ทั้งคนลอบเผาไหม้ธรรมชาติเชียงใหม่ก็อ่วม
ไฟป่าผุดทั่วแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ เมืองปายลามไม่หยุด แอบลอบเผาป่าข้างถนนกลางเมืองอีก ตรงข้ามปั๊มแก๊ส ชาวบ้านร้านตลาดหนีตายกันโกลาหล จู่ๆ ไฟไหม้ บ้านเรือนหลังตลาดปางมะผ้า 4 หลัง ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น ไฟป่ารุกเมือง กับไฟฟ้าลัดวงจร ผวจ.แม่ฮ่องสอนยันตั้งเป้าลดไฟป่าให้ลดลง ปภ.ระบุ รอบ 1 เดือน แม่ฮ่องสอนพบจุดความร้อน 258 จุด แต่ลดลงจากปีที่แล้วช่วงเดียวกัน 641 จุด เฉพาะ 1 ก.พ. วันเดียวร้อนพุ่ง 23 จุด จิสด้าแจงจุดความร้อนรายวันทั่วไทยลดเหลือ 337 จุด จาก 523 จุด พบมากสุดที่เขตป่าสงวน 180 จุด ยกเว้นภาคเหนือ ที่พบต่อเนื่อง ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน เมียนมาร้อนสุด พบ 1,078 จุด
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และ ฝุ่นละออง ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนว่า มีจุดความร้อนเกิดขึ้น จำนวน 23 จุด เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ขณะที่จุดความร้อนสะสมในรอบ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 1 ก.พ.2565 มีจำนวน 258 จุด แต่หากเปรียบเทียบกับปี 2564 ในช่วง เวลาเดียวกัน จากจำนวน 899 จุด ลดลงมา 641 จุด
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ปรับแนวทางให้ลดปริมาณการเกิดไฟป่าและ ผลกระทบที่เกิดขึ้นให้ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งประกาศช่วง 70 วันปลอดการเผา ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. – 30 เม.ย. เว้นแต่เป็นการเผาตามแผนการชิงเผาด้วยการแบ่งพื้นที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบ ซึ่งทั้ง 7 อำเภอ ต้องบูรณาการร่วมกันทั้งฝ่ายรับผิดชอบโดยตรง ฝ่ายปกครอง ทหาร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
ด้านนายพงษ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อค่ำวานที่ผ่านมา เกิดเหตุลอบเผาป่าบริเวณเทือกเขาด้านทิศตะวันตกของถนนสายเลี่ยงเมือง เทศบาลเมือง – บ้านปางหมู ทางอำเภอจึงได้ประสานงานกับหน่วยงานข้างเคียง ออกไปดับไฟ โดยพบว่า จุดที่เกิดไฟป่า อยู่ตรงข้ามปั๊มแก๊ส ถนนเลี่ยงเมือง ห่างกันประมาณ 500 เมตร แต่ไม่ได้ส่งผล กระทบต่อบ้านเรือนและปั๊มแก๊ส แต่อย่างใด
สำหรับสถานการณ์ไฟป่า ปัจจุบันมีการพบจุดความร้อนจากการลอบเผาป่าในพื้นที่ อ.ปาย มากที่สุด โดยหน่วยป้องกันไฟป่า ในพื้นที่ต้องทำงานกันอย่างหนักทั้งกลางวันและกลางคืน
ขณะที่ พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี รอง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน จ.แม่ฮ่องสอน และหารือกับ นายเชษฐา ผวจ.แม่ฮ่องสอน และเข้ารับฟังบรรยายสรุปแผนการเตรียมความพร้อมของคณะกรรมการควบคุมไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัด โดยมี พ.อ.วรเทพ บุญญะ รอง ผอ.รมน. แม่ฮ่องสอน ต้อนรับ จากนั้น พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ได้เดินทาง ไปตรวจติดตามการดำเนินโครงการเปลี่ยนภาร ให้เป็นพลังของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 บ้านม่อนตะแลง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เตรียมความพร้อมและมีแผนดำเนินการควบคุมไฟป่าอย่างรัดกุม ทั้งเรื่องกำลังทหารในพื้นที่โดยกองทัพภาคที่ 3 มีหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 และหน่วยดับไฟป่าของกรมป่าไม้, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และฝ่ายปกครอง โดยได้กำหนดมาตรการต่างๆ ไว้แล้ว ซึ่งในปี 2565 ต้องลดไฟป่าลงให้ได้ร้อยละ 20 จึงฝากไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นไฟป่าที่เกิดขึ้นบนพื้นที่ สูงยากแก่การเข้าไปดับ ก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เร่งด่วน
ส่วนการแก้ปัญหาในระยะสั้นนั้น จ.แม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ป่า แต่ละปีมีใบไม้ร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก ต้องสร้างมูลค่าให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีภาคเอกชนเข้ามาขับเคลื่อนงานร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 โดยรับซื้อใบไม้สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ขณะที่กำลังพล ฉก.ร.7 ก็จะเก็บใบไม้มาทำเป็นปุ๋ยหมัก และปีนี้ภาคเอกชน จะเข้ามารับซื้อใบไม้ที่ร่วงหล่นมากถึง 200 ตัน ช่วยแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันได้อีกทางหนึ่ง
วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.สมบัติ แสงสว่าง ผกก.สภ.ปางมะผ้า ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ขวัญชัย วงษ์มูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรือนที่อยู่อาศัย ได้รับความเสียหาย 4 หลัง ตั้งอยู่หลังตลาดสดอำเภอปางมะผ้า พื้นที่หมู่ 1 ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า รุดไปตรวจสอบ พบนางใหม่ และนายตน ไม่มีชื่อสกุลทั้งคู่ เจ้าของ/ผู้ครอบครองบ้าน ที่ถูกไฟไหม้ให้การว่า ขณะเกิดเหตุ ไม่ได้อยู่ในบ้าน จึงไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้บ้าน รวมมูลค่าทรัพย์สินเสียหายประมาณ 4 แสนบาท ส่วนอีก 2 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน เป็นบ้านของ น.ส.พิมพ์ชนก จิตราพากุล และบ้านของนายประเสริฐ ดำรงตันติภรณ์
พ.ต.ท.กัมปนาท รักษนาเวศ สว.สส.สภ.ปางมะผ้า เปิดเผยว่า สาเหตุไฟไหม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจน เนื่องจากขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านทั้ง 2 หลัง แม้พบร่องรอยของไฟป่าใกล้กับจุดเกิดเหตุ แต่ต้องให้ทาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ ให้ชัดเจนต่อไป ซึ่งตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ไฟป่า และไฟฟ้าลัดวงจร
ต่อมา เวลา 13.00 น. นายประสงค์ เก็ดสราพร รักษาราชการแทนนายอำเภอปางมะผ้า นายสุริยัน ปัญญา นายกอบต.สบป่อง, นายเสรี แพร่ทอง ปลัดอบต.สบป่อง, นายรุ่งเรือง ปัญญาละ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอปางมะผ้า, นายปรีชา เลาลี กำนันตำบลสบป่อง และภาคประชาชน ได้นำสิ่งของไปมอบเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยเบื้องต้น
ด้านสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่จ.เชียงใหม่ วันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้จัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่า โดยชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่ากองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าดอย อินทนนท์ ลาดตระเวนเดินเท้าในพื้นที่เขตอุทยานดอยอินทนนท์ บ้านน้ำรัต ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง เพื่อป้องปรามการลักลอบ จุดไฟเผาป่าในพื้นที่รับผิดชอบ เบื้องต้นไม่พบการลักลอบเผาป่าและไม่พบผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยจะเข้าปฏิบัติการในพื้นที่รับผิดชอบชุดละ 6 อำเภอ ต่อเนื่องเป็นเวลา 50 วัน จนถึงวันที่ 12 มี.ค.
ขณะที่ ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่า มณฑลทหารบกที่ 33 ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นำกำลัง ลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เขตติดต่ออ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเพื่อป้องปรามการลักลอบเผาป่า ส่วน ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่า กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าลาดตระเวน เฝ้าระวังไฟป่าพร้อมทำแนวกันไฟ บ้านโป่งสามัคคี ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด
ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ว่าพบจุดความร้อนทั้งประเทศ จำนวน 523 จุด ลดลงจากเมื่อวันก่อน 337 จุด โดยพบมากสุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 180 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 141 จุด พื้นที่เกษตร 87 จุด พื้นที่เขตสปก. 61 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 51 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 3 จุด ส่วนจังหวัด ที่พบจุดความร้อนมากสุด คือ จ.ลำปาง 53 จุด อุตรดิตถ์ 46 จุด กาญจนบุรี 37 จุด ตามลำดับ โดยจุดความร้อนในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเบาบางลง เนื่องจากเกิดฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ ยกเว้นภาคเหนือที่ยังพบจุดความร้อนในปริมาณมาก คาดว่าน่าจะเกิดจากการเตรียมพื้นที่เพื่อการเกษตร หรือการเข้าไปหาของป่า เนื่องจากพื้นที่ที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจุดความร้อนตั้งแต่ 1 ม.ค.-1 ก.พ. พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจุดความร้อนแล้ว 3,969 จุด ตามด้วยภาคกลาง 2,857 จุด และภาคเหนือ 2,646 จุด ตามลำดับ
ขณะที่ จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน อันดับหนึ่งคือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 1,078 จุด รองลงมาอันดับ 2 เป็นประเทศไทย 523 จุด และอันดับที่ 3 กัมพูชา 438 จุด ตามลำดับ ข้อมูลจุดความร้อนที่เกิดขึ้น ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาอาจส่งผล กระทบต่อคุณภาพอากาศ pm 2.5 ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนภาคเหนือ เนื่องจากมีลมพัดฝุ่นละอองและหมอกควันเข้ามา
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า จาการดำเนินโครงการป้องกันการบุกรุกและป้องกันไฟป่าอย่างเข้มข้น ทำให้ปี 2564 ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้ค่าจุดความร้อนสะสม ลดลงเกือบร้อยละ 50 ส่วนในปี 2565 ได้วางเป้าหมายลดค่าจุดความร้อนสะสม ลงอีกร้อยละ 20 โดยมุ่งเน้นมาตรการเชิงรุกในการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจรในพื้นที่ป่า เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงในป่า ตามมาตรการ “ชิงเก็บ ลดเผา” โดยได้มีการ เตรียมความพร้อมในการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ ความรับผิดชอบ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งมีพื้นที่รวม 42.09 ล้านไร่ ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและควบคุมไฟป่า โดยจัดเตรียมกำลังพลเพื่อประจำในจุดต่างๆ ตามแผนที่กำหนด ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามโครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และป้องกันไฟป่า รวมถึง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในรูปแบบจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ชิงเก็บ ลดเผา ป้องกันไฟป่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมไฟป่า และแก้ไขปัญหาไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุม ไฟป่า ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผอ.สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทส. เป็นประธานพิธีเปิดโครงการเสริมสมรรถนะชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า เพื่อเตรียมความพร้อมและปฏิบัติงานสนับสนุนการควบคุมไฟป่าใน ท้องที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 2-7 ก.พ. โดยมี นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผอ.สำนัก บริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.)ที่ 16 และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วม
