ฐานประพฤติชั่วร้ายแรงโดนคดีซํ้า-4ข้อหาหนักดูหมิ่น-ขู่ประทุษร้ายตร.
ปลัดกลาโหมสั่งปลดออกจากราชการ ‘น.อ.’ ทหารเรือเมากร่างใหญ่คับประเทศ ทั้งยัง ตัดเบี้ยหวัดเงินบำเหน็จบำนาญด้วย หลังคณะกรรมการสอบวินัยสรุปมีความผิดฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จ่อโดนถอดยศ ศาลทหารอนุมัติหมายจับซ้ำ 4 ข้อหาหนัก ดูหมิ่นตำรวจ ต่อสู้ขัดขวาง ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาท
จากกรณีเหตุการณ์ชายหัวเกรียนอ้างเป็นทหารเรืออยู่ในอาการมึนเมาสุรา พูดจาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในร้านอาหารที่กรุงเทพฯ และใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทั้งยังแอบอ้างชื่อพาดพิงไปยังบุคคลต่างๆ อีกทั้งเมื่อตำรวจเข้าไปเจรจาเกลี้ยกล่อมและห้ามปราม ชายคนดังกล่าวก็ยังพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างรุนแรง และยังกล่าวด้วยว่าใหญ่คับประเทศ จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันทั่วสังคม และจากการตรวจสอบทราบว่าเป็นนายทหารเรือจริง
ต่อมา พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. และ พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ โกนผมและเข้ารับการธำรงวินัยเพื่อแสดงความรับผิดชอบ พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยต้นสังกัดเรียกตัวนายทหารผู้ก่อเหตุเข้ามารายงานตัวด่วน และให้สารวัตรทหารเรือควบคุมตัวนำไปเข้ารับการธำรงวินัย พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทางวินัยต่อไปตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ลงนามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 14/2565 เรื่อง ให้ปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการ โดยระบุว่าให้ปลด น.อ.อลงกรณ์ ปลอดดี ร.น. (พรรค นว.) ประจำ ฐท.สส.ออกจากราชการ เป็นนายทหาร กองหนุน ไม่มีเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ สังกัด กพ.ทร. เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้ สั่ง ณ วันที่ 7 ม.ค.2565
พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า เป็นไปตามที่คณะกรรมการสอบสวนโทษทัณฑ์ทางวินัยกองทัพเรือสรุปว่ามีความผิด เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยคณะกรรมการนำผลสรุปส่งให้ผบ.ทร. ซึ่งผบ.ทร.เห็นชอบและทำหนังสือไปถึงกระทรวงกลาโหม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในการปลดออกจากราชการ ถือว่าจบขั้นตอนกระบวนการสอบสวนทางวินัยของกองทัพเรือเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะมีขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างไรขึ้นอยู่กับตำรวจ
รายงานข่าวแจ้งว่าการปลดในลักษณะ ดังกล่าวจะไม่ได้เบี้ยหวัดบำนาญ เพราะถือว่ากระทำความผิดร้ายแรง ขั้นตอนต่อไปจะมี คำสั่งเกี่ยวกับการถอดยศ และงดบำเหน็จบำนาญอีกชั้นหนึ่ง
ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ยื่นคำร้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 14 ขออนุมัติหมายจับ น.อ.อลงกรณ์ ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย, ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และหมิ่นประมาท
ต่อมาสารวัตรทหารเรือนำตัว น.อ.อลงกรณ์ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ สอบสวนดำเนินคดี
น.อ.อลงกรณ์ ปลอดดี
