ที่สงขลา-ตรวจกักตุนปทุมฯลุยค้น‘โรงแช่’พาณิชย์สั่งคุม6สินค้าแรงงานขอขึ้น425บ.

ปูพรมตรวจกักตุนหมู-เอกซเรย์ เช็กสต๊อกทั่วประเทศ ปลัดพาณิชย์ตรวจห้องเย็นชานกรุงมีนบุรี ถกวอร์รูมนัดแรก สั่งคุมราคา 6 สินค้า หมู-ไก่-วัว-เป็ด-ปลา และมะละกอ ผู้ว่าฯ-ปศุสัตว์สงขลายึดหมูกว่า 2 แสนก.ก.จากห้องเย็นบริษัทดังในอ.จะนะตรวจพิสูจน์กักตุนหรือไม่ ‘บิ๊กตู่’ ถกด่วน พลังงาน-พาณิชย์ ย้ำคุมน้ำมันปาล์ม ตรึงน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตร 30 บาท แก๊สหุงต้ม 318 บาทต่อถัง 15 กิโล ถึง 31 มี.ค. สมัชชาแรงงานยื่นกมธ.แรงงาน สภาผู้แทนฯ จี้ปรับค่าแรงขั้นต่ำ จาก 320 เป็น 425 บาท บิ๊กอุ้ย-จิรพัฒน์ นำตำรวจภาค 1 ปศุสัตว์ปทุมธานี บุกตรวจห้องเย็นคลองหลวง พบส่งหมูไปชำแหละข้ามจังหวัดที่สายไหม กทม. โดยไม่มีใบอนุญาต

นายกฯถกรับปาล์ม-น้ำมันพุ่ง

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันดีเซลว่า รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ พยายามหาเงินเพื่อที่จะทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เดือดร้อนมากนัก เราต้องติดตามว่าต่อไป สถานการณ์น้ำมันโลกจะเป็นอย่างไร รัฐบาลก็พร้อมที่จะแก้ไข แต่ต้องดูในเรื่องงบประมาณว่ามีเพียงพอหรือ ไม่ อยากทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ในสถานการณ์วันนี้มันมีหลายสถานการณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐทั้งเงินกู้ งบกลาง หรือเงินของกระทรวงก็มีปัญหาทั้งหมด เพราะทุกคนเดือดร้อนไปหมด

“ช่วงที่ผ่านมาหลายวัน นายกฯจำเป็นจะต้องเรียกหน่วยงานมาชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อต้องการทราบข้อมูลและข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี แต่ในฐานะที่นายกฯเป็นผู้บังคับบัญชาของส่วนราชการ ขอให้ช่วยกันทำงานกับนายกฯ และรัฐมนตรี ให้ดีที่สุด ซึ่งต้องระวังข้อกฎหมายด้วยในการใช้จ่ายงบประมาณงบต่างๆ โครงการต่างๆ ที่ออกไป เพราะเป็นงานระดับนโยบาย นายกฯจึงจำเป็นต้องใช้ศูนย์สั่งการที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นสถานที่รับฟังข้อมูลต่างๆ เพราะที่นี่คือศูนย์ราชการ ศูนย์บัญชาการ การแก้ปัญหาทั้งประเทศและเป็นศูนย์ข้อมูลต่างๆ มากมายซึ่งวันนี้ตนก็ทำงานและติดตามทุกวัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องสินค้าแพงวันนี้ได้เรียกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคุย โดยเฉพาะเรื่องน้ำมันปาล์มว่าจะออกรูปแบบไหนอย่างไรต่อไป สถานการณ์มีปัญหาอยู่ตรงไหน เดิมเราใช้น้ำมันปาล์มมาผสมกับน้ำมันดีเซลต่างๆ แต่เมื่อราคาน้ำมันสูง และเมื่อเอาน้ำมันปาล์มมาผสมจึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จำเป็นต้องปรับลด บางรายการลงไป อย่างไรก็ตามยังดีใจที่สถานการณ์น้ำมันปาล์มอยู่ในราคาที่ดีอยู่ ดังนั้นความเดือดร้อนไปยังภาคประชาชน ภาคผู้ผลิต เกษตรกร ยังคงไม่มากนัก

จี้พาณิชย์ตามปัญหาถึงตรุษจีน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้เน้นย้ำไปยัง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ไปแล้ว ขอให้เตรียมมาตรการ คงไม่ใช่เฉพาะเรื่องหมูอย่างเดียว รวมถึงสถานการณ์อื่นๆ ที่จะตามมาอีก อย่าให้เป็นการฉวยโอกาส ได้ให้ไปสำรวจในบรรดาหมูต่างๆ ที่อยู่ตามฟาร์ม ห้องเย็น อะไรต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาให้ดีที่สุดในเรื่องการลดความเดือดร้อน ขณะที่มาตรการของรัฐก็เตรียมทยอยออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย อย่างไรก็ตามเราต้องคำนึงถึงงบประมาณต่างๆ ที่มีอยู่ด้วย ทุกคนต้องเข้าใจคลัง

“วันนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ติดตามทุกเรื่องในช่วงนี้ไปจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ฉะนั้นขอร้องอย่างเดียวว่าอย่าฉวยโอกาสกัน เพราะช่วงนี้ประชาชนเดือดร้อน เราต้องรวมใจกัน เพื่อทำให้ประชาชนพ้นความเดือดร้อนให้ได้โดยเร็วที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ต่อมาเวลา 11.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมเพื่อบริหารสถานการณ์ด้านราคาพลังงานที่ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้นาย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน พร้อมด้วย นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน อธิบดีกรมการค้าภายใน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนรองรับและบริหารจัดการแบบบูรณาการ

โพสต์ย้ำคุมราคาสินค้า

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้สั่งการให้รัฐมนตรีของกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ดูแลเรื่องปากท้อง ด้านเศรษฐกิจ อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเบื้องต้น ครม. ได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินกว่า 1,480 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการสินค้าราคาประหยัด โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยจะตั้งจุดจำหน่ายมากกว่า 3,000 จุดทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงสินค้าเกษตร เนื้อไก่ ไข่ไก่ สินค้าอุปโภคบริโภค จากสมาคมผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง และซัพพลายเออร์ต่างๆ เป็นเวลา 90 วัน ควบคู่ไปกับการตรึงราคาก๊าซหุงต้มไปอีก 2 เดือน (ถึง 31 มี.ค.2565) และมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล เพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร ค่าขนส่ง และลดค่าครองชีพสำหรับทุกครัวเรือน และครม.ยังได้อนุมัติให้เร่งโครงการ “คนละครึ่ง” เร็วขึ้น เปิดร้านธงฟ้าให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในราคาประหยัดอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้มีการควบคุมราคาสินค้า ไม่ให้ขึ้นราคาในสภาวะเช่นนี้ เช่น เนื้อไก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญอื่นๆ และได้กำชับให้ทุกฝ่ายตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการกักตุนสินค้าโดยเด็ดขาด ในสภาวะเช่นนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา หากใครยังคิดเอาเปรียบพี่น้องประชาชนในยามนี้ ถือว่าไม่เห็นแก่ส่วนรวม และต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ทันที

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์ด้านพลังงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งยังคงนโยบายเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับประชาชน ได้แก่ การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท โดยใช้กลไกเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อไม่ให้ภาคธุรกิจและภาคขนส่งได้รับผลกระทบ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการ และหากราคาน้ำมันยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ได้เตรียมความพร้อมในการเสริมสภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยในเบื้องต้นจะตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท นอกจากนี้ ในส่วนของราคาก๊าซหุงต้ม ยังคงตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (ไม่รวมค่าขนส่ง) เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งครัวเรือนและร้านอาหาร ไปจนถึง 31 มี.ค.2565

นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี ยังได้ติดตามเรื่องของค่าไฟฟ้า โดยได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการในส่วนของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าให้มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพื่อให้สามารถลดภาระค่า Ft ให้ได้มากที่สุด

คลังยันไม่ลดภาษีน้ำมัน

ด้านนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การลดภาษีน้ำมันเป็นเรื่องของฝ่ายนโยบายที่จะตัดสินใจ จากการหารือก่อนหน้านี้ ได้ข้อสรุปว่าจะใช้กลไกกองทุนน้ำมันดูแลเรื่องราคาน้ำมันแพงไปก่อน และทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กองทุนน้ำมันกู้เงินเพิ่มเติมได้ 2 หมื่นล้านบาท บวกกับอีก 1 หมื่นล้านบาท เพื่อดูแลราคาน้ำมันที่แพงขึ้น

“ตอนนี้เป็นเรื่องของฝั่งนโยบายที่จะต้องหารือ ดูข้อเท็จจริงภาพรวมทั้งหมด ว่ากองทุนน้ำมันมีฐานะดูแลราคาน้ำมันไปได้นานขนาดไหน และหลังจากนั้นจะดำเนินการอะไรต่อ หากจะลดภาษีน้ำมัน ก็ต้องดูเรื่องรายได้ที่จะมาชดเชยจากภาษีน้ำมันที่หายไปด้วย เพื่อไม่ให้กระทบกับรายได้รวมของประเทศในปีงบประมาณ 2565” นายลวรณกล่าว

พาณิชย์ลุยตรวจห้องเย็นหมู

วันเดียวกัน นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบภาวะราคาและปริมาณหมู ที่ห้องเย็นบริษัท พิชชา มีท กรุ๊ป จำกัด เขตมีนบุรี กทม. โดยมีพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมด้วย

ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดให้ผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสต๊อกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณและราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. เพื่อดูแลปริมาณหมูและสต๊อกหมูที่มีอยู่ทั้งประเทศ โดยนาย บุณยฤทธิ์กล่าวว่า ไม่พบการกักตุนสต๊อกหมูแต่อย่างใด

จับตา 5 เนื้อสัตว์-มะละกอ

ส่วนการประชุมคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือวอร์รูม เป็นครั้งแรก นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าจากกรมการค้าภายใน และมีมติให้จับตาสินค้าบริโภค 6 รายการ คือ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เป็ด ปลา และมะละกอ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความเคลื่อนไหวด้านราคา และมีข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงจะจับตาสินค้าในกลุ่มนี้และให้ความสำคัญก่อน ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภครายการอื่นๆ ก็จะมีการติดตามสถานการณ์เป็นปกติ

นายบุณยฤทธิ์กล่าวถึงข่าวที่ว่ามีการเก็บสต๊อกหมูเป็นจำนวนมาก ของห้องเย็นขนาดกลางและใหญ่ว่า รมว.พาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดบูรณาการกับจังหวัดออกตรวจสอบ หากตรวจแล้วพบว่าไม่แจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ถาม นายกฯ เกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้าแพงสวนทางค่าจ้าง โดยเฉพาะราคาเนื้อหมู ปรับขึ้นราคาแบบก้าวกระโดดมาก ส่งผลให้ราคาเนื้อสัตว์ชนิดอื่นปรับขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ก็ทยอยปรับราคาขึ้น แต่ปรากฏว่าค่าแรงหรือเงินเดือนยังไม่ปรับเพิ่มขึ้น

รมต.แจงสภาไม่ได้ปิดอหิวาต์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯ ชี้แจงว่า ค่าครองชีพหรือค่าแรงที่ยังไม่ได้ปรับนั้น ส่วนที่เกี่ยวพันกับกระทรวงแรงงาน คณะกรรมการไตรภาคี 3 ฝ่าย ประกอบด้วย นายจ้าง ลูกจ้างและราชการ ตลอดปี 2564 ก็ได้ประชุมร่วมกันและจะนำข้อมูลมาประมวลผลในเร็วๆ นี้

ต่อมาเป็นการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ถามนายกฯ เรื่องสถานการณ์โรคระบาดในหมูว่า โรคอหิวาต์แอฟริกา หรือเอเอสเอฟ ในหมู ส่งผลกระทบกับราคาสินค้าอื่นๆ แพงตามไปด้วย เช่น ไก่ ไข่ และสินค้าอุปโภคอื่นๆ อีกทั้งมีการปกปิดการระบาดของโรคมา 3 ปี เพราะราคาหมูถีบตัวสูงขึ้น ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ

นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงแทนว่า เมื่อเดือนส.ค.2562 เจอซากสุกรลอยน้ำในแม่น้ำโขง ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตนลงพื้นที่ด้วยตนเอง และได้ตรวจพิสูจน์ซากหมู เชื่อว่าเป็นโรคระบาดในสุกรที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นต้องกำจัดด้วยการทำลายสุกร การป้องกันโรคระบาดช่วงแรกเอกชนลงขันเป็นเงินหลัก 100 ล้านบาท และคิดเป็นค่าเผาทำลายสุกร ประมาณ 90 ล้านบาท สุกรยังไม่เป็นโรค แต่ต้องสกัดกั้นการระบาด และหยุดยั้งให้ได้

“ผลแล็บระบุว่าไม่พบอหิวาต์แอฟริกา เป็นการตรวจไวรัสแต่พบพีอาร์อาร์เอส ดังนั้นไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมรับ แต่ผลแล็บยืนยันมาแบบนี้ โรคในสุกรที่ตายจำนวนมาก คือ โรคเอเอสเอฟ, โรคพีอาร์อาร์เอส ระบบสืบพันธุ์และระบบหายใจ และซีเอสเอฟ อหิวาต์ในสุกร ซึ่งอาการของโรคนั้นเหมือนกัน และตายภายใน 1 วัน โดยเอเอสเอฟ ไม่มีวัคซีน ส่วนโรคพีอาร์อาร์เอส เกษตรกรไม่อยากฉีดเพราะยามีราคาแพง ส่วนซีเอสเอฟ ฉีดได้ทุกตัวเพราะราคาถูก ทั้งนี้ผลแล็บ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ที่หมูตายพอสมควร ระบุว่าเป็นพีอาร์เอส ยังไม่พบเอเอสเอฟ ส่วนโรคซีเอสเอฟ เพิ่งเจอปี 2565 ที่โรงฆ่าสัตว์นครปฐม ยืนยันว่าผมไม่มีเจตนาจะปกปิด และรัฐบาลไม่มีการปกปิดเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เสียหายทั้งระบบ สำหรับหมูที่ตายทั้งสิ้น 2.7 แสนตัว ผลแล็บบอกว่าเป็นพีอาร์อาร์เอส” นายประภัตรกล่าว

จากนั้น เป็นการพิจารณาญัตติด่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ขอให้สภาพิจารณาปัญหาการเเพร่ระบาดของโรค อหิวาต์เเอฟริกาในสุกร และศึกษาเเนวทางช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น โดยมีสมาชิกให้ความสนใจ 30 คน จากนั้น ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้ง กมธ.วิสามัญจำนวน 25 คน เพื่อพิจารณาปัญหาการเเพร่ระบาดของโรคอหิวาต์เเอฟริกาในสุกร และศึกษาเเนวทางช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น กำหนดระยะเวลาในการพิจารณา 60 วัน

สมัชชาฯยื่นขอขึ้นค่าแรง 425 บ.

ด้านสมัชชาแรงงานแห่งชาติ นำโดย นายอมรฤทธิ์ แสงยะรักษ์ เลขาธิการสมัชชาแรงงานแห่งชาติ ยื่นหนังสือต่อนายสุเทพอู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกมธ.การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำทั้งประเทศ

โดย นายอมรฤทธิ์กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภค บริโภค อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยวันละ 320 บาท ซึ่งรัฐบาลเคยใช้เป็นนโยบายไว้เมื่อปี 2562 ว่าจะต้องปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 425 บาท แต่ก็เป็นเพียงนโยบายขายฝันเท่านั้น ดังนั้น ทางสมัชชาแรงงานฯ ขอเรียกร้องให้รัฐมีนโยบายควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน และเสนอให้รัฐปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกันให้แรงงานทุกคนเท่ากันทั้งประเทศอย่างเร่งด่วน

ตรึงราคาไก่ถึงตรุษจีน

ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณ เปิดเผยว่าหลังกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สั่งตรึงราคาไก่สดหน้าฟาร์ม โดยทางผู้ประกอบการ ยืนยันทำตามมติในที่ประชุม ผู้ประกอบการ เกษตรกรให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อ ผู้บริโภคจะได้บริโภคที่ไก่ที่ถูกลง แต่หลังจากตรุษจีนผ่านไปแล้วเราก็ต้องมาดูกันอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากว่าปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรรายย่อย เขาอยู่ไม่ได้ก็คือเกี่ยวกับเรื่องของต้นทุนการผลิต เพราะอย่างอาหารสัตว์ซึ่งเกษตรกรที่ซื้อมาราคามันขึ้นราคามาก แล้วก็พันธุ์สัตว์ก็ขึ้นราคา เขาจะรับไม่ไหวเพราะว่ารายย่อยที่ผลิตเพื่อการขายภายในประเทศก็มากอยู่ขอความเห็นใจให้กับผู้ผลิตรายย่อยด้วย ส่วนเรื่องไข้หวัดนก ทางประเทศไทยเฝ้าระวังอยู่ตลอด

แจงอายัดโรงหมู 2 แสนกิโล

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา นายสัตวแพทย์ ณัฐชัย วรสุทธิ์ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา พล.ต.ต. อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ พาณิชย์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเนื้อสุกรที่แช่อยู่ในห้องเย็นในบริษัทแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 5 ถนนสงขลา-ปัตตานี ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา สั่งอายัดเนื้อสุกรเอาไว้แล้ว 201,650 กิโลกรัม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ม.ค. โดยห้ามเคลื่อนย้ายจนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ

วันเดียวกัน นายเจษฎาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปประชุมร่วมกับทางบริษัทห้องเย็น จากนั้น นายเจษฎากล่าวว่า เนื้อสุกรที่ถูกแช่แข็งไว้ 201,650 กิโลกรัม นั้น อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางจากบริษัทผู้รับฝาก และเจ้าของเนื้อสุกรจาก จ.พัทลุง 1 บริษัท และบริษัทใน อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ให้บริการห้องเย็น เบื้องต้นพบว่า 3 เดือนที่ผ่านมา มีการนำเนื้อสุกรเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่นำออกไปเพียงแค่เล็กน้อยราว 10,000 กิโลกรัม เท่านั้น จึงได้มอบหมายให้ นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผวจ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมกับทางบริษัททั้ง 2 แห่ง เพื่อยืนยันทั้งในส่วนของเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

พล.ต.ต.อาชาน กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า มีการกระทำผิด 3 ประเด็น ตามประกาศคณะกรรมการกลาง ทั้งในเรื่องการแจ้งการครอบครอง การแจ้งปริมาณสินค้า ส่วนจะเป็นการกักตุนหรือไม่ ต้องรอการชี้แจง และเอกสารหลักฐานทั้งหมดจากทั้ง 2 บริษัท ที่จะมายื่นต่อคณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาในเร็วๆ นี้ ส่วนเนื้อสุกรในสต๊อกนั้น ทางด่านกักกันสัตว์สงขลา ได้ถอนอายัดแล้ว เนื่องจากเสร็จสิ้นในส่วนของกระบวนการตรวจสอบของทางปศุสัตว์ รวมทั้งก็มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์แนบมา ซึ่งไม่ผิดปกติ ที่เหลือจึงรอแค่ตรวจตรวจสอบเอกสารบัญชีให้ตรงกันเท่านั้น

ปทุมฯสอบห้องเย็นหมู

ที่หน้าสภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 เป็นประธานการปล่อยแถวตรวจสอบสถานที่กักเก็บเนื้อสุกรเพื่อเก็งกำไร โดยมี พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ รองผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง นายปวีณวัช ปาระมีศรี ปลัดอำเภอคลองหลวง นายไพรัตน์ รุ่งสว่าง ปศุสัตว์อำเภอคลองหลวง และนายอธิศ บุณยบุตร นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวม 100 นาย เข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

นายไพรัตน์กล่าวว่า ทางปศุสัตว์อำเภอคลองหลวงตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำความผิด เพราะเนื้อสุกรที่ชำแหละนำมาแบบผิดเงื่อนไข มีการเคลื่อนย้ายไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบเคลื่อนย้าย โดยชำแหละสุกรที่เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ขณะที่บริษัทตั้งอยู่ที่อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

นายอธิศกล่าวว่า สถานที่แห่งนี้ครอบครองเนื้อสุกรชำแหละเนื้อสุกรปริมาณตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งต้องแจ้งปริมาณการซื้อ จำหน่าย ใช้ส่งออก รับฝาก ปริมาณคงเหลือ ราคาจำหน่าย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทใหญ่มีการชำแหละสุกรที่สายไหม กทม. มีการแจ้งไว้แล้วกับกรมการค้าภายใน ซึ่งทางพาณิชย์ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานตามข้อกล่าวอ้างหากไม่มีการแจ้งต้องดำเนินคดีต่อไป

สอบกักตุน – จนท.ปศุสัตว์ตรวจห้องเย็นบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.จะนะ จ.สงขลา พบเนื้อหมูกว่า 2 แสนก.ก. จึงอายัดไว้ตรวจสอบเกี่ยวข้องกับการกักตุนหรือไม่ ขณะเดียวกันจนท.ท้องถิ่นและพาณิชย์ปูพรมเช็กสต๊อกหมู ทั่วประเทศ เมื่อ 20 ม.ค.

ตรวจหมู – นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณเนื้อหมูในห้องเย็นบริษัทย่านเขตมีนบุรี กทม. หากพบมีการกักตุนจะถูกดำเนินคดี โทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน