนนมิตรภาพ ตั้งแต่พื้นที่ตัวเมืองนครราชสีมา และอ.ปากช่อง ปีนี้ปริมาณรถจำนวนมากในช่วงการเดินทางกลับหลังเทศกาลปีใหม่

ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 พบประชาชนทยอยเดินทางมาซื้อตั๋วขึ้นรถร่วมโดยสาร เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครกันอย่างต่อเนื่อง แม้ไม่หนาตาแต่ภาพรวมค่อนข้างคึกคักกว่าทุกเทศกาลหลังเกิดวิกฤตโควิดระบาดที่ผู้โดยสารกลัวการแพร่ระบาดของ โควิดและงดใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน