ลงมติขับ-ย้ายไปอยู่พรรคใหม่อุตตมเปิดตัว‘สร้างอนาคตไทย’ยันไม่ชู‘บิ๊กตู่’แคนดิเดตนายกฯปปช.ชี้มูลส่งศาลฟันดำรงค์ พิเดช

พปชร.ส่อแตกหัก ‘บิ๊กป้อม’ เรียกประชุมด่วนส.ส. หลัง ‘ธรรมนัส’ เสนอเงื่อนไข ขอให้ขับตัวเองพ้นพรรค เพื่อจะได้ย้ายไปซบพรรคอื่น พร้อมยื่นคำขาดขอเก้าอี้รัฐมนตรี แลกกับการไม่ขน 21 ส.ส.ย้ายออกตาม นัดแถลงใหญ่วันนี้ 10 โมงครึ่งที่สภา ‘รมต.เฮ้ง’ สุชาติ ชมกลิ่น ลั่นไม่ขอเคลียร์เลขาฯ พรรค ชี้โพลเขย่าพปชร.จบแล้ว พรรคเล็กขย่มซ้ำ ป่วนจนสภาล่ม ‘อุตตม-สนธิรัตน์’ เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ยันไม่ชู ‘บิ๊กตู่’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอกรัฐบาลแบบไม่ลงมติ 21 ม.ค. เล็งขอเวลาอภิปราย 36 ช.ม. ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดส.ส.ดำรงค์ พิเดช สมัยเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ขนเจ้าหน้าที่รัฐ 2,500 คน ร่วมม็อบปี 55

‘เสี่ยเฮ้ง’แจงทำโพลพปชร.ตกต่ำ
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดกรณีไลน์กลุ่ม “ทีมโฆษกวิป” ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลุด ที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในฐานะผอ.เลือกตั้งซ่อมส.ส. สงขลา เขต 6 เสนอให้ทำโพลพรรคถึงสาเหตุที่พรรคตกต่ำ โดยให้ทำในลักษณะมีคำตอบให้ประชาชนเลือกว่า เพราะร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค หรือ เพราะ ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีคนยอมรับนั้น

นายสุชาติโพสต์เฟซบุ๊กว่า ยอมรับว่าได้มีการส่งข้อความจริง และเป็นข้อความที่หารือเพื่อให้ทราบถึงความคิดเห็น และสิ่งที่ประชาชนมีต่อพรรค ซึ่งในกลุ่มไลน์มีสมาชิก 8 คน การทำโพลคือประชาธิปไตยที่สวยงามในระบบพรรคการเมืองมิใช่หรือ ดีกว่าถูกกล่าวหาเป็นเผด็จการในพรรค กลุ่มนี้คุยข้อมูลเพื่อหาทางออกว่าควรจะทำอย่างไร ต่อไปในสถานการณ์ที่พรรคเป็นเช่นนี้ และ เป็นจริงตามสื่อมวลชนกล่าวอ้างหรือไม่

ส่วนเรื่องที่พาดพิงไปถึง ร.อ.ธรรมนัส เพราะเป็นการยกตัวอย่าง เนื่องจากรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีการพาดพิงกรณี ร.อ.ธรรมนัส ค่อนข้างเยอะ การให้โพลเป็นตัวดำเนินเรื่อง ตัดสินข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการน่าจะยุติธรรมมากกว่าการพูดไปเรื่อยๆ แบบเอามัน ขณะเดียวกัน โพลอาจชี้นำเราเดินทางไปข้างหน้าได้ถูกต้อง เช่น เป็นเพราะนโยบาย หรือเปล่า หรือตัวบุคคล หรือสถานการณ์ กาลเวลา ฯลฯ

ลั่นจบแล้ว-ไม่เคลียร์‘ธรรมนัส’
“ผมไม่ปฏิเสธว่านี่คือข้อความที่ผมส่งในกลุ่มเพราะไม่ได้เป็นความลับ แต่มันคือความบริสุทธิ์ใจ ส่วนคนที่แคปเจอร์ข้อความไปส่ง หวังผลอะไร คนทำเรื่องนี้ให้เป็นประเด็นใหญ่ รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองมุ่งหวังอะไร ที่แน่ๆ ความเป็นลูกผู้ชายแทบไม่มีในตัวเอง เหมือนตั้งใจ จงใจทำลายให้พรรค มีภาพลักษณ์ที่แตกร้าวลงไปกว่าเดิม” นายสุชาติระบุ

นายสุชาติให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้จะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในพรรคขึ้นอีกหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า “ไม่มีอะไรเลย ไม่มีหรอก จบแล้ว ผมพูดความจริงตามที่ได้ชี้แจงทาง เฟซบุ๊กส่วนตัวไปแล้ว” ต่อข้อถามว่าประเด็นดังกล่าวถูกมองว่าอาจตั้งใจปล่อย เพื่อถามกระแสสังคม นายสุชาติกล่าวว่า “เป็นการแสดงความเห็น แต่มีการแคปข้อความเอาไปเผยแพร่ แต่ไม่มีอะไร จบแล้ว

เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค ได้สอบถามเรื่องนี้หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ความจริงใจของตน ได้ตอบไปแล้ว เมื่อถามอีกว่าต้องพูดคุยทำความเข้าใจกับร.อ.ธรรมนัส หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า “ไม่คุย ไม่มีอะไร”

ซัดคนปล่อยไลน์ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายสุชาติให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ตนได้พูดคุยกับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ นายกฯ ในไลน์กรุ๊ป เพราะนายเสกสกลส่งโพลต่างๆ มาให้ดู ตนจึงเสนอให้ทำโพลดูว่าพรรคตกต่ำจริงหรือไม่ แต่ตนเป็นคนพิมพ์ไลน์สั้นๆ ซึ่งทุกคนจะรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร ต่อมาตนพิมพ์ไปว่าต้องทำโพลชี้นำว่าเราต้องเดินไปทางไหน นโยบายภาคใต้ เราไม่ดีเพราะอย่าลืมว่าพรรคคู่แข่งนั้น ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็น กระทรวงที่ดูแลการเกษตร ดูแลพืชผลและประกันรายได้เกษตรกร อาจเป็นส่วนทำให้ชนะพรรคพลังประชารัฐได้ ถ้าทำโพลมา พรรคพลังประชารัฐจะทราบข้อมูล และจะได้เดินถูกทางว่าเลือกตั้งครั้งหน้าควรเดินทางไหน ดังนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นเลย

อยากให้ความเป็นธรรมกับ ร.อ.ธรรมนัส เช่นกัน ซึ่งร.อ.ธรรมนัสได้โทร.คุยกับตนตั้งแต่แรกๆ หลังรู้ผลเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพร เขต 1 และสงขลา เขต 6 ซึ่งตนบอกว่าไม่เป็นประเด็น เพราะถือว่าในการเลือกตั้งนั้น ประชาชนตัดสินใจอยู่แล้วว่าจะเลือกใคร แต่มีคำพูดหนึ่งที่ถูกตีความกันไปต่างๆ นานา จนทำให้พรรคการเมืองเอาไปขยายผล และคนที่เอาข้อความในไลน์กลุ่มไปแชร์ หรือให้นักข่าว ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ในทางการเมือง

‘นิโรธ’บอกทั้งคู่รักกันดี
นายนิโรธ สุนทรเลขา รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า กรณีไลน์กลุ่มเป็นเรื่องที่เขาพูดคุยกันธรรมดา อย่าไปซีเรียสมันไม่ใช่ประเด็นใหญ่ การทำงานร่วมกันภายในพรรคอาจเป็นคนละสไตล์แต่ไม่ได้มีปัญหา เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กๆ แค่พูดคุยแซวเล่นกันเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือน นายสุชาติและร.อ.ธรรมนัสมีปัญหากันมาตลอด นายนิโรธกล่าวว่า ไม่มี นายสุชาติและร.อ.ธรรมนัสมีหัวใจเป็นนักกีฬา คือเป็นนักเลงซึ่งไม่ใช่อันธพาล หมายความว่าเขาเป็นคนเข้าใจง่าย พูดกันแค่ไม่กี่คำก็เข้าใจกันแล้ว ตนอยู่ใกล้ชิดกับทั้ง 2 คน หมายความว่าเป็นสมาชิกพรรคด้วยกันเห็นว่าทั้งคู่เป็นคนตรงไปตรงมา จึงคิดว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ประเด็น

ต่อข้อถามว่าภายในพรรคพลังประชารัฐ.มีความขัดแย้งมากพอสมควร นายนิโรธกล่าวว่า คนภายนอกก็คิดอย่างนั้น แต่ที่จริงไม่ใช่ สไตล์ใครก็สไตล์มัน แต่รักกัน เพราะทุกคนช่วยกันทำงาน เมื่อถามว่าเรื่องนี้ถือเป็นควันหลงจากกรณีแพ้การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพร เขต 1 และสงขลา เขต 6 ใช่หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นการแข่งขันในพื้นที่ไข่แดงของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อการแข่งขันจบแล้วมันก็จบ เพราะพรรคพลังประชารัฐโดยเฉพาะพล.อ.ประวิตร มีสปิริตสูง และมีวุฒิภาวะสูงมาก

พรรคเล็กป่วน-ทำสภาล่ม
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกหลังเลื่อนมาตั้งแต่ ปีใหม่ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภา เป็นประธานที่ประชุม ได้แจ้งว่าปัจจุบันมี ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 473 คน องค์ประชุม ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งคือ 237 คน พร้อมระบุว่าสัปดาห์นี้จะประชุมต่อเนื่อง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-21 ม.ค. ส่วนการประชุมสัปดาห์หน้าจะหารืออีกครั้ง และเหลือเวลาอีก 5 สัปดาห์ จะหมดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ใน ปีที่ 3 ดังนั้นต้องพิจารณาเพื่อกำหนดวาระว่าเรื่องใดจะพิจารณาบ้างเพื่อเป็นประโยชน์

จากนั้นเข้าสู่การประชุมตามระเบียบวาระ หลังจากมี ส.ส.ลงชื่อเข้าร่วมประชุม 317 คน เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีทั้งสิ้น 473 คน ขณะที่มีส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านกว่า 20 คน ที่ขอลาประชุมเนื่องจากกักตัวจากการใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19

ส่วนการประชุมได้เห็นชอบร่างพ.ร.บ. ยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกฎหมายอื่น, ร่างพ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์, พ.ร.ก.กำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2564 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ขณะที่พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ตามที่ครม.เสนอ ที่ประชุมลงมติอนุมัติด้วยคะแนน 230 ต่อ 118 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 2

ช่วงบ่ายพิจารณาร่างพ.ร.บ.เงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่) พ.ศ… ตามที่ครม.เสนอ กระทั่งเวลา 17.35 น. นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม หารือว่าเนื่องร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ แต่มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมน้อยมาก จึงขอนับองค์ประชุม

นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธาน กดออดเรียกสมาชิกที่อยู่บริเวณรอบนอกห้องประชุมให้เข้ามาแสดงตน ประมาณ 5 นาที ก่อนให้สมาชิกเสียบบัตรแสดงตน ปรากฏว่ามีผู้แสดงตนเพียง 227 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งหรือ 237 คนจากส.ส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ 473 คน จึงต้องปิดประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า นายพีระวิทย์ ที่เสนอนับองค์ประชุม เป็นส.ส.ในซีกรัฐบาล โดยระหว่างเสนอนับองค์ประชุมนั้น นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นั่งกำกับอยู่ข้างๆ

‘ป้อม’ถกด่วน-‘นัส’ต่อรองขอรมต.
ก่อนหน้านี้ เวลา 15.37 น. นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก คนสนิทของ ร.อ.ธรรมนัส ได้ส่งข้อความเข้ามาในไลน์กลุ่มห้องประสานงานพรรคว่า “เรียนเชิญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐทุกท่านมาประชุมที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯวันนี้เวลา 17.00 น.”

ต่อมาเวลา 16.04 น. นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ได้ส่งข้อความแจ้งให้ส.ส.พรรคพลังประชารัฐอยู่ร่วมประชุมสภาจนปิดการประชุม กระทั่งเวลา 17.03 น. นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร รองเลขาธิการพรรค คนสนิทของ ร.อ.ธรรมนัส ได้ส่งข้อความถึงสมาชิกว่า “ขอบคุณทุกคนนะครับ” แล้วดีดตัวเองออกจากกลุ่มไลน์ รวมถึงนายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร ด้วย ขณะที่นายไผ่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กตามมาว่า “ผมทำ ทุกอย่างเพื่อประชาชน”

หลังปิดประชุมสภาช่วงเวลา 17.42 น. บรรดา ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐต่างรีบไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อฯ หลังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค เรียกประชุมด่วน หลังมีข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส และส.ส.ในกลุ่มต้องการให้พรรคมีมติให้ขับออกจากพรรค เพื่อจะได้ไปหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน

จากนั้นได้ปิดห้องประชุม มีเฉพาะ พล.อ.ประวิตร พร้อมกก.บห.และร.อ.ธรรมนัส ประชุมกันอย่างเคร่งเครียด โดยแยกส.ส.ไปอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งในที่ประชุม ร.อ. ธรรมนัส แจ้งกับพล.อ.ประวิตร ว่ามีส.ส.ที่จะออกพร้อมกับตน 21 คน หากจะไม่ให้กลุ่มนี้ออกต้องปรับครม. และให้ส.ส.กลุ่มนี้ต้องมี 1 ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่ปรับ ครม.ทันทีจะไม่เป็นองค์ประชุมในสภาให้แก่รัฐบาล โดยร.อ.ธรรมนัสต่อรองตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

มติตะเพิด 21 ส.ส.-นัดแถลงใหญ่
เวลา 20.30 น.ภายหลังการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ร.อ.ธรรมนัส มีท่าทีเคร่งเครียด จากนั้นมีการเรียกประชุมเฉพาะกก.บห.ต่อทันที เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว ก่อนที่จะแจ้งให้กับ ส.ส.ที่อยู่อีกห้องหนึ่งทราบผล ปรากฏว่ากก.บห. รวมทั้งส.ส.พรรคทั้งหมด 78 เสียง มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส และพวกรวมทั้งหมด 21 คน ในกรณีสร้างความขัดแย้งภายในพรรค และจะต้องหาพรรคใหม่ ภายใน 30 วัน โดยวันที่ 20 ม.ค. เวลา 10.30 น. นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค จะแถลง รายละเอียดที่รัฐสภา

ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ไม่ได้ร่วมลงชื่อที่จะออกจากพรรคพร้อม ร.อ.ธรรมนัส ด้านนายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร ได้ขอถอนตัวจากกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส และมีแนวโน้มร.อ.ธรรมนัส อาจจะย้ายไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นพรรคใหม่ มีชื่อ‘บิ๊กน้อย’พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐเป็นหัวหน้าพรรค

สำหรับ ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรค 21 คน ได้แก่ 1.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา 2.นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น 3.นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก 4.นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก 5.นายไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร 6.นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง 7.นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา 8.นายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา 9.นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ 10.นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น 11.นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา

12.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 13.นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร 14.นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ 15.นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน 16.นางจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทร สาคร 17.นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี 18.นายยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 19.พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 20.นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา และ 21.นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี

ฝ่ายค้านยื่นซักฟอก21ม.ค.-ขอ36ช.ม.
เวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เข้าพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อพิจารณาเรื่องการยื่นอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 จากนั้นเวลา 13.00 น. ตัวแทนพรรคร่วม ฝ่ายค้าน แถลงร่วมกัน

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติที่จะยื่นญัตติร่วมกันเพียงญัตติเดียว โดยเนื้อหาสาระ ที่จะเสนอแนะเป็นเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ภาวะของแพงทั้งแผ่นดิน วิกฤตโรคระบาด ทั้งโรคระบาดคน และโรคระบาดในสัตว์ วิกฤตด้านการเมือง ความไม่เป็นธรรม และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งที่เกี่ยวกับปัญหาในการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกรณีเหมืองทองอัครา ปัญหาของพี่น้องประมง ฯลฯ

โดยเราให้เป็นสิทธิของพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคในการนำเสนอประเด็นของตนเอง ซึ่งกำหนดว่าจะยื่นญัตติวันที่ 21 ม.ค. สำหรับการอภิปรายคาดว่าจะดำเนินการได้ประมาณกลางเดือนก.พ. สิ่งที่เราต้องพูดคุยกันต่อคือ เรื่องเวลาในการอภิปราย โดยจะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าอยากขอเวลา ไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง

เปิดตัว – นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน พร้อมด้วยแกนนำเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.

‘อุตตม-สนธิรัตน์’เปิดตัวพรรคใหม่
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กทม. นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน แถลงข่าวเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ “พรรคสร้างอนาคตไทย” (สอคท.) โดยมีนักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ เข้าร่วม อาทิ นายสุพล ฟองงาม อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ กีระนันทน์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ซึ่งเป็นเลขาธิการส่วนตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล รองเลขานุการสำนักจุฬาราชมนตรี นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือครูเป็ด หรือ นายสะอาด นักร้องชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า รวมทั้งนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกฯ ในรัฐบาลน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ระบุว่า วันนี้แค่มา ร่วมงานตามคำเชิญ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย

เดินหน้าแก้ศก.-ฟื้นฟูประเทศ
นายอุตตมกล่าวว่า วันนี้เรามาประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันแก้ปัญหาและสร้างอนาคตไทย และจะไม่ได้เป็นแค่พรรคการเมือง แต่เป็นพื้นที่เปิดรวบรวมกลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพในทุกภาคส่วน ทุกเพศ ทุกวัย ร่วมระดมความคิดเห็น ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ ขอเรียนว่าเราจะไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่โกง ไม่ปล้นชาติ อาสาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทย ผมขอถือโอกาสนี้ เชิญประชาชนทุกท่านมาสร้างอนาคตไทยด้วยกัน

ด้านนายสนธิรัตน์กล่าวว่า สิ่งที่ตั้งใจคือ พรรคสร้างอนาคตไทย ต้องเป็นหนึ่งในเสาหลักของพรรคการเมืองไทย อยู่บนจุดเปลี่ยนผ่านของปัญหา เปิดกว้างกับคนทุกกลุ่ม เราจะประคับประคองคนรุ่นใหม่ สร้างองค์ความรู้ ประสบการณ์ และบุคลากร มีแนวทางสร้างพรรคไม่ใช่เพื่อเลือกตั้ง แต่สร้างเพื่อยึดโยงกับประชาชน ซึ่งเราเตรียมการไว้แล้ว เราจะสร้างนักการเมืองที่พร้อมบริหารประเทศ ไม่ใช่แค่มีเพียงตำแหน่ง จะสร้างส.ส.ที่มีอุดมการณ์ทำงานเพื่อบ้านเมือง สร้างคนรุ่นต่อไปเพื่อเข้าสู่การเมือง

ยันไม่ชงชื่อ‘บิ๊กตู่’เป็นนายกฯ
นายอุตตมให้สัมภาษณ์ว่า จุดยืนของพรรค คือการเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและวางรากฐานของประเทศ ส่วนการทำงานร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในอดีตนั้น เป็นการทำงานร่วมกันในรัฐบาล ทำงานให้บ้านเมือง เมื่อเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนจึงออกมา พวกตนเดินออกมาแล้ว จะไม่หันหลังกลับ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการสนับสนุนบุคคลใดเป็นนายกฯ นายอุตตมกล่าวว่า ผู้ที่เข้าข่ายจะมีคุณสมบัตินำพาประเทศผ่านความขัดแย้ง มีความสามารถเชิงบริหารและเป็นการยอมรับในวงการต่างประเทศ และยืนยันว่าไม่ใช่พรรคอะไหล่ของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อถามว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นชื่อที่อยู่ในใจหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า นายสมคิดไม่ทอดทิ้งพวกเรา และคิดว่ามีความเหมาะสม แต่การมารวมกันจะช่วยพิจารณาว่ามีบุคคลใดบ้าง โดยมี 3 ตำแหน่งที่จะเสนอ นายสมคิดจะอยู่ใน 3 รายชื่อหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของพรรคต่อไป

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า วันนี้ความขัดแย้งร้าวลึก ความคิดทางการเมืองเป็น 2 ปีก สิ่งหนึ่งที่พรรคจะไม่ทำคือ ไม่ซ้ำเติมความแตกแยกของสังคมไทย เราเคยร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ และมีอุดมการณ์ในการทำงานการเมือง เราไม่ได้ทำพรรคเพื่อสืบทอดอำนาจให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดผ่านโฆษกรัฐบาลแล้วว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคสร้างอนาคตไทย และเป็นเรื่องจริง ที่ท่านไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างพรรคในครั้งนี้ ยืนยันว่าจะไม่เสนอ ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พรรคมีจุดยืนที่จะสรรหานายกฯ ที่สามารถแก้ไขปัญหาประเทศได้ และเป็นที่ยอมรับของผู้คนและนำพาประเทศให้แข่งขันกับนานาประเทศได้ และพรรคเตรียมความพร้อมตั้งแต่ตอนนี้เพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง

‘เจ๊หลี’ไม่ห่วงปัญหาในพปชร.
สำหรับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่ จตุจักร (แขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 ม.ค. การหาเสียงของผู้สมัคร 8 คน เป็นไปอย่างคึกคัก

เวลา 16.00 น. นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่หาเสียงที่ชุมชนอยู่ดีมีสุขร่วมใจ และชุมชนหลักสี่พัฒนา 99 พร้อมกล่าวว่า การจัดเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์หรือไม่นั้น คงต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่ของพรรคที่ยังอยู่ระหว่างการหารืออยู่ ส่วนความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ ส่วนตัวไม่กังวล

ขณะที่นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือเพชร ผู้สมัครพรรคก้าวไกล พร้อมนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไปพบปะประชาชนที่ซอยแจ้งวัฒนะ 14 และซอยพหลโยธิน 34

‘อรรถวิชช์’ชวนฟังปราศรัยใหญ่
เวลา 09.00 น.นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อม นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่ จตุจักร ลงพื้นที่พบปะประชาชนย่านแจ้งวัฒนะ

นายอรรถวิชช์กล่าวว่า ขอเชิญชวนประชาชนชาวหลักสี่ จตุจักร มารับฟังการปราศรัยใหญ่วันที่ 28 ม.ค.ที่เคหะท่าทราย หลักสี่

‘มาดามแป้ง’ดอดพบ‘บิ๊กตู่’
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าปฏิบัติภารกิจตามปกติ และเวลา 10.00 น. นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เข้าพบ โดยใช้เวลา 25 นาที จากนั้นกลับออกไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์

รายงานข่าว เปิดเผยว่า นางนวลพรรณและคณะทำงานเข้าพบนายกฯ เพื่อมาสวัสดี ปีใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์มอบผ้าคลุมไหล่ย้อมครามให้ พร้อมมอบ กระเป๋าโอท็อปผ้าลายขอให้คณะทำงาน อย่างไรก็ตาม การเข้าพบครั้งนี้มีการคาดเดากันถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่าง เข้มข้นในขณะนี้ ที่มีการตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย และการย้ายพรรคอย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน